WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:00.520 00:00:00.520 --> 00:00:02.590 มนุษย์สังเกตเห็นเสมอว่า 00:00:02.590 --> 00:00:04.700 ของบางอย่างยาากกว่าของอีกอย่าง. 00:00:04.700 --> 00:00:06.630 ตัวอย่างเช่น ส่วนของเส้นตรงนี้ 00:00:06.630 --> 00:00:08.820 ดูยาวกว่าส่วนของเส้นตรงนี้. 00:00:08.820 --> 00:00:11.470 แต่การเปรียบเทียบนั้นยังไม่พอ. 00:00:11.470 --> 00:00:12.490 คุณยังอยากวัดมันด้วย. 00:00:12.490 --> 00:00:14.448 คุณอยากหาปริมาณว่าเส้นที่สอง 00:00:14.448 --> 00:00:16.920 ยากกว่าเส้นแรกเท่าใด. 00:00:16.920 --> 00:00:18.490 แล้วเราจะทำยังไง? 00:00:18.490 --> 00:00:21.770 เราได้กำหนดความยาวหน่วย. 00:00:21.770 --> 00:00:24.410 แล้วถ้าเราให้นี่เป็นความยาวหนึ่งหน่วย 00:00:24.410 --> 00:00:28.270 เราบอกว่านี่คือหนึ่งหน่วย แล้ว เราก็บอกได้ว่าความยาวของ 00:00:28.270 --> 00:00:30.430 เส้นตรงเหล่านี้แต่ละเส้นเป็นเท่าใด? 00:00:30.430 --> 00:00:32.729 เส้นแรกเป็นแบบนี้ -- 00:00:32.729 --> 00:00:35.350 เราทำหนึ่งหน่วยได้ แล้วเราก็ทำอีกที 00:00:35.350 --> 00:00:38.727 ดูเหมือนมันจะยาวสองหน่วย. 00:00:38.727 --> 00:00:40.810 ในขณะที่เส้นที่สามดูเหมือนว่าเราได้ -- 00:00:40.810 --> 00:00:44.970 ลองดู มันคือ 1, 2, 3 หน่วย. 00:00:44.970 --> 00:00:47.460 นี่คือสามเท่าของหน่วย. 00:00:47.460 --> 00:00:50.500 ตรงนี้ ผมบอกแค่คำว่าหน่วย. 00:00:50.500 --> 00:00:53.490 บางครั้งเราตกลงใช้เซนติเมตร 00:00:53.490 --> 00:00:55.270 โดยหน่วยอาจเป็นแบบนี้. 00:00:55.270 --> 00:00:57.686 มันจะต่างกันขึ้นอยู่กับหน้าจอคุณ. 00:00:57.686 --> 00:01:01.330 หรือเราอาจมีนิ้วที่เป็นแบบนี้. 00:01:01.330 --> 00:01:02.890 หรือเราอาจมีฟุตที่ผม 00:01:02.890 --> 00:01:05.970 วาดใส่จอไม่ได้ จากที่ผมเพิ่ง 00:01:05.970 --> 00:01:07.600 วาดนิ้วกับเซนติเมตรไป. 00:01:07.600 --> 00:01:09.480 มีหน่วยต่างๆ ที่คุณ 00:01:09.480 --> 00:01:12.120 ใช้วัดได้. 00:01:12.120 --> 00:01:14.580 แต่ลองขึ้นถึงมิติเพิ่มขึ้นมา. 00:01:14.580 --> 00:01:17.250 นี่คือกรณีหนึ่งมิติ. 00:01:17.250 --> 00:01:18.310 นี่คือ 1D. 00:01:18.310 --> 00:01:19.430 ทำไมถึงหนึ่งมิติ? 00:01:19.430 --> 00:01:23.970 เพราะผมวัดได้แต่ความยาว. 00:01:23.970 --> 00:01:26.350 แต่ตอนนี้ลองไปยังกรณี 2D. 00:01:26.350 --> 00:01:28.720 ลองดูที่สองมิติ โดยวัตถุ 00:01:28.720 --> 00:01:33.730 มีทั้งความยาวและความกว้าง หรือความกว้างและความสูง. 00:01:33.730 --> 00:01:37.340 ลองนึกภาพสองภาพที่เป็นแบบนี้. 00:01:37.340 --> 00:01:39.770 สมมุติว่านี่คือรูปหนึ่ง. 00:01:39.770 --> 00:01:43.260 นี่คือรูปหนึ่ง. 00:01:43.260 --> 00:01:47.692 และสังเกตดู มันมีความกว้าง และมันมีความสูง. 00:01:47.692 --> 00:01:49.650 หรือคุณอาจมองมันเป็น ความกว้างกับความยาว 00:01:49.650 --> 00:01:51.191 ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากมองอย่างไร. 00:01:51.191 --> 00:01:53.970 สมมุติว่านี่คือหนึ่งรูปตรงนี้. 