0:00:00.440,0:00:03.370 ในวิดีโอแล้ว ๆ มา เราเห็นแล้วว่าการดู 0:00:03.370,0:00:06.800 แค่ market capitalization นั่นทำให้สับสนได้ 0:00:06.800,0:00:09.190 เมื่อคุณดูบริษัทที่มี leverage หน่อย 0:00:09.190,0:00:11.380 หรือบริษัทที่มีหนี้หน่อย 0:00:11.380,0:00:14.530 ตัวอย่างเช่น หากนั่นคือสินทรัพย์ของบริษัท และ 0:00:14.530,0:00:18.181 สมมุติว่าเขามีหนี้เท่านี้ 0:00:18.181,0:00:19.810 และนี่คือ equity ของเขา 0:00:24.430,0:00:26.180 จากนั้นสมมุติว่าบริษัทมีเงินสดส่วนเกินด้วย 0:00:26.180,0:00:28.420 เงินสดที่ไม่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ 0:00:28.420,0:00:30.150 ขอผมเขียนมันตรงนี้ 0:00:30.150,0:00:31.520 นี่คือเงินสดส่วนเกิน 0:00:31.520,0:00:34.850 เงินสดบางส่วนจำเป็น และบางครั้งผู้คนไม่ 0:00:34.850,0:00:35.220 แบ่งแยกมัน 0:00:35.220,0:00:37.800 เขาแค่มองมันเป็นเงินสดก้อนเดียว 0:00:37.800,0:00:41.420 แต่เราอยากแยกมูลค่าของ enterprise 0:00:41.420,0:00:45.620 จากมูลค่าตามตลาดของ equity หรือ 0:00:45.620,0:00:46.720 มูลค่าของหนี้ 0:00:46.720,0:00:47.900 งั้นขอผมเขียนทุกอย่างลงไป 0:00:47.900,0:00:50.230 ดังนั้นตรงนี้ นี่คือมูลค่าของธุรกิจ 0:00:50.230,0:00:51.480 enterprise value 0:00:54.500,0:00:58.160 นี่คือหนี้ 0:00:58.160,0:00:59.490 มันมีหนี้ด้วย 0:00:59.490,0:01:01.175 และนี่คือ equity 0:01:03.920,0:01:06.870 นี่อาจจะดูไปในทาง 0:01:06.870,0:01:07.190 เทคนิคหน่อย 0:01:07.190,0:01:08.950 แต่คุณไม่ต้องกังวลหาก 0:01:08.950,0:01:10.100 มันทำให้สับสน 0:01:10.100,0:01:12.780 ตอนผมเขียน enterprise ตรงนี้ มันหมายถึงมูลค่า 0:01:12.780,0:01:13.730 ของตัวธุรกิจเอง 0:01:13.730,0:01:18.060 มันเหมือนกันสินทรัพย์ที่ใช้ดำเนินการลัพธ์ หักจาก 0:01:18.060,0:01:19.230 หนี้สินที่ใช้ดำเนินธุรกิจ 0:01:19.230,0:01:21.560 มันก็แค่ว่า -- หากคุณกลับไปดูตัวอย่างสองอัน 0:01:21.560,0:01:24.500 ที่แล้วและซื้อร้านพิซซ่า -- คุณต้องจ่ายเงิน 0:01:24.500,0:01:26.150 เพื่อซื้อร้านพิซซ่าเท่าไหร่ 0:01:26.150,0:01:29.150 และนั่นคือสิ่งที่เราพยายามหาตรงนี้ 0:01:29.150,0:01:31.440 ตอนที่เราพูดถึง enterprise value 0:01:31.440,0:01:33.585 และเราเห็นในหลายวิดีโอที่ผ่านมาว่าคุณ 0:01:33.585,0:01:35.370 คำนวณมันได้อย่างไร แต่มันไม่แย่ที่จะทบทวนกันหน่อย 0:01:35.370,0:01:38.070 นี่เป็นการคำนวณที่สวนทางกับสัญชาตญาณหน่อย 0:01:38.070,0:01:40.380 ตอนที่คุณเห็นมันครั้งแรก ๆ มันจึงไม่ผิด 0:01:40.380,0:01:41.970 ที่จะลองดูอีกครั้ง 