0:00:06.842,0:00:11.668 วัตถุที่ไม่เคลื่อนที่มากมายรอบตัวคุณ[br]อาจเหมือนกับอยู่กับที่นิ่ง ๆ 0:00:11.668,0:00:15.663 แต่มองให้ลึกลงไปในโครงสร้างอะตอมของพวกมัน 0:00:15.663,0:00:18.333 และคุณจะเห็นโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 0:00:18.333,0:00:19.138 การยืด 0:00:19.138,0:00:20.067 การอัด 0:00:20.067,0:00:21.002 การดีดตัว 0:00:21.002,0:00:21.977 การกระโดด 0:00:21.977,0:00:25.158 การพัดพาอะตอมไปทุกหนทุกแห่ง 0:00:25.158,0:00:28.355 และแม้ว่าการเคลื่อนที่นั้นอาจดูโกลาหล[br]แต่มันไม่ได้มั่ว 0:00:28.355,0:00:29.890 อะตอมที่เชื่อมอยู่ด้วยกัน 0:00:29.890,0:00:32.269 และเป็นโครงสร้างของเกือบทุกสสาร 0:00:32.269,0:00:34.881 เคลื่อนที่ตามหลักการ 0:00:34.881,0:00:39.776 ยกตัวอย่างเช่น อะตอมจับอยู่ด้วยกัน[br]ด้วยพันธะโคเวเลนท์เป็นโมเลกุล 0:00:39.776,0:00:42.322 มีสามแบบพื้นฐาน[br]ที่โมเลกุลสามารถเคลื่อนที่ได้ 0:00:42.322,0:00:43.214 การหมุน 0:00:43.214,0:00:44.337 การเปลี่ยนถ่าย 0:00:44.337,0:00:45.886 และการสั่น 0:00:45.886,0:00:49.038 แบบการหมุนและการเปลี่ยนถ่าย[br]เคลื่อนโมเลกุลในพื้นที่ 0:00:49.038,0:00:52.166 ในขณะที่อะตอมของมัน[br]ยังคงอยู่ห่างกันเท่าเดิม 0:00:52.166,0:00:55.608 ในขณะที่ การสั่นเปลี่ยนระยะห่างเหล่านั้น 0:00:55.608,0:00:58.250 และเปลี่ยนรูปร่างของโมเลกุลด้วย 0:00:58.250,0:01:02.688 สำหรับโมเลกุลใด ๆ คุณสามารถ[br]นับวิธีการเคลื่อนที่ของมันได้ 0:01:02.688,0:01:05.304 ซึ่งมันสอดคล้องกับระดับองศาอิสระ[br](degrees of freedom) 0:01:05.304,0:01:06.941 ซึ่งในทางวิศวกรรมแล้ว 0:01:06.941,0:01:10.450 มันหมายถึงจำนวนของตัวแปร[br]ที่เราต้องการนำมาพิจารณา 0:01:10.450,0:01:13.345 เพื่อที่จะเข้าใจระบบทั้งหมด 0:01:13.345,0:01:18.019 พื้นที่สามมติติถูกกำหนดโดยแกน x, y และ z 0:01:18.019,0:01:23.034 การเปลี่ยนถ่ายทำให้โมเลกุลเคลื่อนที่[br]ในทิศทางใด ๆ ก็ได้ 0:01:23.034,0:01:25.098 นั่นคือสามระดับองศาอิสระ 0:01:25.098,0:01:28.758 มันยังสามารถหมุนไปรอบ ๆ แกนใด ๆ ก็ได้ 0:01:28.758,0:01:29.990 ทำให้มีอีกสามระดับองศาอิสระ 0:01:29.990,0:01:33.042 แม้ว่าโมเลกุลที่เป็นเส้น[br]อย่างคาร์บอนไดออกไซด์ 0:01:33.042,0:01:37.457 ในกรณีนั้น การหมุนแบบหนึ่ง[br]จะหมุนโมเลกุลไปรอบ ๆ แกนของมันเอง 0:01:37.457,0:01:41.607 ซึ่งไม่ถูกนับ [br]เพราะว่ามันไม่ได้เปลี่ยนตำแหน่งของอะตอม 0:01:41.607,0:01:44.596 การสั่นทำให้เรื่องยากขึ้นมาอีกหน่อย 0:01:44.596,0:01:46.979 ลองมาดูโมเลกุลง่าย ๆ อย่างไฮโดรเจน 0:01:46.979,0:01:51.682 ความยาวของพันธะที่จับสองโมเลกุลไว้ด้วยกัน[br]มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 0:01:51.682,0:01:54.479 ราวกับว่าอะตอมถูกเชื่อมต่อกันด้วยขดลวด 0:01:54.479,0:01:58.985 การเปลี่ยนแปลงระยะห่างนั้นน้อยมาก[br]น้อยกว่าหนึ่งในพันล้านเมตรเสียอีก 0:01:58.985,0:02:03.791 ยิ่งมีอะตอมและพันธะมากเท่าไร[br]การสั่นก็ยิ่งมีได้หลากหลาย 0:02:03.791,0:02:06.816 ยกตัวอย่างเช่น โมเลกุลน้ำที่มีสามอะตอม 0:02:06.816,0:02:10.164 มีออกซิเจนหนึ่งอะตอม[br]และสองไฮโดรเจนอะตอม 0:02:10.164,0:02:12.476 นั่นทำให้มีการสั่นได้สามแบบ 0:02:12.476,0:02:13.824 คือการยืดแบบสมมาตร 0:02:13.824,0:02:15.408 การยืดแบบไม่สมมาตร 0:02:15.408,0:02:16.896 และการงอ 