WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:00.551 00:00:00.551 --> 00:00:02.050 สิ่งที่เราจะพยายามทำ 00:00:02.050 --> 00:00:05.570 คือหาค่าผลบวกนี่ตรงนี้ 00:00:05.570 --> 00:00:08.109 หาค่าอนุกรมนี้ คือลบ 2 00:00:08.109 --> 00:00:11.660 ส่วน n บวก 1 คูณ n บวก 2 เริ่มที่ n เท่ากับ 2 00:00:11.660 --> 00:00:13.750 ไปจนถึงอนันต์ 00:00:13.750 --> 00:00:16.850 และถ้าเราอยากหาว่ามันเป็นอย่างไร มันเริ่มที่ n 00:00:16.850 --> 00:00:17.400 เท่ากับ 2 00:00:17.400 --> 00:00:20.430 เมื่อ n เท่ากับ 2 นี่คือลบ 2 ส่วน 2 00:00:20.430 --> 00:00:24.370 บวก 1 ซึ่งก็คือ 3 คูณ 2 บวก 2 ซึ่งก็คือ 4 00:00:24.370 --> 00:00:28.940 แล้วเมื่อ n เท่ากับ 3 นี่คือลบ 2 ส่วน 3 00:00:28.940 --> 00:00:32.560 บวก 1 ซึ่งก็คือ 4, คูณ 3 บวก 2 ซึ่งก็คือ 5 00:00:32.560 --> 00:00:34.820 และมันยาวต่อไปแบบนั้น ลบ 2 00:00:34.820 --> 00:00:37.670 ส่วน 5 คูณ 6 00:00:37.670 --> 00:00:40.620 และมันยาวต่อไปเรื่อยๆ 00:00:40.620 --> 00:00:43.880 ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเทอมถัดไปแต่ละเทอม 00:00:43.880 --> 00:00:45.620 จะเล็กลงเรื่อยๆ 00:00:45.620 --> 00:00:47.680 และมันจะเล็กลงเร็วทีเดียว 00:00:47.680 --> 00:00:51.814 มันพอจะสมมุติได้ว่า ถึงแม้คุณจะ 00:00:51.814 --> 00:00:53.480 มีจำนวนเทอมเป็นอนันต์ 00:00:53.480 --> 00:00:54.842 มันอาจให้ค่าจำกัดได้ 00:00:54.842 --> 00:00:56.800 แต่ผมไม่เห็นได้ในทันที อย่างน้อยตาม 00:00:56.800 --> 00:00:58.470 ที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้ 00:00:58.470 --> 00:00:59.970 ว่าผลบวกนี้จะเป็นเท่าใด หรือเรา 00:00:59.970 --> 00:01:02.120 จะหาผลบวกนั้นอย่างไร 00:01:02.120 --> 00:01:04.269 สิ่งที่ผมอยากให้คุณทำตอนนี้ คือหยุดวิดีโอนี้ 00:01:04.269 --> 00:01:07.630 และผมจะให้คำใบ้ว่าเราคิดปัญหานี้อย่างไร 00:01:07.630 --> 00:01:12.170 พยายามนึกเรื่องการกระจายเศษส่วนย่อย 00:01:12.170 --> 00:01:14.160 หรือการกระจายเศษส่วนย่อย 00:01:14.160 --> 00:01:17.920 เพื่อเปลี่ยนพจน์นี้เป็น ผลบวกของเศษส่วนสองตัว 00:01:17.920 --> 00:01:22.280 และมันอาจช่วยเราคิดว่าผลบวกเป็นเท่าใด 00:01:22.280 --> 00:01:24.337 ผมถือว่าคุณได้ลองแล้วนะ 00:01:24.337 --> 00:01:25.920 ลองพยายามจัดการเทอมนี้ 00:01:25.920 --> 00:01:28.840 ลองดูว่าเราเขียนอันนี้ใหม่ เป็นผลบวกของเศษส่วนสองตัวได้ไหม 00:01:28.840 --> 00:01:32.870 นี่คือลบ 2 ส่วน -- ผมจะ 00:01:32.870 --> 00:01:35.990 ใช้สองสีต่างกันนะ -- n บวก 1 00:01:35.990 --> 00:01:37.650 คูณ n บวก 2 