0:00:00.000,0:00:00.551 0:00:00.551,0:00:02.050 สิ่งที่เราจะพยายามทำ 0:00:02.050,0:00:05.570 คือหาค่าผลบวกนี่ตรงนี้ 0:00:05.570,0:00:08.109 หาค่าอนุกรมนี้ คือลบ 2 0:00:08.109,0:00:11.660 ส่วน n บวก 1 คูณ n บวก 2 เริ่มที่ n เท่ากับ 2 0:00:11.660,0:00:13.750 ไปจนถึงอนันต์ 0:00:13.750,0:00:16.850 และถ้าเราอยากหาว่ามันเป็นอย่างไร มันเริ่มที่ n 0:00:16.850,0:00:17.400 เท่ากับ 2 0:00:17.400,0:00:20.430 เมื่อ n เท่ากับ 2 นี่คือลบ 2 ส่วน 2 0:00:20.430,0:00:24.370 บวก 1 ซึ่งก็คือ 3 คูณ 2 บวก 2 ซึ่งก็คือ 4 0:00:24.370,0:00:28.940 แล้วเมื่อ n เท่ากับ 3 นี่คือลบ 2 ส่วน 3 0:00:28.940,0:00:32.560 บวก 1 ซึ่งก็คือ 4, คูณ 3 บวก 2 ซึ่งก็คือ 5 0:00:32.560,0:00:34.820 และมันยาวต่อไปแบบนั้น ลบ 2 0:00:34.820,0:00:37.670 ส่วน 5 คูณ 6 0:00:37.670,0:00:40.620 และมันยาวต่อไปเรื่อยๆ 0:00:40.620,0:00:43.880 ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเทอมถัดไปแต่ละเทอม 0:00:43.880,0:00:45.620 จะเล็กลงเรื่อยๆ 0:00:45.620,0:00:47.680 และมันจะเล็กลงเร็วทีเดียว 0:00:47.680,0:00:51.814 มันพอจะสมมุติได้ว่า ถึงแม้คุณจะ 0:00:51.814,0:00:53.480 มีจำนวนเทอมเป็นอนันต์ 0:00:53.480,0:00:54.842 มันอาจให้ค่าจำกัดได้ 0:00:54.842,0:00:56.800 แต่ผมไม่เห็นได้ในทันที อย่างน้อยตาม 0:00:56.800,0:00:58.470 ที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้ 0:00:58.470,0:00:59.970 ว่าผลบวกนี้จะเป็นเท่าใด หรือเรา 0:00:59.970,0:01:02.120 จะหาผลบวกนั้นอย่างไร 0:01:02.120,0:01:04.269 สิ่งที่ผมอยากให้คุณทำตอนนี้ คือหยุดวิดีโอนี้ 0:01:04.269,0:01:07.630 และผมจะให้คำใบ้ว่าเราคิดปัญหานี้อย่างไร 0:01:07.630,0:01:12.170 พยายามนึกเรื่องการกระจายเศษส่วนย่อย 0:01:12.170,0:01:14.160 หรือการกระจายเศษส่วนย่อย 0:01:14.160,0:01:17.920 เพื่อเปลี่ยนพจน์นี้เป็น[br]ผลบวกของเศษส่วนสองตัว 0:01:17.920,0:01:22.280 และมันอาจช่วยเราคิดว่าผลบวกเป็นเท่าใด 0:01:22.280,0:01:24.337 ผมถือว่าคุณได้ลองแล้วนะ 0:01:24.337,0:01:25.920 ลองพยายามจัดการเทอมนี้ 0:01:25.920,0:01:28.840 ลองดูว่าเราเขียนอันนี้ใหม่[br]เป็นผลบวกของเศษส่วนสองตัวได้ไหม 0:01:28.840,0:01:32.870 นี่คือลบ 2 ส่วน -- ผมจะ 0:01:32.870,0:01:35.990 ใช้สองสีต่างกันนะ -- n บวก 1 0:01:35.990,0:01:37.650 คูณ n บวก 2 0:01:37.650,0:01:40.160 