WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:00.500 00:00:00.500 --> 00:00:09.060 เราจะแปลงค่า 5 คูณ รากที่สองของ 117 ได้ยังไง 00:00:09.060 --> 00:00:13.060 117 ไม่ใช่กำลังสองสมบูรณ์ 00:00:13.060 --> 00:00:14.990 ลองแยกตัวประกอบของ จำนวนตัวเฉพาะดู 00:00:14.990 --> 00:00:20.130 แล้วดูว่าตัวประกอบเหล่านี้มีเลข ซ้ำกันหรือเปล่า 00:00:20.130 --> 00:00:21.750 เลขตัวนี้เป็นเลขคี่ 00:00:21.750 --> 00:00:24.140 ดังนั้นหารด้วยสองไม่ลงตัว 00:00:24.140 --> 00:00:25.727 ดูสิว่าหารด้วย 3 ลงตัวหรือเปล่า 00:00:25.727 --> 00:00:27.060 เราบวกตัวเลขแต่ละหลัก 00:00:27.060 --> 00:00:29.810 วิธีนี้อธิบายในอีกวีดีโอ 00:00:29.810 --> 00:00:31.860 ถ้าบวกตัวเลขทุกตัวก็จะได้ 9 00:00:31.860 --> 00:00:36.225 9 หารด้วย 3 ลงตัว ดังนั้น 117 หารด้วย 3 ลงตัวเช่นกัน 00:00:36.225 --> 00:00:37.600 ลองคิดอีกแบบดู 00:00:37.600 --> 00:00:41.340 ถ้า 117 หารด้วย 3 ก็คือ 00:00:41.340 --> 00:00:43.700 3 มีค่าเยอะกว่า 1 00:00:43.700 --> 00:00:46.010 แต่ว่าค่า 11 สามารถบรรจุ 3 ได้ 3 ครั้ง 00:00:46.010 --> 00:00:47.670 เพราะ 3 คูณ 3 ได้ 9 00:00:47.670 --> 00:00:50.390 ลบจาก 11 เหลือเศษ 2 00:00:50.390 --> 00:00:53.400 ดึงตัวเลข 7 00:00:53.400 --> 00:00:55.850 27 บรรจุ 3 ได้ 9 ครั้ง 00:00:55.850 --> 00:00:58.087 เพราะ 9 คูณ 3 ได้ 27 00:00:58.087 --> 00:00:59.170 ลบกัน การหารก็สำเร็จ 00:00:59.170 --> 00:01:02.080 3 หารลงตัวพอดี 00:01:02.080 --> 00:01:07.550 117 แยกออกเป็น 3 คูณ 39 00:01:07.550 --> 00:01:10.935 39 แยกออกเป็น ... 00:01:10.935 --> 00:01:13.010 39 หารด้วย 3 ลงตัว 00:01:13.010 --> 00:01:15.820 เท่ากับ 3 คูณ 13 00:01:15.820 --> 00:01:18.320 เลขที่เหลือคือจำนวนเฉพาะ 00:01:18.320 --> 00:01:23.580 ทั้งหมดนี้มีค่าเท่ากับ 5 คูณ 00:01:23.580 --> 00:01:34.585 รากที่สองของ 3 คูณ 3 คูณ 13 00:01:34.585 --> 00:01:37.061 00:01:37.061 --> 00:01:39.560 ก็จะเท่ากับ 00:01:39.560 --> 00:01:43.210 จากคุณสมบัติของ เลขยกกำลัง 00:01:43.210 --> 00:01:54.880 5 คูณรากที่สองของ 3 คูณ 3 คูณรากที่สองของ 13 00:01:54.880 --> 00:01:56.744 รากที่สอง 3 คูณ 3 เท่ากับ เท่าไหร่ 00:01:56.744 --> 00:01:58.160 มันเท่ากับรากที่สองของ 9 00:01:58.160 --> 00:01:59.730 ก็คือรากที่สองของ 3 ยกกำลัง 2 00:01:59.730 --> 00:02:02.120 ซึ่งก็จะมีค่าเท่ากับ 3 00:02:02.120 --> 00:02:04.590 ค่าตรงนี้ก็จะแปลงเป็น 3 00:02:04.590 --> 00:02:10.470 ทั้งหมดนี้ก็จะกลายเป็น 5 คูณ 3 คูณรากที่สองของ 13 00:02:10.470 --> 00:02:14.750 จำนวนตรงนี้คือ 15 00:02:14.750 --> 00:02:19.850 คูณด้วยรากที่สองของ 13 00:02:19.850 --> 00:02:21.750 เรามาลองทำอีกตัวอย่างหนึ่ง 00:02:21.750 --> 00:02:29.896 เราจะแปลงค่า 3 คูณรากที่สอง ของ 26 00:02:29.896 --> 00:02:31.770 ผมจะเขียน 26 ด้วยสีเหลือง 00:02:31.770 --> 00:02:35.160 คล้ายๆกับที่เราทำเมื่อช่วงที่แล้ว 00:02:35.160 --> 00:02:37.442 26 เป็นเลขคู่ 00:02:37.442 --> 00:02:38.900 มันก็จะหารด้วย 2 ลงตัว 00:02:38.900 --> 00:02:41.917 มีค่าเท่ากับ 2 คูณ 13 00:02:41.917 --> 00:02:42.750 ก็เสร็จแล้ว 00:02:42.750 --> 00:02:43.820 13 เป็นจำนวนเฉพาะ 00:02:43.820 --> 00:02:45.860 เราแยกตัวประกอบต่อไม่ได้ 00:02:45.860 --> 00:02:48.204 26 ไม่มีเลขกำลังสมบูรณ์ 00:02:48.204 --> 00:02:49.620 เราไม่อาจจะแยกตัวประกอบ 00:02:49.620 --> 00:02:50.970 ที่เป็นผลคูณของตัวเลขกับ 00:02:50.970 --> 00:02:52.720 เลขกำลังสมบูรณ์เหมือนช่วงที่แล้ว 00:02:52.720 --> 00:02:55.430 117 คือ 13 คูณ 9 00:02:55.430 --> 00:02:58.740 มันเป็นผลคูณของเลขกำลังสมบูรณ์ กับ 13 00:02:58.740 --> 00:03:01.645 แต่ว่า 26 แปลงค่าได้มากที่สุดเท่านี้เอง 00:03:01.645 --> 00:03:08.138 ค่าที่ได้คือ 3 คูณ รากที่สองของ 26 00:03:08.138 --> 00:03:08.638