0:00:00.844,0:00:03.222 เวลาที่นึกถึงอคติหรือความลำเอียง 0:00:03.222,0:00:05.366 เรานึกถึงคนโง่เง่าและชั่วร้าย 0:00:05.366,0:00:07.820 ที่ทำเรื่องโง่เง่าและชั่วร้าย 0:00:07.820,0:00:09.890 และความคิดแบบนี้ก็ได้รับการสรุป 0:00:09.890,0:00:12.358 โดยนักวิจารณ์ชาวอังกฤษ วิลเลียม แฮซลิตต์ 0:00:12.358,0:00:15.293 ผู้เขียน [br]"อคติคือลูกหลานของความเพิกเฉยไม่ใส่ใจ" 0:00:15.293,0:00:17.405 ผมอยากจะโน้มน้าวคุณสักหน่อย 0:00:17.405,0:00:19.040 ว่านี่เป็นสิ่งที่เข้าใจกันผิด 0:00:19.040,0:00:20.772 ผมอยากพูดให้คุณเชื่อว่า 0:00:20.772,0:00:22.495 อคติและความลำเอียง 0:00:22.495,0:00:25.783 เป็นเรื่องธรรมชาติ บ่อยครั้งเป็นเรื่องมีเหตุผล 0:00:25.783,0:00:27.614 และบางครั้งก็เป็นสิ่งที่มีศีลธรรม 0:00:27.614,0:00:29.866 และผมคิดว่าเมื่อเราเข้าใจธรรมชาติของมัน 0:00:29.866,0:00:32.375 เราก็จะเข้าใจมันได้ดีขึ้น 0:00:32.375,0:00:33.432 เมื่อเราใช้มันแบบผิดๆ 0:00:33.432,0:00:35.200 แล้วเกิดผลร้ายตามมา 0:00:35.200,0:00:37.525 และเราก็จะได้รู้วิธีที่ดีกว่าเพื่อจัดการกับมัน 0:00:37.525,0:00:39.207 เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น 0:00:39.207,0:00:42.234 เรามาเริ่มกันที่การเหมารวม คุณมองมาที่ผม 0:00:42.234,0:00:44.480 คุณรู้จักชื่อผม[br]รู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับผม 0:00:44.480,0:00:46.309 และคุณก็อาจตัดสินเรื่องบางอย่าง[br]เกี่ยวกับตัวผมได้ 0:00:46.309,0:00:49.162 คุณอาจเดาเรื่องเชื้อชาติของผม 0:00:49.162,0:00:52.443 ความมีส่วนร่วมทางการเมือง [br]ความเชื่อทางศาสนา 0:00:52.443,0:00:54.542 และที่จริง [br]การตัดสินเบื้องต้นเหล่านี้ก็มักถูกต้อง 0:00:54.542,0:00:56.724 เราเก่งเรื่องแบบนี้ 0:00:56.724,0:00:58.207 และที่เราเก่งเรื่องแบบนี้ 0:00:58.207,0:01:00.940 เพราะความสามารถในการจัดกลุ่มผู้คน 0:01:00.940,0:01:04.195 ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นลอยๆ ในใจโดยไม่มีเหตุผล 0:01:04.195,0:01:06.511 แต่เป็นกรณีจำเพาะ 0:01:06.511,0:01:08.166 ของกระบวนการตามธรรมชาติ 0:01:08.166,0:01:09.785 ซึ่งก็คือ เมื่อเรามีประสบการณ์บางอย่าง 0:01:09.785,0:01:11.326 กับสิ่งของหรือผู้คนในโลกใบนี้ 0:01:11.326,0:01:12.575 ที่เราสามารถจัดกลุ่มได้ 0:01:12.575,0:01:15.031 เราก็สามารถใช้ประสบการณ์ของเรา[br]ในการกำหนดลักษณะอย่างกว้างๆ 0:01:15.031,0:01:17.390 ของประสบการณ์ใหม่ที่อยู่ในหมวดหมู่เหล่านี้ 0:01:17.390,0:01:19.757 ทุกคนที่นี่คงเคยมีประสบการณ์มากมาย 0:01:19.757,0:01:22.010 ที่เกี่ยวกับเก้าอี้ แอปเปิ้ล และสุนัข 0:01:22.010,0:01:23.646 และสิ่งเหล่านี้ คงทำให้คุณเห็นได้ 0:01:23.646,0:01:25.998 ถึงตัวอย่างที่คุณไม่คุ้นเคย [br]และคุณก็สามารถเดาได้ 0:01:25.998,0:01:27.314 ว่าคุณนั่งบนเก้าอี้ได้ 0:01:27.314,0:01:29.879 แอปเปิ้ลกินได้ และสุนัขคงจะเห่า 0:01:29.879,0:01:31.643 แต่เราอาจเดาผิด 0:01:31.643,0:01:33.443 เก้าอี้อาจล้มพับลงถ้าเรานั่ง 0:01:33.443,0:01:35.665 แอปเปิ้ลอาจอาบยาพิษ สุนัขอาจจะไม่เห่า 0:01:35.665,0:01:38.535 และที่จริง นี่สุนัขผมชื่อเทสซี่ และมันไม่เห่า 0:01:38.535,0:01:41.294 แต่ส่วนใหญ่ เราเก่งเรื่องพวกนี้ 0:01:41.294,0:01:43.210 ส่วนใหญ่แล้ว เราเดาเรื่องพวกนี้ถูก 0:01:43.210,0:01:45.024 ทั้งในแง่ที่เกี่ยวข้องกับสังคม และส่วนที่ไม่เกี่ยว 0:01:45.024,0:01:46.973 และถ้าเราไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น 0:01:46.973,0:01:50.189 ถ้าเราไม่มีความสามารถในการคาดเดา[br]สิ่งใหม่ๆ ที่เราพบเจอ 0:01:50.189,0:01:51.640 เราอาจไม่มีชีวิตรอด 0:01:51.640,0:01:54.509 ที่จริง แฮซลิตต์ได้เขียนไว้ในบทความชิ้นถัดมา 0:01:54.509,0:01:55.994 ยอมรับว่าจริง 0:01:55.994,0:01:58.536 เขาเขียนว่า "ถ้าไม่ได้อคติและ[br]ธรรมเนียมปฎิบัติคอยช่วยไว้ 0:01:58.536,0:02:00.876 ผมคงไม่รู้วิธีที่จะเดินข้ามไปอีกฟากของห้อง 0:02:00.876,0:02:03.328 