1 00:00:52,060 --> 00:00:54,000 คุรุทางจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของโลก 2 00:00:54,000 --> 00:00:56,500 ตราบโบราณถึงปัจจุบัน 3 00:00:56,500 --> 00:01:00,100 ต่างเห็นตรงกันว่า ความจริงแท้แห่งการดำรงอยู่ 4 00:01:00,100 --> 00:01:02,100 ไม่ได้เป็นสมบัติเฉพาะ 5 00:01:02,100 --> 00:01:03,600 ของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง 6 00:01:03,600 --> 00:01:06,300 หรือวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณ 7 00:01:06,300 --> 00:01:10,500 แต่สามารถค้นพบได้ ภายในหัวใจของทุกๆ คน 8 00:01:21,040 --> 00:01:22,940 กวีรูมิ กล่าวว่า 9 00:01:22,940 --> 00:01:27,920 " หากพระจันทร์ไม่เคยขึ้นและตกฉันใด 10 00:01:28,040 --> 00:01:33,520 จิตวิญญาณก็ไม่เคยห่างหายไปจากเราเช่นกัน 11 00:01:33,980 --> 00:01:36,940 อย่าได้กล่าวว่ามันอยู่ที่นี่หรือที่นั่น 12 00:01:37,520 --> 00:01:40,760 ทุกสรรพสิ่งสร้างคือสิ่งนั้น 13 00:01:40,760 --> 00:01:45,100 ผู้ที่มีตาภายใน ย่อมมองเห็น " 14 00:02:50,200 --> 00:02:52,880 ในเรื่องหอคอยบาเบิล 15 00:02:52,880 --> 00:02:56,260 มนุษยชาติได้ถูกแบ่งแยกให้ต่างภาษา 16 00:02:56,260 --> 00:03:01,000 ต่างความเชื่อ วัฒนธรรม และความสนใจ 17 00:03:01,000 --> 00:03:05,200 บาเบล แปลตามตัวอักษรหมายถึง "ประตูของพระเจ้า" 18 00:03:05,200 --> 00:03:08,220 ประตูนั้นก็คือ จิตนึกคิดของเรา 19 00:03:08,220 --> 00:03:12,300 คือโครงสร้างของความคิดเราที่สร้างขึ้น 20 00:03:14,680 --> 00:03:18,780 สำหรับผู้ที่ตระหนักถึงธรรมชาติที่แท้จริงของตน 21 00:03:19,100 --> 00:03:21,980 แก่นแท้ของเขาจะอยู่พ้นไปจากชื่อและรูปลักษณ์ต่างๆ 22 00:03:21,980 --> 00:03:24,400 เขาย่างก้าวไปสู่ความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ 23 00:03:24,400 --> 00:03:27,420 ที่อยู่ข้ามพ้นประตูนั้นไป 24 00:03:37,000 --> 00:03:40,480 ในอุปมาโบราณ อุปมาเรื่องช้าง 25 00:03:40,480 --> 00:03:42,920 ซึ่งถูกเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า 26 00:03:42,920 --> 00:03:45,480 แท้จริงแล้ว ความเชื่อที่แตกต่างนั้น 27 00:03:45,480 --> 00:03:48,880 ล้วนชี้ไปสู่ความจริงแท้ที่ยิ่งใหญ่เดียวกัน 28 00:03:49,420 --> 00:03:54,380 คนตาบอดกลุ่มนึง ต่างพากันสัมผัสส่วนต่างๆ ของช้าง 29 00:03:54,380 --> 00:03:58,700 แล้วเกิดความรู้สึกที่ต่างกันไปว่า ช้างคืออะไร 30 00:04:00,040 --> 00:04:06,760 คนที่ยืนอยู่ที่ขาช้าง อธิบายว่า "ช้างเหมือนต้นไม้" 31 00:04:08,520 --> 00:04:12,920 คนที่อยู่ตรงหาง ก็บอกว่า "ช้างเหมือนเชือก" 32 00:04:13,800 --> 00:04:19,040 "ช้างเหมือนหอก" คนที่ยืนตรงงาบอก 33 00:04:20,040 --> 00:04:25,280 คนที่สัมผัสหูช้าง ก็บอกว่า "ช้างเหมือนพัด" 34 00:04:25,860 --> 00:04:31,660 คนที่สัมผัสข้างตัวช้าง ยืนกรานว่า "ช้างเหมือนกำแพง" 35 00:04:34,340 --> 00:04:37,900 ปัญหาก็คือ เราสัมผัสเพียงเสี้ยวส่วนหนึ่งของช้าง 36 00:04:37,900 --> 00:04:40,840 แล้วก็เชื่อประสบการณ์ของเรา 37 00:04:40,840 --> 00:04:43,680 เป็นความจริงหนึ่งเดียวที่ถูกต้อง 38 00:04:43,680 --> 00:04:48,920 โดยเราไม่ได้รับรู้ หรือยอมรับในประสบการณ์ของคนอื่น 39 00:04:48,920 --> 00:04:55,440 ซึ่งเป็นหลากหลายแง่มุมแห่งความจริงของสัตว์ตัวเดียวกัน 40 00:05:17,600 --> 00:05:20,720 "ปรัชญาอมตะ" คือการทำความเข้าใจว่า 41 00:05:20,720 --> 00:05:24,200 ทุกอารยธรรมทางจิตวิญญาณ และทุกศาสนา 42 00:05:24,200 --> 00:05:27,440 ล้วนนำไปสู่ความจริงหนึ่งเดียวอันเป็นสากลร่วมกัน 43 00:05:28,000 --> 00:05:31,000 รหัสนัย หรือ ความจริงที่ข้ามพ้นตัวตน 44 00:05:31,000 --> 00:05:34,600 คือรากฐานสำคัญ ที่ทำให้ความรู้ทางจิตวิญญาณ 45 00:05:34,600 --> 00:05:37,800 และคำสอนต่างๆ ได้เจริญงอกงามขึ้น 46 00:05:46,040 --> 00:05:51,720 สวามี วิเวกอนันดา ได้สรุป "คำสอนอมตะ" เขากล่าวว่า 47 00:05:51,880 --> 00:05:54,640 "จุดหมายของทุกศาสนา 48 00:05:54,640 --> 00:05:58,220 คือการตระหนักรู้ถึงพระเจ้าในจิตวิญญาณ 49 00:05:58,220 --> 00:06:02,660 นั่นคือ หนึ่่งศาสนาสากลเดียวกัน " 50 00:06:03,340 --> 00:06:06,580 ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เราใช้คำว่า พระเจ้า 51 00:06:06,580 --> 00:06:10,240 ก็เพื่ออุปมาถึง การก้าวข้ามตัวตน 52 00:06:10,240 --> 00:06:12,520 ไปสู่ความลี้ลับอันยิ่งใหญ่ 53 00:06:12,520 --> 00:06:15,800 ที่อยู่เหนือข้อจำกัดทางความคิดของอัตตา 54 00:06:15,800 --> 00:06:19,680 การตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริง หรือตัวตนภายใน 55 00:06:19,680 --> 00:06:23,360 คือ การตระหนักถึงธรรมชาติแท้อันศักดิ์สิทธิ์ 56 00:06:23,360 --> 00:06:25,780 ทุกจิตวิญญาณมีศักยภาพ 57 00:06:25,780 --> 00:06:29,080 ในการยกระดับจิตสำนึกให้สูงขี้น 58 00:06:30,520 --> 00:06:32,940 เพื่อการตื่นขึ้นจากหลับใหล 59 00:06:32,940 --> 00:06:36,400 และการยึดมั่นในตัวตน 60 00:07:05,100 --> 00:07:07,900 นักเขียนผู้เปี่ยมวิสัยทัศน์ อัลดัส ฮักซเลย์ 61 00:07:07,900 --> 00:07:11,040 ผู้เขียนหนังสือ "โลกใหม่ที่กล้าหาญ" 62 00:07:11,040 --> 00:07:15,000 ได้เขียนหนังสืออีกเล่มหนึ่ง ชื่อว่า"ปรัชญาอมตะ " 63 00:07:15,440 --> 00:07:17,860 เขาเขียนถึงคำสอนหนึ่ง 64 00:07:17,860 --> 00:07:21,400 ซึ่งเวียนกลับมาซ้ำๆ ตลอดประวัติศาสตร์ 65 00:07:21,400 --> 00:07:25,560 ในวัฒนธรรมที่เกิดการตระหนักรู้ความจริงขึ้น 66 00:07:26,040 --> 00:07:27,320 เขาเขียนว่า 67 00:07:27,320 --> 00:07:30,400 "ปรัชญาอมตะ ได้แสดงไว้อย่างชัดเจน 68 00:07:30,400 --> 00:07:32,940 ในภาษาสันสกฤต 69 00:07:33,140 --> 00:07:35,980 "Tat Tvam Asi" หมายถึง 70 00:07:35,980 --> 00:07:38,100 "เธอ คือ สิ่งนั้น" (You are That.) 71 00:07:38,100 --> 00:07:41,260 อัตมัน (Atman) หรือตัวตนนิรันดร์ 72 00:07:41,260 --> 00:07:43,600 คือ หนึ่งเดียวกับพรหมมัน 73 00:07:43,600 --> 00:07:47,100 เป็นหลักสูงสุดของทุกการดำรงอยู่ 74 00:07:47,860 --> 00:07:51,160 และเป็นจุดหมายของมนุษย์ทุกคน 75 00:07:51,160 --> 00:07:54,780 คือการค้นพบความจริงเพื่อตัวเขาเอง 76 00:07:54,920 --> 00:07:59,880 เพื่อค้นพบความจริงแท้ที่เขาหรือเธอเป็นจริงๆ 77 00:08:07,200 --> 00:08:10,640 แต่ละอารยธรรม ก็เหมือนเหลี่ยมแต่ละด้านของอัญมณี 78 00:08:10,640 --> 00:08:14,500 ที่ส่องประกายเอกลักษณ์ของความจริงเดียวกัน 79 00:08:15,060 --> 00:08:19,820 ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนและส่องสว่างถึงกันและกัน 80 00:08:20,500 --> 00:08:24,720 ไม่ว่าการใช้ภาษาและกรอบแนวคิดใด 81 00:08:24,720 --> 00:08:28,180 ทุกๆ ศาสนา ล้วนสะท้อนถึงคำสอนอมตะ 82 00:08:28,180 --> 00:08:32,460 ซึ่งระบุถึงการเชื่อมโยงเข้าสู่บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า 83 00:08:32,460 --> 00:08:35,520 บางสิ่งที่อยู่เหนือเรา 84 00:09:09,740 --> 00:09:14,060 มันเป็นไปได้ที่จะเรียนรู้และบูรณาการคำสอนต่างๆ 85 00:09:14,060 --> 00:09:16,740 จากหนึ่งหรือหลายที่มา 86 00:09:16,740 --> 00:09:21,000 โดยไม่ระบุถึงความเป็นตัวตนในแต่ความเชื่อ 87 00:09:21,100 --> 00:09:23,980 มีคำกล่าวว่า คำสอนทางจิตวิญญาณที่แท้จริงทั้งหมด 88 00:09:23,980 --> 00:09:28,600 เป็นเพียงนิ้วที่ชี้ไปยังความจริงแห่งการก้าวข้ามตัวตน 89 00:09:28,680 --> 00:09:33,180 ซึ่งหากเรายึดมั่นเพียงบางคำสอนที่เรารู้สึกสบายใจ 90 00:09:33,180 --> 00:09:37,800 เราจะเกิดอุปสรรคในวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณ 91 00:09:37,800 --> 00:09:40,960 เพื่อเข้าถึงความจริงที่อยู่เหนือแนวคิดใดๆ 92 00:09:40,960 --> 00:09:45,560 เราต้องปล่อยวางเกาะเกี่ยวและการยึดมั่นต่างๆ 93 00:09:45,960 --> 00:09:50,100 ปล่อยวางทุกแนวคิดทางศาสนา 94 00:09:54,120 --> 00:09:56,440 จากมุมมองของอัตตา 95 00:09:56,440 --> 00:09:59,040 นิ้วที่ชี้ชวนให้คุณเข้าสู่สมาธิ 96 00:09:59,040 --> 00:10:01,820 เหมือนการนำพาคุณมุ่งสู่ 97 00:10:01,820 --> 00:10:03,940 หุบเหวที่ลึกสุดหยั่งถึง 98 00:10:06,360 --> 00:10:08,360 นักบุญจอห์นออฟเดอะครอส กล่าวว่า 99 00:10:08,360 --> 00:10:12,160 "ถ้าหากผู้ใดต้องการมั่นใจในเส้นทางที่เหยียบย่าง 100 00:10:12,220 --> 