1 00:00:17,028 --> 00:00:19,574 อะไรทำให้เราสุขภาพดีและมีสุข 2 00:00:19,574 --> 00:00:21,338 ในการใช้ชีวิต? 3 00:00:22,128 --> 00:00:24,684 ถ้าตอนนี้คุณจะลงทุน 4 00:00:25,033 --> 00:00:26,796 เพื่อสร้างตัวตนที่ดีที่สุดของคุณในอนาคต 5 00:00:26,986 --> 00:00:30,628 คุณจะทุ่มเวลาและพลังงานของคุณไปที่ไหน 6 00:00:31,647 --> 00:00:34,096 มีคนให้คำตอบต่อคำถามนี้อยู่มากมาย 7 00:00:34,323 --> 00:00:38,394 เราถูกกระหน่ำด้วยภาพของ สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต 8 00:00:39,530 --> 00:00:42,767 สื่อรอบตัวเราเต็มไปด้วยเรื่องราวของคนรวย 9 00:00:43,141 --> 00:00:45,862 และมีชื่อเสียง ที่กำลังสร้างอาณาจักรในที่ทำงาน 10 00:00:47,379 --> 00:00:49,352 และเราก็เชื่อเรื่องราวพวกนี้ 11 00:00:50,011 --> 00:00:52,736 มีการสำรวจคนรุ่นมิลเลเนียล 12 00:00:52,760 --> 00:00:57,936 ว่าเป้าหมายสำคัญที่สุดในชีวิตเขาคืออะไร 13 00:00:58,260 --> 00:01:00,276 มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์บอกว่า 14 00:01:00,300 --> 00:01:04,436 เป้าหมายหลักในชีวิตของเขาคือร่ำรวย 15 00:01:05,660 --> 00:01:09,996 และ 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่ตอนต้น กลุ่มเดียวกันนี้ 16 00:01:10,020 --> 00:01:12,556 บอกว่าเป้าหมายหลักของชีวิตอีกอย่าง 17 00:01:12,580 --> 00:01:14,420 คือการมีชื่อเสียง 18 00:01:15,660 --> 00:01:16,876 (เสียงหัวเราะ) 19 00:01:17,300 --> 00:01:23,956 และเราก็ถูกบอกว่า ให้ทุ่มเททำงาน ทำให้หนักขึ้น 20 00:01:23,980 --> 00:01:26,036 ให้ได้งานมากขึ้น 21 00:01:26,060 --> 00:01:29,716 เราถูกกล่อมให้เชื่อว่า เราควรไขว่คว้าสิ่งเหล่านี้ 22 00:01:29,740 --> 00:01:31,556 เพื่อจะได้มีชีวิตที่ดี 23 00:01:32,445 --> 00:01:33,601 แต่มันจริงเหรอ? 24 00:01:34,434 --> 00:01:38,267 นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คนเรามีความสุข ในการใช้ชีวิตจริงเหรอ 25 00:01:39,980 --> 00:01:42,196 ลองนึกภาพชีวิตทั้งชีวิต 26 00:01:42,220 --> 00:01:47,436 ทางเลือกทั้งหมดที่คนเราต้องเลือก และการตัดสินใจเหล่านั้นมีผลกับเขายังไง 27 00:01:47,460 --> 00:01:50,340 ภาพเหล่านี้ เป็นสิ่งที่แทบหาไม่ได้เลย 28 00:01:51,580 --> 00:01:54,636 ส่วนใหญ่ที่เรารู้เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ 29 00:01:54,660 --> 00:01:58,116 เราเรียนรู้จากการถามให้คนระลึกความหลัง 30 00:01:58,640 --> 00:02:03,416 แต่อย่างที่รู้กัน การนึกย้อนความหลัง มันไม่ได้มีความถูกต้องเที่ยงตรง 31 00:02:03,440 --> 00:02:07,136 เราลืมเหตุการณ์จำนวนมาก ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา 32 00:02:07,160 --> 00:02:10,039 และบางที เราก็สร้างความทรงจำขึ้นมาเอง 33 00:02:10,669 --> 00:02:12,438 มาร์ก ทเวนเข้าใจเรื่องนี้ดี 34 00:02:13,780 --> 00:02:15,470 มีคนบอกว่า เขาพูดไว้ว่า 35 00:02:16,244 --> 00:02:20,124 "บางอย่างที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผม ไม่เคยเกิดขึ้นจริง" 36 00:02:20,184 --> 00:02:23,243 (เสียงหัวเราะ) 37 00:02:23,776 --> 00:02:28,315 งานวิจัยแสดงว่า เราจดจำอดีตของเราในเชิงบวกมากขึ้น 38 00:02:28,345 --> 00:02:29,501 เมื่อเราอายุมากขึ้น 39 00:02:30,427 --> 00:02:33,172 ทำให้ผมนึกถึงสติ๊กเกอร์ติดท้ายรถที่ว่า 40 00:02:33,196 --> 00:02:36,196 "ไม่มีคำว่าสายเกินไป ที่จะมีวัยเด็กที่มีความสุข" 41 00:02:36,228 --> 00:02:38,767 (เสียงหัวเราะ) 42 00:02:39,600 --> 00:02:43,976 แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าเราสามารถเฝ้าสังเกตชีวิตทั้งชีวิต 43 00:02:44,000 --> 00:02:46,856 ที่ดำเนินผ่านกาลเวลา 44 00:02:46,880 --> 00:02:50,856 ถ้าเราสามารถศึกษาผู้คน ตั้งแต่เขาเป็นวัยรุ่น 45 00:02:50,880 --> 00:02:53,616 ตลอดไปจนเข้าสู่วัยสูงอายุ 46 00:02:53,640 --> 00:02:57,000 เพื่อศึกษาดูว่าอะไรกันแน่ ที่ทำให้คนมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง 47 00:02:58,217 --> 00:02:59,417 พวกเราทำอย่างนั้นแหละครับ 48 00:03:00,440 --> 00:03:02,656 ในโครงการศึกษาพัฒนาการผู้ใหญ่ ของฮาร์วาร์ด 49 00:03:02,680 --> 00:03:07,439 ซึ่งอาจจะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับชีวิตผู้ใหญ่ ที่ยาวนานที่สุดที่มีคนเคยทำมา 50 00:03:08,360 --> 00:03:14,480 เป็นเวลา 75 ปีที่เราได้เฝ้าติดตาม ชีวิตของผู้ชาย 724 คน 51 00:03:16,160 --> 00:03:20,656 ปีแล้วปีเล่าที่เราคอยถามเขาเกี่ยวกับ งานที่เขาทำ ชีวิตที่บ้าน และสุขภาพ 52 00:03:20,680 --> 00:03:25,056 และแน่นอน ถามไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ล่วงหน้า ว่าเรื่องราวชีวิตของเขา 53 00:03:25,080 --> 00:03:26,520 จะคลี่คลายออกมาเป็นอย่างไร 54 00:03:28,080 --> 00:03:31,696 การศึกษาวิจัยลักษณะนี้หายากมาก 55 00:03:31,720 --> 00:03:35,776 แทบทุกโครงการลักษณะนี้ ล้มเลิกไปภายในทศวรรษเดียว 56 00:03:35,800 --> 00:03:38,976 เพราะคนจำนวนมากไม่ร่วมมือในการวิจัยต่อไป 57 00:03:39,000 --> 00:03:41,896 หรือทุนสนับสนุนการวิจัยหมดไป 58 00:03:41,920 --> 00:03:44,176 หรือนักวิจัยเปลี่ยนไปสนใจเรื่องอื่น 59 00:03:44,200 --> 00:03:48,280 หรือเสียชีวิตไป แล้วไม่มีใครมาสานต่อ 60 00:03:49,080 --> 00:03:51,336 แต่ด้วยความโชคดี 61 00:03:51,360 --> 00:03:55,056 ผสมกับความเพียรอย่างต่อเนื่อง ของนักวิจัยหลายรุ่น 62 00:03:55,080 --> 00:03:56,640 การศึกษานี้จึงยังคงดำเนินต่อไป 63 00:03:57,320 --> 00:04:01,816 ผู้เข้าร่วมการวิจัย 