หรือไม่รู้วิธีปฏิบัติตัวไม่ว่าในสถานการณ์ไหน 0:02:03.328,0:02:07.531 และไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร[br]ในแง่มุมต่างๆ ที่เกี่ยวกับชีวิต" 0:02:07.531,0:02:09.040 หรือความลำเอียง 0:02:09.040,0:02:10.748 บางครั้ง เราก็แบ่งโลกเป็นสองฟาก 0:02:10.748,0:02:13.749 พวกเรากับพวกเขา คนในกลุ่มกับนอกกลุ่ม 0:02:13.749,0:02:14.910 และบางครั้งเวลาที่เราทำแบบนี้ 0:02:14.910,0:02:16.467 เราก็รู้ว่าเรากำลังทำอะไรผิด 0:02:16.467,0:02:18.140 แล้วก็รู้สึกละอาย 0:02:18.140,0:02:19.623 แต่บางครั้งเราก็รู้สึกภูมิใจ 0:02:19.623,0:02:21.436 เรายอมรับว่าเราลำเอียงได้อย่างเปิดเผย 0:02:21.436,0:02:22.718 และตัวอย่างที่ผมชอบมาก 0:02:22.718,0:02:25.120 คือคำถามที่มาจากกลุ่มผู้ฟัง 0:02:25.120,0:02:27.837 การอภิปรายของพรรครีพลับลิกัน[br]ก่อนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 0:02:27.837,0:02:30.129 แอนเดอร์สัน คูเปอร์: มีใครมีคำถามอะไรไหม 0:02:30.129,0:02:34.310 มีคำถามเรื่องความช่วยเหลือต่างประเทศไหมครับ[br]เชิญครับ 0:02:34.310,0:02:36.546 ผู้ฟัง: ชาวอเมริกันกำลังเป็นทุกข์ 0:02:36.546,0:02:39.183 อยู่ในประเทศของตัวเองอยู่ 0:02:39.183,0:02:42.531 ทำไมเรายังต้องส่งความช่วยเหลือ 0:02:42.531,0:02:43.847 ไปต่างประเทศอีก 0:02:43.847,0:02:47.950 ในเมื่อสิ่งที่จำเป็นจริงๆ คือการเอาตัวเองให้รอด 0:02:47.950,0:02:49.645 แอนเดอร์สัน: ท่านผู้ว่าฯ เพอร์รี ว่าอย่างไรครับ 0:02:49.645,0:02:51.012 (เสียงปรบมือ) 0:02:51.012,0:02:53.350 ริค เพอร์รี: แน่นอนที่สุด ผมคิดว่า... 0:02:53.350,0:02:55.010 พอล บลูม: คนบนเวทีแต่ละคน 0:02:55.010,0:02:56.981 ต่างเห็นด้วยกับข้อเสนอในคำถามของเธอ 0:02:56.981,0:02:59.100 ซึ่งก็คือ ในฐานะที่เราเป็นคนอเมริกัน เราก็ควรใส่ใจ 0:02:59.100,0:03:01.226 เรื่องของคนอเมริกันมากกว่าเรื่องของคนอื่น 0:03:01.226,0:03:04.091 และที่จริงแล้ว โดยทั่วๆ ไป คนเราก็มักเอนเอียง 0:03:04.091,0:03:07.599 ไปหาความรู้สึกเช่น ความสามัคคี ความจงรักภักดี [br]ความภาคภูมิใจ ความรักชาติ 0:03:07.599,0:03:10.315 ที่มีให้ประเทศชาติ หรือให้คนเชื้อชาติเดียวกัน 0:03:10.315,0:03:13.400 ไม่ว่าจะมีความเห็นทางการเมืองแบบใด[br]หลายๆ คนก็รู้สึกภูมิใจที่เป็นคนอเมริกัน 0:03:13.400,0:03:15.462 และเชิดชูชาวอเมริกันไว้เหนือชาติอื่นๆ 0:03:15.462,0:03:18.312 ประชากรในประเทศอื่นๆ[br]ก็รู้สึกเช่นเดียวกับชาติตัวเอง 0:03:18.312,0:03:20.798 และเราก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับเรื่องเชื้อชาติ 0:03:20.798,0:03:22.482 คุณบางคนอาจจะนึกแย้งอยู่ในใจ 0:03:22.482,0:03:24.203 คุณบางคนอาจเป็นคนเปิดกว้างทางวัฒนธรรม 0:03:24.213,0:03:26.547 และคิดว่าเรื่องเชื้อชาติและสัญชาติ 0:03:26.547,0:03:28.700 ไม่ควรอยู่เหนือเรื่องศีลธรรม 0:03:28.700,0:03:31.462 แต่แม้คุณๆ ซึ่งผ่านโลกมามาก ก็ยังยอมรับ 0:03:31.462,0:03:33.296 ว่าก็ยังเอนเอียง 0:03:33.296,0:03:35.997 ไปเข้าข้างคนในกลุ่มเดียวกัน[br]เช่น คนที่เป็นเพื่อนและครอบครัว 0:03:35.997,0:03:37.418 คนที่รู้สึกสนิทสนม 0:03:37.418,0:03:38.979 เพราะฉะนั้น แม้แต่คุณเองก็ยังแบ่งแยก 0:03:38.979,0:03:40.954 เป็นพวกเรา พวกเขา 0:03:40.954,0:03:43.557 การแบ่งพวกเช่นนี้เป็นธรรมชาติมาก 0:03:43.557,0:03:46.481 และบ่อยครั้งก็เป็นสิ่งที่มีศีลธรรม[br]แต่บางครั้งเราก็ทำพลาด 0:03:46.481,0:03:48.210 สิ่งนี้อยู่ในวิจัย 0:03:48.210,0:03:50.969 ของนักสังคมจิตวิทยา อองรี ทาจเฟล 0:03:50.969,0:03:53.574 ทาจเฟลเกิดในโปแลนด์ ในปี ค.