00:10:17,520 จงปิดตาเสีย และย่างก้าวในความมืด" 101 00:10:51,180 --> 00:10:56,100 สมาธิ เริ่มต้นด้วยการกระโจนลงสู่ความไม่รู้ 102 00:11:08,820 --> 00:11:13,140 ปรัชญาโบราณกล่าวว่า เพื่อให้เข้าถึงสมาธิที่แท้จริง 103 00:11:13,140 --> 00:11:16,500 เขาผู้นั้นจะต้องเปลี่ยนการรับรู้ 104 00:11:16,500 --> 00:11:18,800 จากวัตถุที่ถูกรู้ 105 00:11:19,360 --> 00:11:22,320 จากทุกปรากฏการณ์ภายนอก 106 00:11:22,460 --> 00:11:24,780 จากความคิดตัดสิน และความรู้สึก 107 00:11:25,200 --> 00:11:27,860 มาตระหนักรู้ "จิตรู้" 108 00:11:27,880 --> 00:11:30,680 มายังแหล่งกำเนิดภายใน 109 00:11:30,680 --> 00:11:34,140 ใจ หรือ แก่นแท้ แห่งการดำรงอยู่ 110 00:11:35,600 --> 00:11:38,880 ในภาพยนตร์นี้ เมื่อเราใช้คำว่า สมาธิ 111 00:11:38,880 --> 00:11:41,500 เราหมายถึงการก้าวข้ามตัวตน 112 00:11:41,500 --> 00:11:43,620 ไปสู่สมาธิขั้นสูงสุด 113 00:11:43,620 --> 00:11:47,580 ซึ่งเรียกว่า Nirvikalpa สมาธิ 114 00:11:53,060 --> 00:11:55,320 ใน Nirvikalpa สมาธิ 115 00:11:55,320 --> 00:11:58,560 เป็นการสงบระงับการกระทำของตัวตน 116 00:11:58,580 --> 00:12:01,440 หยุดการแสวงหาและการกระทำทั้งหมด 117 00:12:02,560 --> 00:12:06,860 เราเพียงกล่าวถึงสิ่งที่หายไปเมื่อเราเข้าใกล้ 118 00:12:06,860 --> 00:12:11,000 และสิ่งที่ปรากฏกลับมา เมื่อเราย้อนกลับมาจากจุดนั้น 119 00:12:11,580 --> 00:12:15,360 มันไม่มีทั้ง การรับรู้ หรือ ไม่รับรู้ 120 00:12:15,960 --> 00:12:19,420 ไม่ใช่ "วัตถุ" หรือ "ความว่าง" 121 00:12:19,420 --> 00:12:22,740 ไม่ใช่ สติรู้ตัว หรือ ไม่รู้ตัว 122 00:12:23,960 --> 00:12:27,920 เป็นความจริงแท้ ยากหยั่งถึง 123 00:12:27,920 --> 00:12:32,000 และไม่อาจรู้ได้ด้วยความคิด 124 00:12:34,820 --> 00:12:36,740 เมื่อจิตกลับมาสู่ระดับของตัวตนอีกครั้ง 125 00:12:36,740 --> 00:12:38,740 จะเกิดภาวะยากรู้ได้ 126 00:12:38,740 --> 00:12:40,580 คล้ายการเกิดใหม่ 127 00:12:40,580 --> 00:12:43,460 และทุกสิ่งกลายเป็นใหม่อีกครั้ง 128 00:12:43,460 --> 00:12:46,700 เราถูกทิ้งไว้ท่ามกลางกลิ่นอายอันศักดิ์สิทธิ์ 129 00:12:46,700 --> 00:12:48,660 ซึ่งยังคงอบอวลอยู่กับเรา 130 00:12:48,660 --> 00:12:53,260 ไปตลอดเส้นทางเติบโตทางจิตวิญญาณของเรา 131 00:13:02,740 --> 00:13:07,380 มีสมาธิหลายประเภทที่ถูกอธิบายไว้ในอารยธรรมโบราณ 132 00:13:07,500 --> 00:13:11,760 และภาษาก็ได้สร้างความสับสนมาอย่างยาวนาน 133 00:13:12,140 --> 00:13:17,360 เราใช้คำว่า สมาธิ เพื่อชี้ถึงการก้าวข้ามตัวตนเพื่อหลอมรวม 134 00:13:17,380 --> 00:13:22,060 เราใช้คำจากอารยธรรมอื่นเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น 135 00:13:22,840 --> 00:13:25,420 สมาธิ เป็นภาษาสันสกฤตโบราณ 136 00:13:25,420 --> 00:13:30,600 พบได้ในคัมภีร์พระเวท โยคะ และปรัชญาสางขยะของอินเดีย 137 00:13:30,600 --> 00:13:36,060 และได้แผ่ขยายไปยังหลายวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณอื่นๆ 138 00:13:36,240 --> 00:13:38,520 สมาธิ เป็นองค์ที่ 8 139 00:13:38,520 --> 00:13:41,200 ในโยคะทั้ง 8 ของปตัญชลีมหาโยคี 140 00:13:41,900 --> 00:13:43,620 และเป็นมรรคที่ 8 141 00:13:43,620 --> 00:13:46,320 ในอริยมรรคมีองค์ 8 ของพระพุทธเจ้า 142 00:13:48,100 --> 00:13:51,080 พระพุทธองค์ใช้คำว่า "นิพพาน" 143 00:13:51,080 --> 00:13:53,240 หมายถึงการสิ้นสุดของ "วนา" 144 00:13:53,240 --> 00:13:57,140 หรือสิ้นสุดการทำงานของอัตตา 145 00:13:58,620 --> 00:14:02,480 ปตัญชลีมหาโยคี ได้อธิบาย โยคะ หรือ สมาธิ 146 00:14:02,760 --> 00:14:06,440 ว่าเป็น "chitta vritti nirodha" 147 00:14:06,440 --> 00:14:08,400 ในภาษาสันสกฤตหมายถึง 148 00:14:08,400 --> 00:14:10,980 "การสิ้นสุดของวังน้ำวน 149 00:14:10,980 --> 00:14:14,060 หรือกลเกลียวของจิตใจ" 150 00:14:14,480 --> 00:14:18,100 เป็นการปลดเปลื้องจิตรู้ให้เป็นอิสระ 151 00:14:18,100 --> 00:14:20,100 จากกรงขังของตัวตน 152 00:14:20,100 --> 00:14:23,660 ที่ถูกเสกสร้างขึ้นผ่านความคิด 153 00:14:50,580 --> 00:14:54,200 สมาธิไม่ได้มุ่งไปสู่การสร้างหลักคิดใดๆ 154 00:14:54,200 --> 00:14:56,560 เพราะการตระหนักรู้นี้ 155 00:14:56,560 --> 00:15:00,080 จะต้องอาศัยการละวางความคิด 156 00:15:02,520 --> 00:15:05,500 ศาสนาต่างๆ ได้ใช้ถ้อยคำที่หลากหลาย 157 00:15:05,500 --> 00:15:08,720 เพื่ออธิบายถึง การเชื่อมโยงอันศักดิ์สิทธิ์ 158 00:15:08,880 --> 00:15:10,980 ที่จริงแล้ว คำว่า ศาสนา 159 00:15:10,980 --> 00:15:14,180 ก็หมายถึงสิ่งที่คล้ายคลึงกัน 160 00:15:14,680 --> 00:15:17,560 ในภาษาละติน "religare" หมายถึง 161 00:15:17,560 --> 00:15:21,140 การผูกโยงอีกครั้ง หรือการกลับมาเชื่อมต่อ 162 00:15:21,220 --> 00:15:24,160 เป็นความหมายเดียวกับคำว่าโยคะ 163 00:15:24,160 --> 00:15:26,240 หมายถึงการเชื่อมต่อ 164 00:15:26,240 --> 00:15:30,900 หลอมรวมทางโลกสู่การก้าวข้ามตัวตน 165 00:15:32,000 --> 00:15:35,380 ในอิสลาม ก็ได้สะท้อนผ่านความหมาย 166 00:15:35,380 --> 00:15:38,840 ในภาษาอาหรับโบราณ คำว่า อิสลาม 167 00:15:38,840 --> 00:15:43,080 ซึ่งหมายถึง การนอบน้อม หรือการวิงวอนต่อพระเจ้า 168 00:15:43,500 --> 00:15:46,260 ซึ่งหมายถึง การถ่อมตนอย่างหมดจด 169 00:15:46,260 --> 00:15:50,640 หรือการยอมศิโรราบของตัวตน 170 00:15:53,120 --> 00:15:58,560 ในคริสเตียนรหัสยิก เช่น นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี 171 00:15:58,980 --> 00:16:02,380 นักบุญเทเรซ่าแห่งอาวีล่า 172 00:16:03,580 --> 00:16:05,820 และ นักบุญจอห์นแห่งเดอะครอส 173 00:16:05,820 --> 00:16:08,780 ได้อธิบายถึงการเชื่อมโยงกับพระเจ้า 174 00:16:09,000 --> 00:16:12,280 อาณาจักรของพระองค์อยู่ในตัวเรา 175 00:16:12,940 --> 00:16:16,780 ในพระวรสารโธมัส พระเยซูได้กล่าวว่า 176 00:16:16,960 --> 00:16:20,280 "อาณาจักรพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่นี่หรือที่นั่น 177 00:16:20,280 --> 00:16:24,780 แท้จริงแล้วอาณาจักรของพระบิดาได้สถิตย์อยู่ทั่วผืนโลก 178 00:16:24,780 --> 00:16:27,900 ทว่าผู้คนกลับมองไม่เห็น 179 00:16:29,720 --> 00:16:32,500 ผลงานของนักปรัชญาชาวกรีก 180 00:16:32,500 --> 00:16:37,500 เช่น Plato Plotinus Parmenides และ Heraclitus 181 00:16:37,500 --> 00:16:41,100 เมื่อมองผ่านมุมมองของคำสอนอมตะ 182 00:16:41,100 --> 00:16:44,840 ก็ล้วนมุ่งไปสู่ภูมิปัญญาเดียวกัน 183 00:16:46,020 --> 00:16:50,000 Plotinus สอนว่า ที่สุดของความพยายามของมนุษย์ 184 00:16:50,060 --> 00:16:52,580 คือ การนำพาจิตวิญญาณของมนุษย์ 185 00:16:52,580 --> 00:16:55,780 มุ่งสู่จุดสูงสุดของความสมบูรณ์แบบ 186 00:16:55,780 --> 00:16:59,580 และเชื่อมโยงกับความเป็นหนึ่งเดียว 187 00:17:03,820 --> 00:17:08,740 ผู้นำจิตวิญญาณชนเผ่าลาโกตา แบลค เอลก์ กล่าวว่า 188 00:17:08,740 --> 00:17:12,500 "สันติสุขอันดับแรก ซึ่งที่สำคัญที่สุด 189 00:17:12,500 --> 00:17:15,480 คือสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตวิญญาณมนุษย์ 190 00:17:15,480 --> 00:17:18,180 เมื่อเขาตระหนักถึงความสัมพันธ์ของเขา 191 00:17:18,200 --> 00:17:22,060 กับความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล และพลังทั้งหมด 192 00:17:22,060 --> 00:17:24,540 และเมื่อพวกเขาตระหนักรู้ว่า 193 00:17:24,540 --> 00:17:28,220 ณ ใจกลางของจักรวาลเป็นที่สถิตของวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ 194 00:17:28,220 --> 00:17:32,100 และใจกลางนี้ มีอยู่จริงในทุกหนแห่ง 195 00:17:32,100 --> 00:17:35,680 มันอยู่ภายในเราทุกคน 196 00:17:59,620 --> 00:18:04,120 บนทางสู่การตื่นรู้ หากปราศจากการเข้าถึงสมาธิ 197 00:18:04,120 --> 00:18:07,000 จะเกิดเป็นสองขั้วปรากฏเสมอ 198 00:18:07,000 --> 00:18:10,280 มีสองประตูบานที่คนจะสามารถผ่านเข้าไป 199 00:18:10,280 --> 00:18:11,700 สองมิติ 200 00:18:11,700 --> 00:18:15,220 หนึ่งไปสู่ จิตรู้อันประภัสสร 201 00:18:15,220 --> 00:18:18,880 อีกหนึ่งไปสู่ ปรากฏการณ์ในโลก (ส่งจิตออกนอก) 202 00:18:18,920 --> 00:18:22,120 ทางสูงขึ้น ไปสู่ ความจริงแท้ 203 00:18:22,120 --> 00:18:27,360 และทางไหลลง ไปสู่ มายา และปรากฏการณ์ทั้งหมด 204 00:18:27,360 --> 00:18:30,840 ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น 205 00:18:30,840 --> 00:18:34,140 ความสัมพันธ์ระหว่าง สิ่งสัมพัทธ์และความจริงแท้ 206 00:18:34,140 --> 00:18:39,780 สามารถสรุปได้ในคำพูดของ ศรี นิสาการาทา มหาราช 207 00:18:40,200 --> 00:18:43,780 ปัญญา คือการตระหนักรู้ว่า "ฉันไม่เป็นอะไรเลย" 208 00:18:43,780 --> 00:18:47,040 ความรัก คือการตระหนักรู้ว่า "ฉันเป็นทุกสิ่ง" 209 00:18:47,040 --> 00:18:52,560 ระหว่างสองสิ่งนี้ ชีวิตฉัน...