WEBVTT 00:00:07.148 --> 00:00:10.927 "ทำไมเราถึงเจาะจงซื้อสินค้า หรือเลือกแบรนด์นั้น ๆ กันนะ" 00:00:10.927 --> 00:00:14.528 นี่คือคำถามที่นักโฆษณา มักตั้งคำถามอยู่เสมอ 00:00:14.528 --> 00:00:16.478 และนั่นก็ตอบไม่ง่ายเลย 00:00:16.478 --> 00:00:20.528 แต่เรามีเครื่องมือแสนสะดวกสบาย ที่จะช่วยให้บริษัทสืบค้นความจริงข้อนี้ 00:00:20.528 --> 00:00:22.559 และคำถามที่คล้ายคลึงกัน 00:00:22.559 --> 00:00:25.147 เครื่องมือนั้นมีชื่อว่า "การสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม (Focus Group)" 00:00:25.147 --> 00:00:29.055 จวบจนถึงทศวรรษที่ 1940 การวิจัยทางการตลาดมักเป็นเชิงปริมาณ 00:00:29.055 --> 00:00:34.318 โดยการใช้ยอดขาย และการทำโพลล์ กับกลุ่มผู้บริโภคเพื่อหาทิศทางการบริโภค 00:00:34.318 --> 00:00:36.921 แต่สิ่งนี้เปลี่ยนแปลงไป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 00:00:36.921 --> 00:00:40.751 นักสังคมวิทยา โรเบิร์ต เมอร์ตัน และพอล ลาซาสเฟลด์ 00:00:40.751 --> 00:00:45.118 เรียนรู้วิธีเปิดโปงโฆษณาชวนเชื่อช่วงสงคราม เป็นครั้งแรก 00:00:45.118 --> 00:00:47.269 ที่ส่งผลกระทบต่อสาธารณะ 00:00:47.269 --> 00:00:49.640 แทนที่จะทำโพลล์สำรวจกลุ่มคนจำนวนมาก 00:00:49.640 --> 00:00:52.890 ด้วยคำถามตรงไปตรงมา และคำตอบเชิงปริมาณ 00:00:52.890 --> 00:00:56.127 นักวิจัยได้ลองสัมภาษณ์เป็นการส่วนตัว 00:00:56.127 --> 00:00:58.155 กับกลุ่มเล็ก ๆ 00:00:58.155 --> 00:01:00.834 เพื่อเข้าร่วมและพูดคุยแบบเปิดเผยยิ่งขึ้น 00:01:00.834 --> 00:01:04.283 วิธีนี้ถูกนำไปใช้กับวงการอุตสาหกรรมโฆษณา ในเวลาต่อมา 00:01:04.283 --> 00:01:05.830 โดยบรรดาที่ปรึกษา 00:01:05.830 --> 00:01:09.660 นักจิตวิทยาชาวออสเตรีย อย่าง เอิร์นเนิส ดิกเทอร์ (Ernest Dichter) 00:01:09.660 --> 00:01:12.171 ผู้บัญญัติศัพท์คำว่า "การสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม" 00:01:12.171 --> 00:01:15.402 เทคนิคใหม่นี้เป็น วิธีดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพ 00:01:15.402 --> 00:01:19.610 ที่มุ่งเน้นไปที่ธรรมชาติความชอบ และความคิดของคน 00:01:19.610 --> 00:01:24.452 ซึ่งไม่ได้บอกเปอร์เซ็นต์ชัดเจนว่า คนเจาะจงซื้อสินค้าหรือแบรนด์อะไร 00:01:24.452 --> 00:01:27.300 แต่มันจะบ่งบอกถึงตัวผู้กระทำได้มากขึ้น 00:01:27.300 --> 00:01:29.120 และเหตุใดเขาจึงทำเช่นนั้น 00:01:29.120 --> 00:01:33.290 และแม้แต่แรงจูงใจใต้สำนึก เบื้องหลังเหตุผลเหล่านั้น 00:01:33.290 --> 00:01:36.791 มากกว่าจะให้ข้อสรุปที่แน่นอน สำหรับธุรกิจและการขาย 00:01:36.791 --> 00:01:40.692 การสัมภาษณ์เป็นกลุ่มจะถูกนำมาใช้ สำหรับการวิจัยเชิงสำรวจ 00:01:40.692 --> 00:01:42.831 เพื่อสร้างแนวความคิดใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ 00:01:42.831 --> 00:01:47.241 และทำการตลาดโดยยึดหลัก ความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค 00:01:47.241 --> 00:01:52.442 ตัวอย่างเช่น การสัมภาษณ์เป็นกลุ่มในยุคแรก พบว่าขัดต่อความเห็นส่วนใหญ่ในเวลานั้น 00:01:52.442 --> 00:01:57.702 ภรรยามักมีอิทธิพลมากกว่าสามี ในการเลือกซื้อรถ 00:01:57.702 --> 00:02:02.382 บริษัทไครสเลอร์ (Chrysler) จึงหันเห ไปทำการตลาดกับผู้หญิงโดยตรง 00:02:02.382 --> 00:02:05.981 และดร. ดิกเทอร์ก็ทำการสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม ให้บริษัทแมทเทล (Mattel) ด้วยตัวเอง 00:02:05.981 --> 00:02:09.021 เพื่อศึกษาว่าคุณหนู ๆ ต้องการคุณสมบัติอะไร สำหรับตุ๊กตาสักตัว 00:02:09.021 --> 00:02:12.072 ผลก็คือตุ๊กตาบาร์บี้รุ่นต้นตำรับ 00:02:12.072 --> 00:02:14.472 แล้วการสัมภาษณ์เป็นกลุ่มนั้น ทำงานอย่างไรล่ะ 00:02:14.472 --> 00:02:18.183 อย่างแรกเลย องค์กรจะเลือกผู้เข้าร่วม มาสัก 6 ถึง 10 คน 00:02:18.183 --> 00:02:23.013 โดยยึดเกณฑ์การเลือก ตามวัตถุประสงค์การวิจัยเป็นหลัก 00:02:23.013 --> 00:02:26.022 อาจเป็นกลุ่มคุณแม่ที่มีลูก อายุระหว่าง 5 ถึง 