WEBVTT 00:00:06.795 --> 00:00:09.825 4,300 ปีก่อน ในอาณาจักรซุเมอร์โบราณ 00:00:09.825 --> 00:00:15.643 ผู้มีอำนาจสูงสุดในเมืองอูร์ ถูกขับออกจากเมืองไปยังทะเลทราย NOTE Paragraph 00:00:15.643 --> 00:00:17.753 เธอชื่อ เอ็นเฮ็ดดูอันนา 00:00:17.753 --> 00:00:22.410 เธอเป็นหัวหน้านักบวชหญิง บูชาเทพแห่งดวงจันทร์ และนักเขียนคนแรกในประวัติศาสตร์ 00:00:22.410 --> 00:00:27.776 ในตอนที่เธอถูกขับออกจากเมือง เธอได้ประพันธ์ 42 บทสวด และ 3 บทกวียาว 00:00:27.776 --> 00:00:30.956 และเรื่องราวของเธอในซูเมอร์ยังไม่จบลง NOTE Paragraph 00:00:30.956 --> 00:00:34.700 เอ็นเฮ็ดดูอันนา มีชีวิตอยู่ 1700 ปีก่อนซัฟโฟ 00:00:34.700 --> 00:00:36.970 1500 ปีก่อนโฮเมอร์ 00:00:36.970 --> 00:00:41.140 และประมาณ 500 ปีก่อน บิดาแห่งคัมภีร์ไบเบิล อับราฮัม 00:00:41.140 --> 00:00:45.800 เธอเกิดในเมโสโปเตเมีย ดินแดนระหว่าง ลุ่มแม่น้ำไทกริส และยูเฟรติส 00:00:45.800 --> 00:00:49.230 แหล่งกำเนิดของเมืองแห่งแรกๆ และวัฒนธรรมที่ก้าวหน้า 00:00:49.230 --> 00:00:53.192 พ่อของเธอคือกษัตริย์ซาร์กอนมหาราช ผู้สร้างจักรวรรดิคนแรกในประวัติศาสตร์ 00:00:53.192 --> 00:00:58.190 กษัตรย์ซาร์กอนเอาชนะรัฐอิสระต่างๆ ในเมโสโปเตเมียและรวมเข้าเป็นรัฐเดียว 00:00:58.190 --> 00:01:01.690 ซาร์กอนเป็นชาวเซไมท์ทางเหนือ พูดภาษาอัคคาเดียน 00:01:01.690 --> 00:01:06.132 และเมืองสุเมรียนที่เก่าแก่กว่าทางตอนใต้ มองว่าเขาเป็นผู้รุกรานต่างชาติ 00:01:06.132 --> 00:01:09.296 เมืองทางใต้มักรวมตัวกันก่อการ เรียกร้องความเป็นอิสระ 00:01:09.296 --> 00:01:11.692 ทำลายเสถียรภาพของราชวงศ์ใหม่ NOTE Paragraph 00:01:11.692 --> 00:01:13.722 เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองวัฒนธรรม 00:01:13.722 --> 00:01:17.822 ซาร์กอน แต่งตั้งลูกสาวคนเดียว เอ็นเฮ็ดดูอันนาเป็นหัวหน้านักบวช 00:01:17.822 --> 00:01:20.242 ในวัดที่สำคัญที่สุดในอาณาจักร 00:01:20.242 --> 00:01:22.972 ตามธรรมเนียมเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิง ทำหน้าที่ทางด้านศาสนา 00:01:22.972 --> 00:01:27.542 และพวกเธอก็ได้รับการสอนให้เขียนอ่านได้ ทั้งภาษาสุเมเรียนและอัคคาเดียน 00:01:27.542 --> 00:01:30.340 รวมทั้งสามารถคำนวนได้ NOTE Paragraph 00:01:30.340 --> 00:01:34.252 งานเขียนชิ้นแรกของโลกเกิดขึ้นในซุเมอร์ ในฐานะบันทึกทางบัญชี 00:01:34.252 --> 00:01:39.117 ซึ่งทำให้พ่อค้าสามารถสื่อสารทางไกล และติดต่อกับคู่ค้าต่างแดนได้ 00:01:39.117 --> 00:01:42.837 ระบบอักษรภาพที่ทำหน้าที่บันทึกข้อมูล พัฒนาขึ้นเป็นตัวอักษร 00:01:42.837 --> 00:01:46.071 ประมาณ 300 ปีก่อนเอ็นเฮ็ดดูอันนาเกิด 00:01:46.071 --> 00:01:49.001 อักษรในรูปแบบแรกเริ่มนี้ เรียกว่าอักษรคูนิฟอร์ม 00:01:49.001 --> 00:01:54.304 เขียนโดยใช้แท่งอ้อกดลงบนดินเหนียว เพื่อทำเครื่องหมายทรงสามเหลี่ยม 00:01:54.304 --> 00:01:56.154 แต่ก่อนที่เอ็นเฮ็ดดูอันนาจะเขียน 00:01:56.154 --> 00:02:00.011 งานเขียนส่วนใหญ่เป็นการบันทึกข้อมูล และบันทึกคำพูด 00:02:00.011 --> 00:02:04.768 ไม่ใช่งานสร้างสรรค์ที่เกิดจาก นักเขียนเพียงคนเดียว NOTE Paragraph 