60 คน จาก 724 คน 64 00:04:01,840 --> 00:04:03,136 ยังคงมีชีวิตอยู่ 65 00:04:03,160 --> 00:04:05,336 และยังให้ความร่วมมือในการวิจัย 66 00:04:05,360 --> 00:04:07,400 ส่วนใหญ่เขาอายุ 90 กว่าปี 67 00:04:08,360 --> 00:04:10,256 และตอนนี้เราก็เริ่มศึกษา 68 00:04:10,280 --> 00:04:13,640 ลูกๆ ของชายเหล่านี้ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 2,000 คน 69 00:04:14,480 --> 00:04:16,800 ผมเองเป็นผู้อำนวยการคนที่สี่ของโครงการนี้ 70 00:04:18,200 --> 00:04:22,936 ตั้งแต่ปี 1938 เราได้ติดตามวิเคราะห์ชีวิต ของชายสองกลุ่ม 71 00:04:22,960 --> 00:04:25,096 กลุ่มแรกเริ่มเข้าร่วมการศึกษานี้ 72 00:04:25,120 --> 00:04:27,516 ตอนเป็นนักศึกษาปริญญาตรีปี 2 ที่ฮาร์วาร์ดคอลเลจ 73 00:04:27,802 --> 00:04:31,428 ซึ่งทอม โบรคอล เรียกว่าเป็น "คนรุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" 74 00:04:31,740 --> 00:04:34,556 พวกเขาเรียนจบปริญญาตรี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 75 00:04:34,580 --> 00:04:37,020 และส่วนใหญ่ไปรับใช้ชาติในสงครามต่อ 76 00:04:37,980 --> 00:04:40,116 และกลุ่มที่สองที่เราติดตาม 77 00:04:40,140 --> 00:04:44,316 คือกลุ่มเด็กหนุ่มจาก ย่านที่ยากจนที่สุดในบอสตัน 78 00:04:44,340 --> 00:04:46,356 เด็กหนุ่มเหล่านี้ถูกเลือกเข้าร่วมการศึกษา 79 00:04:46,380 --> 00:04:49,716 เพราะเขามาจากครอบครัวที่มีปัญหา 80 00:04:49,740 --> 00:04:51,596 และด้อยโอกาสที่สุดในบอสตัน 81 00:04:51,620 --> 00:04:54,356 ในช่วงทศวรรษ 1930s 82 00:04:54,380 --> 00:04:58,980 ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในห้องเช่า ซึ่งไม่มีน้ำประปาไม่ว่าน้ำร้อนหรือเย็น 83 00:05:01,220 --> 00:05:03,116 เมื่อเริ่มเข้าร่วมการศึกษา 84 00:05:03,140 --> 00:05:06,076 วันรุ่นทั้งหมดถูกสัมภาษณ์ 85 00:05:06,100 --> 00:05:08,316 ตรวจสุขภาพ 86 00:05:08,340 --> 00:05:11,876 เราไปที่บ้านพวกเขา สัมภาษณ์ผู้ปกครองของเขา 87 00:05:11,900 --> 00:05:14,276 แล้ววัยรุ่นเหล่านี้ก็เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ 88 00:05:14,300 --> 00:05:16,716 ออกไปทำงานหลากหลายอาชีพ 89 00:05:16,740 --> 00:05:22,836 ตั้งแต่คนงานในโรงงาน ทนายความ คนงานก่อสร้าง และหมอ 90 00:05:22,860 --> 00:05:25,220 ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนหนึ่ง 91 00:05:26,860 --> 00:05:31,100 บางคนติดเหล้า บางคนเป็นจิตเภท 92 00:05:32,020 --> 00:05:34,316 บางคนไต่บันไดสถานะทางสังคม 93 00:05:34,340 --> 00:05:37,556 จากขั้นต่ำสุดไปสู่ขั้นสูงสุด 94 00:05:37,580 --> 00:05:40,860 บางคนก็เดินบันไดนั้น ในทิศทางตรงกันข้าม 95 00:05:42,220 --> 00:05:45,156 ผู้ก่อตั้งโครงการศึกษานี้ 96 