7 ขวบ 00:02:26.022 --> 00:02:30.756 หรือกลุ่มวัยรุ่นที่คิดจะซื้อโทรศัพท์ เครื่องใหม่ในสามเดือนหน้า 00:02:30.756 --> 00:02:34.744 ขั้นตอนเหล่านี้มักทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่คอยจัดหาคน 00:02:34.744 --> 00:02:39.235 ที่เต็มใจร่วมการสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม โดยให้ค่าตอบแทนหรือรางวัลอื่น ๆ 00:02:39.235 --> 00:02:43.763 ระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้เข้าร่วมจะต้องตอบสนองคำแนะนำต่าง ๆ 00:02:43.763 --> 00:02:45.554 จากกลุ่มผู้ดำเนินการสนทนา 00:02:45.554 --> 00:02:47.974 เหมือนการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ 00:02:47.974 --> 00:02:51.644 หรืออารมณ์ตอบสนองที่มีต่อโฆษณา 00:02:51.644 --> 00:02:55.425 พวกเขาอาจถูกขอให้ทำบางอย่าง ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับสินค้า 00:02:55.425 --> 00:02:58.594 เช่น ให้ลองนึกภาพแบรนด์ เป็นสัตว์ชนิดใดก็ได้ในสวนสัตว์ 00:02:58.594 --> 00:03:01.643 ความคิดนี้สามารถเผยถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ 00:03:01.643 --> 00:03:03.475 เกี่ยวกับความรู้สึกของผู้เข้าร่วม 00:03:03.475 --> 00:03:07.085 ที่การถามแบบเดิม ๆ อาจไม่สามารถเข้าถึงได้ 00:03:07.085 --> 00:03:10.674 ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตัวแปรหลาย ๆ อย่างให้ได้เห็น 00:03:10.674 --> 00:03:13.595 การสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม อาจมีผู้ดำเนินการสนทนามากกว่าสองคน 00:03:13.595 --> 00:03:16.645 บางที อาจเป็นคำถามที่เลือกเข้าข้าง ฝ่ายตรงข้าม 00:03:16.645 --> 00:03:20.304 หรืออาจจะมีนักวิจัยสักคนแฝงตัวอยู่ ในการสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม 00:03:20.304 --> 00:03:24.685 โดยไม่ให้ผู้เข้าร่วมคนใดล่วงรู้ เพื่อดูว่า คำตอบที่ออกมาได้รับอิทธิพลอย่างไร 00:03:24.685 --> 00:03:28.087 และทุกขั้นตอนอาจถูกสังเกตการณ์ โดยนักวิจัย 00:03:28.087 --> 00:03:30.625 ผ่านกระจกด้านเดียวก็เป็นได้ 00:03:30.625 --> 00:03:32.936 แต่ถึงแม้ว่าวิธีนี้ จะสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกได้ 00:03:32.936 --> 00:03:35.587 การสัมภาษณ์เป็นกลุ่มก็ยังคงมีข้อจำกัด 00:03:35.587 --> 00:03:39.436 และหนึ่งในข้อจำกัดหลัก ๆ ก็คือ การแค่สังเกตบางสิ่งอย่างง่าย ๆ 00:03:39.436 --> 00:03:40.895 สามารถเปลี่ยนไปได้ 00:03:40.895 --> 00:03:43.687 หลักการนี้เรียกว่า การแทรกแซงของผู้สังเกตการณ์ 00:03:43.687 --> 00:03:45.617 คำตอบของผู้เข้าร่วม 00:03:45.617 --> 00:03:49.395 อาจถูกกระทบจากการนำเสนอของนักวิจัย 00:03:49.395 --> 00:03:51.496 ความกดดันทางสังคมจากคนอื่นในกลุ่ม 00:03:51.496 --> 00:03:55.135 หรือเพียงแค่รู้ว่า พวกเขากำลังจะเข้าร่วมการสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม 00:03:55.135 --> 00:03:59.696 และด้วยเหตุที่นักวิจัยมักใช้ กลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดเล็กในสถานที่เจาะจง 00:03:59.696 --> 00:04:02.547 ซึ่งเป็นการยากต่อการวัดผล 00:04:02.547 --> 00:04:05.447 สิ่งที่นักวิจัยพบในการสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม 00:04:05.447 --> 00:04:09.097 มักจะทดสอบได้จากการทดลอง และการรวบรวมข้อมูล 00:04:09.097 --> 00:04:13.558 สิ่งเหล่านั้นส่งผลให้มีตัวเลขอยู่ในคำถาม เช่น ลูกค้าที่มีกำลังซื้อมีจำนวนเท่าไหร่ 00:04:13.558 --> 00:04:16.217 และพวกเขายอมจ่ายในราคาเท่าไหร่ 00:04:16.217 --> 00:04:20.187 ขั้นตอนนี้เปลี่ยนไป เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง 00:04:20.187 --> 00:04:23.637 แต่การสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม ไม่ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว 00:04:23.637 --> 00:04:26.977 บางที เมื่อเดินเรื่องมาถึงคำถามสำคัญแล้ว 00:04:26.977 --> 00:04:31.458 ก็ไม่มีใครที่จะโต้ตอบกับผู้อื่นอย่างจริงใจ