0:01:41.970,0:01:43.950 งั้นสิ่งแรกที่ต้องหาคือว่า คุณจะหา 0:01:43.950,0:01:45.680 มูลค่าตามตลาดของ equity ได้อย่างไร 0:01:45.680,0:01:47.400 มูลค่าตามบัญชีของ equity นั้นง่ายมาก 0:01:47.400,0:01:49.570 คุณก็แค่ไปหาบัญชีงบดุลของบริษัท แล้ว 0:01:49.570,0:01:50.070 เขาจะมีตัวเลขอยู่ 0:01:50.070,0:01:54.120 เขาจะบอกว่า นี่คือสิ่งที่นักบัญชีของเราบอก 0:01:54.120,0:01:55.730 ว่ามูลค่าตามบัญชีของ equity เราเป็นเท่านี้ 0:01:55.730,0:01:58.260 แต่มูลค่าตามตลาด จะหาได้จากว่าตลาด 0:01:58.260,0:01:59.580 ยินดีจ่ายเพื่อหุ้นหนึ่งหุ้นในราคาเท่าไหร่ 0:01:59.580,0:02:07.670 ดังนั้นมูลค่าตามตลาดของ equity หรือ market cap จึงเท่ากับ 0:02:07.670,0:02:11.520 ราคาต่อหุ้นคูณจำนวนหุ้นนั่นเอง 0:02:14.040,0:02:16.240 และนั่นคือมูลค่าตามตลาดของ equity 0:02:16.240,0:02:18.800 และคุณคงเห็น แค่จากแผนภาพนี้ ว่า 0:02:18.800,0:02:25.230 enterprise value บวก เงินสดที่ไม่ได้ใช้ดำเนินการ หรือ 0:02:25.230,0:02:28.590 เงินลงทุน หรือเงินลงทุนที่มีสภาพคล่อง หรืออะไรก็ตาม 0:02:28.590,0:02:29.280 ที่คุณอยากเรียก 0:02:29.280,0:02:37.580 enterprise value บวกเงินสด เท่ากับ หนี้ บวก 0:02:37.580,0:02:39.420 เรียกมันว่า market cap แล้วกัน 0:02:39.420,0:02:42.970 เพราะเราอยากรู้ เมื่อเราดูราคา เราอยาก 0:02:42.970,0:02:45.230 หาว่า ตลาดบอกว่า 0:02:45.230,0:02:46.970 enterprise value ของบริษัทเป็นเท่าไหร่ 0:02:46.970,0:02:49.500 มูลค่าตามตลาดของ enterprise เป็นเท่าไหร่ 0:02:49.500,0:02:51.820 ดังนั้นหนี้บวก -- แทนที่จะเป็น equity -- ผมจะเขียน market 0:02:51.820,0:02:54.020 capitalization แทนเพราะมันคือสิ่งเดียวกัน 0:02:54.020,0:02:58.150 Market capitalization คือมูลค่าตามตลาดของ equity 0:02:58.150,0:02:59.840 บวก market cap 0:02:59.840,0:03:01.690 งั้นเรารู้ market cap 0:03:01.690,0:03:04.240 เราสามารถหาหนี้ได้จากบัญชีงบดุลของบริษัท 0:03:04.240,0:03:05.820 เราสามารถหาเงินสด 0:03:05.820,0:03:09.470 ดังนั้นเราแค่หักเงินสดจากทั้งสองข้าง แล้วเราจะได้ 0:03:09.470,0:03:20.480 enterprise value เท่ากับ market cap 0:03:20.480,0:03:25.120 บวก หนี้ ลบ เงินสด 0:03:25.120,0:03:27.500 เราก็แค่เอาเงินสดไปทางขวา 0:03:27.500,0:03:30.730 ของสมการนี้ 0:03:30.730,0:03:35.070 ตัวอย่างเช่น หากผมมีหุ้นที่ซื้อขายกันที่ 0:03:35.070,0:03:38.650 สมมุติว่าราคาเท่ากับ $10 0:03:38.650,0:03:45.290 และสมมุตติว่ามันมี 1 ล้านหุ้น 0:03:45.290,0:03:52.450 และสมมุติว่าบริษัทมีหนี้อยู่ 