00:05:45,180 --> 00:05:47,196 คงไม่เคยคิดเคยฝันเลย 97 00:05:47,220 --> 00:05:51,756 ว่าผมจะมายืนตรงนี้วันนี้ 75 ปีให้หลัง 98 00:05:51,780 --> 00:05:54,860 บอกเล่าให้คุณฟัง ว่าการศึกษานี้ยังคงดำเนินอยู่ 99 00:05:55,980 --> 00:05:59,596 ทุกๆ สองปี ทีมนักวิจัยที่อดทนและทุ่มเท 100 00:05:59,620 --> 00:06:02,676 โทรหาผู้ชายเหล่านี้ และถามว่าเราจะส่งแบบสอบถามอีกชุด 101 00:06:02,700 --> 00:06:05,820 เกี่ยวกับชีวิตของเขา ให้เขาตอบได้ไหม 102 00:06:06,740 --> 00:06:10,316 ชายจากชุมชนแออัดในบอสตันถามเราว่า 103 00:06:10,340 --> 00:06:14,220 "ทำไมคุณยังอยากศึกษาผมอีก ชีวิตผมไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย" 104 00:06:15,300 --> 00:06:17,676 ส่วนชายจากฮาร์วาร์ดไม่เคยถามแบบนี้เลย 105 00:06:17,700 --> 00:06:22,900 (เสียงหัวเราะ) 106 00:06:27,620 --> 00:06:30,476 เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนที่สุด ของชีวิตคนเหล่านี้ 107 00:06:30,500 --> 00:06:33,436 เราไม่เพียงส่งแบบสอบถามให้เขาตอบ 108 00:06:33,460 --> 00:06:35,916 เราไปสัมภาษณ์เขาในห้องนั่งเล่นบ้านเขา 109 00:06:36,640 --> 00:06:39,576 เราขอประวัติการรักษาพยาบาล จากคุณหมอของพวกเขา 110 00:06:39,600 --> 00:06:42,096 เราเก็บตัวอย่างเลือด เราสแกนสมอง 111 00:06:42,120 --> 00:06:43,816 เราคุยกับลูกๆ ของเขา 112 00:06:43,840 --> 00:06:49,096 เราถ่ายวิดีโอขณะเขาพูดคุยกับภรรยาของเขา ในเรื่องที่กังวลใจอย่างลึกซึ้ง 113 00:06:49,120 --> 00:06:52,656 และเมื่อประมาณหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เราถามภรรยาพวกเขา 114 00:06:52,680 --> 00:06:55,056 ว่าขอให้มาร่วมในงานวิจัยด้วยได้ไหม 115 00:06:55,080 --> 00:06:57,776 ผู้หญิงหลายคนพูดว่า "อืม มันได้เวลาแล้วล่ะ" 116 00:06:57,800 --> 00:06:58,856 (เสียงหัวเราะ) 117 00:07:00,580 --> 00:07:02,276 แล้วเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง 118 00:07:02,300 --> 00:07:07,516 มีบทเรียนอะไรบ้างจากข้อมูลเป็นหมื่นๆ หน้า 119 00:07:07,540 --> 00:07:10,596 ที่เราเก็บรวบรวมมา 120 00:07:10,620 --> 00:07:11,820 จากชีวิตของคนเหล่านี้ 121 00:07:12,820 --> 00:07:18,420 บทเรียนที่ได้ไม่เกี่ยวกับความร่ำรวย ชื่อเสียง หรือการทำงานให้หนักขึ้นหนักขึ้น 122 00:07:19,620 --> 00:07:25,916 ใจความที่ชัดเจนที่สุดที่เราได้รับ จากการศึกษาที่ยาวนาน 75 ปีนี้ คือ 123 00:07:25,940 --> 00:07:31,140 ความสัมพันธ์ที่ดีทำให้เรามีความสุข และสุขภาพดี จบครับ 124 00:07:32,100 --> 00:07:35,916 เราได้บทเรียนสำคัญสามอย่าง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ 125 00:07:35,940 --> 00:07:40,036 ข้อแรกคือ การติดต่อสัมพันธ์ทางสังคมนั้น ดีต่อเรามากๆ 