ดำเนินไป" 210 00:18:54,620 --> 00:19:00,160 สิ่งที่เกิดจากการหลอมรวมนี้ คือ จิตสำนึกใหม่ 211 00:19:00,160 --> 00:19:02,940 บางสิ่งได้กำเนิดขึ้นจากการสมรส 212 00:19:02,940 --> 00:19:05,160 หรือหลอมรวมกันของแต่ละด้าน 213 00:19:05,160 --> 00:19:08,920 หรือการล่มสลายของทวิภาวะ 214 00:19:09,200 --> 00:19:12,380 แต่กระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่สิ่งๆ ใด 215 00:19:12,380 --> 00:19:15,340 และมันก็ไม่เคยมีการเกิด 216 00:19:19,000 --> 00:19:23,360 ดอกไม้แห่งการตระหนักรู้ได้สร้างบางสิ่งใหม่ 217 00:19:23,360 --> 00:19:25,200 สร้างสิ่งที่คุณอาจเรียกว่า 218 00:19:25,200 --> 00:19:28,000 ตรีเอกภาวะอมตะ 219 00:19:28,980 --> 00:19:30,640 พระเจ้าพระบิดา 220 00:19:30,640 --> 00:19:34,160 ตัวตนสูงสุดอัน ไม่อาจรู้ได้ และไร้การเปลี่ยนแปลง 221 00:19:34,160 --> 00:19:37,720 ได้ถูกหลอมรวมเข้ากับพระมารดาศักดิ์สิทธิ์ 222 00:19:37,720 --> 00:19:40,840 อันเป็นทุกสรรพสิ่งที่ล้วนแปรเปลี่ยน 223 00:19:41,460 --> 00:19:46,100 การหลอมรวมนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับธรรมธาตุ 224 00:19:46,100 --> 00:19:49,360 เป็นทั้งการดับสูญและการกำเนิดใหม่ 225 00:19:51,600 --> 00:19:54,960 ในคัมภีร์พระเวท การหลอมรวมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ 226 00:19:54,960 --> 00:19:58,260 ได้ถูกถ่ายทอดเป็น สองพลังรากฐาน 227 00:19:58,260 --> 00:20:00,920 ศิวะ และ ศักติ 228 00:20:02,220 --> 00:20:05,080 ชื่อและโฉมหน้าของพระเจ้า 229 00:20:05,080 --> 00:20:07,320 ล้วนเปลี่ยนไปตามประวัติศาสตร์ 230 00:20:07,320 --> 00:20:11,680 แต่คุณลักษณะพื้นฐานนั้นไม่เปลี่ยนแปลง 231 00:20:11,680 --> 00:20:14,080 สิ่งที่เกิดจากการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวนี้ 232 00:20:14,080 --> 00:20:17,220 คือ จิตสำนึกใหม่อันศักดิสิทธิ์ 233 00:20:17,220 --> 00:20:21,320 เป็นวิถีใหม่แห่งการดำรงชีวิตในโลก 234 00:20:24,620 --> 00:20:28,480 พลังงานสากลที่ปราศจากใจกลาง 235 00:20:28,480 --> 00:20:30,700 และไร้ข้อจำกัดใดๆ 236 00:20:30,720 --> 00:20:33,800 เป็นความรักที่บริสุทธิ์ 237 00:20:33,800 --> 00:20:35,860 ไม่มีการได้มา หรือสูญเสียไป 238 00:20:35,860 --> 00:20:38,640 เพราะมันช่างว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง 239 00:20:38,640 --> 00:20:43,180 แต่ทว่า เต็มบริบูรณ์อย่างแท้จริง 240 00:20:51,240 --> 00:20:55,760 ไม่ว่าจะเป็น สำนักรหัสยิกของเมโสโปเตเมีย 241 00:20:55,760 --> 00:21:00,320 อารยธรรมทางจิตวิญญาณของบาบิโลนและอัสสิเรีย 242 00:21:00,640 --> 00:21:02,820 ศาสนาของชาวอียิปต์โบราณ 243 00:21:02,820 --> 00:21:04,400 นิวเบียน และเคมเมติค 244 00:21:04,400 --> 00:21:06,620 วัฒนธรรมโบราณของแอฟริกา 245 00:21:06,620 --> 00:21:10,400 พ่อมดหมอผี และชนพื้นเมืองทั่วโลก 246 00:21:10,400 --> 00:21:13,660 นิกายรหัสยิกแห่งกรีกโบราณ 247 00:21:13,660 --> 00:21:15,360 ไญยนิยม 248 00:21:15,960 --> 00:21:18,200 ผู้ข้ามพ้นทวิภาวะ 249 00:21:18,200 --> 00:21:20,000 ชาวพุทธ 250 00:21:20,820 --> 00:21:22,540 ลิทธิเต๋า 251 00:21:23,640 --> 00:21:24,940 ยิว 252 00:21:25,240 --> 00:21:27,240 ลัทธิบูชาไฟ (Zoroastrians) 253 00:21:27,240 --> 00:21:28,400 เชน 254 00:21:28,760 --> 00:21:30,500 มุสลิม 255 00:21:30,920 --> 00:21:32,200 หรือ คริสเตียน 256 00:21:33,060 --> 00:21:35,440 เราจะพบความเป็นหนึ่งเดียวกัน 257 00:21:35,440 --> 00:21:37,840 ในการตระหนักรู้สูงสุดทางจิตวิญญาณ 258 00:21:37,840 --> 00:21:39,700 อันเป็นเส้นทางเดียวกัน 259 00:21:39,700 --> 00:21:43,160 เพื่อการเข้าถึงสมาธิที่แท้จริง 260 00:21:45,540 --> 00:21:47,760 แท้จริงแล้วคำว่า สมาธิ 261 00:21:47,760 --> 00:21:49,320 หมายถึง 262 00:21:49,320 --> 00:21:51,320 การตระหนักรู้ถึงความเหมือน 263 00:21:51,320 --> 00:21:54,400 หรือ ความเป็นหนึ่งเดียวในทุกสิ่ง 264 00:21:54,960 --> 00:21:57,900 ซึ่งหมายถึงการหลอมรวม 265 00:21:57,900 --> 00:22:03,380 การเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวของตัวตนของคุณ 266 00:22:04,040 --> 00:22:05,660 แต่อย่าเข้าใจผิดว่า 267 00:22:05,660 --> 00:22:07,680 การมีความรู้ทางสติปัญญา 268 00:22:07,680 --> 00:22:11,200 จะทำให้เกิดการตระหนักรู้ในสมาธิ 269 00:22:11,800 --> 00:22:15,200 มันคือความเงียบสงบ ความว่างเปล่าของคุณ 270 00:22:15,200 --> 00:22:20,520 ที่หลอมรวมทุกระดับของพลวัตรแห่งชีวิต 271 00:22:55,340 --> 00:22:58,500 โดยผ่านคำสอนโบราณเกี่ยวกับสมาธิ 272 00:22:58,520 --> 00:23:02,200 มนุษยชาติสามารถเริ่มเข้าใจถึงที่มาเดียวกัน 273 00:23:02,200 --> 00:23:05,980 ของทุกศาสนา และสามารถผสานรวมกันอีกครั้ง 274 00:23:05,980 --> 00:23:08,360 ไปกับเกลียวพลวัตรของชีวิต 275 00:23:08,360 --> 00:23:12,580 พระวิญญาณ ธรรมะ หรือเต๋า 276 00:23:14,360 --> 00:23:17,000 เกลียวพลวัตรนี้ คือ สะพานที่ทอดตัวยาว 277 00:23:17,000 --> 00:23:20,680 จากจักรวาลภายใน ไปสู่จักรวาลภายนอก 278 00:23:23,560 --> 00:23:25,380 จากดีเอ็นเอของคุณ 279 00:23:25,380 --> 00:23:30,760 สู่ใจกลางของพลังงาน ซึ่งแผ่ขยายผ่านจักระต่างๆ 280 00:23:31,320 --> 00:23:35,640 ไปยังเกลียวแขนของกาแลคซี่ 281 00:23:35,640 --> 00:23:37,740 ทุกระดับของจิตวิญญาณ 282 00:23:37,740 --> 00:23:39,980 ถูกสำแดงผ่านเกลียวพลวัตร 283 00:23:39,980 --> 00:23:43,020 เหมือนกิ่งก้านแห่งวิวัฒนาการ 284 00:23:43,020 --> 00:23:46,280 มีชีวิต สำรวจ 285 00:23:47,700 --> 00:23:50,900 สมาธิ คือการตระหนักรู้ถึงความว่างเปล่า 286 00:23:50,900 --> 00:23:53,560 ในทุกระดับของตัวตน 287 00:23:53,560 --> 00:23:57,500 เปลือกชั้นต่างๆ ของจิตวิญญาณ 288 00:23:57,500 --> 00:24:01,520 เกลียวพลวัตร คือการสืบต่ออย่างไร้จุดจบของทวิภาวะ 289 00:24:01,520 --> 00:24:05,800 และ วัฏจักรของชีวิตและความตาย 290 00:24:08,780 --> 00:24:14,400 ในขณะที่เราหลงลืม ถึงการเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิด 291 00:24:20,540 --> 00:24:25,440 เลนส์ที่เรามองผ่านชีวิตเรานั้น มีขนาดเล็กมาก 292 00:24:25,440 --> 00:24:28,580 และคิดว่าเราเป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ 293 00:24:28,580 --> 00:24:30,900 ที่คืบคลานไปบนโลก 294 00:24:30,920 --> 00:24:33,820 จนกว่าเราจะบรรลุการเดินทาง 295 00:24:33,820 --> 00:24:37,100 หวนคืนสู่แหล่งกำเนิด 296 00:24:37,980 --> 00:24:43,340 สู่ ใจกลาง อันดำรงอยู่ ณ ทุกแห่งหน 297 00:24:48,000 --> 00:24:50,540 จวงจื่อ กล่าวว่า 298 00:24:50,540 --> 00:24:54,660 "เมื่อไร้การแบ่งแยก ระหว่าง สิ่งนี้ และ สิ่งนั้น 299 00:24:54,660 --> 00:24:58,520 นั่นคือ ภาวะสงบนิ่งแห่งเต๋า 300 00:24:58,520 --> 00:25:02,720 ณ จุดนิ่งแห่งใจกลางของเกลียวพลวัตร 301 00:25:02,740 --> 00:25:10,200 เราจักเห็นความเป็นอนันต์ ในสรรพสิ่งทั้งหมดได้ " 302 00:25:14,040 --> 00:25:18,640 ในมนตราโบราณ "โอม มณี ปัทเม ฮุม" 303 00:25:18,640 --> 00:25:21,080 มีความหมายทางกวี 304 00:25:21,520 --> 00:25:26,980 เมื่อผู้ตื่นรู้ ตระหนักรู้ถึงมณีภายในดอกบัว 305 00:25:27,660 --> 00:25:31,920 ธรรมชาติแท้ของเธอได้ตื่นขึ้นในจิตวิญญาณ 306 00:25:32,100 --> 00:25:36,880 ในโลกนี้ และเป็นอย่างที่โลกเป็น 307 00:25:50,360 --> 00:25:52,680 จากปรัชญาเฮอร์เมติค ที่กล่าวว่า 308 00:25:52,680 --> 00:25:54,620 "เบื้องล่าง เป็นเช่น เบื้องบน 309 00:25:54,620 --> 00:25:57,160 เบื้องบน เป็นเช่น เบื้องล่าง" 310 00:25:57,160 --> 00:25:59,880 เราอาจใช้อุปมาดังกล่าว