00:01:37.650 --> 00:01:40.160 00:01:40.160 --> 00:01:42.870 และเราจำได้จากการกระจายเศษส่วนย่อย 00:01:42.870 --> 00:01:45.710 ว่าเราเขียนอันนี้ได้เป็น ผลบวกของเศษส่วนสองตัว 00:01:45.710 --> 00:01:54.846 เป็น A ส่วน n บวก 1 บวก B ส่วน n บวก 2 00:01:54.846 --> 00:01:55.970 และทำไมมันถึงสมเหตุสมผล? 00:01:55.970 --> 00:01:57.090 ถ้าคุณบวกเศษส่วนสองตัว 00:01:57.090 --> 00:01:58.620 คุณอยากหาตัวส่วนร่วม ซึ่ง 00:01:58.620 --> 00:02:00.650 ก็คือพหุคูณของตัวส่วนสองตัว 00:02:00.650 --> 00:02:03.300 อันนี้เป็นพหุคูณของตัวส่วนทั้งคู่แน่นอน 00:02:03.300 --> 00:02:05.660 และเราเรียนในเรื่องการกระจายเศษส่วนย่อย 00:02:05.660 --> 00:02:08.919 ว่า อะไรก็ตามที่เรามีบนนี้ ยิ่งดีกรี 00:02:08.919 --> 00:02:13.020 ตรงนี้น้อยกว่าดีกรีข้างล่างนี้ ตัวข้างบน 00:02:13.020 --> 00:02:15.890 จะมีดีกรีน้อยกว่าที่เรามีตรงนี้ 00:02:15.890 --> 00:02:18.000 นี่ก็คือเทอมดีกรีหนึ่งในรูปของ n 00:02:18.000 --> 00:02:20.850 พวกนี้จึงเป็นค่าคงที่บนนี้ 00:02:20.850 --> 00:02:22.740 ลองหากันว่า A กับ B คืออะไร 00:02:22.740 --> 00:02:25.580 ถ้าเราทำการบวก -- 00:02:25.580 --> 00:02:27.590 ลองเขียนทั้งคู่ใหม่ 00:02:27.590 --> 00:02:29.400 ด้วยตัวส่วนร่วมเดียวกัน 00:02:29.400 --> 00:02:34.190 ลองเขียน A ส่วน n บวก 1 ใหม่ 00:02:34.190 --> 00:02:37.720 ลองคูณตัวเศษและตัวส่วนด้วย n บวก 2 00:02:37.720 --> 00:02:41.570 เราคูณตัวเศษด้วย n บวก 2 และตัวส่วน 00:02:41.570 --> 00:02:42.100 ด้วย n บวก 2 00:02:42.100 --> 00:02:44.490 ผมไม่ได้เปลี่ยนค่าเศษส่วนแรกนี้ 00:02:44.490 --> 00:02:50.850 เช่นเดียวกัน ลองทำแบบเดียวกัน กับ B ส่วน n บวก 2 00:02:50.850 --> 00:02:54.470 คูณตัวเศษและตัวส่วนด้วย n บวก 1 00:02:54.470 --> 00:02:57.960 n บวก 1 ส่วน n บวก 1 00:02:57.960 --> 00:03:01.276 เหมือนเดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนค่าเศษส่วนนี้ 00:03:01.276 --> 00:03:03.400 แต่เมื่อทำอย่างนี้ ผมจะได้ตัวส่วนร่วม 00:03:03.400 --> 00:03:04.570 และผมบวกได้ 00:03:04.570 --> 00:03:12.714 นี่จึงเท่ากับ n บวก 1 คูณ n บวก 2 00:03:12.714 --> 00:03:13.380 เป็นตัวส่วนของเรา 00:03:13.380 --> 00:03:15.920 00:03:15.920 --> 00:03:19.690 แล้วตัวเศษ -- ขอผมแจกแจงมันออกมา 00:03:19.690 --> 00:03:21.690 อันนี้จะเท่ากับ ถ้าผมแจกแจง A 00:03:21.690 --> 00:03:25.290 มันคือ An บวก 2A 00:03:25.290 --> 00:03:31.730 ขอผมเขียนนะ An บวก 2A 00:03:31.730 --> 00:03:40.680 แล้วกระจาย B นี้ บวก Bn บวก B 00:03:40.680 --> 00:03:42.680 ทีนี้ สิ่งที่ผมอยากทำ คือผมอยากเขียนตัวนี้ใหม่ 00:03:42.680 --> 00:03:44.330 เราจะได้มีเทอม n ทั้งหมด 00:03:44.330 --> 00:03:51.070 ตัวอย่างเช่น An บวก Bn -- ผมแยก n ออกมาได้ 00:03:51.070 --> 00:03:58.730 และผมเขียนมันใหม่ได้เป็น A บวก B คูณ n 00:03:58.730 --> 00:04:00.350 สองเทอมนั่นตรงนั้น 00:04:00.350 --> 00:04:03.895 แล้วสองเทอมนี้ 2A บวก B 00:04:03.895 --> 00:04:09.080 ผมเขียนมันได้แบบนี้ บวก 2A บวก B 00:04:09.080 --> 00:04:17.550 แน่นอน ทั้งหมดนี้คือส่วน n บวก 1 คูณ n บวก 2 00:04:17.550 --> 00:04:20.915 00:04:20.915 --> 00:04:24.020 เราจะแก้หา A กับ B ได้อย่างไร? 00:04:24.020 --> 00:04:26.650 ข้อสังเกตคือว่า ตัวนี้ 00:04:26.650 --> 00:04:29.070 ต้องเท่ากับลบ 2 00:04:29.070 --> 00:04:31.879 สองตัวนี้ต้องเท่ากัน 00:04:31.879 --> 00:04:33.670 นึกดู เรากำลังอ้างว่าตัวนี้ 00:04:33.670 --> 00:04:36.160 ซึ่งเท่ากับตัวนี้ เท่ากับค่านี้ 00:04:36.160 --> 00:04:38.754 นั่นคือสาเหตุที่เราเริ่มทำอย่างนี้ 00:04:38.754 --> 00:04:40.420 เรากำลังอ้างว่า สองตัวนี้ 00:04:40.420 --> 00:04:42.680 เทียบเท่ากัน 00:04:42.680 --> 00:04:44.470 เรากำลังอ้างอยู่ 00:04:44.470 --> 00:04:47.560 ทุกอย่างในตัวเศษต้องเท่ากับลบ 2 00:04:47.560 --> 00:04:48.710 แล้วเราทำอะไรได้? 00:04:48.710 --> 00:04:52.130 ดูเหมือนว่าเรามีตัวแปรไม่ทราบค่าสองตัวตรงนี้ 00:04:52.130 --> 00:04:54.930 เวลาหาตัวไม่ทราบค่าสองตัว เราต้องการสองสมการ 00:04:54.930 --> 00:04:56.990 ข้อสังเกตตรงนี้คือว่า ดูสิ 00:04:56.990 --> 00:05:00.030 เรามีเทอม n ทางซ้ายมือตรงนี้ 00:05:00.030 --> 00:05:01.520 เราไม่มีเทอม n ตรงนี้ 00:05:01.520 --> 00:05:03.950 คุณก็มองอันนี้ แทนที่จะมอง 00:05:03.950 --> 00:05:05.366 เป็นลบ 2 คุณก็มอง 00:05:05.366 --> 00:05:10.960 ตัวนี้เป็นลบ 2 บวก 0n, บวก 0 คูณ n 00:05:10.960 --> 00:05:11.740 มันไม่ใช่คำว่า on นะ 00:05:11.740 --> 00:05:17.599 นั่นคือ 0 -- ขอผมเขียนแบบนี้ -- 0 คูณ n 00:05:17.599 --> 00:05:19.140 เมื่อคุณมองแบบนี้ มัน 00:05:19.140 --> 00:05:22.430 เห็นได้ชัดว่า A บวก B เป็นสัมประสิทธิ์ของ n 00:05:22.430 --> 00:05:24.700 มันต้องเท่ากับ 0 00:05:24.700 --> 00:05:28.340 A บวก B ต้องเท่ากับ 0 00:05:28.340 --> 00:05:30.810 และนี่คือเป็นการกระจายเศษส่วนย่อย 00:05:30.810 --> 00:05:32.180 ที่จำเป็น 00:05:32.180 --> 00:05:34.530 เรามีวิดีโออีกถ้าคุณอยากทบทวนเรื่องนั้น 00:05:34.530 --> 00:05:43.010 และส่วนค่าคงที่ 2A บวก B เท่ากับลบ 2 00:05:43.010 --> 00:05:46.100 00:05:46.100 --> 00:05:51.020 