ศ. 1919 0:03:53.574,0:03:55.713 จากนั้นไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส 0:03:55.713,0:03:58.268 เพราะความที่เป็นยิว ทำให้เขา[br]เรียนมหาวิทยาลัยในโปแลนด์ไม่ได้ 0:03:58.268,0:04:00.778 จากนั้นเขาก็เข้าร่วมในกองทัพฝรั่งเศส 0:04:00.778,0:04:02.061 ในสงครามโลกครั้งที่สอง 0:04:02.061,0:04:03.830 ถูกจับและมาลงเอย 0:04:03.830,0:04:05.361 ที่ค่ายนักโทษสงคราม 0:04:05.361,0:04:07.628 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าพรั่นพรึงสำหรับเขา 0:04:07.628,0:04:09.316 เพราะถ้ามีใครรู้ว่าเขาเป็นยิว 0:04:09.316,0:04:11.408 เขาก็จะถูกย้ายไปอยู่ในค่ายกักกัน 0:04:11.408,0:04:13.400 และโอกาสรอดชีวิตก็คงแทบไม่มี 0:04:13.400,0:04:15.987 และเมื่อสงครามสิ้นสุดลง และเขาได้รับการปล่อยตัว 0:04:15.987,0:04:18.492 ครอบครัวและเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ก็ตายไปหมด 0:04:18.492,0:04:20.329 เขามีส่วนร่วมในโครงการหลายอย่าง 0:04:20.329,0:04:21.860 ได้ช่วยเหลือเด็กกำพร้าจากสงคราม 0:04:21.860,0:04:23.591 แต่เขามีความสนใจอย่างต่อเนื่องยาวนาน 0:04:23.591,0:04:25.136 ในศาสตร์ของความลำเอียง 0:04:25.136,0:04:27.796 และเมื่อทุนเล่าเรียนอันทรงเกียรติของอังกฤษ 0:04:27.796,0:04:29.641 เรื่องภาพพจน์มีประกาศเปิดรับ เขาก็ลงสมัคร 0:04:29.641,0:04:30.998 และก็ได้รับทุน 0:04:30.998,0:04:33.188 จากนั้นเขาก็ได้เริ่มสายอาชีพอันน่าทึ่ง 0:04:33.188,0:04:35.937 ซึ่งมีที่มาจากความเข้าใจอันลึกซึ้ง 0:04:35.937,0:04:37.777 ว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด 0:04:37.777,0:04:39.893 เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นเรื่องผิด 0:04:39.893,0:04:42.299 หลายๆ คน คนส่วนใหญ่ในช่วงนั้น 0:04:42.299,0:04:44.200 มองเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ว่าเป็นการแสดงให้เห็น 0:04:44.200,0:04:47.204 ถึงความผิดปกติครั้งร้ายแรงของชนชาติเยอรมัน 0:04:47.204,0:04:51.038 เป็นความด่างพร้อยทางพันธุกรรม[br]เป็นบุคลิกภาพแบบเผด็จการ 0:04:51.038,0:04:53.096 แต่ทาจเฟลไม่เห็นด้วย 0:04:53.096,0:04:55.639 เขาบอกว่าสิ่งที่เราได้เห็นในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 0:04:55.639,0:04:57.950 เป็นแค่ภาคขยาย 0:04:57.950,0:04:59.728 ของกระบวนการทางจิตแบบธรรมดาๆ 0:04:59.728,0:05:01.489 ที่มีอยู่ในตัวพวกเราทุกคน 0:05:01.489,0:05:04.174 เพื่อสำรวจเรื่องนี้ เขาได้ทำการศึกษา 0:05:04.174,0:05:05.918 วัยรุ่นชาวอังกฤษ 0:05:05.918,0:05:07.467 และในงานวิจัยชิ้นหนึ่ง เขาได้สอบถาม 0:05:07.467,0:05:10.019 วัยรุ่นชาวอังกฤษหลายคำถาม 0:05:10.019,0:05:11.903 จากนั้นก็ใช้คำตอบที่ได้มา แล้วพูดว่า 0:05:11.903,0:05:14.260 "ผมได้อ่านคำตอบของคุณแล้ว[br]และเมื่อพิจารณาคำตอบเหล่านี้ 0:05:14.260,0:05:16.357 ผมก็ได้ข้อสรุปว่าคุณเป็น..." 0:05:16.357,0:05:17.363 เขาบอกคนครึ่งหนึ่งที่ทำแบบสอบถาม 0:05:17.363,0:05:20.320 "ถ้าไม่ใช่นักนิยมคันดินสกี [br]คือคุณชอบงานของคันดินสกี 0:05:20.320,0:05:23.298 คุณก็เป็นนักนิยมคลี คือชอบงานของคลี 0:05:23.298,0:05:25.114 ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องแต่งขึ้น 0:05:25.114,0:05:27.404 คำตอบที่ได้จากพวกเขา[br]ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคันดินสกีหรือคลีเลย 0:05:27.404,0:05:30.132 พวกเขาอาจไม่เคยได้ยินชื่อศิลปินทั้งสองคนนี้ด้วยซ้ำ 0:05:30.132,0:05:32.872 เขาแค่แบ่งคนออกเป็นสองพวกตามอำเภอใจ 0:05:32.872,0:05:36.143 แต่สิ่งที่เขาพบ [br]คือการจัดหมวดหมู่แบบนี้มีความสำคัญมาก 0:05:36.143,0:05:38.654 ดังนั้น เมื่อเขาดึงเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยว 0:05:38.654,0:05:40.330 คนที่ทำแบบสอบถามยินดีให้เงิน 0:05:40.330,0:05:42.130 กับคนในกลุ่มเดียวกัน 0:05:42.130,0:05:43.963 มากกว่าคนในกลุ่มอื่น 0:05:43.963,0:05:46.290 ที่แย่กว่านั้น คือพวกเขายิ่งสนใจ 0:05:46.290,0:05:48.296 ที่จะหาข้อแตกต่าง 0:05:48.296,0:05:50.862 ระหว่างคนในกลุ่มกับนอกกลุ่ม 0:05:50.862,0:05:52.770 และยินดีที่จะไม่รับเงินเข้ากลุ่มเพิ่ม 0:05:52.770,0:05:58.018 ถ้านั่นทำให้อีกกลุ่มหนึ่งได้เงินน้อยกว่า 0:05:58.018,0:06:00.236 ความมีอคติเช่นนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เรายังเด็กมาก 0:06:00.236,0:06:02.536 