00:01:53.970 --> 00:01:55.805 และสมมุติว่านี่คืออีกรูป. 00:01:55.805 --> 00:02:00.630 นี่คืออีกรูปตรงนี้. 00:02:00.630 --> 00:02:04.580 พยายามวัดมันให้ดี. 00:02:04.580 --> 00:02:06.880 ทีนี้ ย้ำอีกที เราอยู่ในสองมิติ. 00:02:06.880 --> 00:02:10.250 เราอยากบอกว่า รูปนี้กินที่ 00:02:10.250 --> 00:02:11.700 ในสองมิติเท่าใด? 00:02:11.700 --> 00:02:14.147 หรือสองรูปนี้แต่ละรูปมี พื้นที่เท่าใด? 00:02:14.147 --> 00:02:16.230 เหมือนเดิม เราเปรียบเทียบได้. 00:02:16.230 --> 00:02:19.530 รูปที่สอง ถ้าคุณมองมัน เป็นพรมหรือสี่เหลี่ยมมุมฉาก 00:02:19.530 --> 00:02:21.860 สี่เหลี่ยมมุมฉากรูปที่สอง จะกินที่บนหน้าจอผม 00:02:21.860 --> 00:02:24.740 มากกว่ารูปแรก แต่ผมอยากวัดค่ามัน. 00:02:24.740 --> 00:02:26.270 แล้วเราจะวัดมันอย่างไร? 00:02:26.270 --> 00:02:28.889 เหมือนเดิม เรากำหนดตารางหน่วย. 00:02:28.889 --> 00:02:31.305 แทนที่ใช้ความยาวหน่วย ตอนนี้เราอยู่ในสองมิติ. 00:02:31.305 --> 00:02:34.270 เราต้องกำหนดตารางหน่วย. 00:02:34.270 --> 00:02:37.840 และเราสร้างตารางหน่วยขึ้นมา. 00:02:37.840 --> 00:02:41.620 ตารางหน่วยที่เรากำหนดคือ สี่เหลี่ยมจัตุรัส 00:02:41.620 --> 00:02:44.390 ที่ความกว้างกับความยาว 00:02:44.390 --> 00:02:46.670 เท่ากับหนึ่งหน่วยความยาวทั้งคู่. 00:02:46.670 --> 00:02:52.310 นี่ก็คือความกว้างของมัน หนึ่งหน่วย และความสูงของมันเป็นหนึ่งหน่วย. 00:02:52.310 --> 00:02:56.250 และเรามักเรียกนี่ว่า 1 ตารางหน่วย. 00:02:56.250 --> 00:02:59.750 บ่อยครั้ง คุณจะเรียกมันว่า 1 หน่วย. 00:02:59.750 --> 00:03:03.746 และคุณอาจใส่ 2 บนนี้ นี่หมายถึง 1 หน่วยกำลังสอง. 00:03:03.746 --> 00:03:05.120 แทนที่จะเขียนหน่วย 00:03:05.120 --> 00:03:06.740 นี่อาจเป็นเซนติเมตร. 00:03:06.740 --> 00:03:09.420 นี่ก็คือ 1 ตารางเซนติเมตร. 00:03:09.420 --> 00:03:12.490 แต่ตอนนี้เราใช้มันวัดพื้นที่. 00:03:12.490 --> 00:03:14.900 และอย่างที่เราพูดว่าต้องใช้ความยาวกี่หน่วย 00:03:14.900 --> 00:03:16.620 จึงจะใส่ลงในเส้นตรงพอดี 00:03:16.620 --> 00:03:19.797 เราก็บอกว่า ต้องใช้กี่ตารางหน่วย จึงใส่ลงในนี้พอดี? 00:03:19.797 --> 00:03:21.880 ตรงนี้ เราใช้ตารางหน่วยของเราหนึ่งรูป 00:03:21.880 --> 00:03:24.597 และบอกว่า โอเค มันกินพื้นที่เท่านี้. 00:03:24.597 --> 00:03:26.180 เราต้องใช้มากกว่านี้จึงจะคลุมหมด. 00:03:26.180 --> 00:03:28.740 ทีนี้ เราจะใส่อีกหนึ่งตารางหน่วย. 00:03:28.740 --> 00:03:31.370 เราจะใส่อีกตารางหน่วยตรงนี้. 00:03:31.370 --> 00:03:33.670 เราใส่อีกตารางหน่วยตรงนั้น. 00:03:33.670 --> 00:03:36.530 ว้าว 4 ตารางหน่วยใส่ได้พอดี. 