50 ล้าเหรียญ 0:03:52.450,0:03:59.400 และสมมติอีกว่ามันมีเงินสดส่วนเกินอีก 5 ล้านเหรียญ 0:03:59.400,0:04:00.880 ถามว่า enterprise value เป็นเท่าไหร่ 0:04:00.880,0:04:02.510 อืม อย่างแรกคุณต้องหาว่า market cap เป็นเท่าไหร่ก่อน 0:04:02.510,0:04:06.750 market cap ของมันเท่ากับ $10 ต่อหุ้นคูณหนึ่งล้านหุ้น 0:04:06.750,0:04:08.670 นั่นคือ 10 ล้านหุ้น 0:04:08.670,0:04:10.510 นั่นคือ market cap 0:04:10.510,0:04:11.410 คุณบวกหนี้เข้าไป 0:04:11.410,0:04:13.560 ดังนั้นบวก $50 ล้าน 0:04:13.560,0:04:15.760 และอีกที ผมบอกไปในวิดีโอที่แล้วว่า มัน 0:04:15.760,0:04:17.390 ไม่ตรงตามสัญชาตญาณ ตอนคุณหามูลค่าของ enterprise 0:04:17.390,0:04:19.459 ด้วยการบวกหนี้เข้าไป 0:04:19.459,0:04:23.480 และหลักคือว่าหากมีคนอยากซื้อ 0:04:23.480,0:04:27.040 บริษัทจากผู้ถือหุ้นและปลดหนี้ 0:04:27.040,0:04:29.750 เขาต้องจ่ายหนี้ทั้งหมดให้คนพวกนี้ 0:04:29.750,0:04:32.270 และต้องจ่ายเงินทั้งหมด 0:04:32.270,0:04:33.060 สำหรับมูลค่าตามตลาดด้วย 0:04:33.060,0:04:35.610 เขาจึงต้องจ่ายทั้งหนี้บวก equity 0:04:35.610,0:04:37.830 และเขาจะให้เงินสดบางส่วนคืนมา 0:04:37.830,0:04:40.100 นั่นคือสิ่งเหลือ ๆ ที่เขาซื้อติดมา 0:04:40.100,0:04:41.970 จึงได้เงินคืนมาด้วย 0:04:41.970,0:04:44.260 ดังนั้นคุณต้องจ่ายให้ผู้ถือหุ้น คุณต้องจ่าย 0:04:44.260,0:04:46.720 ให้ผู้ถือหนี้ แล้วคุณถึงได้เงินสดบางส่วนคืน 0:04:46.720,0:04:51.630 เพราะฉะนั้น enterprise value จะเป็นเท่าไหร่ $60 ล้านลบ 5 0:04:51.630,0:04:54.200 ได้ $55 ล้าน 0:04:54.200,0:04:54.780 ใช้ได้ 0:04:54.780,0:04:58.170 นี่คือการทบทวนวิดีโอเรื่อง enterprise value 0:04:58.170,0:05:00.980 แต่คำถามคือว่า ตอนนี้ที่คุณหา enterprise 0:05:00.980,0:05:02.490 value ได้ คุณจะหาว่ามันเป็น enterprise value 0:05:02.490,0:05:04.130 ที่ถูกต้องได้อย่างไร 0:05:04.130,0:05:06.290 เมื่อคุณดู market capitalization คุณเปรียบเทียบ 0:05:06.290,0:05:09.440 มันกับ earnings 0:05:09.440,0:05:11.560 คือ price to earnings ratio 0:05:11.560,0:05:12.880 และคุณคิดมันต่อหุ้น 0:05:12.880,0:05:16.320 นี่คือราคาต่อหุ้น หารด้วย earnings ต่อหุ้น 0:05:16.320,0:05:22.350 อัตราส่วนนี้เทียบเท่ากับ market cap หารด้วย 0:05:22.350,0:05:23.810 รายได้ลัพธ์ของบริษัท 0:05:27.570,0:05:29.520 หากคุณคูณเศษและส่วนด้วย 0:05:29.520,0:05:32.370 จำนวนหุ้น คุณจะได้ market cap และรายได้ลัพธ์ 0:05:32.370,0:05:33.490 นั่นคือ EPS 0:05:33.490,0:05:36.210 