เพื่อนร่วมงานซึ่งป็นภรรยาของผม คาเรน วีนน์ [br]จากมหาวิทยาลัยเยล 0:06:02.536,0:06:04.147 ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเด็กอ่อน 0:06:04.147,0:06:06.979 โดยเอาตุ๊กตาให้เด็กๆ ดู 0:06:06.979,0:06:09.244 และบอกว่าตุ๊กตามีอาหารที่ชอบเป็นพิเศษ 0:06:09.244,0:06:11.426 ตุ๊กตาบางตัวอาจชอบถั่วฝัก 0:06:11.426,0:06:14.001 บางตัวอาจชอบเกรแฮมแครกเกอร์ 0:06:14.001,0:06:16.370 จากนั้นก็ได้ทดสอบหาอาหารที่เด็กๆ ชอบ 0:06:16.370,0:06:19.060 และพบว่าส่วนใหญ่นิยมเกรแฮมแครกเกอร์ 0:06:19.060,0:06:21.672 แต่คำถามก็คือสิ่งเหล่านี้มีผลกับเด็กๆ ไหม 0:06:21.672,0:06:24.788 ว่าเด็กจะชอบตุ๊กตาตัวไหนมากกว่ากัน[br]เราพบว่าเกี่ยวกันมาก 0:06:24.788,0:06:26.307 เด็กๆ จะชอบตุ๊กตา 0:06:26.307,0:06:29.786 ตัวที่ชอบอาหารแบบเดียวกับพวกเขา 0:06:29.786,0:06:32.342 และที่แย่กว่านั้น พวกเขายิ่งชอบตุ๊กตา 0:06:32.342,0:06:35.327 ตัวที่ลงโทษตุ๊กตาตัวอื่น[br]ซึ่งชอบอาหารที่แตกต่างออกไป 0:06:35.327,0:06:37.604 (เสียงหัวเราะ) 0:06:37.604,0:06:41.236 เราพบจิตวิทยาของการแบ่งพรรคแบ่งพวก[br]ในลักษณะนี้ตลอดเวลา 0:06:41.236,0:06:42.900 เราพบสิ่งนี้ในความขัดแย้งทางการเมือง 0:06:42.900,0:06:45.314 ในกลุ่มที่มีแนวคิดหลากหลาย 0:06:45.314,0:06:48.940 และในระดับที่สุดโต่ง ก็แสดงออกมาในรูปสงคราม 0:06:48.940,0:06:52.157 ซึ่งคนนอกกลุ่มไม่เพียงได้รับสิ่งที่ด้อยกว่า 0:06:52.157,0:06:53.745 แต่กลับถูกลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 0:06:53.745,0:06:55.985 อย่างเช่นมุมมองที่นาซีมีต่อชาวยิว 0:06:55.985,0:06:58.070 ว่าเป็นเหมือนพยาธิหรือเห็บเหา 0:06:58.070,0:07:02.306 หรือมุมที่ชาวอเมริกันมองชาวญี่ปุ่นว่าเป็นหนูสกปรก 0:07:02.306,0:07:04.520 การแบ่งพรรคแบ่งพวกและเหมารวมส่งผลร้ายเสมอ 0:07:04.520,0:07:06.781 บ่อยครั้งที่อาจเป็นสิ่งที่มีเหตุผลและมีประโยชน์ 0:07:06.781,0:07:08.355 แต่บ่อยครั้งก็ไม่มีเหตุผล 0:07:08.355,0:07:09.581 ทำให้เราเข้าใจอะไรผิดๆ 0:07:09.581,0:07:10.798 และมีหลายครั้ง 0:07:10.798,0:07:12.973 ที่นำเราไปสู่ผลลัพธ์ที่ไร้ซึ่งศีลธรรม 0:07:12.973,0:07:15.781 เรื่องที่ถูกนำมาศึกษามากที่สุด 0:07:15.781,0:07:17.448 คือเรื่องของเชื้อชาติ 0:07:17.448,0:07:18.855 มีการวิจัยที่น่าทึ่งชิ้นหนึ่ง 0:07:18.855,0:07:20.929 ก่อนการเลือกตั้ง ค. ศ. 2008 0:07:20.929,0:07:23.955 ซึ่งนักจิตวิทยาสังคมได้พิจารณาปัจจัย 0:07:23.955,0:07:27.397 ที่เชื่อมโยงผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง[br]เข้ากับความเป็นอเมริกา 0:07:27.397,0:07:31.002 โดยมีความเชื่อมโยงในระดับจิตใต้สำนึก[br]เข้ากับธงชาติอเมริกา 0:07:31.002,0:07:32.358 และงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้เปรียบเทียบ 0:07:32.358,0:07:34.372 โอบามากับแมคเคน และพบว่าแมคเคน 0:07:34.372,0:07:37.766 เป็นคนที่คนทั่วไปเห็นว่า [br]มีความเป็นอเมริกันมากกว่าโอบามา 0:07:37.766,0:07:40.339 และก็อาจไปถึงขั้นที่คนไม่รู้สึกตกใจที่ได้ยินว่า 0:07:40.339,0:07:42.257 แมคเคนสรรเสริญวีรบุรุษสงคราม 0:07:42.257,0:07:43.916 หลายคนพูดได้อย่างเต็มปาก 0:07:43.916,0:07:46.616 ว่าแมคเคนมีเรื่องราวความเป็นอเมริกัน[br]มากกว่าโอบามา 0:07:46.616,0:07:48.553 นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบโอบามา 0:07:48.553,0:07:51.069 กับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี แบลร์ 0:07:51.069,0:07:53.330 และพบว่าคนทั่วไปคิดว่าแบลร์ 0:07:53.330,0:07:55.837 มีความเป็นอเมริกันมากกว่าโอบามา 0:07:55.837,0:07:57.910 แม้ว่าคนที่ทำแบบสอบถามจะเข้าใจดี 0:07:57.910,0:08:00.900 ว่าเขาไม่ใช่อเมริกันเลย 0:08:00.900,0:08:02.324 แต่แน่นอน ว่าคนตอบสนอง 0:08:02.324,0:08:05.375 จากสีผิวที่เห็น 0:08:05.375,0:08:07.426 การเหมารวมและอคติเช่นนี้ 0:08:07.426,0:08:08.876 มีผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง 0:08:08.876,0:08:11.748 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งสำคัญและละเอียดอ่อน 0:08:11.748,0:08:14.410 ในการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัย 0:08:14.410,0:08:17.679 ได้ลงโฆษณาใน eBay ขายการ์ดเบสบอล 0:08:17.679,0:08:20.413 บางส่วนใช้มือของคนขาวถือการ์ด 0:08:20.413,0:08:21.631 บางส่วนให้คนดำถือ 0:08:21.631,0:08:23.210 ทั้งที่เป็นการ์ดที่เหมือนกัน 0:08:23.210,0:08:24.454 แต่การ์ดที่คนดำถือ 0:08:24.454,0:08:26.521 กลับมีคนประมูลน้อยกว่ามาก 0:08:26.521,0:08:29.005 กว่าการ์ดที่คนขาวถือ 0:08:29.005,0:08:31.367 งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 0:08:31.367,0:08:35.597 นักจิตวิทยาได้วิเคราะห์กรณีของคน 0:08:35.597,0:08:39.166 ที่ถูกพิพากษาให้มีความผิดฐานฆ่าคนขาว 0:08:39.166,0:08:41.970 ผลออกมาว่า หากปัจจัยทุกอย่างเหมือนกัน 0:08:41.970,0:08:44.340 คุณมีโอกาสถูกพิพากษา[br]ให้ต้องรับโทษมากกว่า 0:08:44.340,0:08:46.117 ถ้าคุณมีหน้าตาแบบคนทางขวา 0:08:46.117,0:08:48.090 แทนที่จะหน้าตาแบบคนทางซ้าย 0:08:48.090,0:08:50.119 และเหตุผลสำคัญที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ 0:08:50.119,0:08:52.653 ชายคนทางขวาหน้าตาดูเป็นคนดำ[br]ที่พบเห็นได้ทั่วไป 0:08:52.653,0:08:55.283 ดูเป็นคนแอฟริกันอเมริกันที่พบได้ทั่วไป 0:08:55.283,0:08:57.332 และดูเหมือนว่านี่จะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้คน 0:08:57.332,0:08:59.103 ว่าควรจะทำอย่างไรกับเขา 0:08:59.103,0:09:00.650 ตอนนี้เราเข้าใจความลำเอียงและอคติมากขึ้น 0:09:00.650,0:09:02.307 เราจะจัดการกับมันอย่างไร 0:09:02.307,0:09:03.929 มีถนนหลายสายให้เลือกเดิน 0:09:03.929,0:09:05.363 และทางสายหนึ่งคือตอบสนอง 0:09:05.363,0:09:07.409 ต่ออารมณ์ของผู้อื่น 0:09:07.409,0:09:09.542 คือการเห็นอกเห็นใจคนอื่น 0:09:09.542,0:09:11.415 และเรามักจะทำเช่นนั้นผ่านเรื่องราว 0:09:11.415,0:09:13.980 ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่ใจกว้าง 0:09:13.980,0:09:15.852 และอยากสนับสนุนให้ลูกๆ 0:09:15.852,0:09:18.226 เข้าใจครอบครัวที่ไม่เป็นไปตามแบบแผน 0:09:18.226,0:09:20.499 คุณอาจจะให้ลูกๆ ได้อ่านหนังสือแบบนี้[br]["ฮีทเธอร์มีแม่สองคน"] 0:09:20.499,0:09:22.225 แต่ถ้าคุณเป็นพวกอนุรักษ์นิยม[br]และมีความเห็นที่ต่างออกไป 0:09:22.225,0:09:24.156 คุณอาจให้ลูกๆ อ่านหนังสือแบบนี้ 0:09:24.156,0:09:25.905 (หัวเราะ)[br]["ช่วยด้วย แม่ มีพวกเสรีนิยมอยู่ใต้เตียง"] 0:09:25.905,0:09:29.241 แต่โดยปกติแล้ว เรื่องราวสามารถพลิกผัน 0:09:29.241,0:09:31.473 คนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จัก[br]ให้กลายเป็นคนที่มีความหมาย 0:09:31.473,0:09:34.158 และความคิดที่ว่าเราห่วงใยผู้อื่น 0:09:34.158,0:09:35.860 ยามที่เราใส่ใจเรื่องราวของเขา[br]ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง 0:09:35.860,0:09:38.139 ก็เป็นแนวคิดที่มีให้เห็นมาตลอดประวัติศาสตร์ 0:09:38.139,0:09:40.722 ดังที่สตาลินเคยพูดไว้ 0:09:40.722,0:09:42.339 "การตายเพียงหนึ่งเป็นโศกนาฏกรรม 0:09:42.339,0:09:44.379 การตายเป็นล้านเป็นตัวเลขทางสถิติ" 0:09:44.379,0:09:45.830 และแม่ชีเทเรซ่าก็พูดไว้ว่า 0:09:45.830,0:09:47.371 "ถ้าฉันดูที่คนหมู่มาก ฉันคงไม่ได้ทำอะไร 0:09:47.371,0:09:49.696 แต่ถ้าใส่ใจเรื่องคนๆ เดียว ก็จะทำอะไรได้มาก" 0:09:49.696,0:09:51.766 นักจิตวิทยาได้วิเคราะห์เรื่องนี้ 0:09:51.766,0:09:53.067 ยกตัวอย่างเช่น ในงานวิจัยชิ้นหนึ่ง 0:09:53.067,0:09:55.850 ทดลองให้คนได้อ่านรายการ[br]ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤต 0:09:55.850,0:10:00.106 แล้วดูว่าคนบริจาคเงินเท่าไร 0:10:00.106,0:10:01.690 เพื่อช่วยเหลือเหตุการณ์นี้ 0:10:01.690,0:10:03.527 แต่อีกกลุ่มหนึ่ง ไม่ได้รับข้อเท็จจริงอะไรเลย 0:10:03.527,0:10:05.625 แต่ได้รับข้อมูลเรื่องคนแทน 0:10:05.625,0:10:08.065 