126 00:07:40,060 --> 00:07:42,555 ส่วนความเหงากัดกินเรา 127 00:07:43,180 --> 00:07:46,836 เราพบว่า คนที่มีการ ติดต่อสัมพันธ์ทางสังคมมากกว่า 128 00:07:46,860 --> 00:07:49,956 ไม่ว่ากับครอบครัว เพื่อน หรือคนในชุมชน 129 00:07:49,980 --> 00:07:54,676 ก็มีความสุขมากกว่า สุขภาพกายแข็งแรงกว่า และอายุยืนยาวกว่า 130 00:07:54,700 --> 00:07:58,076 เมื่อเทียบกับคนที่ มีการติดต่อสัมพันธ์ทางสังคมน้อย 131 00:07:58,100 --> 00:08:01,516 และประสบการณ์ความเหงานั้น เป็นพิษต่อเรา 132 00:08:01,540 --> 00:08:06,676 คนที่ต้องอยู่โดดเดี่ยว ในระดับที่มากกว่าที่ตนเองต้องการ 133 00:08:06,700 --> 00:08:09,916 พบว่าตนเองมีความสุขน้อยกว่า 134 00:08:09,940 --> 00:08:12,876 สุขภาพแย่ลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่วัยกลางคน 135 00:08:12,900 --> 00:08:15,116 การทำงานของสมองก็ถดถอยลงเร็วกว่า 136 00:08:15,140 --> 00:08:18,700 และอายุสั้นกว่าคนที่ไม่เหงา 137 00:08:19,740 --> 00:08:22,956 และข้อเท็จจริงที่น่าเศร้าคือ ในทุกๆ ชั่วขณะใดๆ 138 00:08:22,980 --> 00:08:27,580 คนอเมริกันมากกว่าหนึ่งในห้า รายงานว่าตนเองเหงา 139 00:08:28,740 --> 00:08:31,396 และเรารู้ว่า คุณอาจจะเหงา แม้อยู่ท่ามกลางผู้คน 140 00:08:31,420 --> 00:08:34,076 และเหงาทั้งๆ ที่มีคู่แต่งงาน 141 00:08:34,100 --> 00:08:36,236 ดังนั้น บทเรียนสำคัญข้อสอง ที่เราได้เรียนรู้ 142 00:08:36,260 --> 00:08:39,356 คือ มันไม่ใช่แค่ว่าคุณมีเพื่อนกี่คน 143 00:08:39,380 --> 00:08:42,876 หรือคุณมีความสัมพันธ์ที่ผูกมัดหรือไม่ 144 00:08:42,900 --> 00:08:47,540 แต่มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของความสัมพันธ์ 145 00:08:48,260 --> 00:08:53,036 เราพบว่า การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลาง ความขัดแย้งนั้นแย่กับสุขภาพของเรามากจริงๆ 146 00:08:53,060 --> 00:08:57,036 เช่น ชีวิตคู่ที่มีความขัดแย้งสูง ไม่ค่อยแสดงความรักความอบอุ่น 147 00:08:58,160 --> 00:09:03,936 มีผลเสียกับสุขภาพของเรา อาจจะมากยิ่งกว่าการหย่าร้างเสียอีก 148 00:09:03,960 --> 00:09:08,736 และการอยู่ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ดี อบอุ่น เป็นปัจจัยที่ปกป้องเรา 149 00:09:08,760 --> 00:09:11,856 เมื่อเราเฝ้าติดตามชายเหล่านี้ ไปจนเขาอายุ 80 150 00:09:11,880 --> 00:09:14,896 เราอยากจะมองย้อนกลับไป ช่วงที่เขาอยู่ในวัยกลางคน 151 00:09:15,720 --> 00:09:17,296 เพื่อดูว่าเราจะสามารถทำนาย 152 00:09:17,320 --> 00:09:21,296 ว่าใครจะเติบโตขึ้นเป็นคนวัย 80 ที่แข็งแรงและมีความสุข 153 00:09:21,320 --> 00:09:22,520 และใครจะไม่มีความสุข 154 00:09:23,280 --> 00:09:27,496 เมื่อเรารวบรวมข้อมูลทุกอย่าง ที่เรารู้เกี่ยวกับพวกเขา 