P/E คือราคาจริงต่อหุ้น หารด้วย 0:05:36.210,0:05:37.240 earnings ต่อหุ่น 0:05:37.240,0:05:38.880 และนั่นคือวิธีดูวิธีหนึ่ง 0:05:38.880,0:05:40.210 คุณสามารถเปรียบเทียบบริษัทสองแห่งได้ 0:05:40.210,0:05:42.570 และเราเห็นว่ามันใช้ไม่ได้หากบริษัทมี 0:05:42.570,0:05:43.310 โครงสร้างทุนต่างกัน 0:05:43.310,0:05:45.880 แล้วเราจะเปรียบเทียบ enterprise value กับอะไร 0:05:45.880,0:05:48.670 ตรงนี้เราใช้ market cap กับรายได้ลัพธ์ 0:05:48.670,0:05:52.450 enterprise value ควรใช้เปรียบเทียบกับอะไร 0:05:52.450,0:05:55.460 ตอนนี้ผมได้ตั้งข้อสังเกตในวิดีโอที่แล้วว่า อืม หากเรา 0:05:55.460,0:05:58.340 ดู enterprise ที่สุดแล้วเราควรดู 0:05:58.340,0:06:00.850 earnings ที่ออกมาจาก enterprise ด้วย 0:06:00.850,0:06:03.640 เราควรดู earnings ที่ออกมาจาก 0:06:03.640,0:06:05.100 สินทรัพย์ตรงนี้ 0:06:05.100,0:06:08.280 และในวิดีโอแรก ๆ เกี่ยวกับบัญชีรายได้ ผม 0:06:08.280,0:06:10.180 บอกว่า -- ลองเขียนบัญชีงบดุลดู-- 0:06:10.180,0:06:12.370 คุณมีรายรับ 0:06:12.370,0:06:14.740 รายรับคุณอาจเป็น 100 0:06:14.740,0:06:18.730 คุณมีค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขายไป 0:06:18.730,0:06:23.130 ค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขายไป สมมุติว่าเท่ากับ ลบ 50 0:06:23.130,0:06:24.520 และผมจะใช้วิธีเขียนอีกอย่างหนึ่ง 0:06:24.520,0:06:27.720 มีคนเสนอคนหนึ่งบอกว่าผมควรใช้ 0:06:27.720,0:06:28.100 การเขียนแบบนี้ 0:06:28.100,0:06:30.380 ซึ่งเป็นวิธีที่ตกลงกันโดยทั่วไปที่สุดใน 0:06:30.380,0:06:32.260 บรรดานักบัญชีและนักวิเคราะห์การเงิน 0:06:32.260,0:06:34.050 แทนที่จะเขียนเป็นลบ เขาจะเขียนมัน 0:06:34.050,0:06:34.720 ในวงเล็บ 0:06:34.720,0:06:36.000 นั่นหมายถึงเป็นลบ 0:06:36.000,0:06:38.270 ลบ 50 0:06:38.270,0:06:45.060 จากนั้นกำไรรวม (gross profit) จะเท่ากับ 50 0:06:45.060,0:06:47.350 จากนั้น ที่จริงผมอยากทำอะไร 0:06:47.350,0:06:47.750 ที่น่าสนใจหน่อย 0:06:47.750,0:06:50.830 สมมุติว่าค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขายนี่ มันไม่เกี่ยว 0:06:50.830,0:06:52.170 กับค่าเสื่อมราคาหรือค่าแบ่งชำระหนี้ (amortization) 0:06:52.170,0:06:55.360 ลองดูวิดีโอเก่า ๆ หากคำเหล่านี้ทำให้คุณงง 0:06:55.360,0:06:57.720 และการเพิ่มราคาและการผ่อนชำระหนี้ทั้งหมด 0:06:57.720,0:06:58.850 เกิดขึ้นในระดับองค์กร 0:06:58.850,0:07:04.760 ต่อไปสมมุติว่ามี SG&A นิดหน่อย 0:07:04.760,0:07:07.240 