0:02:16.896,0:02:21.142 โมเลกุลที่ซับซ้อนกว่านั้น[br]ก็จะยิ่งมีการสั่นที่แปลกไปกว่านั้น 0:02:21.142,0:02:22.426 เช่นการเขย่า 0:02:22.426,0:02:23.607 การแกว่ง 0:02:23.607,0:02:25.195 การหมุนปั่น 0:02:25.195,0:02:29.854 ถ้าคุณรู้ว่าโมเลกุลมีอะตอมจำนวนเท่าไร[br]คุณจะสามารถนับวิธีการหมุนได้ 0:02:29.854,0:02:32.011 เริ่มจากจำนวนระดับองศาอิสระทั้งหมด 0:02:32.011,0:02:35.427 ซึ่งคือสามคูณด้วยจำนวนอะตอมในโมเลกุล 0:02:35.427,0:02:38.837 นั่นเป็นเพราะว่าแต่ละอะตอมสามารถเคลื่อน[br]ไปได้ในสามทิศทาง 0:02:38.837,0:02:41.393 สามของจากทั้งหมดนั้น[br]สอดคล้องกับการเปลี่ยนถ่าย 0:02:41.393,0:02:44.633 ที่อะตอมทั้งหมดเคลื่อนไปในทางเดียวกัน 0:02:44.633,0:02:49.430 และสามหรือสองสำหรับโมเลกุลเส้น[br]สอดคล้องกับการหมุน 0:02:49.430,0:02:53.999 ทั้งหมด 3N-6[br]หรือ 3N-5 สำหรับโมเลกุลเส้น 0:02:53.999,0:02:56.127 และการสั่น 0:02:56.127,0:02:57.961 แล้วอะไรที่ทำให้เกิดการเคลื่อนทั้งหมดนี้ 0:02:57.961,0:03:02.053 โมเลกุลเคลื่อนก็เพราะว่า[br]พวกมันดูดซับพลังงานจากสิ่งแวดล้อม 0:03:02.053,0:03:05.748 ในรูปแบบของความร้อนเป็นส่วนใหญ่ 0:03:05.748,0:03:08.355 เมื่อพลังงานนี้ถูกส่งต่อไปยังโมเลกุล 0:03:08.355,0:03:09.415 พวกมันสั่น 0:03:09.415,0:03:10.221 หมุน 0:03:10.221,0:03:12.507 และเปลี่ยนถ่ายเร็วขึ้น 0:03:12.507,0:03:16.534 การเคลื่อนที่เร็วเพิ่มพลังงานกล[br]ของโมเลกุลและอะตอม 0:03:16.534,0:03:20.792 เราเรียกกำหนดให้มันเป็นการเพิ่มอุณหภูมิ[br]และพลังงานความร้อน 0:03:20.792,0:03:25.445 นี่คือปรากฏการณ์ที่ไมโครเวฟของคุณ[br]ใช้เพื่ออุ่นอาหาร 0:03:25.445,0:03:29.247 เตาไมโครเวปปล่อยรังสีไมโครเวป[br]ซึ่งถูกดูดซับไปโดยโมเลกุล 0:03:29.247,0:03:31.723 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำ 0:03:31.723,0:03:33.659 พวกมันเคลื่อนไปรอบ ๆ เร็วขึ้นเรื่อย ๆ 0:03:33.659,0:03:38.101 ชนปะทะกันและกันและเพิ่มอุณหภูมิของอาหาร[br]และพลังงานความร้อน 0:03:38.101,0:03:40.513 ปรากฏการณ์เรือนกระจกเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง 0:03:40.513,0:03:43.250 รังสีจากดวงอาทิตย์บางส่วน[br]ที่เข้าสู่พื้นผิวโลก 0:03:43.250,0:03:45.605 ถูกสะท้อนกลับออกไปในชั้นบรรยากาศ 0:03:45.605,0:03:51.006 ก๊าซเรือนกระจก อย่างเช่นไอน้ำและ[br]คาร์บอนไดออกไซด์ดูดซับการรังสีนี้ 0:03:51.006,0:03:52.491 และมีความเร็วมากขึ้น 0:03:52.491,0:03:57.573 โมเลกุลที่ร้อนขึ้นและเคลื่อนที่เร็วขึ้น[br]เปล่งรังสีอินฟาเรดออกมาทุกทิศทาง 0:03:57.573,0:04:00.346 รวมถึงกลับมายังโลก และทำให้โลกร้อนขึ้นด้วย 0:04:00.346,0:04:03.338 การเคลื่อนโมเลกุลพวกนี้เคยหยุดบ้างไหม 0:04:03.338,0:04:05.940 คุณอาจคิดว่านั่นอาจเกิดขึ้นที่ศูนย์องศาสมบูรณ์ 0:04:05.940,0:04:07.815 ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เย็นที่สุด 0:04:07.815,0:04:10.677 ไม่มีใครสามารถทำความเย็นได้ขนาดนั้น 0:04:10.677,0:04:11.998 แต่ถึงแม้ว่าเราทำได้ 0:04:11.998,0:04:16.213 โมเลกุลก็ยังคงเคลื่อน[br]เนื่องจากหลักกลศาสตร์ควอนตัม 0:04:16.213,0:04:18.561 ที่เรียกว่า พลังงานที่จุดศูนย์ 0:04:18.561,0:04:22.747 อีกนัยหนึ่งก็คือ ทุกอย่างเคลื่อนที่[br]ตั้งแต่จักรวาลเคลื่อนที่ 0:04:22.747,0:04:26.220 และจะยังเป็นอย่างนั้นต่อไปอีกนาน[br]หลังเราจากไปแล้ว