แล้วตอนนี้เรามีสองสมการ สองตัวแปร 00:05:51.020 --> 00:05:53.020 และเราแก้มันได้หลายวิธี 00:05:53.020 --> 00:05:55.450 แต่วิธีที่น่าสนใจอันหนึ่งคือว่า ลองคูณสมการบน 00:05:55.450 --> 00:05:56.930 ด้วยลบ 1 กัน 00:05:56.930 --> 00:06:01.090 แล้วอันนี้กลายเป็นลบ A ลบ B เท่ากับ -- 00:06:01.090 --> 00:06:03.360 ลบ 1 คูณ 0 จะยังเป็น 0 00:06:03.360 --> 00:06:05.600 ตอนนี้เราบวกสองตัวนี้เข้าด้วยกันได้ 00:06:05.600 --> 00:06:11.110 แล้วเราเหลือ 2A ลบ A ได้ A, บวก B ลบ B -- 00:06:11.110 --> 00:06:13.830 พวกมันตัดกัน 00:06:13.830 --> 00:06:16.320 A เท่ากับลบ 2 00:06:16.320 --> 00:06:20.120 และถ้า A เท่ากับลบ 2, A บวก B เท่ากับ 0 00:06:20.120 --> 00:06:21.520 B ต้องเท่ากับ 2 00:06:21.520 --> 00:06:24.090 00:06:24.090 --> 00:06:28.000 ลบ 2 บวก 2 เท่ากับ 0 00:06:28.000 --> 00:06:31.100 เราแก้หา A ได้ แล้วผมแทนมันกลับไปตรงนี้ 00:06:31.100 --> 00:06:34.860 ตอนนี้เราเขียนทั้งหมดนี้ใหม่ตรงนี้ได้ 00:06:34.860 --> 00:06:37.830 เราเขียนมันใหม่ได้เป็นผลบวก -- ที่จริง 00:06:37.830 --> 00:06:39.200 ขอผมแก้สักหน่อย 00:06:39.200 --> 00:06:43.020 ขอผมเขียนมันเป็นผลบวกจำกัด แทนที่จะเป็น 00:06:43.020 --> 00:06:44.200 ผลบวกอนันต์ 00:06:44.200 --> 00:06:47.450 แล้วเราค่อยหาลิมิตเมื่อเราไปหาอนันต์ 00:06:47.450 --> 00:06:49.190 ขอผมเขียนมันใหม่แบบนี้ 00:06:49.190 --> 00:06:53.700 นี่คือผลบวกจาก n เท่ากับ 2 -- แทนที่จะเป็นอนันต์ 00:06:53.700 --> 00:06:56.540 ผมจะบอกว่า N ใหญ่ แล้วต่อไป เรา 00:06:56.540 --> 00:07:00.750 จะหาลิมิตเมื่อค่านี้ไปหาอนันต์ -- 00:07:00.750 --> 00:07:03.850 แทนที่จะเขียนอย่างนี้ ผมก็เขียนตัวนี้ได้ 00:07:03.850 --> 00:07:06.370 A คือลบ 2 00:07:06.370 --> 00:07:11.110 มันคือลบ 2 ส่วน n บวก 1 00:07:11.110 --> 00:07:17.820 แล้ว B คือ 2, บวก B ส่วน n บวก 2 00:07:17.820 --> 00:07:20.610 ย้ำอีกครั้ง ผมเขียนพจน์นี้เป็นผลบวกจำกัด 00:07:20.610 --> 00:07:23.210 ต่อไป เราจะหาลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าหา 00:07:23.210 --> 00:07:25.020 อนันต์ เพื่อหาว่าตัวนี้เป็นเท่าใด 00:07:25.020 --> 00:07:27.870 โทษที และ B -- ผมไม่เขียน B แล้ว 00:07:27.870 --> 00:07:33.450 เรารู้ว่า B คือ 2 ส่วน n บวก 2 00:07:33.450 --> 00:07:37.850 ทีนี้ มันช่วยเราได้อย่างไร? 00:07:37.850 --> 00:07:39.330 ลองทำสิ่งที่เราทำบนนี้ 00:07:39.330 --> 00:07:42.260 ลองเขียนออกมาว่าตัวนี้เท่ากับอะไร 00:07:42.260 --> 00:07:46.900 อันนี้จะเท่ากับ -- เมื่อ n เป็น 2 00:07:46.900 --> 