0:01:40.160,0:01:42.870 และเราจำได้จากการกระจายเศษส่วนย่อย 0:01:42.870,0:01:45.710 ว่าเราเขียนอันนี้ได้เป็น[br]ผลบวกของเศษส่วนสองตัว 0:01:45.710,0:01:54.846 เป็น A ส่วน n บวก 1 บวก B ส่วน n บวก 2 0:01:54.846,0:01:55.970 และทำไมมันถึงสมเหตุสมผล? 0:01:55.970,0:01:57.090 ถ้าคุณบวกเศษส่วนสองตัว 0:01:57.090,0:01:58.620 คุณอยากหาตัวส่วนร่วม ซึ่ง 0:01:58.620,0:02:00.650 ก็คือพหุคูณของตัวส่วนสองตัว 0:02:00.650,0:02:03.300 อันนี้เป็นพหุคูณของตัวส่วนทั้งคู่แน่นอน 0:02:03.300,0:02:05.660 และเราเรียนในเรื่องการกระจายเศษส่วนย่อย 0:02:05.660,0:02:08.919 ว่า อะไรก็ตามที่เรามีบนนี้ ยิ่งดีกรี 0:02:08.919,0:02:13.020 ตรงนี้น้อยกว่าดีกรีข้างล่างนี้ ตัวข้างบน 0:02:13.020,0:02:15.890 จะมีดีกรีน้อยกว่าที่เรามีตรงนี้ 0:02:15.890,0:02:18.000 นี่ก็คือเทอมดีกรีหนึ่งในรูปของ n 0:02:18.000,0:02:20.850 พวกนี้จึงเป็นค่าคงที่บนนี้ 0:02:20.850,0:02:22.740 ลองหากันว่า A กับ B คืออะไร 0:02:22.740,0:02:25.580 ถ้าเราทำการบวก -- 0:02:25.580,0:02:27.590 ลองเขียนทั้งคู่ใหม่ 0:02:27.590,0:02:29.400 ด้วยตัวส่วนร่วมเดียวกัน 0:02:29.400,0:02:34.190 ลองเขียน A ส่วน n บวก 1 ใหม่ 0:02:34.190,0:02:37.720 ลองคูณตัวเศษและตัวส่วนด้วย n บวก 2 0:02:37.720,0:02:41.570 เราคูณตัวเศษด้วย n บวก 2 และตัวส่วน 0:02:41.570,0:02:42.100 ด้วย n บวก 2 0:02:42.100,0:02:44.490 ผมไม่ได้เปลี่ยนค่าเศษส่วนแรกนี้ 0:02:44.490,0:02:50.850 เช่นเดียวกัน ลองทำแบบเดียวกัน[br]กับ B ส่วน n บวก 2 0:02:50.850,0:02:54.470 คูณตัวเศษและตัวส่วนด้วย n บวก 1 0:02:54.470,0:02:57.960 n บวก 1 ส่วน n บวก 1 0:02:57.960,0:03:01.276 เหมือนเดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนค่าเศษส่วนนี้ 0:03:01.276,0:03:03.400 แต่เมื่อทำอย่างนี้ ผมจะได้ตัวส่วนร่วม 0:03:03.400,0:03:04.570 และผมบวกได้ 0:03:04.570,0:03:12.714 นี่จึงเท่ากับ n บวก 1 คูณ n บวก 2 0:03:12.714,0:03:13.380 เป็นตัวส่วนของเรา 0:03:13.380,0:03:15.920 0:03:15.920,0:03:19.690 แล้วตัวเศษ -- ขอผมแจกแจงมันออกมา 0:03:19.690,0:03:21.690 อันนี้จะเท่ากับ ถ้าผมแจกแจง A 0:03:21.690,0:03:25.290 มันคือ An บวก 2A 0:03:25.290,0:03:31.730 ขอผมเขียนนะ An บวก 2A 0:03:31.730,0:03:40.680 แล้วกระจาย B นี้ บวก Bn บวก B 0:03:40.680,0:03:42.680 ทีนี้ สิ่งที่ผมอยากทำ คือผมอยากเขียนตัวนี้ใหม่ 0:03:42.680,0:03:44.330 เราจะได้มีเทอม n ทั้งหมด 0:03:44.330,0:03:51.070 ตัวอย่างเช่น An บวก Bn -- [br]ผมแยก n ออกมาได้ 0:03:51.070,0:03:58.730 และผมเขียนมันใหม่ได้เป็น A บวก B คูณ n 0:03:58.730,0:04:00.350 สองเทอมนั่นตรงนั้น 0:04:00.350,0:04:03.895 แล้วสองเทอมนี้ 2A บวก B 0:04:03.895,0:04:09.080 ผมเขียนมันได้แบบนี้ บวก 2A บวก B 0:04:09.080,0:04:17.550 แน่นอน ทั้งหมดนี้คือส่วน [br]n บวก 1 คูณ n บวก 2 0:04:17.550,0:04:20.915 0:04:20.915,0:04:24.020 เราจะแก้หา A กับ B ได้อย่างไร? 0:04:24.020,0:04:26.650 ข้อสังเกตคือว่า ตัวนี้ 0:04:26.650,0:04:29.070 ต้องเท่ากับลบ 2 0:04:29.070,0:04:31.879 สองตัวนี้ต้องเท่ากัน 0:04:31.879,0:04:33.670 นึกดู เรากำลังอ้างว่าตัวนี้ 0:04:33.670,0:04:36.160 ซึ่งเท่ากับตัวนี้ เท่ากับค่านี้ 0:04:36.160,0:04:38.754 นั่นคือสาเหตุที่เราเริ่มทำอย่างนี้ 0:04:38.754,0:04:40.420 เรากำลังอ้างว่า สองตัวนี้ 0:04:40.420,0:04:42.680 เทียบเท่ากัน 0:04:42.680,0:04:44.470 เรากำลังอ้างอยู่ 0:04:44.470,0:04:47.560 ทุกอย่างในตัวเศษต้องเท่ากับลบ 2 0:04:47.560,0:04:48.710 แล้วเราทำอะไรได้? 0:04:48.710,0:04:52.130 ดูเหมือนว่าเรามีตัวแปรไม่ทราบค่าสองตัวตรงนี้ 0:04:52.130,0:04:54.930 เวลาหาตัวไม่ทราบค่าสองตัว [br]เราต้องการสองสมการ 0:04:54.930,0:04:56.990 ข้อสังเกตตรงนี้คือว่า ดูสิ 0:04:56.990,0:05:00.030 เรามีเทอม n ทางซ้ายมือตรงนี้ 0:05:00.030,0:05:01.520 เราไม่มีเทอม n ตรงนี้ 0:05:01.520,0:05:03.950 คุณก็มองอันนี้ แทนที่จะมอง 0:05:03.950,0:05:05.366 เป็นลบ 2 คุณก็มอง 0:05:05.366,0:05:10.960 ตัวนี้เป็นลบ 2 บวก 0n, บวก 0 คูณ n 0:05:10.960,0:05:11.740 มันไม่ใช่คำว่า on นะ 0:05:11.740,0:05:17.599 นั่นคือ 0 -- ขอผมเขียนแบบนี้ -- 0 คูณ n 0:05:17.599,0:05:19.140 เมื่อคุณมองแบบนี้ มัน 0:05:19.140,0:05:22.430 เห็นได้ชัดว่า A บวก B เป็นสัมประสิทธิ์ของ n 0:05:22.430,0:05:24.700 มันต้องเท่ากับ 0 0:05:24.700,0:05:28.340 A บวก B ต้องเท่ากับ 0 0:05:28.340,0:05:30.810 และนี่คือเป็นการกระจายเศษส่วนย่อย 0:05:30.810,0:05:32.180 ที่จำเป็น 0:05:32.180,0:05:34.530 เรามีวิดีโออีกถ้าคุณอยากทบทวนเรื่องนั้น 0:05:34.530,0:05:43.010 และส่วนค่าคงที่ 2A บวก B เท่ากับลบ 2 0:05:43.010,0:05:46.100 0:05:46.100,0:05:51.020 