แต่นี่ไม่มีค่าเสื่อมราคาหรือค่าผ่อนชำระหนี้ 0:07:07.240,0:07:14.630 สมมุติว่านี่คือค่าใช้จ่ายมูลค่า 10 0:07:14.630,0:07:16.110 สมมุติว่ามีค่าเสื่อมราคาและ 0:07:16.110,0:07:18.505 ค่าผ่อนชำระหนี้เช่นกัน 0:07:18.505,0:07:20.990 D&A 0:07:20.990,0:07:23.250 ในวิดีโอที่แล้วมา ผมรวมมันด้วยกัน 0:07:23.250,0:07:24.490 และนั่นน่าจะเป็นเช่นนั้น 0:07:24.490,0:07:26.540 ในบัญชีรายได้ส่วนใหญ่เขาจะไม่แยก 0:07:26.540,0:07:28.060 ค่าเสื่อมราคากับค่าผ่อนชำระหนี้จากกัน 0:07:28.060,0:07:29.470 และคุณจะต้องดูบัญชีกระแสเงิน 0:07:29.470,0:07:30.890 เพื่อหาว่ามันคืออะไร 0:07:30.890,0:07:32.920 และผมจะทำมันในวิดีโอหน้า 0:07:32.920,0:07:34.560 แต่สมมุติว่าเราแยกมันออกมา 0:07:34.560,0:07:35.700 บางครั้งเขาก็ทำกัน 0:07:35.700,0:07:39.200 งั้นสมมุติว่ามีอีก 5 0:07:39.200,0:07:41.620 บางทีพวกนี้เป็นหน่วยพันเหรียญ 0:07:41.620,0:07:45.160 จากนั้นคุณจะเหลือกำไรดำเนินการ 0:07:49.410,0:07:53.740 ในกรณี จะเท่ากับ 50 ลบ 15 ได้เท่ากับ 35 0:07:53.740,0:07:55.010 แล้วคุณยังมีสิ่งต่าง ๆ ข้างล่างอีก 0:07:55.010,0:07:58.360 คุณมีดอกเบี้ย และผมจะทำมันแค่ -- คุณมี 0:07:58.360,0:08:00.420 รายได้แบบไม่ต้องดำเนินการ และดอกเบี้ย อะไรพวกนั้น 0:08:00.420,0:08:01.150 ขอผมทำมันออกมา 0:08:01.150,0:08:08.160 ดอกเบี้ย สมมุติว่ามันเท่ากับ 5,000 เช่นกัน หาก 0:08:08.160,0:08:09.430 นั่นคือสิ่งที่เราสน 0:08:09.430,0:08:11.750 จากนั้นคุณจะได้ค่า ก่อนภาษี 0:08:11.750,0:08:13.500 ผมไม่ได้ใส่รายได้แบบไม่ต้องดำเนินการ 0:08:13.500,0:08:15.820 สมมุติว่าเงินสดนี่ไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมา 0:08:15.820,0:08:19.570 ดังนั้นรายได้ก่อนภาษีจะเท่ากับ 30,000 หากนั่นคือ 0:08:19.570,0:08:20.710 สิ่งที่เราทำอยู่ 0:08:20.710,0:08:21.920 มันดูเลอะหน่อย 0:08:21.920,0:08:23.480 จากนั้นคุณก็มีภาษี 0:08:23.480,0:08:25.390 สมมุติว่ามันเท่ากับ 1/3 0:08:25.390,0:08:27.380 นั่นคือภาษีมูลค่า 10,000 0:08:27.380,0:08:28.630 จากนั้นคุณจะได้ earnings 0:08:31.090,0:08:33.409 30 ลบ 10 ได้ 20,000 0:08:33.409,0:08:37.250 อย่างที่ผมบอก ส่วนไหนของบัญชีรายได้ 0:08:37.250,0:08:40.059 ที่ขึ้นอยู่กับส่วนนี้ตรงนี้เท่านั้น? 0:08:45.450,0:08:47.180 มีของนี่ที่เกี่ยวกับดอกเบี้ย นั่น 0:08:47.180,0:08:48.570 ขึ้นอยู่กับหนี้ 0:08:48.570,0:08:50.810 และในที่สุดแล้ว ภาษีก็ยังขึ้นกับหนี้ด้วย 0:08:50.810,0:08:52.630 เพราะยิ่งคุณมีดอกเบี้ยเท่าไหร่ คุณ 0:08:52.630,0:08:53.500 ยิ่งลดหย่อนภาษีได้ 