โดยได้ทราบชื่อและได้เห็นหน้า 0:10:08.065,0:10:11.284 ผลออกมาว่ากลุ่มหลังบริจาคมากกว่ามาก 0:10:11.284,0:10:13.145 ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เคล็ดลับอะไรเลย 0:10:13.145,0:10:15.256 สำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการกุศล 0:10:15.256,0:10:17.904 คนเรามักไม่ป้อนคนอื่น 0:10:17.904,0:10:19.227 ด้วยข้อเท็จจริงและสถิติ 0:10:19.227,0:10:20.249 แต่เราเอาหน้าตาของคนจริงๆ ให้เขาดู 0:10:20.249,0:10:21.985 เอาเรื่องราวของผู้คนมาแสดงให้ดู 0:10:21.985,0:10:25.212 เป็นไปได้ที่การส่งต่อความเห็นอกเห็นใจ 0:10:25.212,0:10:27.183 ไปยังคนๆ หนึ่ง ความเห็นใจนั้นก็จะขยายขอบเขต 0:10:27.183,0:10:30.061 ไปยังกลุ่มที่คนๆ นั้นสังกัดอยู่ได้ 0:10:30.061,0:10:32.527 นี่คือแฮเรียต บีเชอร์ สโตว์ 0:10:32.527,0:10:34.970 มีเรื่องเล่า ซึ่งไม่ทราบที่มาแน่ชัด 0:10:34.970,0:10:37.044 ว่าประธานาธิบดีลินคอล์นเชิญเธอ 0:10:37.044,0:10:39.042 ไปที่ทำเนียบขาว ช่วงกลางสงครามกลางเมือง 0:10:39.042,0:10:40.626 และกล่าวกับเธอว่า 0:10:40.626,0:10:43.290 "คุณนั่นเอง สุภาพสตรีตัวเล็กๆ [br]ที่เป็นต้นเหตุของสงครามที่ยิ่งใหญ่" 0:10:43.290,0:10:45.175 เขาพูดถึงหนังสือ "กระท่อมน้อยของลุงทอม" 0:10:45.175,0:10:47.706 "กระท่อมน้อยของลุงทอม" [br]ไม่ใช่หนังสือทางปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ 0:10:47.706,0:10:50.850 หรือเทววิทยา ไม่ใช่แม้วรรณกรรม 0:10:50.850,0:10:53.365 แต่หนังสือทำหน้าที่ได้ดี 0:10:53.365,0:10:55.863 ในการให้เราได้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา 0:10:55.863,0:10:58.196 กับคนที่เราไม่เคยนึกอยากใส่ใจ 0:10:58.196,0:11:00.598 คือได้ลองเอาใจทาสมาใส่ใจเรา 0:11:00.598,0:11:02.379 และนั่นก็น่าจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา 0:11:02.379,0:11:03.983 ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม 0:11:03.983,0:11:06.345 และในช่วงไม่นานมานี้ ถ้าเราลองดูอเมริกา 0:11:06.345,0:11:09.414 ในช่วงหลายทศวรรษมานี้ 0:11:09.414,0:11:12.563 ก็มีเหตุให้ควรเชื่อว่าซิทคอมอย่าง "เดอะคอสบีโชว์" 0:11:12.563,0:11:15.251 มีส่วนเปลี่ยนทัศนคติที่คนอเมริกัน[br]มีต่อชาวแอฟริกันอเมริกันอย่างมาก 0:11:15.251,0:11:18.234 ในขณะที่ซิทคอมอย่าง "วิลแอนด์เกรซ" [br]และ "โมเดิร์นแฟมิลี" 0:11:18.234,0:11:19.597 ก็เปลี่ยนทัศนคติของชาวอเมริกัน 0:11:19.597,0:11:20.897 ที่มีต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศ 0:11:20.897,0:11:23.352 ผมคิดว่าคงไม่เป็นการกล่าวที่เกินเลยไป 0:11:23.352,0:11:26.013 ว่าตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่ก่อให้เกิด[br]การเปลี่ยนแปลงในอเมริกา 0:11:26.013,0:11:28.906 คือละครซิทคอม 0:11:28.906,0:11:30.322 แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของอารมณ์เพียงอย่างเดียว 0:11:30.322,0:11:31.598 ผมอยากจะปิดท้ายด้วยการนำเสนอ 0:11:31.598,0:11:33.833 ถึงพลังแห่งเหตุผล 0:11:33.833,0:11:35.989 มีบางตอนที่เขียนไว้ในหนังสืออันน่าทึ่ง 0:11:35.989,0:11:37.212 ชื่อ "The Better Angels of our Nature" 0:11:37.212,0:11:39.228 สตีเฟน พิงเกอร์ กล่าวว่า 0:11:39.228,0:11:41.810 ในพันธสัญญาเดิมสอนให้รักเพื่อนบ้าน 0:11:41.810,0:11:44.532 และพันธสัญญาใหม่สอนให้รักศัตรู 0:11:44.532,0:11:47.218 แต่ผมไม่ชอบทั้งคู่เลย 0:11:47.218,0:11:48.885 แต่ก็ไม่ได้อยากฆ่าให้ตาย 0:11:48.885,0:11:50.751 ผมรู้ว่าเรามีหน้าที่ต่อกัน 0:11:50.751,0:11:54.221 แต่ความรู้สึกที่ผมมีต่อเขา ความเชื่อที่มีต่อพวกเขา 0:11:54.221,0:11:55.934 ว่าผมควรปฏิบัติต่อเขาอย่างไรให้มีศีลธรรม 0:11:55.934,0:11:57.981 ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความรัก 0:11:57.981,0:11:59.920 แต่ว่าตั้งอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน 0:11:59.920,0:12:02.143 ความเชื่อว่าชีวิตของเขาก็มีค่าสำหรับเขา 