00:07:54.410 นี่คือลบ 2/3 มันก็คือลบ 2/3, บวก 2/4 00:07:54.410 --> 00:08:00.160 00:08:00.160 --> 00:08:02.810 นั่นคือ n เท่ากับ -- ขอผมทำข้างล่างนี้ เพราะผม 00:08:02.810 --> 00:08:04.400 ไม่มีที่แล้ว 00:08:04.400 --> 00:08:06.640 นั่นคือเมื่อ n เท่ากับ 2 00:08:06.640 --> 00:08:10.120 ทีนี้ เมื่อ n เท่ากับ 3 ล่ะ? 00:08:10.120 --> 00:08:21.920 เมื่อ n เท่ากับ 3 อันนี้จะเท่ากับลบ 2/4 00:08:21.920 --> 00:08:22.610 บวก 2/5 00:08:22.610 --> 00:08:28.770 00:08:28.770 --> 00:08:30.530 แล้วเมื่อ n เท่ากับ 4 ล่ะ? 00:08:30.530 --> 00:08:33.890 ผมว่าคุณคงเห็นรูปแบบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว 00:08:33.890 --> 00:08:34.640 ลองทำอีกตัวกัน 00:08:34.640 --> 00:08:42.090 เมื่อ n เท่ากับ 4 ตัวนี้ 00:08:42.090 --> 00:08:46.710 จะเท่ากับลบ 2/5 -- ขอ 00:08:46.710 --> 00:08:53.170 ผมใช้สีฟ้าเดิมนะ -- ลบ 2/5 บวก 2/6 00:08:53.170 --> 00:08:57.640 00:08:57.640 --> 00:09:00.460 และเราจะทำต่อไป 00:09:00.460 --> 00:09:02.520 ขอผมเลื่อนลงหาที่เพิ่ม -- เรา 00:09:02.520 --> 00:09:05.190 จะทำต่อไปจนถึงเทอมที่ N 00:09:05.190 --> 00:09:08.960 00:09:08.960 --> 00:09:13.680 บวก จุดจุดจุดเทอม N ใหญ่ 00:09:13.680 --> 00:09:24.110 ซึ่งจะเป็นลบ 2 ส่วน N ใหญ่บวก 1, บวก 2 00:09:24.110 --> 00:09:27.560 ส่วน N ใหญ่บวก 2 00:09:27.560 --> 00:09:29.310 ผมว่าคุณคิดเห็นรูปแบบตรงนี้แล้ว 00:09:29.310 --> 00:09:33.466 สังเกตว่า จากตอนแรกเมื่อ n เท่ากับ 2 เราได้ 2/4 00:09:33.466 --> 00:09:35.590 แต่แล้วเมื่อ n เท่ากับ 3 คุณจะได้ลบ 2/4 00:09:35.590 --> 00:09:37.450 อันนั้นตัดกับอันนั้น 00:09:37.450 --> 00:09:39.090 เมื่อ n เท่ากับ 3 คุณจะได้ 2/5 00:09:39.090 --> 00:09:42.690 แล้วพวกมันหักล้างกันเมื่อ n เท่ากับ 4 กับลบ 2/5 00:09:42.690 --> 00:09:47.170 เทอมที่สองหักล้าง -- ส่วนที่สอง 00:09:47.170 --> 00:09:50.380 สำหรับ n แต่ละตัว สำหรับแต่ละเทอม 00:09:50.380 --> 00:09:53.040 จะตัดกับส่วนแรกของเลขเทอมต่อไป 00:09:53.040 --> 00:09:55.420 และมันจะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 00:09:55.420 --> 00:09:59.730 n เท่ากับ N ใหญ่ 00:09:59.730 --> 00:10:02.300 แล้วอันนี้จะตัดกับตัวก่อน 00:10:02.300 --> 00:10:03.110 หน้ามัน 00:10:03.110 --> 00:10:06.540 แล้วเราจะเหลือ 00:10:06.540 --> 00:10:13.790 แค่เทอมนี้กับเทอมนี่ตรงนี้ 00:10:13.790 --> 00:10:15.950 ลองเขียนมันใหม่นะ 00:10:15.950 --> 00:10:19.090 เราได้ -- ลองหาที่เพิ่มตรงนี้ 00:10:19.090 --> 00:10:26.290 