00:03:36.530 --> 00:03:38.170 เราจึงบอกว่า รูปนี้มีพื้นที่ 00:03:38.170 --> 00:03:45.950 4 ตารางหน่วย หรือ 4 หน่วยกำลังสอง. 00:03:45.950 --> 00:03:48.110 แล้วอันนี้ตรงนี้ล่ะ? 00:03:48.110 --> 00:03:58.910 ทีนี้ ตรงนี้ ลองดู ผมใส่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 00:03:58.910 --> 00:03:59.940 และ 9. 00:03:59.940 --> 00:04:06.710 ตรงนี้ผมใส่ได้ 9 หน่วย, 9 หน่วยกำลังสอง. 00:04:06.710 --> 00:04:07.710 ลองดูต่อไป. 00:04:07.710 --> 00:04:09.960 เราอยู่ในโลกสามมิติ. 00:04:09.960 --> 00:04:12.320 ทำไมจำกัดอยู่แค่หนึ่งกับสองล่ะ? 00:04:12.320 --> 00:04:14.890 ลองไปยังกรณี 3D กัน. 00:04:14.890 --> 00:04:16.750 เหมือนเดิม เวลาคนบอกว่า 3D 00:04:16.750 --> 00:04:18.209 เขาหมายถึง 3 มิติ. 00:04:18.209 --> 00:04:20.050 เขากำลังพูดถึงอีกทิศ 00:04:20.050 --> 00:04:21.341 ที่คุณวัดได้. 00:04:21.341 --> 00:04:22.620 นี่ก็แค่ความยาว. 00:04:22.620 --> 00:04:26.340 ตรงนี้มีความยาวกับความกว้าง หรือความกว้างกับความสูง. 00:04:26.340 --> 00:04:29.890 และตรงนี้ มันมีความกว้าง ความสูง และความลึก. 00:04:29.890 --> 00:04:37.910 เหมือนเดิม ถ้าคุณมี สมมุติว่า วัตถุ และตอนนี้ 00:04:37.910 --> 00:04:39.910 เราอยู่ในสามมิติ, เราอยู่ในโลก 00:04:39.910 --> 00:04:43.120 ที่เป็นแบบนี้ แล้ว 00:04:43.120 --> 00:04:52.260 คุณมีวัตถุอีกอันที่เป็นแบบนี้ 00:04:52.260 --> 00:04:57.730 ดูเหมือนว่าวัตถุชิ้นที่สองกินที่มากกว่า 00:04:57.730 --> 00:05:01.120 ที่เชิงกายภาพมากกว่าวัตถุแรก. 00:05:01.120 --> 00:05:03.510 มันดูมีปริมาตรมากกว่า. 00:05:03.510 --> 00:05:05.050 แล้วเราจะวัดมันอย่างไร? 00:05:05.050 --> 00:05:08.460 จำไว้ ปริมาตรก็แค่ ปริมาณเนื้อที่ที่วัตถุใช้ 00:05:08.460 --> 00:05:09.960 ในสามมิติ. 00:05:09.960 --> 00:05:14.340 พื้นที่คือปริมาณเนื้อที่ ที่วัตถุใช้ในสองมิติ. 00:05:14.340 --> 00:05:16.660 ความยาวคือปริมาณเนื้อที่ ที่วัตถุใช้ 00:05:16.660 --> 00:05:18.030 ในหนึ่งมิติ. 00:05:18.030 --> 00:05:19.530 แต่เวลาเราพูดถึงเนื้อที่ 00:05:19.530 --> 00:05:21.238 เรามักคิดถึงสามมิติ. 00:05:21.238 --> 00:05:24.250 เราใช้เนื้อที่เท่าใดในโลก 00:05:24.250 --> 00:05:25.370 ที่เราอาศัยอยู่? 00:05:25.370 --> 00:05:27.530 อย่างที่เราทำมา เรากำหนด 00:05:27.530 --> 00:05:30.080 แทนที่จะเป็นความยาวหน่วย หรือพื้นที่หน่วย เรา 00:05:30.080 --> 00:05:33.160 กำหนดปริมาตรหน่วย หรือลูกบาศก์หน่วย. 00:05:33.160 --> 00:05:34.870 ลองทำดู. 