155 00:09:27,520 --> 00:09:28,880 ตอนอายุ 50 156 00:09:29,680 --> 00:09:32,216 ปรากฏว่า ระดับคอเลสเตอรอลตอนวัยกลางคน 157 00:09:32,240 --> 00:09:35,136 ไม่สามารถทำนายได้ว่า วัยชราของเขาจะเป็นอย่างไร 158 00:09:35,160 --> 00:09:38,615 แต่มันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ในความสัมพันธ์ที่เขามี 159 00:09:38,639 --> 00:09:43,536 คนที่พึงพอใจในความสัมพันธ์มากที่สุด ตอนอายุ 50 160 00:09:43,560 --> 00:09:45,960 เป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงที่สุดตอนอายุ 80 161 00:09:47,279 --> 00:09:50,456 ดูเหมือนความสัมพันธ์ที่ดี และใกล้ชิดจะเป็นกันชน 162 00:09:50,480 --> 00:09:53,240 ปกป้องเราจากก้อนหินและคมธนู จากการก้าวเข้าสู่วัยชรา 163 00:09:54,080 --> 00:09:58,056 คู่ชีวิตชายหญิงที่มีความสุขมากที่สุด 164 00:09:58,080 --> 00:10:00,135 รายงานตอนช่วงอายุ 80 ว่า 165 00:10:00,159 --> 00:10:03,096 วันที่เขามีความเจ็บปวดทางร่างกาย 166 00:10:03,120 --> 00:10:05,080 อารมณ์ของเขาก็ยังคงเป็นสุขเท่าเดิม 167 00:10:06,000 --> 00:10:09,256 แต่คนที่ไม่มีความสุขในความสัมพันธ์ 168 00:10:09,280 --> 00:10:12,216 วันที่เขารายงานว่ามีความเจ็บปวดทางกาย 169 00:10:12,240 --> 00:10:15,280 ความเจ็บปวดนั้นยิ่งถูกซ้ำเติม ด้วยความเจ็บปวดทางอารมณ์ 170 00:10:17,460 --> 00:10:21,836 และบทเรียนสำคัญข้อสามที่เราได้เรียนรู้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์และสุขภาพ 171 00:10:21,860 --> 00:10:25,116 คือ ความสัมพันธ์ที่ดี ไม่เพียงปกป้องร่างกายของเรา 172 00:10:25,140 --> 00:10:26,620 แต่มันยังปกป้องสมองของเราด้วย 173 00:10:27,540 --> 00:10:32,196 ปรากฎว่า การอยู่ในความสัมพันธ์ ที่อบอุ่นมั่นคง 174 00:10:32,220 --> 00:10:36,116 กับใครสักคนตอนคุณอยู่ในวัย 80 ช่วยปกป้องคุณ 175 00:10:36,140 --> 00:10:38,116 คนที่อยู่ในความสัมพันธ์ 176 00:10:38,140 --> 00:10:42,276 ที่รู้สึกว่า เขาพึ่งพาอีกฝ่ายหนึ่งได้ ในเวลาที่จำเป็น 177 00:10:42,300 --> 00:10:45,996 คนเหล่านี้มีความจำที่คมชัดยาวนานกว่า 178 00:10:46,020 --> 00:10:47,516 และคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ 179 00:10:47,540 --> 00:10:50,676 ที่เขารู้สึกว่าไม่สามารถ พึ่งพาอีกฝ่ายหนึ่งได้ 180 00:10:50,700 --> 00:10:54,580 คนเหล่านี้มีอาการความจำเสื่อมถอยเร็วกว่า 181 00:10:55,620 --> 00:10:59,076 ความสัมพันธ์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องราบรื่นตลอดเวลา 182 00:10:59,100 --> 00:11:02,676 คู่รักช่วงวัยแปดสิบบางคู่อาจโต้เถียงกัน 183 00:11:02,700 --> 00:11:04,436 ไม่เว้นแต่ละวัน 184 00:11:04,460 --> 00:11:07,636 แต่ตราบใดที่เขายังรู้สึกว่า เขาพึ่งพาซึ่งกันและกันได้ 