สิ่งนี้เขียนใหม่ได้เป็นผลบวกจาก n เล็ก 00:10:26.290 --> 00:10:30.850 เท่ากับ 2 ถึง N ใหญ่ของลบ 2 00:10:30.850 --> 00:10:37.020 ส่วน n บวก 1 บวก 2 ส่วน n บวก 2 00:10:37.020 --> 00:10:39.440 เท่ากับ -- อย่างอื่นตรงกลางหักล้างหมด 00:10:39.440 --> 00:10:39.940 00:10:39.940 --> 00:10:43.740 เราเหลือแค่ลบ 2/3 00:10:43.740 --> 00:10:50.460 บวก 2 ส่วน N ใหญ่บวก 2 00:10:50.460 --> 00:10:53.110 นี่คือการลดรูปอย่างใหญ่หลวง 00:10:53.110 --> 00:10:57.000 นึกดู ผลบวกเดิมที่เราอยากคำนวณ 00:10:57.000 --> 00:11:00.510 ก็แค่ลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าหาอนันต์ 00:11:00.510 --> 00:11:04.620 ลองหาลิมิตเมื่อ N ใหญ่ไปหาอนันต์ 00:11:04.620 --> 00:11:06.170 ขอผมเขียนมันแบบนี้นะ 00:11:06.170 --> 00:11:07.878 ที่จริง ขอผมเขียนมันแบบนี้นะ 00:11:07.878 --> 00:11:10.810 ลิมิต -- เราเขียนมันแบบนี้ได้ 00:11:10.810 --> 00:11:15.350 ลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าใกล้ 00:11:15.350 --> 00:11:20.030 อนันต์จะเท่ากับลิมิตเมื่อ N ใหญ่ 00:11:20.030 --> 00:11:22.239 เข้าหาอนันต์ของ -- เราแค่ 00:11:22.239 --> 00:11:23.280 หาว่าตัวนี้คืออะไร 00:11:23.280 --> 00:11:33.240 นี่คือลบ 2/3 บวก 2 ส่วน N ใหญ่บวก 2 00:11:33.240 --> 00:11:36.180 เมื่อ n เข้าหาอนันต์ ลบ 2/3 นี้ 00:11:36.180 --> 00:11:37.600 มันไม่มีผลเลย 00:11:37.600 --> 00:11:40.375 เทอมนี่ตรงนี้ 2 ส่วนเทอมที่ใหญ่ขึ้น 00:11:40.375 --> 00:11:42.000 ส่วนจำนวนที่โตมาก -- 00:11:42.000 --> 00:11:43.520 มันจะเข้าหา 0 00:11:43.520 --> 00:11:47.990 และเราจะเหลือลบ 2/3 00:11:47.990 --> 00:11:48.750 เราก็เสร็จแล้ว 00:11:48.750 --> 00:11:54.740 เราหาผลบวกของอนุกรมอนันต์นี้ได้แล้ว 00:11:54.740 --> 00:11:58.460 ตัวนี้ตรงนี้จะเท่ากับลบ 2/3 00:11:58.460 --> 00:12:01.320 และอนุกรมแบบนี้เรียกว่า telescoping series 00:12:01.320 --> 00:12:02.920 telescoping 00:12:02.920 --> 00:12:04.380 นี่คือ telescoping series 00:12:04.380 --> 00:12:09.270 00:12:09.270 --> 00:12:12.130 telescoping series เป็นคำทั่วไป 00:12:12.130 --> 00:12:14.500 ถ้าคุณหาผลบวกย่อย 00:12:14.500 --> 00:12:18.430 มันจะมีรูปแบบอย่างนี้ โดยแต่ละเทอม 00:12:18.430 --> 00:12:20.020 คุณหักล้างมันไปได้ 00:12:20.020 --> 00:12:23.270 สิ่งที่คุณเหลือตอนจบมีแค่เทอม 00:12:23.270 --> 00:12:25.520 ไม่กี่เทอม 00:12:25.520 --> 00:12:27.130 แต่เอาล่ะ อันนี้มัน -- 00:12:27.130 --> 00:12:29.421 มันค่อนข้างยุ่ง แต่เป็นปัญหาที่ ทำแล้วสบายใจดี 00:12:29.421 --> 00:12:30.640