แล้วตอนนี้เรามีสองสมการ สองตัวแปร 0:05:51.020,0:05:53.020 และเราแก้มันได้หลายวิธี 0:05:53.020,0:05:55.450 แต่วิธีที่น่าสนใจอันหนึ่งคือว่า [br]ลองคูณสมการบน 0:05:55.450,0:05:56.930 ด้วยลบ 1 กัน 0:05:56.930,0:06:01.090 แล้วอันนี้กลายเป็นลบ A ลบ B เท่ากับ -- 0:06:01.090,0:06:03.360 ลบ 1 คูณ 0 จะยังเป็น 0 0:06:03.360,0:06:05.600 ตอนนี้เราบวกสองตัวนี้เข้าด้วยกันได้ 0:06:05.600,0:06:11.110 แล้วเราเหลือ 2A ลบ A ได้ A, บวก B ลบ B -- 0:06:11.110,0:06:13.830 พวกมันตัดกัน 0:06:13.830,0:06:16.320 A เท่ากับลบ 2 0:06:16.320,0:06:20.120 และถ้า A เท่ากับลบ 2, A บวก B เท่ากับ 0 0:06:20.120,0:06:21.520 B ต้องเท่ากับ 2 0:06:21.520,0:06:24.090 0:06:24.090,0:06:28.000 ลบ 2 บวก 2 เท่ากับ 0 0:06:28.000,0:06:31.100 เราแก้หา A ได้ แล้วผมแทนมันกลับไปตรงนี้ 0:06:31.100,0:06:34.860 ตอนนี้เราเขียนทั้งหมดนี้ใหม่ตรงนี้ได้ 0:06:34.860,0:06:37.830 เราเขียนมันใหม่ได้เป็นผลบวก -- ที่จริง 0:06:37.830,0:06:39.200 ขอผมแก้สักหน่อย 0:06:39.200,0:06:43.020 ขอผมเขียนมันเป็นผลบวกจำกัด แทนที่จะเป็น 0:06:43.020,0:06:44.200 ผลบวกอนันต์ 0:06:44.200,0:06:47.450 แล้วเราค่อยหาลิมิตเมื่อเราไปหาอนันต์ 0:06:47.450,0:06:49.190 ขอผมเขียนมันใหม่แบบนี้ 0:06:49.190,0:06:53.700 นี่คือผลบวกจาก n เท่ากับ 2 -- [br]แทนที่จะเป็นอนันต์ 0:06:53.700,0:06:56.540 ผมจะบอกว่า N ใหญ่ แล้วต่อไป เรา 0:06:56.540,0:07:00.750 จะหาลิมิตเมื่อค่านี้ไปหาอนันต์ -- 0:07:00.750,0:07:03.850 แทนที่จะเขียนอย่างนี้ ผมก็เขียนตัวนี้ได้ 0:07:03.850,0:07:06.370 A คือลบ 2 0:07:06.370,0:07:11.110 มันคือลบ 2 ส่วน n บวก 1 0:07:11.110,0:07:17.820 แล้ว B คือ 2, บวก B ส่วน n บวก 2 0:07:17.820,0:07:20.610 ย้ำอีกครั้ง ผมเขียนพจน์นี้เป็นผลบวกจำกัด 0:07:20.610,0:07:23.210 ต่อไป เราจะหาลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าหา 0:07:23.210,0:07:25.020 อนันต์ เพื่อหาว่าตัวนี้เป็นเท่าใด 0:07:25.020,0:07:27.870 โทษที และ B -- ผมไม่เขียน B แล้ว 0:07:27.870,0:07:33.450 เรารู้ว่า B คือ 2 ส่วน n บวก 2 0:07:33.450,0:07:37.850 ทีนี้ มันช่วยเราได้อย่างไร? 0:07:37.850,0:07:39.330 ลองทำสิ่งที่เราทำบนนี้ 0:07:39.330,0:07:42.260 ลองเขียนออกมาว่าตัวนี้เท่ากับอะไร 0:07:42.260,0:07:46.900 อันนี้จะเท่ากับ -- เมื่อ n เป็น 2 