เพื่อทำเข้าใจ 311 00:25:59,880 --> 00:26:03,680 ความสัมพันธ์ระหว่าง จิต และ ความสงบนิ่ง 312 00:26:03,780 --> 00:26:07,600 สัมพัทธภาพ และ ความจริงแท้ 313 00:26:13,000 --> 00:26:15,760 เพื่อทำเข้าใจนอกกรอบความคิดเกี่ยวกับ 314 00:26:15,760 --> 00:26:18,260 การเข้าถึงธรรมชาติของสมาธิ 315 00:26:18,260 --> 00:26:21,960 คือใช้การอุปมาของหลุมดำ 316 00:26:25,200 --> 00:26:29,740 โดยทั่วไปแล้ว หลุมดำ แสดงถึงอาณาเขตของอวกาศ 317 00:26:29,740 --> 00:26:32,800 ของสนามพลังแรงโน้มถ่วงที่มีพลังสูงมาก 318 00:26:32,800 --> 00:26:36,000 จนแสงหรือวัตถุใดๆ ไม่อาจหลุดรอดไปได้ 319 00:26:36,360 --> 00:26:38,440 ทฤษฏีใหม่บนสมมุติฐานว่า 320 00:26:38,440 --> 00:26:42,500 วัตถุทั้งหมด ตั้งแต่จุลอนุภาคที่เล็กที่สุด 321 00:26:42,500 --> 00:26:46,140 ถึง การก่อตัวอย่างมหึมาของจักรวาล 322 00:26:46,140 --> 00:26:47,820 ล้วนมีหลุมดำ 323 00:26:47,820 --> 00:26:51,300 หรือ ภาวะเอกฐานอันลึกลับอยู่ ณ ใจกลาง 324 00:26:52,280 --> 00:26:54,020 ในการอุปมานี้ 325 00:26:54,020 --> 00:26:57,300 เราจะให้นิยามใหม่ของหลุมดำ 326 00:26:57,300 --> 00:27:01,600 เป็นศูนย์กลางที่ดำรงอยู่ ณ ทุกหนแห่ง 327 00:27:07,000 --> 00:27:08,200 ในทางเซน 328 00:27:08,200 --> 00:27:10,700 มีหลายบทกวีและปริศนาธรรม 329 00:27:10,700 --> 00:27:13,020 ที่นำพาเราไปเผชิญหน้ากับ 330 00:27:13,020 --> 00:27:15,900 ประตูที่ไร้ประตู 331 00:27:15,900 --> 00:27:18,740 เราต้องผ่าน ประตูที่ไร้ประตูนี้ 332 00:27:18,740 --> 00:27:22,080 เพื่อเข้าถึงสมาธิ 333 00:27:24,400 --> 00:27:28,200 ณ ขอบฟ้าเหตุการณ์ เป็นพื้นที่ของเวลาและอวกาศ 334 00:27:28,200 --> 00:27:30,780 ที่ซึ่งปรากฏการณ์ต่างๆ ไม่อาจส่งออกมา 335 00:27:30,800 --> 00:27:32,700 ถึงผู้สังเกตการณ์ภายนอกได้ 336 00:27:32,700 --> 00:27:35,160 นั่นหมายความว่า อะไรก็ตามที่เกิดขึ้น 337 00:27:35,160 --> 00:27:37,580 เหนือขอบฟ้าเหตุการณ์ 338 00:27:37,580 --> 00:27:40,520 จะเป็นสิ่งที่คุณไม่อาจรับรู้ได้ 339 00:27:40,520 --> 00:27:42,000 คุณอาจกล่าวได้ว่า 340 00:27:42,000 --> 00:27:44,260 ขอบฟ้าเหตุการณ์ของหลุมดำ 341 00:27:44,260 --> 00:27:48,180 คืออุปมาถึง ประตูที่ไร้ประตู 342 00:27:48,180 --> 00:27:50,120 มันเป็นธรณีประตูระหว่าง 343 00:27:50,120 --> 00:27:53,320 การมีตัวตน และ ไม่มีตัวตน 344 00:27:53,320 --> 00:27:58,420 มันไม่มี "ตัวฉัน" ที่ผ่านเส้นขอบฟ้าเหตุการณ์ไปได้ 345 00:28:01,320 --> 00:28:05,880 ในใจกลางของหลุมดำ คือ มิติของภาวะเอกฐาน 346 00:28:05,880 --> 00:28:09,420 ที่บรรจุไว้ด้วยมวลของดวงอาทิตย์นับพันล้านดวง 347 00:28:09,420 --> 00:28:12,860 ในพื้นที่สุดแสนเล็กอันไม่อาจจินตนาการได้ 348 00:28:12,860 --> 00:28:15,360 ทว่า มีค่ามวลที่เป็นอนันต์ 349 00:28:15,360 --> 00:28:17,620 คือ เป็นทั้งเอกภพ 350 00:28:17,620 --> 00:28:22,300 ที่บรรจุอยู่ในบางสิ่งที่เล็กกว่าเม็ดทราย 351 00:28:22,820 --> 00:28:28,680 ภาวะเอกฐาน คือ บางสิ่งที่ล้ำลึกเหนือเวลาและพื้นที่ 352 00:28:29,480 --> 00:28:31,400 ซึ่ง ตามทฤษฎีทางฟิสิกส์แล้ว 353 00:28:31,400 --> 00:28:33,660 การเคลื่อนไหวเป็นไปไม่ได้ 354 00:28:33,660 --> 00:28:36,900 การมีอยู่ของสรรพสิ่งก็เป็นไปไม่ได้ 355 00:28:37,620 --> 00:28:39,880 ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม 356 00:28:39,880 --> 00:28:42,820 มันไม่ได้เป็นสิ่งที่อยู่ในโลกของการรับรู้ 357 00:28:42,820 --> 00:28:47,100 แต่กระนั้น ก็ไม่อาจบอกว่า มันเป็นความสงบนิ่งเงียบ 358 00:28:47,100 --> 00:28:50,860 มันอยู่เหนือ ความสงบนิ่ง และ เคลื่อนไหว 359 00:28:51,700 --> 00:28:53,940 เมื่อเธอตระหนักรู้ ณ ใจกลาง 360 00:28:54,020 --> 00:28:56,300 ว่ามันคือ ทุกที่และไม่ใช่สักที่ 361 00:28:56,300 --> 00:28:58,680 ทวิภาวะก็สิ้นสุดลง 362 00:28:59,580 --> 00:29:02,000 ทั้ง รูป และ ความว่าง 363 00:29:02,000 --> 00:29:04,620 กาลเวลา และ ไร้กาลเวลา 364 00:29:06,440 --> 00:29:09,700 บางคนอาจเรียกว่า เป็นเคลื่อนไหวที่สงบนิ่ง 365 00:29:09,700 --> 00:29:12,320 หรือ ตถาคตครรภ์แห่งความว่าง 366 00:29:12,320 --> 00:29:17,100 ณ ศูนย์กลางของที่สุดแห่งความมืดมิด 367 00:29:18,660 --> 00:29:21,520 คุรุแห่งเต๋า ท่านเล่าจื๊อกล่าวไว้ว่า 368 00:29:22,280 --> 00:29:25,180 "ความมืดในความมืดมิด 369 00:29:25,180 --> 00:29:28,820 คือ ประตูสู่ความเข้าใจทั้งปวง " 370 00:29:39,460 --> 00:29:42,340 นักเขียนและนักปรัชญาเปรียบเทียบ 371 00:29:42,340 --> 00:29:43,900 โจเซฟ แคมป์เบล 372 00:29:43,900 --> 00:29:47,240 ได้อธิบายถึงสัญลักษณ์ที่ปรากฏซ้ำๆ 373 00:29:47,240 --> 00:29:50,440 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ปรัชญาอมตะ 374 00:29:50,440 --> 00:29:52,760 เขาเรียกว่า the Axis Mundi 375 00:29:52,760 --> 00:29:56,380 คือ จุดศูนย์กลาง หรือ ภูเขาที่สูงที่สุด 376 00:29:56,380 --> 00:30:00,240 คือ แกนกลาง ที่สรรพสิ่งโคจรอยู่รอบ 377 00:30:00,240 --> 00:30:04,180 ณ จุดที่ความสงบนิ่งและเคลื่อนไหวอยู่ร่วมกัน 378 00:30:05,480 --> 00:30:07,340 ณ จุดศูนย์กลางนี้ 379 00:30:07,340 --> 00:30:11,320 ต้นไม้อันแข็งแกร่งและสมบูรณ์ได้ถูกตระหนักรู้ 380 00:30:11,320 --> 00:30:16,000 ดุจต้นศรีมหาโพธิ์ ที่เชื่อมต่อทุกๆ โลกทั้งหมด 381 00:30:20,480 --> 00:30:24,160 เหมือนดวงอาทิตย์กำลังถูกกลืนหายไปในหลุมดำ 382 00:30:24,160 --> 00:30:27,460 เมื่อคุณเข้าใกล้ความจริงที่ยิ่งใหญ่ 383 00:30:27,460 --> 00:30:30,400 ชีวิตคุณจะเริ่มโคจรรอบสิ่งนั้น 384 00:30:30,400 --> 00:30:34,660 และตัวตนคุณ...จะเริ่มสลายไป 385 00:30:39,440 --> 00:30:42,160 ในขณะที่คุณเคลื่อนเข้าใกล้จิตเดิมแท้ 386 00:30:42,160 --> 00:30:46,200 มันอาจน่ากลัว สำหรับตัวตนที่ถูกสร้างขึ้น 387 00:30:46,200 --> 00:30:51,600 ผู้พิทักษ์ประตูอยู่ที่นั่น เพื่อทดสอบผู้ที่เดินทางมาถึง 388 00:30:53,880 --> 00:30:58,280 จงพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งคุณกลัวที่สุด 389 00:30:58,280 --> 00:31:02,580 ขณะเดียวกัน จงน้อมรับในพลังภายในตน 390 00:31:02,580 --> 00:31:07,480 เพื่อส่องแสงไปยังความน่ากลัวของความไม่รู้ 391 00:31:07,480 --> 00:31:11,400 และ ความงามที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน 392 00:31:12,900 --> 00:31:16,360 ถ้าความคิดของคุณหยุดเคลื่อนไหว 393 00:31:16,360 --> 00:31:19,260 ไร้ซึ่งตัวตนผู้คอยตอบสนอง 394 00:31:19,500 --> 00:31:22,820 ปรากฏการณ์ทั้งหมดที่ถูกสร้างขึ้นจากจิตไร้สำนึก 395 00:31:22,820 --> 00:31:25,480 จะเพียงปรากฏขึ้นและผ่านไป 396 00:31:26,100 --> 00:31:28,720 นี่เป็นจุดสำคัญในการเดินทางจิตวิญญาณ 397 00:31:28,720 --> 00:31:31,420 ที่ซึ่ง ศรัทธา เป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด 398 00:31:32,660 --> 00:31:35,200 ศรัทธาในที่นี้หมายถึงอะไร ? 399 00:31:36,720 --> 00:31:39,700 ศรัทธา แตกต่างจาก ความเชื่อ 400 00:31:40,060 --> 00:31:44,140 ความเชื่อ คือการยอมรับบางสิ่งในระดับของความคิด 401 00:31:44,140 --> 00:31:46,300 เพื่อสร้างสบายใจและมั่นใจ 402 00:31:47,620 --> 00:31:50,700 ความเชื่อเป็นวิธีทางความคิดเพื่อใช้แปะป้าย 403 00:31:50,700 --> 00:31:53,100 หรือควบคุมประสบการณ์ 404 00:31:53,640 --> 00:31:56,560 ศรัทธาเป็นในทางตรงกันข้าม 405 00:31:56,780 --> 00:32:00,760 ศรัทธา คือ การอยู่ในสภาวะที่แม้ไม่รู้อะไรเลย 406 00:32:01,100 --> 00:32:05,320 แต่ยอมรับได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจากจิตไร้สำนึก 407 00:32:05,740 --> 00:32:09,920 ศรัทธายอมศิโรราบ ต่อการแรงดึงดูดของเอกภาวะ 408 00:32:09,920 --> 00:32:14,060 สู่การสลายของอัตตา หรือถอดถอนตัวตน 409 00:32:14,060 --> 00:32:17,640 เพื่อผ่าน "ประตูที่ไร้ประตู" 410 00:32:29,080 --> 00:32:32,720 วิวัฒนาการและโครงสร้างของกาแลคซี่ 411 00:32:32,720 --> 00:32:36,340 มีส่วนสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับหลุมดำ 412 00:32:36,340 --> 00:32:41,480 เช่นเดียวกับ วิวัฒนาการของคุณที่เชื่อมโยงกับตัวตนดั้งเดิม 413 00:32:41,480 --> 00:32:47,000 คือ เอกภาวะซึ่งเป็นธรรมชาติที่แท้จริงของคุณ 414 