0:08:53.500,0:08:58.980 และทั้งหมดข้างล่างนี้ขึ้นอยู่กับ 0:08:58.980,0:09:01.300 โครงสร้างทุนของคุณ 0:09:01.300,0:09:03.620 ดังนั้นหากคุณอยากดูว่า enterprise value ได้ 0:09:03.620,0:09:05.810 สร้างอะไรขึ้นมา มันก็สร้างกำไรดำเนินการ 0:09:10.220,0:09:13.220 ดังนั้นผมจึงเสนอว่า อัตราส่วนที่ดี ถึงแม้มัน 0:09:13.220,0:09:14.200 จะไม่ตามสูตรเดิมเท่าไหร่ 0:09:14.200,0:09:16.050 มันไม่ได้ไม่ตามแนวเดิมนัก แต่คุณอาจ 0:09:16.050,0:09:17.970 ไม่ค่อยได้ยินใครพูดเท่าไหร่ 0:09:17.970,0:09:21.730 ผมบอกว่า คุณสามารใช้ EV เทียบกับกำไรดำเนินการ 0:09:21.730,0:09:22.980 เป็นตัววัดได้ 0:09:29.300,0:09:36.550 ในหลายกรณีมันคือส่วนกลับของผลตอบแทน 0:09:36.550,0:09:39.200 จากสินทรัพย์ หากที่ผมนิยามในวิดีโอแรก 0:09:39.200,0:09:41.770 มันมีนิยามผลตอบแทนจากสินทรัพย์หลายแบบ 0:09:41.770,0:09:44.350 แต่ที่สุดแล้ว มันบอกว่า สำหรับทุกดอลลาร์ของ 0:09:44.350,0:09:46.940 กำไรดำเนินการ คุณต้องจ่ายเท่าไหร่ให้ enterprise 0:09:46.940,0:09:49.010 ซึ่งผมว่ามันเป็นตัววัดที่ดีทีเดียว 0:09:49.010,0:09:52.340 ตอนนี้ตัววัดตามแบบทั่วไปที่คุณเห็น 0:09:52.340,0:09:55.100 ตอนคนพูดถึง enterprise values นั้น 0:09:55.100,0:09:56.370 คือ enterprise value หาร EBITDA 0:09:56.370,0:09:59.340 และหากคุณได้งานเป็นนักวิเคราะห์ในบริษัท 0:09:59.340,0:10:01.550 นี่จะเป็นสิ่งที่คุณจะถูกคาด 0:10:01.550,0:10:03.620 หวังให้คำนวณให้บริษัท 0:10:03.620,0:10:06.410 และหวังว่าจะพูดถึงมันอย่างฉลาด 0:10:06.410,0:10:10.080 ดังนั้นคำถามแรก ก่อนที่พูดถึงมันอย่างฉลาด 0:10:10.080,0:10:11.720 คือว่า EBITDA คืออะไร 0:10:11.720,0:10:18.460 EBITDA คือ Earnings ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา 0:10:18.460,0:10:20.300 และค่าผ่อนชำระหนี้ 0:10:20.300,0:10:22.560 ลองดูว่ามันเป็นเท่าไหร่ตรงนี้ 0:10:22.560,0:10:28.890 มันคือรายได้ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา 0:10:28.890,0:10:29.900 และค่าผ่อนชำระหนี้ 0:10:29.900,0:10:32.280 มันคือก่อนอะไรพวกนี้ 0:10:32.280,0:10:33.920 ที่จริง ลองเปรียบเทียบมันกับ 0:10:33.920,0:10:35.120 สิ่งที่เราเคยทำมาก่อน 0:10:35.120,0:10:36.370 งั้นคุณมี EBITDA 0:10:39.280,0:10:41.660 แล้วก็มี EBIT 0:10:41.660,0:10:45.660 EBIT คือ Earnings ก่อนดอกเบี้ยและภาษี 0:10:45.660,0:10:47.520 งั้น EBIT ก็คือ earnings 0:10:47.520,0:10:49.240 คุณบวกภาษีและดอกเบี้ยกลับไป คุณจ 0:10:49.240,0:10:51.350 ได้กำไรดำเนินการ 