0:07:46.900,0:07:54.410 นี่คือลบ 2/3 มันก็คือลบ 2/3, บวก 2/4 0:07:54.410,0:08:00.160 0:08:00.160,0:08:02.810 นั่นคือ n เท่ากับ -- ขอผมทำข้างล่างนี้ เพราะผม 0:08:02.810,0:08:04.400 ไม่มีที่แล้ว 0:08:04.400,0:08:06.640 นั่นคือเมื่อ n เท่ากับ 2 0:08:06.640,0:08:10.120 ทีนี้ เมื่อ n เท่ากับ 3 ล่ะ? 0:08:10.120,0:08:21.920 เมื่อ n เท่ากับ 3 อันนี้จะเท่ากับลบ 2/4 0:08:21.920,0:08:22.610 บวก 2/5 0:08:22.610,0:08:28.770 0:08:28.770,0:08:30.530 แล้วเมื่อ n เท่ากับ 4 ล่ะ? 0:08:30.530,0:08:33.890 ผมว่าคุณคงเห็นรูปแบบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว 0:08:33.890,0:08:34.640 ลองทำอีกตัวกัน 0:08:34.640,0:08:42.090 เมื่อ n เท่ากับ 4 ตัวนี้ 0:08:42.090,0:08:46.710 จะเท่ากับลบ 2/5 -- ขอ 0:08:46.710,0:08:53.170 ผมใช้สีฟ้าเดิมนะ -- ลบ 2/5 บวก 2/6 0:08:53.170,0:08:57.640 0:08:57.640,0:09:00.460 และเราจะทำต่อไป 0:09:00.460,0:09:02.520 ขอผมเลื่อนลงหาที่เพิ่ม -- เรา 0:09:02.520,0:09:05.190 จะทำต่อไปจนถึงเทอมที่ N 0:09:05.190,0:09:08.960 0:09:08.960,0:09:13.680 บวก จุดจุดจุดเทอม N ใหญ่ 0:09:13.680,0:09:24.110 ซึ่งจะเป็นลบ 2 ส่วน N ใหญ่บวก 1, บวก 2 0:09:24.110,0:09:27.560 ส่วน N ใหญ่บวก 2 0:09:27.560,0:09:29.310 ผมว่าคุณคิดเห็นรูปแบบตรงนี้แล้ว 0:09:29.310,0:09:33.466 สังเกตว่า จากตอนแรกเมื่อ n เท่ากับ 2[br]เราได้ 2/4 0:09:33.466,0:09:35.590 แต่แล้วเมื่อ n เท่ากับ 3 คุณจะได้ลบ 2/4 0:09:35.590,0:09:37.450 อันนั้นตัดกับอันนั้น 0:09:37.450,0:09:39.090 เมื่อ n เท่ากับ 3 คุณจะได้ 2/5 0:09:39.090,0:09:42.690 แล้วพวกมันหักล้างกันเมื่อ n เท่ากับ 4 กับลบ 2/5 0:09:42.690,0:09:47.170 เทอมที่สองหักล้าง -- ส่วนที่สอง 0:09:47.170,0:09:50.380 สำหรับ n แต่ละตัว สำหรับแต่ละเทอม 0:09:50.380,0:09:53.040 จะตัดกับส่วนแรกของเลขเทอมต่อไป 0:09:53.040,0:09:55.420 และมันจะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 0:09:55.420,0:09:59.730 n เท่ากับ N ใหญ่ 0:09:59.730,0:10:02.300 แล้วอันนี้จะตัดกับตัวก่อน 0:10:02.300,0:10:03.110 หน้ามัน 0:10:03.110,0:10:06.540 แล้วเราจะเหลือ 0:10:06.540,0:10:13.790 แค่เทอมนี้กับเทอมนี่ตรงนี้ 0:10:13.790,0:10:15.950 ลองเขียนมันใหม่นะ 0:10:15.950,0:10:19.090 เราได้ -- ลองหาที่เพิ่มตรงนี้ 0:10:19.090,0:10:26.290 