0:12:02.143,0:12:04.499 เช่นเดียวกับที่ชีวิตผมก็มีค่ากับผม 0:12:04.499,0:12:06.431 และเพื่อสนับสนุนแนวคิดนี้ เขาได้เล่าเรื่อง 0:12:06.431,0:12:08.279 ของนักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่ อดัม สมิธ 0:12:08.279,0:12:09.965 ซึ่งผมก็อยากนำเรื่องนี้มาเล่าด้วยเช่นกัน 0:12:09.965,0:12:11.261 แม้ว่าจะขอดัดแปลงเล็กน้อย 0:12:11.261,0:12:12.939 ให้เข้ากับยุคสมัย 0:12:12.939,0:12:14.840 อดัม สมิธ เริ่มต้นด้วยการขอให้เราจินตนาการ 0:12:14.840,0:12:16.741 ถึงการตายของผู้คนนับพัน 0:12:16.741,0:12:18.781 และจินตนาการว่าคนนับพันนั้น 0:12:18.781,0:12:21.020 อยู่ในประเทศที่คุณแทบไม่รู้จัก 0:12:21.020,0:12:24.574 อาจเป็นประเทศจีน หรืออินเดีย [br]หรือประเทศหนึ่งในแอฟริกา 0:12:24.574,0:12:27.058 สมิธถามว่า คุณจะตอบสนองเรื่องเหล่านี้อย่างไร 0:12:27.058,0:12:29.365 คุณอาจจะพูดว่า นั่นแย่หน่อยนะ 0:12:29.365,0:12:31.241 แล้วก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนชั่วชีวิต 0:12:31.241,0:12:33.460 ถ้าคุณลองได้เปิดอ่านนิวยอร์กไทมส์ออนไลน์ [br]หรืออะไรทำนองนั้น 0:12:33.460,0:12:36.420 จะพบว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับเราตลอดเวลา 0:12:36.420,0:12:37.941 เราใช้ชีวิตของเราต่อไป 0:12:37.941,0:12:40.135 แต่สมิธบอกให้เราลองจินตนาการดูว่า 0:12:40.135,0:12:41.389 ในวันพรุ่งนี้ 0:12:41.389,0:12:43.928 นิ้วก้อยคุณจะถูกตัดทิ้ง 0:12:43.928,0:12:46.097 สมิธกล่าวว่า เหตุการณ์อย่างหลัง[br]จะสำคัญกว่ามาก 0:12:46.097,0:12:47.508 คืนนั้น คุณจะนอนไม่หลับเลย 0:12:47.508,0:12:48.861 เฝ้าคิดแต่เรื่องนั้น 0:12:48.861,0:12:50.880 สิ่งนี้เลยนำไปสู่คำถาม 0:12:50.880,0:12:53.346 ว่าคุณจะยอมสละชีวิตนับพันๆ 0:12:53.346,0:12:55.315 เพื่อแลกกับนิ้วก้อยของตัวเองไหม 0:12:55.315,0:12:57.633 ขอให้ตอบคำถามนี้ในใจก็พอนะครับ 0:12:57.633,0:13:00.552 ส่วนสมิธกล่าวว่า ไม่มีทางยอมแน่ๆ 0:13:00.552,0:13:02.244 เป็นความคิดที่น่าสยดสยองสิ้นดี 0:13:02.244,0:13:04.275 และนี่ก็นำไปสู่คำถามอีกคำถามหนึ่ง 0:13:04.275,0:13:05.649 อย่างที่สมิธเคยถามไว้ 0:13:05.649,0:13:07.867 "ถ้าความไม่สนใจใยดีในตัวเรามักทำให้ 0:13:07.867,0:13:09.315 เราเป็นคนสกปรกเลวทราม และเห็นแก่ตัว 0:13:09.315,0:13:10.780 เหตุใดความต้องการมีส่วนร่วมของมุนษย์ 0:13:10.780,0:13:13.313 จึงผลักดันให้เราเป็นคนใจดีมีเมตตา[br]และมีคุณธรรม 0:13:13.313,0:13:15.363 และคำตอบของสมิธคือ "มีเหตุผล 0:13:15.363,0:13:17.138 หลักเกณฑ์ และมโนธรรม 0:13:17.138,0:13:18.679 ที่คอยเตือนสติเราอยู่ 0:13:18.679,0:13:22.104 ด้วยเสียงที่ทำให้กิเลส[br]ตัวที่อวดดีที่สุดของเรายังต้องตกใจ 0:13:22.104,0:13:23.781 บอกว่าเราเป็นแค่คนๆ หนึ่งในบรรดามหาชน 0:13:23.781,0:13:26.222 ซึ่งไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าคนอื่นๆ เลย 0:13:26.222,0:13:28.347 ส่วนสุดท้ายนี้มักจะเรียกกันว่า 0:13:28.347,0:13:31.555 เป็นหลักเกณฑ์แห่งความไม่มีอคติ 0:13:31.555,0:13:34.184 และหลักเกณฑ์แห่งความไม่มีอคตินี้[br]ก็ได้สะท้อนออกมา 0:13:34.184,0:13:35.931 ในทุกศาสนา ทั่วโลก 0:13:35.951,0:13:38.209 สะท้อนในรูปกฎเหล็กแห่งการปฏิบัติ 0:13:38.209,0:13:40.663 และยังอยู่ในปรัชญาศีลธรรมทุกๆ ปรัชญาในโลก 0:13:40.663,0:13:41.970 ซึ่งนำเสนอในรูปแบบที่ต่างกันออกไป 0:13:41.970,0:13:44.964 แต่มีความเชื่อพื้นฐานเหมือนกัน[br]คือ เราควรมองและตัดสินคำว่าศีลธรม 0:13:44.964,0:13:47.949 จากมุมมองแห่งความไม่มีอคติ 0:13:47.949,0:13:49.771 คำกล่าวที่ยืนยันแนวคิดดังกล่าว 0:13:49.771,0:13:52.856 สำหรับผมแล้ว ไม่ได้มาจาก[br]นักเทววิทยา หรือนักปรัชญา 0:13:52.856,0:13:54.213 แต่มาจากฮัมฟรีย์ โบการ์ต 0:13:54.213,0:13:55.760 ในตอนจบของภาพยนตร์ "คาซาบลังกา" 0:13:55.760,0:13:59.536 ผมจะสปอยล์เนื้อหานะ เขาพูดกับคนรักของเขา 0:13:59.536,0:14:00.676 ว่าทั้งคู่ต้องแยกทางกัน 0:14:00.676,0:14:02.269 เพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก 0:14:02.269,0:14:04.133 เขาพูดกับเธอว่า ผมขอไม่เลียนสำเนียงนะ 0:14:04.133,0:14:05.915 เขาพูดกับเธอว่า "เห็นได้ชัดเลย 0:14:05.915,0:14:07.274 ว่าปัญหาของคนตัวเล็กๆ สามคน 0:14:07.274,0:14:10.385 เทียบไม่ได้เลยกับปัญหา[br]หนักหนาในโลกที่มีกองอยู่เป็นภูเขา" 0:14:10.385,0:14:13.665 เหตุผลของเราอาจช่วยให้เราก้าวข้ามกิเลสไปได้ 0:14:13.665,0:14:15.381 เหตุผลอาจช่วยกระตุ้นให้เรา 0:14:15.381,0:14:16.602 ขยายขอบเขตของความเห็นอกเห็นใจออกไป 0:14:16.602,0:14:18.929 อาจกระตุ้นให้เราเขียนหนังสืออย่าง[br]"กระท่อมน้อยของลุงทอม" 0:14:18.929,0:14:20.652 หรืออ่านหนังสืออย่าง "กระท่อมน้อยของลุงทอม" 0:14:20.652,0:14:23.346 และเหตุผลก็อาจยังช่วยให้เราสร้าง 0:14:23.346,0:14:25.308 ธรรมเนียม ข้อห้าม และกฎหมาย 0:14:25.308,0:14:27.118 ที่คอยควบคุมเรา 0:14:27.118,0:14:28.794 ไม่ให้ทำสิ่งต่างๆ ตามแรงขับตามธรรมชาติ 0:14:28.794,0:14:30.383 ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผล เรารู้สึก 0:14:30.383,0:14:31.778 ว่าเราควรถูกควบคุม 0:14:31.778,0:14:33.791 สิ่งนี้คือรัฐธรรมนูญ 0:14:33.791,0:14:36.712 รัฐธรรมนูญคือสิ่งที่ก่อร่างขึ้นในอดีต 0:14:36.712,0:14:38.019 และมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน 0:14:38.019,0:14:39.004 และสิ่งที่บัญญัติไว้ในนั้น คือ 0:14:39.004,0:14:41.231 ไม่ว่าเราจะเลือกตั้งกันอีกกี่รอบ 0:14:41.231,0:14:43.834 และได้ประธานาธิบดีคนดังคนเดิม[br]มาดำรงตำแหน่งเป็นวาระที่สาม 0:14:43.834,0:14:45.929 ไม่ว่าชาวอเมริกันผิวขาว 0:14:45.929,0:14:49.997 จะรู้สึกอยากนำการค้าทาสกลับมา[br]เราก็ทำไม่ได้ 0:14:49.997,0:14:51.673 เราผูกพันตัวเองไว้กับคำมั่นสัญญานี้แล้ว 0:14:51.673,0:14:54.090 และเราก็ผูกพันตัวเองในลักษณะอื่นๆ ด้วยเช่นกัน 0:14:54.090,0:14:56.848 เรารู้ว่าเวลาเราต้องการเลือก 0:14:56.848,0:14:59.799 คนเข้ามาทำงาน เข้ามารับรางวัล 0:14:59.799,0:15:02.757 เราเองก็มีอคติเรื่องเชื้อชาติ 0:15:02.757,0:15:05.053 อคติเรื่องเพศ 0:15:05.053,0:15:07.268 อคติเรื่องรูปลักษณ์ที่ดูน่าดึงดูดใจ 0:15:07.268,0:15:09.919 แม้บางครั้งเราจะพูดว่า[br]"ไม่เป็นไรหรอก นี่เป็นธรรมชาติมนุษย์" 0:15:09.919,0:15:12.226 แต่อีกหลายครั้ง เราพูดว่า "แบบนี้มันผิด" 0:15:12.226,0:15:14.115 และเพื่อจัดการกับอคตินี้ 0:15:14.115,0:15:16.366 เราไม่เพียงพยายามให้มากขึ้น 0:15:16.366,0:15:19.367 แต่เราพยายามสร้างสถานการณ์ 0:15:19.367,0:15:22.406 ที่ไม่ให้ข้อมูลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง[br]มาทำให้เรามีอคติ 0:15:22.406,0:15:23.721 ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมวงออเคสตร้า 0:15:23.721,0:15:26.366 ถึงทดสอบนักดนตรีที่หลังฉากเพื่อคัดเข้าวง 0:15:26.366,0:15:27.610 เพื่อที่ข้อมูลเพียงอย่างเดียวที่จะได้รับ 0:15:27.610,0:15:30.303 คือข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆ 0:15:30.303,0:15:32.626 ผมคิดว่าอคติและความลำเอียง 0:15:32.626,0:15:35.720 สะท้อนให้เห็นความเป็นสองขั้วในธรรมชาติมนุษย์ 0:15:35.720,0:15:39.496 เรามีความกล้าหาญ สัญชาตญาณ อารมณ์ 0:15:39.496,0:15:41.657 ซึ่งส่งผลกับการตัดสินใจและการกระทำของเรา 0:15:41.657,0:15:43.988 ให้ออกมาดีหรือชั่วร้าย 0:15:43.988,0:15:47.610 แต่เราก็ยังสามารถใคร่ครวญสิ่งต่างๆ อย่างมีเหตุผล 0:15:47.610,0:15:49.045 วางแผนอย่างชาญฉลาด 0:15:49.045,0:15:51.862 และบางครั้ง เราก็ใช้สิ่งเหล่านี้ 0:15:51.862,0:15:53.805 เพื่อพัฒนาและหล่อเลี้ยงอารมณ์ของเรา 0:15:53.805,0:15:56.573 บางครั้งก็เพื่อบรรเทาอารมณ์ให้สงบลง 0:15:56.573,0:15:57.807 และด้วยวิธีการเช่นนี้ 0:15:57.807,0:16:00.574 เหตุผลก็ช่วยให้เราสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าเดิมได้ 0:16:00.574,0:16:02.918 ขอบคุณครับ 0:16:02.918,0:16:06.623 (เสียงปรบมือ)