00:32:48,220 --> 00:32:50,400 เราไม่สามารถเห็นหลุมดำ 415 00:32:50,400 --> 00:32:52,260 แต่เราสามารถรู้เกี่ยวกับมันได้ 416 00:32:52,260 --> 00:32:54,760 โดยสังเกตสิ่งที่โคจรกอยู่รอบๆ มัน 417 00:32:55,280 --> 00:32:59,620 ในปฏิสัมพันธ์กับความเป็นจริงทางกายภาพ 418 00:32:59,620 --> 00:33:04,000 เหมือนกับที่เราไม่สามารถเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของเรา 419 00:33:04,300 --> 00:33:07,820 จิตเดิมแท้ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ 420 00:33:07,820 --> 00:33:11,700 แต่เราเห็นถึงสภาวะแห่งการรู้แจ้งได้ 421 00:33:11,840 --> 00:33:14,980 ดังอาจารย์เซน ซูซูกิ ได้กล่าวไว้ 422 00:33:14,980 --> 00:33:18,400 "แท้จริงแล้ว ไม่มีตัวตนผู้รู้แจ้ง 423 00:33:19,580 --> 00:33:23,040 มีเพียงสภาวะแห่งการรู้แจ้งเท่านั้น" 424 00:33:26,640 --> 00:33:28,840 เราไม่อาจมองเห็นม้นได้ 425 00:33:28,840 --> 00:33:32,140 เหมือนกับดวงตาที่ไม่อาจมองเห็นตัวมันเองได้ 426 00:33:32,140 --> 00:33:33,700 เราไม่สามารถมองเห็นได้ 427 00:33:33,700 --> 00:33:37,420 เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้การมองเห็นเป็นไปได้ 428 00:33:38,120 --> 00:33:42,540 เช่นเดียวกับหลุมดำ สมาธิ ไม่ใช่ความไม่มีอะไร 429 00:33:42,540 --> 00:33:45,040 และก็ไม่ได้เป็นสิ่งใด 430 00:33:45,500 --> 00:33:48,780 มันเป็นสิ้นสลายของทวิภาวะ 431 00:33:48,780 --> 00:33:51,580 ทั้ง ความมี และ ความไม่มี 432 00:33:52,600 --> 00:33:57,200 มันไม่มีประตูเพื่อผ่านเข้าสู่ความจริงที่ยิ่งใหญ่ 433 00:33:57,200 --> 00:34:00,260 แต่มีเส้นทางที่ไร้ที่สิ้นสุด 434 00:34:00,620 --> 00:34:05,420 เส้นทาง ธรรมะ ที่เหมือนเกลียวพลวัตรที่ไร้จุดจบ 435 00:34:05,500 --> 00:34:08,659 ที่ไม่มีทั้งจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด 436 00:34:08,659 --> 00:34:11,579 ไม่มีผู้ใดสามารถผ่านประตูที่ไร้ประตู 437 00:34:11,699 --> 00:34:15,159 ไม่มีความคิดของผู้ใดที่จะหาวิธีได้ 438 00:34:15,159 --> 00:34:17,319 และไม่มีทางเป็นไปได้ 439 00:34:18,239 --> 00:34:22,019 ไม่มีผู้ใดสามารถผ่านประตูที่ไร้ประตูได้ 440 00:34:22,020 --> 00:34:26,720 ดังนั้น จง ไม่ เป็น ผู้ใด 441 00:34:29,600 --> 00:34:32,640 . . . อ นั ต ต า . . . 442 00:34:33,560 --> 00:34:36,440 . . . ค ว า ม ว่ า ง . . . 443 00:34:37,480 --> 00:34:40,420 . . . สุ ญ ญ ต า . . . 444 00:34:41,400 --> 00:34:43,500 . . . ห นึ่ ง เ ดี ย ว กั น . . . 445 00:34:44,320 --> 00:34:47,880 สมาธิ เป็นเส้นทางที่ไร้เส้นทาง 446 00:34:47,880 --> 00:34:49,940 เป็นกุญแจสำคัญ 447 00:34:50,040 --> 00:34:55,440 เป็นการสิ้นสุดการยึดมั่นในตัวตนที่สร้างขึ้น 448 00:34:55,440 --> 00:34:59,600 ที่แบ่งแยกโลกภายในและโลกภายนอก 449 00:35:15,360 --> 00:35:18,700 มีคำอธิบายหลายรูปเพื่อแสดงถึง 450 00:35:18,700 --> 00:35:22,680 เปลือกหรือชั้นโครงสร้างของอัตตา 451 00:35:23,000 --> 00:35:27,000 ยกตัวอย่างอันหนึ่งที่เก่าแก่มาก 452 00:35:27,960 --> 00:35:32,360 ในคัมภีร์อุปนิษัท กล่าวถึงเปลือกที่ครอบอัตมัน 453 00:35:32,360 --> 00:35:35,700 หรือจิตวิญญาณไว้ เรียกว่า โคชะ (koshas) 454 00:35:35,700 --> 00:35:38,920 แต่ละโคชะเปรียบเหมือนกระจก 455 00:35:38,920 --> 00:35:42,040 เป็นชั้นของโครงสร้างอัตตา 456 00:35:42,040 --> 00:35:45,740 เหมือนผ้าคลุมมายาที่บดบังเราไว้ 457 00:35:45,740 --> 00:35:47,920 จากการตระหนักรู้ในธรรมชาติแท้ของเรา 458 00:35:47,920 --> 00:35:51,620 เมื่อเราเผลอหลงยึดมั่นกับมัน 459 00:35:51,960 --> 00:35:54,660 คนส่วนใหญ่เห็นเพียงภาพสะท้อน 460 00:35:54,660 --> 00:35:58,060 และเชื่อว่านั่นคือใครที่เขาเป็น 461 00:35:59,320 --> 00:36:02,420 กระจกหนึ่งสะท้อนถึงชั้นของสัตว์ 462 00:36:02,420 --> 00:36:04,540 คือ กายภาพทางร่างกาย 463 00:36:05,640 --> 00:36:08,380 กระจกอีกอันสะท้อนถึง จิต ความคิด 464 00:36:08,380 --> 00:36:12,780 สัญชาตญาณ และการรับรู้ของคุณ 465 00:36:13,500 --> 00:36:16,400 อีกหนึ่ง คือ พลังงานภายในหรือปราณ 466 00:36:16,400 --> 00:36:19,700 ซึ่งคุณรู้สึกได้ เมื่อหันกลับมารับรู้ภายใน 467 00:36:20,180 --> 00:36:23,940 อีกกระจกนึง สะท้อนถึงระดับของปัญญา 468 00:36:23,940 --> 00:36:27,880 เป็นจิตที่สูงขึ้น หรือระดับของปัญญาญาณ 469 00:36:27,880 --> 00:36:32,100 และยังมีระดับที่ก้าวข้ามตัวตน หรือปิติสุขเหนือทวิภาวะ 470 00:36:32,100 --> 00:36:36,700 ซึ่งสามารถสัมผัสได้เมื่อเข้าสู่สมาธิ 471 00:36:37,520 --> 00:36:41,940 ยังมีกระจกอีกนับไม่ถ้วน หลายแง่มุมของตัวตน 472 00:36:41,940 --> 00:36:46,980 ทำให้คนเราแตกต่าง และเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง 473 00:36:50,660 --> 00:36:54,400 คนส่วนใหญ่ยังไม่ค้นพบแม้ในชั้นพลังปราณ 474 00:36:54,400 --> 00:36:57,520 ชั้นของจิตที่สูงกว่า และชั้นปิติสุขเหนือทวิภาวะ 475 00:36:58,120 --> 00:37:01,900 พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มันมีอยู่จริง 476 00:37:01,920 --> 00:37:04,660 ระดับชั้นเหล่านี้ก่อร่างเป็นชีวิตของคุณ 477 00:37:04,660 --> 00:37:07,460 แต่คุณยังมองไม่เห็นมัน 478 00:37:08,020 --> 00:37:11,440 ที่จริงแล้ว กระจกที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ 479 00:37:11,460 --> 00:37:14,240 บ่งบอกชีวิตเราได้มากกว่าสิ่งที่ตามองเห็น 480 00:37:14,700 --> 00:37:17,900 ที่มองไม่เห็น ก็เพราะคนส่วนใหญ่ 481 00:37:17,900 --> 00:37:20,960 ยังไม่สามารถมี "สติ-รู้สึกตัว" ได้เต็มที่ 482 00:37:23,680 --> 00:37:26,340 เฉกเช่น ตาข่ายแห่งพระอินทร์ (Indra's net of Jewels) 483 00:37:26,340 --> 00:37:29,040 กระจกทั้งหมดสะท้อนถึงกันและกัน 484 00:37:29,040 --> 00:37:34,340 มีการสะท้อนและเห็นถึงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 485 00:37:35,060 --> 00:37:37,140 การเปลี่ยนแปลงในชั้นหนึ่ง 486 00:37:37,140 --> 00:37:40,980 ย่อมส่งผลกระทบต่อทุกชั้นพร้อมๆ กัน 487 00:37:42,980 --> 00:37:47,080 กระจกบางชั้น อาจถูกทอดทิ้งในเงามืด 488 00:37:47,080 --> 00:37:50,300 เว้นว่าเราจะโชคดีมีผู้ช่วยชี้แนะให้เรา 489 00:37:50,300 --> 00:37:53,080 ได้พบแสงสว่างและมองเห็นมัน 490 00:37:53,500 --> 00:37:57,600 ความจริง คือ เราไม่รู้ ว่า เราไม่รู้อะไร 491 00:37:58,700 --> 00:38:00,420 เอาล่ะ ลองจินตนาการว่า 492 00:38:00,420 --> 00:38:02,860 คุณได้ทุบกระจกทั้งหมดให้แตก 493 00:38:04,260 --> 00:38:09,160 มันไม่เหลืออะไรมาสะท้อน ให้คุณเห็นตัวคุณอีกต่อไป 494 00:38:09,160 --> 00:38:11,820 แล้วคุณล่ะ...อยู่ที่ไหน? 495 00:38:14,520 --> 00:38:17,160 เมื่อจิตใจสงบ 496 00:38:17,160 --> 00:38:20,120 กระจกยุติการสะท้อน 497 00:38:22,240 --> 00:38:26,300 ไม่มี "ผู้เห็น" และ "สิ่งที่ถูกเห็น" อีกต่อไป 498 00:38:28,880 --> 00:38:34,520 อย่าเข้าใจผิดว่า จิตต้นกำเนิดเป็นความว่างที่ไม่มีอะไรเลย 499 00:38:35,420 --> 00:38:39,020 ตัวตนดั้งเดิม ไม่ได้เป็นบางสิ่งก็จริง 500 00:38:39,020 --> 00:38:41,680 แต่ก็ไม่ใช่ว่า ไม่มีอะไรเลย 501 00:38:48,560 --> 00:38:51,480 แหล่งกำเนิด ไม่ใช่สิ่งใดๆ 502 00:38:51,480 --> 00:38:55,080 มันคือความว่าง หรือ ความสงบนิ่ง 503 00:38:57,560 --> 00:39:02,300 มันคือ ความว่างอันเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง 504 00:39:02,940 --> 00:39:05,200 สรรพสิ่ง ถูกตระหนักรู้ว่า 505 00:39:05,200 --> 00:39:07,200 แท้จริงแล้วเป็น ความว่าง 506 00:39:07,520 --> 00:39:09,940 ความว่าง ถูกตระหนักรู้ว่า 507 00:39:09,940 --> 00:39:12,360 แท้จริงแล้วเป็นเป็น สรรพสิ่ง 508 00:39:14,700 --> 00:39:19,360 จิตต้นกำเนิดนี้ คือ มหาสุญญตา 509 00:39:19,360 --> 00:39:24,080 ตถาคตครรภ์ที่ให้กำเนิดทุกความเป็นไปได้ 510 00:39:41,260 --> 00:39:46,480 สมาธิ คือ การตื่นรู้ขึ้นของจิตที่ไร้ตัวตน 511 00:39:46,560 --> 00:39:49,300 เหมือนในความฝัน 512 00:39:49,300 --> 00:39:52,060 เมื่อตื่นขึ้นมา คุณย่อมตระหนักรู้ว่า 513 00:39:52,060 --> 00:39:53,540 ทุกสิ่งในฝัน 514 00:39:53,540 --> 00:39:56,220 เป็นเพียงความคิดของคุณเท่านั้น 515 00:39:56,220 --> 00:39:58,900 ในสมาธิ เธอได้ตระหนักรู้ว่า 