00:05:34.870 --> 00:05:36.770 ลองนิยามหนึ่งลูกบาศก์หน่วย. 00:05:36.770 --> 00:05:41.110 ตรงนี้ มันคือลูกบาศก์ ความยาว ความกว้าง และความสูง 00:05:41.110 --> 00:05:43.170 จะมีค่าเท่ากัน. 00:05:43.170 --> 00:05:45.400 ผมพยายามวาดให้ดีที่สุดแล้ว. 00:05:45.400 --> 00:05:47.050 และทุกเส้นยาวหนึ่งหน่วย. 00:05:47.050 --> 00:05:52.580 มันจะสูงหนึ่งหน่วย, ลึกหนึ่งหน่วย, 00:05:52.580 --> 00:05:55.685 และกว้างหนึ่งหน่วย. 00:05:55.685 --> 00:05:57.560 และเวลาวัดปริมาตร เราก็บอกว่า 00:05:57.560 --> 00:06:00.020 เราใส่ลูกบาศก์หน่วยในรูป 00:06:00.020 --> 00:06:02.200 ต่างๆ นี้ได้กี่ลูก? 00:06:02.200 --> 00:06:04.391 ทีนี้ อันนี่ตรงนี้ 00:06:04.391 --> 00:06:06.140 คุณไม่สามารถเห็นทั้งหมดได้. 00:06:06.140 --> 00:06:08.300 ผมแบ่งมันเป็น 00:06:08.300 --> 00:06:11.390 -- ขอผมดูหน่อยว่าผมทำได้ไหม 00:06:11.390 --> 00:06:13.105 ผมจะได้นับทั้งหมดได้. 00:06:13.105 --> 00:06:14.980 มันยากที่จะเห็นทั้งหมด 00:06:14.980 --> 00:06:17.850 เพราะมีลูกบาศก์อยู่ข้างหลังด้วย. 00:06:17.850 --> 00:06:20.180 แต่ถ้าคุณคิดว่ามันมีสองชั้น 00:06:20.180 --> 00:06:22.980 ชั้นหนึ่งเป็นแบบนี้. 00:06:22.980 --> 00:06:25.060 ชั้นหนึ่งจะเป็นแบบนี้. 00:06:25.060 --> 00:06:28.000 ลองนึกว่าสองอันแบบนี้ซ้อนกันอยู่. 00:06:28.000 --> 00:06:30.655 มันจะมี 1, 2, 3, 4 ลูก. 00:06:30.655 --> 00:06:32.280 ทีนี้ เรามีสองชั้น 00:06:32.280 --> 00:06:33.630 แบบนี้ซ้อนกัน. 00:06:33.630 --> 00:06:37.370 คุณจึงได้ 8 ลูกบาศก์หน่วย. 00:06:37.370 --> 00:06:40.720 หรือคุณมีปริมาตร 8 หน่วยกำลังสาม. 00:06:40.720 --> 00:06:42.140 แล้วอันนี้ล่ะ? 00:06:42.140 --> 00:06:46.150 ถ้าเราพยายามใส่ทั้งหมดลงไป -- 00:06:46.150 --> 00:06:47.525 ขอผมลองดูว่าจะวาดสวยแค่ไหน. 00:06:47.525 --> 00:06:50.735 00:06:50.735 --> 00:06:52.360 มันจะเป็นแบบนี้. 00:06:52.360 --> 00:06:55.570 00:06:55.570 --> 00:06:58.260 แน่นอน นี่เป็นการวาดหยาบๆ เท่านั้น. 00:06:58.260 --> 00:07:00.600 ถ้าเราพยายามแยกมันออก 00:07:00.600 --> 00:07:04.850 คุณแบ่งมันเป็นชั้นสามชั้น 00:07:04.850 --> 00:07:07.840 ที่แต่ละชั้นเป็นแบบนี้. 00:07:07.840 --> 00:07:10.030 ผมพยายามวาดแล้วนะ 00:07:10.030 --> 00:07:14.250 สามส่วนที่แต่ละส่วน 00:07:14.250 --> 00:07:19.220 เหมือนกับที่ผมกำลังจะวาด. 00:07:19.220 --> 00:07:22.130 มันจึงได้แบบนี้. 00:07:22.130 --> 00:07:24.270 ถ้าคุณนำพวกนี้มาสามชุดซ้อนกัน 00:07:24.270 --> 00:07:26.830 คุณได้รูปนี่ตรงนี้. 00:07:26.830 --> 00:07:32.050 แต่ละชั้นมีลูกบาศก์ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ลูกในนั้น. 00:07:32.050 --> 00:07:38.280 9 คูณ 3 คุณจะได้ 27 ลูกบาศก์หน่วย ในรูปนี่ตรงนี้. 00:07:38.280 --> 00:07:38.966 00:07:38.966 --> 00:07:40.840 หวังว่ามันจะช่วยให้คุณคิดได้ 00:07:40.840 --> 00:07:42.510 ว่าเราวัดสิ่งต่างๆ อย่างไร 00:07:42.510 --> 00:07:45.960 โดยเฉพาะวิธีวัดสิ่งของในมิติต่างๆ 00:07:45.960 --> 00:07:50.120 โดยเฉพาะสามมิติที่เราเรียกมันว่า ปริมาตร.