สิ่งนี้เขียนใหม่ได้เป็นผลบวกจาก n เล็ก 0:10:26.290,0:10:30.850 เท่ากับ 2 ถึง N ใหญ่ของลบ 2 0:10:30.850,0:10:37.020 ส่วน n บวก 1 บวก 2 ส่วน n บวก 2 0:10:37.020,0:10:39.440 เท่ากับ -- อย่างอื่นตรงกลางหักล้างหมด 0:10:39.440,0:10:39.940 0:10:39.940,0:10:43.740 เราเหลือแค่ลบ 2/3 0:10:43.740,0:10:50.460 บวก 2 ส่วน N ใหญ่บวก 2 0:10:50.460,0:10:53.110 นี่คือการลดรูปอย่างใหญ่หลวง 0:10:53.110,0:10:57.000 นึกดู ผลบวกเดิมที่เราอยากคำนวณ 0:10:57.000,0:11:00.510 ก็แค่ลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าหาอนันต์ 0:11:00.510,0:11:04.620 ลองหาลิมิตเมื่อ N ใหญ่ไปหาอนันต์ 0:11:04.620,0:11:06.170 ขอผมเขียนมันแบบนี้นะ 0:11:06.170,0:11:07.878 ที่จริง ขอผมเขียนมันแบบนี้นะ 0:11:07.878,0:11:10.810 ลิมิต -- เราเขียนมันแบบนี้ได้ 0:11:10.810,0:11:15.350 ลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าใกล้ 0:11:15.350,0:11:20.030 อนันต์จะเท่ากับลิมิตเมื่อ N ใหญ่ 0:11:20.030,0:11:22.239 เข้าหาอนันต์ของ -- เราแค่ 0:11:22.239,0:11:23.280 หาว่าตัวนี้คืออะไร 0:11:23.280,0:11:33.240 นี่คือลบ 2/3 บวก 2 ส่วน N ใหญ่บวก 2 0:11:33.240,0:11:36.180 เมื่อ n เข้าหาอนันต์ ลบ 2/3 นี้ 0:11:36.180,0:11:37.600 มันไม่มีผลเลย 0:11:37.600,0:11:40.375 เทอมนี่ตรงนี้ 2 ส่วนเทอมที่ใหญ่ขึ้น 0:11:40.375,0:11:42.000 ส่วนจำนวนที่โตมาก -- 0:11:42.000,0:11:43.520 มันจะเข้าหา 0 0:11:43.520,0:11:47.990 และเราจะเหลือลบ 2/3 0:11:47.990,0:11:48.750 เราก็เสร็จแล้ว 0:11:48.750,0:11:54.740 เราหาผลบวกของอนุกรมอนันต์นี้ได้แล้ว 0:11:54.740,0:11:58.460 ตัวนี้ตรงนี้จะเท่ากับลบ 2/3 0:11:58.460,0:12:01.320 และอนุกรมแบบนี้เรียกว่า telescoping series 0:12:01.320,0:12:02.920 telescoping 0:12:02.920,0:12:04.380 นี่คือ telescoping series 0:12:04.380,0:12:09.270 0:12:09.270,0:12:12.130 telescoping series เป็นคำทั่วไป 0:12:12.130,0:12:14.500 ถ้าคุณหาผลบวกย่อย 0:12:14.500,0:12:18.430 มันจะมีรูปแบบอย่างนี้ โดยแต่ละเทอม 0:12:18.430,0:12:20.020 คุณหักล้างมันไปได้ 0:12:20.020,0:12:23.270 สิ่งที่คุณเหลือตอนจบมีแค่เทอม 0:12:23.270,0:12:25.520 ไม่กี่เทอม 0:12:25.520,0:12:27.130 แต่เอาล่ะ อันนี้มัน -- 0:12:27.130,0:12:29.421 มันค่อนข้างยุ่ง แต่เป็นปัญหาที่[br]ทำแล้วสบายใจดี 0:12:29.421,0:12:30.640