516 00:39:58,920 --> 00:40:01,200 ทุกๆ สิ่งในโลกล้วนเกิดขึ้น 517 00:40:01,200 --> 00:40:06,020 ในระดับของระดับพลังงานต่างๆ ในจิตรับรู้ 518 00:40:06,900 --> 00:40:10,120 ทั้งหมดล้วนเป็นกระจกในกระจก 519 00:40:10,120 --> 00:40:12,200 เป็นความฝันในความฝัน 520 00:40:12,520 --> 00:40:15,300 ตัวตน ที่คุณคิดมาตลอดว่า คุณเป็น 521 00:40:15,300 --> 00:40:20,120 จึงเป็นทั้ง ความฝัน และ ผู้หลับฝัน 522 00:40:33,560 --> 00:40:36,920 ทุกสิ่งที่เราพูดในภาพยนตร์นี้ 523 00:40:36,920 --> 00:40:39,420 ฟังแล้วก็ปล่อยมันไป 524 00:40:39,420 --> 00:40:42,100 อย่าจับมันด้วยความคิด 525 00:40:43,080 --> 00:40:45,500 จิตวิญญาณกำลังหลับฝัน 526 00:40:45,500 --> 00:40:48,740 ความฝัน ที่ฝันถึง ความเป็นตัวคุณ 527 00:40:50,020 --> 00:40:53,560 ในฝัน ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง 528 00:40:53,840 --> 00:40:59,280 แต่มันเป็นไปได้ ที่จะตระหนักรู้ถึงสิ่งที่ไร้การเปลี่ยนแปลง 529 00:41:08,320 --> 00:41:15,240 การตระหนักรู้นี้ ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยความคิดอันจำกัด 530 00:41:22,720 --> 00:41:26,240 เมื่อเรากลับจากสมาธิ Nirvikalpa 531 00:41:26,240 --> 00:41:29,740 กระจกก็เริ่มสะท้อนให้เห็นอีกครั้ง 532 00:41:29,740 --> 00:41:31,840 และตระหนักรู้แล้วว่า 533 00:41:31,840 --> 00:41:34,500 โลกที่คุณคิดว่าคุณกำลังอาศัยอยู่ 534 00:41:34,500 --> 00:41:37,160 แท้จริงแล้วคือ "ตัวคุณ" 535 00:41:37,420 --> 00:41:42,960 ไม่ใช่ตัวตนอันจำกัด ซึ่งเป็นแค่การสะท้อนกันชั่วคราว 536 00:41:42,960 --> 00:41:46,580 แต่คุณตระหนักรู้ว่าธรรมชาติแท้ภายในคุณ 537 00:41:46,580 --> 00:41:50,660 แหล่งกำเนิดของความเป็นทั้งหมด 538 00:41:51,380 --> 00:41:54,560 นี้คือรุ่งอรุณแห่งปัญญา 539 00:41:54,560 --> 00:41:56,380 เป็นตัวอ่อน 540 00:41:56,380 --> 00:41:59,040 เป็นปัญญา "prajna" หรือ "gnosis" 541 00:41:59,040 --> 00:42:02,680 เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากสมาธิที่แท้ 542 00:42:03,240 --> 00:42:05,700 จากวารสารของโยบ 543 00:42:05,700 --> 00:42:10,640 Chokhma หรือปัญญานั้น มาจากความว่าง 544 00:42:11,080 --> 00:42:15,080 ปัญญาซึ่งทั้งขนาดเล็กอย่างอนันต์ 545 00:42:15,080 --> 00:42:18,000 แต่สามารถโอบอุ้มความเป็นทั้งหมดไว้ 546 00:42:18,000 --> 00:42:20,900 แต่เป็นสิ่งไม่อาจที่เข้าใจได้ 547 00:42:20,900 --> 00:42:25,460 จนกว่ารูปทรงและรูปลักษณ์จากพระราชวังแห่งกระจก 548 00:42:25,460 --> 00:42:27,380 ที่เรียกว่า "ไบนะห์" (binah) 549 00:42:27,380 --> 00:42:30,400 ครรภ์กำเนิดจากการแกะสลักโดยปัญญาชั้นสูง 550 00:42:30,400 --> 00:42:33,460 เพื่อก่อเกิดเป็นรูปลักษณ์ของตัวอ่อน 551 00:42:33,460 --> 00:42:35,780 ของจิตวิญญาณแห่งพระเจ้า 552 00:42:37,100 --> 00:42:42,680 [เพลง] "Abwoon d'bashmaya" by Indiajiva 553 00:43:07,560 --> 00:43:09,720 การมีอยู่ของกระจก 554 00:43:09,720 --> 00:43:13,900 หรือการมีอยู่ของจิตนั้น ไม่ใช่ปัญหา 555 00:43:14,320 --> 00:43:16,300 ตรงกันข้าม 556 00:43:16,300 --> 00:43:20,200 จุดผิดพลาดในการรับรู้ของมนุษย์ 557 00:43:20,520 --> 00:43:24,980 คือเราไปยึดมั่นว่า ตัวเราคือสิ่งเหล่านั้น 558 00:43:26,300 --> 00:43:31,420 ภาพลวงตาที่จำกัดตัวตนของเราไว้ คือ มายา 559 00:43:31,940 --> 00:43:34,200 ในโยคะสูตร กล่าวไว้ว่า 560 00:43:34,200 --> 00:43:38,420 การเข้าถึงสมาธิ จะต้องเฝ้าดู "สิ่งที่ถูกรู้" 561 00:43:38,420 --> 00:43:41,980 จนกว่า "สิ่งที่ถูกรู้" หายไป 562 00:43:42,600 --> 00:43:45,620 จนกว่าคุณได้หายไปในมัน 563 00:43:45,680 --> 00:43:48,440 หรือ มันได้หายไปในคุณ 564 00:43:49,340 --> 00:43:53,920 แม้ภาษาในปรัชญาความเชื่อต่าง ๆ นั้นแตกต่างกัน 565 00:43:53,920 --> 00:43:59,740 ที่สุดแล้ว ทั้งหมดล้วนชี้ไปยังจุดจบของการยึดมั่นในตัวตน 566 00:43:59,740 --> 00:44:02,480 และการยึดตัวตนเป็นศูนย์กลาง 567 00:44:03,140 --> 00:44:06,700 พระพุทธเจ้าทรงสอนผ่านวิธีการตัดทอน 568 00:44:06,700 --> 00:44:12,380 ทรงสอนให้พิจารณาตรงไปที่การทำงานของตัวตน 569 00:44:12,380 --> 00:44:15,160 ท่านไม่ได้บอกว่าสมาธิคืออะไร 570 00:44:15,160 --> 00:44:18,720 นอกจากว่ามันเป็นการดับทุกข์ 571 00:44:20,080 --> 00:44:22,320 ในสายเวทานตะ 572 00:44:22,320 --> 00:44:24,460 มีคำว่า "Neti Neti" 573 00:44:24,580 --> 00:44:27,740 หมายถึง "ไม่ใช่สิ่งนี้ และไม่ใช่สิ่งนั้น" 574 00:44:28,720 --> 00:44:32,040 ผู้คนที่อยู่บนทางแห่งการตระหนักรู้ตนเอง 575 00:44:32,040 --> 00:44:34,340 ได้สำรวจถึงธรรมชาติแท้จริงในตน 576 00:44:34,340 --> 00:44:36,360 หรือ ธรรมชาติของพรหมมัน 577 00:44:36,360 --> 00:44:41,460 ผ่านการค้นพบแรกสุด ก็คือ สิ่งที่พวกเขาไม่ได้เป็น 578 00:44:43,260 --> 00:44:45,640 เช่นกันในศาสนาคริสต์ 579 00:44:45,640 --> 00:44:49,820 เซนต์เทเรซาแห่งอวิลา ได้อธิบายการภาวนา 580 00:44:49,820 --> 00:44:53,900 โดยการตัดหรือละออก หรือ (via negativa) 581 00:44:54,020 --> 00:44:55,820 การภาวนาในความเงียบ 582 00:44:55,820 --> 00:44:57,900 ศิโรราบ และ หลอมรวม 583 00:44:57,900 --> 00:45:02,740 อันเป็นหนทางเดียวที่จะเข้าถึงสัจจะแท้ 584 00:45:03,620 --> 00:45:07,360 เมื่อผ่านกระบวนการค่อยๆ สละวาง 585 00:45:07,360 --> 00:45:10,820 ทิ้งทุกๆ สิ่งที่ไม่แน่นอน 586 00:45:10,820 --> 00:45:14,100 ทิ้งทุกๆ สิ่งที่เปลี่ยนแปลง 587 00:45:14,820 --> 00:45:16,080 จิตใจ 588 00:45:16,080 --> 00:45:17,960 อัตตาที่สร้างขึ้น 589 00:45:17,960 --> 00:45:19,680 และปรากฏการณ์ทั้งหมด 590 00:45:19,720 --> 00:45:22,680 รวมทั้งเปลือกของตัวตนที่ซ่อนอยู่ 591 00:45:22,680 --> 00:45:26,100 จิตไร้สำนึก จำต้องกลายเป็นโปร่งใส 592 00:45:26,100 --> 00:45:29,940 เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงแหล่งกำเนิดที่เป็นหนึ่งเดียว 593 00:45:29,940 --> 00:45:35,620 หากในส่วนลึก ยังมีการทำงานของตัวตนที่ยังไม่ถูกรับรู้ 594 00:45:35,620 --> 00:45:38,920 ชีวิตเราก็ยังถูกกักขังในเขาวงกต 595 00:45:38,920 --> 00:45:43,760 ที่เกิดมาจากตัวตนที่ยังไม่ถูกค้นพบ 596 00:45:48,720 --> 00:45:53,180 เมื่อทุกเปลือกชั้นของตัวตน ถูกเผยให้เห็นเป็นความว่าง 597 00:45:53,180 --> 00:45:56,380 เขาผู้นั้นจะเป็นอิสระจากตัวตน 598 00:45:56,380 --> 00:46:00,360 อิสระจากความคิดทั้งหมด 599 00:46:05,900 --> 00:46:08,480 จุดเปลี่ยนสำคัญทางจิตวิญญาณของคุณ 600 00:46:08,480 --> 00:46:10,580 เกิดขึ้นเมื่อคุณตระหนักรู้ว่า 601 00:46:10,580 --> 00:46:13,100 "คุณไม่รู้ว่าคุณคือใคร ?" 602 00:46:15,460 --> 00:46:18,700 ใคร...ที่กำลังรู้การหายใจ 603 00:46:19,320 --> 00:46:21,460 ใคร...ที่กำลังรู้รส 604 00:46:22,080 --> 00:46:24,900 ใคร...ที่กำลังสวดมนต์ 605 00:46:24,900 --> 00:46:26,360 ประกอบพิธีกรรม 606 00:46:26,960 --> 00:46:28,960 เต้นรำ 607 00:46:31,860 --> 00:46:33,860 ร้บรู้ภูเขา 608 00:46:34,180 --> 00:46:36,480 " เห็น ... ผู้เห็น " 609 00:46:36,500 --> 00:46:39,960 " รู้ ... ผู้รู้ " 610 00:46:40,900 --> 00:46:43,280 ครั้งแรกเมื่อ คุณ "เห็น-ผู้เห็น" 611 00:46:43,280 --> 00:46:46,680 คุณจะเห็นเพียงตัวตนปลอมที่ถูกสร้างขึ้น 612 00:46:46,680 --> 00:46:51,780 แต่เมื่อคุณหมั่นเห็นบ่อยๆ มันจะกลายเป็นเส้นทาง 613 00:46:54,520 --> 00:47:00,160 จงสำรวจโดยตรงว่า ใคร หรือ สิ่งใด...เป็นผู้รู้ 614 00:47:00,160 --> 00:47:02,020 ไม่กระพริบตา 615 00:47:02,020 --> 00:47:03,840 แน่วแน่ 616 00:47:03,840 --> 00:47:05,540 และทะลุทะลวง 617 00:47:06,540 --> 00:47:10,600 ด้วยพลังทั้งหมดของการดำรงอยู่ของคุณ 618 00:47:11,220 --> 00:47:14,760 คเต คเต " จงไป จงไป " 619 00:47:15,340 --> 00:47:19,140 ปาระ คเต " จงไปเถิด " 620 00:47:19,300 --> 00:47:22,800 ปาราสัง คเต " จงไปให้ถึง " 621 00:47:22,800 --> 00:47:31,760 โพธิ สวาหา " อันฝั่งฝาก แห่ง การตื่นรู้ นั้น...เทอญ " " 622 00:47:48,320 --> 00:47:51,440 มันไม่มี ตัวตน..ที่ตื่นรู้ 623 00:47:52,260 --> 00:47:55,920 มันไม่มี ตัวคุณ...