0:10:51.350,0:10:53.530 และผมได้พูดถึงมันมาก่อนแล้ว แต่สิ่งที่แยก 0:10:53.530,0:10:57.220 กำไรดำเนินการกับ EBIT จากกันคือว่า EBIT 0:10:57.220,0:10:59.080 อาจรวมรายได้แบบไม่ต้องดำเนินการ ซึ่ง 0:10:59.080,0:10:59.890 ผมไม่ได้ใส่ในนี้ 0:10:59.890,0:11:03.790 แต่หากเงินสดนี่สร้างกำไรที่ 0:11:03.790,0:11:05.740 ไม่เกี่ยวกับการดำเนินกิจการ มัน 0:11:05.740,0:11:06.620 ก็นับอยู่ใน EBIT 0:11:06.620,0:11:07.810 แต่มันไม่ใช่กำไรดำเนินการ 0:11:07.810,0:11:10.900 แต่มันก็ใกล้เครียงหากเราพูดถึง 0:11:10.900,0:11:13.310 ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ไม่ใช่ด้านการเงิน 0:11:13.310,0:11:14.370 ดังนั้นนี่คือ EBIT 0:11:14.370,0:11:16.440 และหากคุณอยากได้ EBITDA คุณก็แค่บวก 0:11:16.440,0:11:18.670 ค่าเสื่อมราคาและค่าผ่อนชำระหนี้กลับเข้าไป 0:11:18.670,0:11:20.310 ดังนั้น EBITDA จะเป็นตรงนี้ 0:11:23.510,0:11:27.440 ดังนั้น EBIT เท่ากับ 35,000 0:11:27.440,0:11:30.380 หากคุณบวกมันกลับไป มันจะเท่ากับ 40,000 0:11:30.380,0:11:32.510 ดังนั้น EBITDA ในกรณีนี้เท่ากับ 40 0:11:32.510,0:11:36.360 และหากหน่วยผมคือ หลักพัน มันจะเท่ากับ 40,000 0:11:36.360,0:11:39.450 คำถามคือว่า ทำไมคนถึงสนใจ EBITDA 0:11:39.450,0:11:42.710 ทำไมถึงใช้ EBITDA แทนที่จะเป็นกำไรดำเนินการ 0:11:42.710,0:11:45.610 และตรรกะคือว่าค่าเสื่อมราคาและค่าผ่อนชำระหนี้ 0:11:45.610,0:11:48.040 และเราพูดถึงมันในวิดีโอเรื่องค่าเสื่อมราคาและ 0:11:48.040,0:11:50.860 ค่าผ่อนชำระหนี้แล้วว่า มันเป็นค่าใช้จ่ายที่กระจายตัว 0:11:50.860,0:11:54.240 ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่เงินสดที่ออกจากประตูในช่วงเวลานั้น 0:11:54.240,0:11:56.390 เราเห็นว่ามันคือค่าเสื่อมราคาและค่าผ่อนชำระหนี้ 0:11:56.390,0:12:01.120 บางที อาจเป็น ผมซื้อของ $100 หรือ $100,000 0:12:01.120,0:12:03.020 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว 0:12:03.020,0:12:09.250 และทุกปีผมคิดค่าเสื่อมราคา 1/20 ของราคาเต็ม 0:12:09.250,0:12:11.180 แต่เงินสดออกจากกระเป๋าไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว 0:12:11.180,0:12:14.220 ดังนั้นค่าเสื่อมราคาและค่าผ่อนชำระหนี้ในช่วงเวลานี้ 0:12:14.220,0:12:16.040 จึงไม่จำเป็นต้องเป็นเงินที่ออกจากประตูตอนนี้ 0:12:16.040,0:12:17.350 ที่จริง มันไม่ใช่เงินที่ออกจากประตู 0:12:17.350,0:12:20.190 เราจะพูดถึงในวิดีโอหน้าว่าคุณจะหาว่า 0:12:20.190,0:12:22.390 อะไรที่เงินสดที่ออกไปในช่วงเวลาหนึ่ง 0:12:22.390,0:12:24.175 