185 00:11:07,660 --> 00:11:09,476 เมื่อเจอสถานการณ์ยากลำบาก 186 00:11:09,500 --> 00:11:13,100 การโต้เถียงเหล่านั้นก็ไม่ส่งผลกระทบ กับความจำของเขา 187 00:11:14,700 --> 00:11:17,436 ประเด็นนี้ 188 00:11:17,460 --> 00:11:23,156 ที่ว่าความสัมพันธ์ที่ดีและใกล้ชิดนั้น ดีต่อสุขภาพและสุขภาวะของเรา 189 00:11:23,180 --> 00:11:26,116 เป็นภูมิปัญญาที่เก่าแก่เท่ากับขุนเขา 190 00:11:26,170 --> 00:11:29,241 มันเหมือนคำแนะนำที่คุณย่าคุณยาย และบาทหลวงบอกคุณ 191 00:11:30,075 --> 00:11:31,912 แล้วทำไมมันจึงเข้าใจยากนัก 192 00:11:32,758 --> 00:11:35,384 เช่น เรื่องความร่ำรวยนั้น เรารู้ว่า 193 00:11:35,409 --> 00:11:38,334 เมื่อความต้องการพื้นฐานทางวัตถุ ได้รับการตอบสนองแล้ว 194 00:11:38,567 --> 00:11:39,996 ความร่ำรวยก็ไม่มีความหมาย 195 00:11:40,059 --> 00:11:43,815 ถ้าคุณทำเงินได้มากขึ้น จาก 75,000 ดอลลาร์ต่อปี 196 00:11:43,854 --> 00:11:45,466 เพิ่มเป็น 75 ล้าน 197 00:11:45,847 --> 00:11:49,783 เราเรียนรู้แล้วว่า สุขภาพและความสุขของคุณ จะเปลี่ยนน้อยมาก 198 00:11:49,831 --> 00:11:50,728 ถ้ามีการเปลี่ยนนะ 199 00:11:51,982 --> 00:11:53,479 ส่วนเรื่องชื่อเสียง 200 00:11:54,204 --> 00:11:56,418 การถูกสื่อรุกล้ำ 201 00:11:56,601 --> 00:11:58,166 และการขาดความเป็นส่วนตัว 202 00:11:58,403 --> 00:12:01,403 ทำให้คนมีชื่อเสียงส่วนใหญ่ มีสุขภาพแย่ลง 203 00:12:02,117 --> 00:12:04,770 มันไม่ได้ทำให้เขามีความสุขมากขึ้นแน่ๆ 204 00:12:06,077 --> 00:12:08,594 ส่วนการทำงานหนักขึ้นนั้น 205 00:12:09,426 --> 00:12:12,434 มันมีความจริงที่เห็นได้ชัดข้อหนึ่งว่า ตอนใกล้ตาย 206 00:12:12,481 --> 00:12:15,204 ไม่เคยมีใครนึกเสียดายว่า เขาน่าจะใช้เวลาในที่ทำงานมากขึ้น 207 00:12:15,228 --> 00:12:16,370 (เสียงหัวเราะ) 208 00:12:16,840 --> 00:12:20,680 ทำไมเรื่องพวกนี้จึงเข้าใจยากนัก และถูกละเลยง่ายนัก 209 00:12:21,360 --> 00:12:22,816 คือ เราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ 210 00:12:22,840 --> 00:12:25,656 และสิ่งที่เราอยากได้คือ การแก้ปัญหาที่รวดเร็ว 211 00:12:25,680 --> 00:12:27,376 อะไรที่เราสามารถซื้อหาได้ 212 00:12:27,400 --> 00:12:30,160 ที่ทำให้ชีวิตเราดี และรักษาให้มันดีอยู่อย่างนั้น 213 00:12:31,120 --> 00:12:34,456 ความสัมพันธ์นั้นยุ่งเหยิงและซับซ้อน 214 00:12:34,480 --> 00:12:38,296 และงานหนักในการดูแลครอบครัวและเพื่อน 215 00:12:38,320 --> 00:12:40,976 ไม่ได้เร้าใจหรืองดงาม 216 00:12:41,000 --> 00:12:44,336 มันเป็นภาระที่ยาวนานตลอดชีวิต ไม่มีวันสิ้นสุด 217 00:12:44,360 --> 00:12:49,416 ผู้เข้าร่วมการศึกษาระยะยาว 75 ปีนี้ ที่เกษียณแล้วมีความสุขมากที่สุด 218 00:12:50,240 --> 