ที่ตื่นรู้ 624 00:47:56,620 --> 00:48:02,140 มันคือการตื่นจากภาพมายา ของตัวตนอันแบ่งแยก 625 00:48:02,140 --> 00:48:05,740 ตื่นจากความฝันที่จำกัดคุณไว้ 626 00:48:05,960 --> 00:48:08,740 ซึ่งหากพูดไปก็ไร้ความหมาย 627 00:48:08,900 --> 00:48:12,360 เราต้องละวางตัวตน 628 00:48:12,600 --> 00:48:15,680 เพื่อการตระหนักรู้ ตรงสู่ความจริงที่เป็น 629 00:48:15,680 --> 00:48:21,820 เมื่อตระหนักรู้แล้ว ก็ไม่มีอะไรให้พูดให้กล่าวถึง 630 00:48:22,500 --> 00:48:25,060 เพราะทันทีที่คุณพูด 631 00:48:25,060 --> 00:48:27,920 คุณก็กลับมาใช้ความคิด 632 00:48:27,920 --> 00:48:32,420 กระทั่งผมเอง ก็ได้กล่าวมากไปเสียแล้ว 633 00:48:40,560 --> 00:48:43,920 ปกติแล้ว มีจิตสำนึกรู้ 3 ระดับ 634 00:48:44,120 --> 00:48:45,320 ตื่น 635 00:48:45,320 --> 00:48:46,220 ฝัน 636 00:48:46,220 --> 00:48:48,080 และ หลับลึก 637 00:48:48,280 --> 00:48:52,280 บางครั้ง สมาธิ ถูกจัดเป็นระดับที่ 4 638 00:48:52,460 --> 00:48:55,280 เป็นฐานแห่งจิตรับรู้ 639 00:48:55,280 --> 00:48:57,760 คือจิตตื่นรู้ดั้งเดิม 640 00:48:57,760 --> 00:49:01,920 ที่สามารถเป็นจิตรู้ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง 641 00:49:01,920 --> 00:49:05,100 ควบคู่ไปกับจิตสำนึกในระดับอื่นๆ 642 00:49:05,680 --> 00:49:09,720 ในสายเวทานตะ เรียกสิ่งนี้ว่า Turiya 643 00:49:11,860 --> 00:49:14,120 นิยามอื่นของ Turiya 644 00:49:14,120 --> 00:49:16,000 คือ จิตแห่งพระคริสต์ 645 00:49:16,000 --> 00:49:17,960 จิตแห่งพระกฤษณะ 646 00:49:17,960 --> 00:49:22,700 ธรรมชาติแห่งพุทธะ หรือ สหจะสมาธิ 647 00:49:23,320 --> 00:49:27,820 ใน สหจะสมาธิ จิตดั่งเดิมสามารดำรงอยู่ในปัจจุบัน 648 00:49:27,820 --> 00:49:32,540 พร้อมไปกับการทำงานตามปกติของมนุษย์ 649 00:49:32,640 --> 00:49:35,260 คือ ความสงบอันไม่เคลื่อนไหว 650 00:49:35,260 --> 00:49:38,980 ณ ใจกลางของพลวัตรแห่งการเปลี่ยนแปลง 651 00:49:39,280 --> 00:49:40,940 ความคิด ความรู้สึก 652 00:49:40,960 --> 00:49:42,720 การรับรู้ และ พลังงาน 653 00:49:42,720 --> 00:49:46,380 ปรากฏหมุนเวียน และโคจรอยู่รอบ 654 00:49:46,380 --> 00:49:50,440 แต่ระดับของความสงบนิ่ง หรือ ความเป็นฉัน (I-am-ness) 655 00:49:50,440 --> 00:49:53,120 ดำรงอยู่ท่ามกลางทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้น 656 00:49:53,120 --> 00:49:57,020 เหมือนเช่นในการปฏิบัติสมาธิภาวนา 657 00:49:58,020 --> 00:50:04,660 มันเป็นไปได้ที่ ตัวตนเดิมแท้นั้นยังดำรงอยู่ แม้ในภาวะหลับลึก 658 00:50:05,200 --> 00:50:08,720 ในขณะที่นอนหลับลึก การตระหนักรู้ในความ "เป็น" (I am) 659 00:50:08,720 --> 00:50:10,720 ไม่มีการมา ไม่มีการไป 660 00:50:10,900 --> 00:50:14,780 แม้ในการเปลี่ยนระดับของจิตรับรู้ 661 00:50:21,060 --> 00:50:24,440 นี่คือ การนอนหลับของโยคี 662 00:50:25,280 --> 00:50:29,560 ในบทเพลงแห่งเพลง หรือบทเพลงแห่งโซโลมอน 663 00:50:29,560 --> 00:50:32,960 จากคัมภีร์ฮีบรู ฉบับพันธะสัญญาเดิมกล่าวว่า 664 00:50:32,960 --> 00:50:36,640 "ข้านอนหลับ แต่ใจข้าตื่นอยู่" 665 00:50:37,200 --> 00:50:42,200 การตระหนักรู้ เข้าถึงจิตที่ไร้ตัวตนนี้ 666 00:50:42,340 --> 00:50:46,520 ถูกสะท้อนในถ้อยคำของพระคริสต์เมื่อตรัสว่า 667 00:50:46,520 --> 00:50:49,520 "แม้ก่อนอับราฮัมเกิด 668 00:50:49,520 --> 00:50:52,220 ...เราดำรงอยู่" 669 00:50:57,000 --> 00:51:01,540 จิตหนึ่งนี้เอง ที่ได้ส่องแสงผ่านใบหน้ามากมาย 670 00:51:01,540 --> 00:51:05,160 ผ่านรูปลักษณ์นับไม่ถ้วน 671 00:51:16,820 --> 00:51:19,900 ตอนแรก มันคล้ายเปลวไฟบางเบา 672 00:51:19,900 --> 00:51:23,080 ที่ผุดจากกระแสสัมผัสในตัวคุณ 673 00:51:23,080 --> 00:51:27,520 จิตสำนึกบุรุษ เข้าสู่การตระหนักรู้อย่างศิโรราบ 674 00:51:27,520 --> 00:51:30,660 และเปิดรับต่อพลังงานสตรี 675 00:51:30,660 --> 00:51:34,020 มันทั้งบอบบางและหายไปโดยง่าย 676 00:51:34,020 --> 00:51:37,820 ผู้นั้นจึงต้องใส่ใจอย่างยิ่งในการปกป้อง 677 00:51:37,820 --> 00:51:41,340 และรักษาไว้จนกว่ามันจะเติบโหญ่ 678 00:51:44,280 --> 00:51:49,040 สมาธิ เป็นทั้งสภาวะนิรันดร์ของจิตรู้ 679 00:51:49,040 --> 00:51:53,740 และสภาวะแห่งลำดับของการพัฒนา 680 00:51:53,740 --> 00:51:58,300 เป็นบางสิ่งที่เป็นธรรมชาติ และเติบโตผ่านเวลา 681 00:52:05,180 --> 00:52:09,560 เมื่อเราเจริญในสมาธิมากขึ้นๆ 682 00:52:09,560 --> 00:52:13,380 ในปัจจุบันขณะ อย่างไร้กาลเวลา 683 00:52:14,300 --> 00:52:17,980 ผู้นั้นจะเข้าถึงเส้นทางที่ตรงไปยัง ใจ 684 00:52:17,980 --> 00:52:20,920 จิตวิญญาณ หรือ อัตมัน 685 00:52:21,600 --> 00:52:26,960 และ ตัวตนที่สร้างขึ้นเบาบางลง 686 00:52:29,480 --> 00:52:33,360 นี่คือวิธีที่เราจะเป็นอิสระจากจิตที่หลง 687 00:52:33,360 --> 00:52:37,220 อิสระจากกับดักของความคิด 688 00:52:39,160 --> 00:52:41,980 กระแสภายในจะเปลี่ยนไป 689 00:52:42,040 --> 00:52:47,480 พลังงานจะไม่ไหลไปสู่ตัวตนเก่าที่จิตสร้างขึ้น 690 00:52:48,820 --> 00:52:54,780 กล่าวคือ เขาจะไม่หลงไปยึดในตัวตนที่จิตสร้างขึ้น 691 00:52:54,820 --> 00:52:59,320 ผ่านโลกภายนอก...อีกต่อไป 692 00:53:11,300 --> 00:53:16,840 เพื่อตระหนักรู้ถึงสมาธิ ต้องอาศัยความพยายามอย่างยิ่งยวด 693 00:53:16,840 --> 00:53:19,840 ในการศิโรราบอย่างสิ้นเชิงต่อจิตหนึ่ง 694 00:53:19,900 --> 00:53:23,520 และศิโรราบอย่างยินยอม 695 00:53:23,520 --> 00:53:27,120 พร้อมด้วยความเพียร 696 00:53:27,200 --> 00:53:30,820 และพลังงานทั้งหมดของเขา 697 00:53:31,820 --> 00:53:35,600 เป็นสมดุลของความพยายามและศิโรราบ 698 00:53:35,720 --> 00:53:37,560 หยินและหยาง 699 00:53:37,560 --> 00:53:41,800 เป็นความเพียรที่ปราศจากความพยายาม 700 00:53:48,180 --> 00:53:50,500 รหัสยิกโยคีชาวอินเดีย 701 00:53:50,500 --> 00:53:53,900 ปรามาหังสา รามากฤษณะ กล่าวไว้ว่า 702 00:53:54,380 --> 00:53:56,940 "อย่าได้แสวงหาการรู้แจ้ง 703 00:53:56,940 --> 00:53:59,740 จนกว่าเธอจะรู้สึกเหมือนมีไฟไหม้อยู่บนหัว 704 00:53:59,740 --> 00:54:02,360 จนต้องรีบหาบ่อน้ำ" 705 00:54:02,440 --> 00:54:06,800 คุณแสวงหาด้วยความเป็นทั้งหมดของคุณ 706 00:54:06,800 --> 00:54:10,200 ในระหว่างการปฏิบัติเพื่อก้าวข้ามอัตตา 707 00:54:10,200 --> 00:54:14,400 ต้องอาศัยความกล้าหาญ ความใส่ใจ และความอดทน 708 00:54:14,400 --> 00:54:18,380 ดุจรักษาตัวอ่อนให้มีชีวิต 709 00:54:19,320 --> 00:54:22,940 เพื่อไม่กลับตกไปสู่กับดับของโลก 710 00:54:23,460 --> 00:54:27,620 มันต้องการความมุ่งมั่นที่จะสวนกระแส 711 00:54:27,620 --> 00:54:30,920 ทนต่อการถูกกระทบในโครงสร้างสังคม 712 00:54:30,920 --> 00:54:34,380 และกงล้อที่คอยบดขยี้ในสังสารวัฏ 713 00:54:34,660 --> 00:54:39,100 ทุกลมหายใจ ทุกความคิด ทุกการกระทำ 714 00:54:39,100 --> 00:54:42,920 หมั่นระลึกรู้ถึงแหล่งกำเนิด 715 00:54:42,920 --> 00:54:48,160 สมาธิไม่อาจเข้าถึงได้ด้วยความเพียรและไร้ความเพียร 716 00:54:48,160 --> 00:54:51,200 จงละวางทั้งความพยายามและไม่พยายาม 717 00:54:51,200 --> 00:54:55,360 มันคือทวิภาวะที่ปรากฏอยู่ในจิตคิด 718 00:54:56,260 --> 00:55:00,580 การตระหนักรู้สมาธิที่แท้นั้นเรียบง่าย 719 00:55:00,580 --> 00:55:03,300 และไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด 720 00:55:03,300 --> 00:55:08,780 เหมือนดั่งที่ถูกเข้าใจผิดผ่านภาษาซึ่งเป็นทวิภาวะ 721 00:55:09,320 --> 00:55:14,480 มีเพียงจิตต้นกำเนิดนี้เท่านั้น ที่ตื่นรู้อยู่ในโลก 722 00:55:15,200 --> 00:55:20,520 แต่ถูกบดบังไว้ด้วยเปลือกชั้นของจิตใจ 723 00:55:20,520 --> 00:55:23,860 เหมือนดวงอาทิตย์ถูกบดบังหลังก้อนเมฆ 724 00:55:23,860 --> 00:55:26,860 เมื่อแต่ละเปลือกชั้นของจิตคิดหลุดหายไป 725 00:55:26,860 --> 00:55:30,700 ตัวตนที่แท้จริงก็ถูกเปิดเผย 726 00:55:33,740 --> 00:55:35,980 เปลือกชั้นของจิตคิดหายไป 727 00:55:35,980 --> 00:55:39,180 ผู้คนเรียกสมาธินั้นแตกต่างกันไป 728 00:55:39,180 --> 00:55:45,260 เรียกของประสบการณ์และปรากฏการณ์ต่างๆ กันไป 729 00:55:55,380 --> 00:55:57,900 แต่สมาธิแท้จริงช่างเรียบง่าย 730 00:55:57,900 --> 00:56:00,980 พอมีคนบอกว่ามันคืออะไร เข้าถึงได้อย่างไร 731 00:56:00,980 --> 00:56:04,160 ความคิดของคุณ ก็พาคุณพลาดไปเสมอ 732 00:56:05,440 --> 00:56:10,280 ที่จริงแล้ว สมาธิไม่ใช่ทั้งง่ายหรือยาก 733 00:56:11,040 --> 00:56:14,840 ความคิดเท่านั้นที่ปรุงแต่งให้มันเป็น 734 00:56:15,360 --> 00:56:18,580 เมื่อไม่มีความคิด ก็ไม่มีปัญหา 735 00:56:18,580 --> 00:56:24,360 เพราะความคิดคือสิ่งที่ต้องยุติ ก่อนการตระหนักรู้ 736 00:56:24,780 --> 00:56:28,440 มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกทำให้เกิดขึ้น 737 00:56:37,140 --> 00:56:40,140 คำสอนที่ลัดสั้นของสมาธิ 738 00:56:40,140 --> 00:56:42,400 อาจพบได้ในวลีนี้ 739 00:56:43,380 --> 00:56:51,000 " จงสงบ และ รู้ " 740 00:56:59,660 --> 00:57:04,380 เราจะใช้คำและภาพเพื่อสื่อความสงบนิ่งได้อย่างไร? 741 00:57:04,380 --> 00:57:08,220 เราจะถ่ายทอดความเงียบโดยใช้เสียงได้หรือ ? 