ดังนั้นมันจึงถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด 0:12:27.210,0:12:30.580 งั้นตอนที่คุณหา EBITDA ตอนคุณบวกภาษีกลับมา 0:12:30.580,0:12:33.290 คุณบวกดอกเบี้ยกลับมา และบวกค่าเสื่อมราคากับ 0:12:33.290,0:12:34.360 ค่าผ่อนชำระหนี้กลับมา 0:12:34.360,0:12:37.820 สิ่งที่เหลือที่สุดแล้ว คือเงินสดแท้ ๆ 0:12:37.820,0:12:39.925 ที่ enterprise สร้างออกมา 0:12:43.720,0:12:45.950 คนส่วนใหญ่สนใจมันเพราะนี่คือ 0:12:45.950,0:12:47.510 ตัวบ่งชี้ ศักยภาพของบริษัท 0:12:47.510,0:12:50.150 ในการทำสิ่งต่าง ๆ 0:12:50.150,0:12:54.010 เพื่อทำสิ่งต่าง ๆ เช่นการจ่ายดอกเบี้ย จ่ายภาษี หรือ 0:12:54.010,0:12:55.630 ลงทุนในธุรกิจด้วยตนเอง 0:12:55.630,0:13:03.010 หรืออีกวิธีคิดนึงคือว่า หากคุณดู EV ต่อ EBITDA 0:13:03.010,0:13:06.030 คุณกำลังบอกว่าทุกดอลลาร์ของเงินสดแท้ที่ 0:13:06.030,0:13:07.360 บริษัทสร้างขึ้นมาได้ 0:13:07.360,0:13:10.490 สมมุติว่าผมไม่ได้ลงทุนซ้ำในธุรกิจ 0:13:10.490,0:13:11.590 หรือซื้อเครื่องมือใหม่ 0:13:11.590,0:13:13.850 หากมันเป็นแค่เงินดิบ ๆ ผมจะต้องจ่าย 0:13:13.850,0:13:14.760 เท่าไหร่ให้ enterprise 0:13:14.760,0:13:16.860 และกฏง่าย ๆ ทั่วไป เราจะทำอีกที 0:13:16.860,0:13:17.290 ในอนาคต 0:13:17.290,0:13:21.210 ผมว่าผมได้ใช้เวลาตามปกติหมดแล้ว 0:13:21.210,0:13:26.090 สำหรับธุรกิจที่นิ่งมาก ง่าย ๆ ไม่โตไม่หด 0:13:26.090,0:13:30.330 ห้าเท่าของ EBITDA ถือเป็นค่าที่ดี 0:13:30.330,0:13:34.340 แต่่สิ่งที่สำคัญคือว่า บริษัทอื่นในอุตสาหกรรมนั้น 0:13:34.340,0:13:35.490 ซื้อขายกันที่เท่าไหร่ 0:13:35.490,0:13:38.270 และอัตราส่วนพวกนี้จะดีกว่าหาก 0:13:38.270,0:13:40.160 ใช้เป็นตัววัดมูลค่าเชิงเปรียบเทียบ 0:13:40.160,0:13:42.240 ในอนาคต ผมจะแสดงให้ดูว่าจะทำอย่างไรกับ 0:13:42.240,0:13:46.160 discounted cash flow หรือการวิเคราะห์ discounted free cash flow 0:13:46.160,0:13:48.410 หรือ dividend discount model หรืออะไรพวกนั้น คุณจะได้ 0:13:48.410,0:13:49.890 หาว่ามูลค่าสัมบูรณ์เป็นเท่าไหร่ 0:13:49.890,0:13:52.830 แต่ตอนคุณดูที่ตลาดสาธารณะ ตอน 0:13:52.830,0:13:55.330 คุณเลือกซื้ออะไรบางอย่าง โดยนัยแล้วคุณกำลัง 0:13:55.330,0:13:56.650 เลือกไม่ซื้ออย่างอื่นไปในตัว 0:13:56.650,0:13:58.690 เมื่อคุณเลือกขายอะไรสักอย่าง คุณก็กำลัง 0:13:58.690,0:14:00.800 เลือกไม่ขายอย่างอื่นเช่นกัน 0:14:00.800,0:14:04.110 ดังนั้นมูลค่าเปรียบเทียบจะเริ่มสำคัญมากขึ้น 0:14:04.110,0:14:06.910 เอาล่ะ หวังว่าคุณจะเห็นว่ามีประโยชน์นะ