00:12:56,056 คือคนที่พยายามหาเพื่อนเล่น มาทดแทนเพื่อนร่วมงาน 219 00:12:59,980 --> 00:13:02,956 เหมือนกับคนรุ่นมิลเลเนียล ในการสำรวจล่าสุด 220 00:13:03,280 --> 00:13:06,896 ตอนเป็นผู้ใหญ่ตอนต้น ชายในโครงการวิจัยนี้หลายคน 221 00:13:06,920 --> 00:13:10,936 ก็เชื่อว่าชื่อเสียง ความร่ำรวย และความสำเร็จ 222 00:13:11,460 --> 00:13:15,396 คือสิ่งที่เขาต้องไขว่คว้า เพื่อให้มีชีวิตที่ดี 223 00:13:15,420 --> 00:13:19,596 แต่ตลอด 75 ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาของเรา แสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า 224 00:13:19,620 --> 00:13:25,276 คนที่มีชีวิตที่ดีที่สุด คือคนที่ใส่ใจในความสัมพันธ์ 225 00:13:25,300 --> 00:13:28,540 กับครอบครัว กับเพื่อน กับคนในชุมชน 226 00:13:30,380 --> 00:13:32,356 แล้วคุณล่ะ 227 00:13:32,380 --> 00:13:36,140 สมมุติคุณอายุ 25 ปี หรือ 40 หรือ 60 ปี 228 00:13:37,100 --> 00:13:40,060 การโน้มเอียงเข้าหาความสัมพันธ์ มันจะหน้าตาอย่างไร 229 00:13:41,060 --> 00:13:44,180 มันมีความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด 230 00:13:44,900 --> 00:13:50,996 อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ เช่นใช้เวลากับคน แทนที่จะใช้เวลากับจอ 231 00:13:51,020 --> 00:13:55,476 หรือสร้างชีวิตชีวาให้ความสัมพันธ์ที่จืดจาง โดยทำอะไรใหม่ๆ ด้วยกัน 232 00:13:55,500 --> 00:13:57,700 เดินเล่นด้วยกันยาวๆ หรือนัดเดทกันยามค่ำคืน 233 00:13:58,660 --> 00:14:03,516 หรือติดต่อสมาชิกในครอบครัว ที่คุณไม่ได้พูดคุยด้วยมาหลายปี 234 00:14:03,540 --> 00:14:07,036 เพราะความบาดหมางในครอบครัว ที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ 235 00:14:07,060 --> 00:14:09,276 ส่งผลเสียที่ร้ายแรง 236 00:14:09,300 --> 00:14:11,380 ต่อคนที่คิดอาฆาตพยาบาท 237 00:14:13,300 --> 00:14:17,220 ผมอยากจบด้วยคำพูดของมาร์ก ทเวน 238 00:14:18,880 --> 00:14:21,256 ที่พูดไว้มากกว่าหนึ่งศตวรรษมาแล้ว 239 00:14:21,280 --> 00:14:23,896 เขามองย้อนกลับไปในชีวิตของเขา 240 00:14:23,920 --> 00:14:25,200 และเขียนไว้ว่า 241 00:14:26,440 --> 00:14:30,136 "ชีวิตคนเรานั้นสั้น ไม่มีเวลาสำหรับการทะเลาะ 242 00:14:30,160 --> 00:14:35,320 คำขอโทษ ความอิจฉาริษยา การกล่าวโทษและเรียกร้องหาคำอธิบาย 243 00:14:36,320 --> 00:14:39,136 มีแต่เวลาสำหรับการรัก 244 00:14:39,160 --> 00:14:42,880 ซึ่งก็มีเวลาสั้นมาก เช่นเดียวกัน" 245 00:14:44,360 --> 00:14:48,736 ชีวิตที่ดี สร้างขึ้นจากความสัมพันธ์ที่ดี 246 00:14:48,945 --> 00:14:51,159 และนั่นคือความคิดที่ควรค่าแก่การเผยแพร่ 247 00:14:51,180 --> 00:14:52,396 ขอบคุณครับ 248 00:14:52,417 --> 00:14:58,040 (เสียงปรบมือ)