742 00:57:09,560 --> 00:57:14,560 แทนที่จะพูดถึงสมาธิให้เป็นหลักการแนวคิด 743 00:57:14,560 --> 00:57:20,220 ภาพยนตร์นี้คือเสียงเรียกแห่งการ "ไม่กระทำ" 744 00:57:20,220 --> 00:57:22,460 เสียงเรียกแห่งการภาวนา 745 00:57:22,460 --> 00:57:24,080 ความเงียบภายใน 746 00:57:24,080 --> 00:57:26,080 การภาวนาภายใน 747 00:57:27,940 --> 00:57:28,520 เสียงเรียกเพื่อ 748 00:57:28,520 --> 00:57:32,880 "หยุด" 749 00:57:39,020 --> 00:57:45,280 หยุดทุกสิ่งที่ถูกขับเคลื่อนโดยความคิดของอัตตา 750 00:57:46,740 --> 00:57:50,660 " จงสงบ และ รู้ " 751 00:57:55,160 --> 00:58:00,200 ไม่มีใครบอกได้ว่า สิ่งใดจะปรากฏขึ้นจากความสงบนิ่ง 752 00:58:00,200 --> 00:58:05,400 นี่คือเสียงเรียกสู่กระทำ จากหัวใจของจิตวิญญาณ 753 00:58:22,280 --> 00:58:26,380 มันเหมือนการหวนรำลึกถึงบางสิ่งที่เก่าแก่ 754 00:58:26,380 --> 00:58:30,620 จิตวิญญาณตื่นขึ้นและจดจำตัวมันเองได้ 755 00:58:30,920 --> 00:58:33,640 มันได้ผ่านการเป็นนักเดินทางผู้หลับใหล 756 00:58:33,640 --> 00:58:36,200 แต่ขณะนี้ ความว่างได้ตื่นขึ้นแล้ว 757 00:58:36,200 --> 00:58:41,180 และได้ตระหนักรู้ตนเองว่าเป็นทุกสิ่งทั้งหมด 758 00:58:44,840 --> 00:58:47,420 คุณไม่อาจจินตนาการถึงสมาธิได้ 759 00:58:47,420 --> 00:58:50,000 ด้วยความคิดอันจำกัดของอัตตา 760 00:58:50,020 --> 00:58:54,860 เช่นเดียวกับที่คุณไม่อาจอธิบายให้คนตาบอดเข้าใจถึงสี 761 00:58:54,860 --> 00:59:00,120 ความคิดของคุณไม่อาจรู้ ความคิดไม่อาจสร้างมันขึ้น 762 00:59:02,040 --> 00:59:06,080 การตระหนักรู้ในสมาธิคือการเห็นที่แตกต่าง 763 00:59:06,080 --> 00:59:08,740 มันไม่ใช่การเห็น "สิ่งที่ถูกเห็น" 764 00:59:08,740 --> 00:59:12,880 แต่เป็นการตระหนักรู้ "ผู้เห็น" 765 00:59:16,000 --> 00:59:18,600 นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี กล่าวไว้ว่า 766 00:59:18,600 --> 00:59:23,040 " สิ่งที่เธอกำลังมองหา คือ สิ่งที่กำลังมองอยู่ " 767 00:59:24,260 --> 00:59:27,260 เมื่อคุณได้เห็นดวงจันทร์ 768 00:59:27,260 --> 00:59:31,300 คุณย่อมจำมันได้ในทุกการสะท้อน 769 00:59:32,440 --> 00:59:36,280 ตัวตนที่แท้จริง อยู่ตรงนั้นเสมอมา 770 00:59:36,280 --> 00:59:38,260 มันอยู่ในทุกๆ สิ่ง 771 00:59:38,560 --> 00:59:42,500 แค่คุณยังไม่ได้ตระหนักรู้ถึงการมีอยู่ของมัน 772 00:59:43,900 --> 00:59:47,560 เมื่อคุณตระหนักรู้ และดำเนินชีวิต 773 00:59:47,560 --> 00:59:51,500 ด้วยจิตเดิมแท้ที่อยู่เหนือความคิดและความรู้สึก 774 00:59:51,680 --> 00:59:54,680 คุณจะเริ่มสัมผัสความอัศจรรย์ 775 00:59:54,680 --> 00:59:57,600 ในแทบทุกปรากฏการณ์ของชีวิต 776 00:59:58,300 --> 01:00:01,580 เรากลายเป็นความอัศจรรย์ 777 01:00:09,120 --> 01:00:12,360 ไม่ต้องพยายามเป็นอิสระจากความอยาก 778 01:00:12,360 --> 01:00:17,180 เพราะความพยายามเป็นอิสระ ก็เป็นความอยาก 779 01:00:17,380 --> 01:00:20,140 คุณไม่อาจพยายามสงบนิ่ง 780 01:00:20,140 --> 01:00:24,760 เพราะทุกความพยายาม ก็คือการเคลื่อนไหว 781 01:00:26,420 --> 01:00:31,700 เพียงตระหนักรู้ถึงความสงบ อันเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว 782 01:00:32,820 --> 01:00:37,140 " จงสงบ และ รู้ " 783 01:00:39,200 --> 01:00:44,200 เมื่อการให้ค่าทั้งหมดยุติ จิตเดิมแท้ก็เผยตัวออกมา 784 01:00:44,200 --> 01:00:47,660 แต่ก็ไม่ควรยึดมั่นแม้จิตเดิมแท้ 785 01:00:47,660 --> 01:00:49,560 ความเป็นจริงที่ยิ่งใหญ่ 786 01:00:49,560 --> 01:00:50,660 เต๋านั้น 787 01:00:50,660 --> 01:00:52,020 ไม่ใช่หนึ่ง 788 01:00:52,200 --> 01:00:54,200 ไม่ใช่สอง 789 01:00:55,580 --> 01:00:57,760 ท่านรามานามหาฤษี กล่าวไว้ว่า 790 01:00:57,760 --> 01:01:00,820 "จิตเดิมแท้มีเพียงหนึ่ง 791 01:01:00,820 --> 01:01:02,640 หากมันจำกัด 792 01:01:02,640 --> 01:01:04,480 มันคืออัตตา 793 01:01:04,560 --> 01:01:06,440 หากมันไร้จำกัด 794 01:01:06,440 --> 01:01:11,360 มันคือ อนันตะ และความจริงอันยิ่งใหญ่" 795 01:01:15,780 --> 01:01:20,720 หากคุณเชื่อในสิ่งที่ถูกกล่าวไว้ คุณก็ยังพลาดอยู่ 796 01:01:20,720 --> 01:01:24,560 หากคุณไม่เชื่อ คุณก็พลาดมันไปเช่นกัน 797 01:01:24,560 --> 01:01:29,160 การเชื่อและไม่เชื่อนั้น ทำงานในระดับของจิตคิด 798 01:01:29,160 --> 01:01:31,840 มันต้องการการรู้ 799 01:01:31,860 --> 01:01:35,120 หากคุณเข้าสู่การสำรวจด้วยตนเอง 800 01:01:35,120 --> 01:01:38,580 พิจารณาในแง่มุมทั้งหมดของความเป็นคุณ 801 01:01:38,580 --> 01:01:41,800 ค้นหาว่า "ใคร" เป็นผู้สำรวจค้นหา 802 01:01:41,800 --> 01:01:44,460 ถ้าคุณพร้อมใช้ชีวิตบนหลักการที่ว่า 803 01:01:44,460 --> 01:01:48,660 "ไม่ใช่ความอยากของฉัน แต่เป็นความสำเร็จจากเบื้องบน" 804 01:01:48,660 --> 01:01:52,320 หากคุณยินดีที่เดินทางผ่านเหนือความรู้ทั้งมวลแล้ว 805 01:01:52,320 --> 01:01:56,700 คุณก็อาจตระหนักรู้ได้ ถึงสิ่งที่ผมพยายามชี้ทางให้ 806 01:01:57,080 --> 01:01:59,960 เมื่อนั้น คุณจะสามารถลิ้มรสด้วยตัวคุณเอง 807 01:01:59,960 --> 01:02:06,160 ถึงความมหัศจรรย์ และความงามของการดำรงอยู่ที่เรียบง่าย 808 01:02:08,740 --> 01:02:12,480 ยังมีอีกหนึ่งหนทางในชีวิตที่เป็นไปได้ 809 01:02:12,500 --> 01:02:16,420 มีบางสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ ล้ำลึก 810 01:02:16,420 --> 01:02:21,220 ที่ค้นพบได้ในความสงบส่วนลึกแห่งการดำรงอยู่ของคุณ 811 01:02:21,220 --> 01:02:25,060 อยู่เหนือความคิด เหนือความเชื่อ 812 01:02:25,060 --> 01:02:30,440 เหนือกฎเกณฑ์เงื่อนไข และการให้ค่าต่างๆ ทั้งหมด 813 01:02:33,100 --> 01:02:36,100 มันไม่ต้องการเทคนิค พิธีกรรม 814 01:02:36,100 --> 01:02:39,260 หรือการปฏิบัติใดๆ 815 01:02:39,260 --> 01:02:42,260 ไม่มีวิธีการใดเพื่อที่จะได้รับ 816 01:02:42,260 --> 01:02:44,060 ไม่มีระบบใด 817 01:02:44,060 --> 01:02:47,500 ไม่มีหนทางเพื่อไปสู่หนทาง 818 01:02:52,980 --> 01:02:54,960 ดั่งคำสอนของเซน 819 01:02:54,960 --> 01:03:00,200 มันคือการค้นพบใบหน้าเดิมแท้ ก่อนที่คุณเกิด 820 01:03:00,200 --> 01:03:04,440 มันไม่ใช่การเพิ่มสิ่งใดในตัวคุณ 821 01:03:05,600 --> 01:03:08,940 มันคือการเป็นแสงสว่างแก่ตัวเธอเอง 822 01:03:08,940 --> 01:03:13,620 แสงที่ส่องขจัดภาพลวงของอัตตา 823 01:03:16,780 --> 01:03:20,980 หาไม่แล้ว ชีวิตก็ยังคงรอการเต็มเติม 824 01:03:20,980 --> 01:03:24,540 ใจ ก็ยังปราศจากการผ่อนพัก 825 01:03:24,540 --> 01:03:26,980 จนกว่า การเข้าถึงการหยุดพัก 826 01:03:26,980 --> 01:03:34,280 ในความมหัศจรรย์ที่อยู่เหนือนามและรูปทั้งปวง 827 01:03:38,540 --> 01:03:40,800 แปลไทยโดย 828 01:03:40,800 --> 01:03:44,600 โครงการขับเคลื่อนสังคมแห่งการตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกัน 829 01:03:44,600 --> 01:03:47,420 - We Oneness - 830 01:03:47,420 --> 01:03:50,100 สนับสนุน โดย สสส. 831 01:03:57,180 --> 01:04:01,200 [เพลง] โอม พระแม่ลักษมี Om Shreem Lakshmi 832 01:04:05,900 --> 01:04:14,240 "จงนิ่ง และ รู้เถิดว่า เราคือพระเจ้า" - สดุดี 46:10 833 01:04:22,160 --> 01:04:30,340 "เพื่อตระหนักรู้ตัวตนแท้ จงสงบนิ่ง" - รามาณา มหาฤษี 834 01:04:40,620 --> 01:04:51,940 "ความศักดิสิทธิ์จะกล่าวกับเธอในความเงียบของใจเธอ และจะนำทางเธอไปสู่เป้าหมายของเธอ" - มิลร่า อัลฟาซ่า "The Mother"