00:02:04.768 --> 00:02:09.571 เมืองอูร์ที่เอ็นเฮ็ดดูอันนาอาศัยอยู่ มีประชากร 34,000 คน มีถนนแคบๆ 00:02:09.571 --> 00:02:13.591 มีบ้านดินหลายชั้น ยุ้งฉาง และระบบระบายน้ำ 00:02:13.591 --> 00:02:17.496 หัวหน้านักบวชเอ็นเฮ็ดดูอันนา บริหารเสบียงธัญพืชของเมือง 00:02:17.496 --> 00:02:21.396 ดูแลการสร้างศาสนสถานของคนงาน ตีความความฝันศักดิ์สิทธิ์ 00:02:21.396 --> 00:02:23.766 และยังดูแลเทศกาลเดือนเพ็ญทุกเดือน 00:02:23.766 --> 00:02:27.216 รวมไปถึงพิธีกรรมที่เฉลิมฉลองฤดูกาล ที่กลางวันเท่ากับกลางคืน NOTE Paragraph 00:02:27.216 --> 00:02:30.576 เอ็นเฮ็ดดูอันนาตั้งใจจะรวม วัฒนธรรมสุเมเรียนที่เก่าแก่กว่า 00:02:30.576 --> 00:02:32.846 กับอารยธรรมอัคคาเดียนที่ใหม่กว่า 00:02:32.846 --> 00:02:36.286 เพื่อการนี้ เธอเขียน บทสวดทางศาสนา 42 บท 00:02:36.286 --> 00:02:38.616 ซึ่งรวมเอาเทพปกรณนัม ของทั้งสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน 00:02:38.616 --> 00:02:41.886 เมืองในเมโสโปเตเมียแต่ละแห่ง ถูกปกครองโดยเทพีประจำเมือง 00:02:41.886 --> 00:02:46.146 บทสวดทั้งหลายของเธออุทิศแด่ เทพีที่ปกครองเมืองต่างๆ 00:02:46.146 --> 00:02:49.986 สรรเสริญวิหารประจำเมือง และกล่าวถึงความรุ่งโรจน์ของพรจากเทพ 00:02:49.986 --> 00:02:54.251 บทสวดยังอธิบายความสัมพันธ์ ระหว่างเทพเจ้าหลายองค์บนสวรรค์ 00:02:54.251 --> 00:02:58.276 งานเขียนของเธอทำให้เทพเจ้าที่ไม่มีตัวตน มีลักษณะของความเป็นมนุษย์ 00:02:58.276 --> 00:03:03.608 เหล่าเทพทนทุกข์ ต่อสู้ มีความรัก และตอบรับคำขอของมนุษย์ NOTE Paragraph 00:03:03.608 --> 00:03:06.408 งานเขียนที่ทรงคุณค่า ที่สุดของเอ็นเฮ็ดดูอันนา 00:03:06.408 --> 00:03:10.501 คือบทกวีที่เธอเขียนถึงอินานนา เทพีแห่งสงครามและความปรารถนา 00:03:10.501 --> 00:03:14.836 พลังงานเหนือธรรมชาติที่น่าสับสน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแห่งจักรวาล 00:03:14.836 --> 00:03:18.131 อินานนาเปล่งประกายในการแสดงออก ทางเพศทุกรูปแบบ 00:03:18.131 --> 00:03:22.301 และได้รับความเคารพว่าทรงพลังมาก จนก้าวข้ามการแบ่งแยกทางเพศ 00:03:22.301 --> 00:03:27.856 ดังเช่นผู้เคารพอินานนาบนโลกซึ่งอาจเป็น หญิงงามเมือง ขันที หรือ ผู้แต่งงานข้ามเพศ NOTE Paragraph 00:03:27.856 --> 00:03:33.406 เอ็นเฮ็ดดูอันนาสรรเสริญอินานนา ในฐานะเทพีสูงสุดแห่งสรวงสวรรค์ 00:03:33.406 --> 00:03:38.317 ในบทกวีอุทิศแด่อินานนาของเธอ เป็นครั้งแรกที่มีผู้แต่งแทนตัวเองว่า "ฉัน" 00:03:38.317 --> 00:03:43.486 และยังเป็นครั้งแรกที่งานเขียน แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง NOTE Paragraph 00:03:43.486 --> 00:03:47.106 หลังจากที่พ่อของเอ็นเฮ็ดดูอันนา กษัตริย์ซาร์กอน สวรรคต 00:03:47.106 --> 00:03:51.118 นายพลคนหนึ่งใช้โอกาสนั้น ปฏิวัติยึดอำนาจ 00:03:51.118 --> 00:03:55.550 ในฐานะที่เป็นเชื้อพระวงศ์ที่ปกครองเมือง เอ็นเฮ็ดดูอันนาตกเป็นเป้าหมาย 00:03:55.550 --> 00:03:58.072 และนายพลขับเธอออกจากเมืองอูร์ 00:03:58.072 --> 00:04:02.118 หลานของเธอ นาราม ซิน กษัตริย์สุเมรียนในตำนาน 00:04:02.118 --> 00:04:07.148 สามารถเอาชนะการจลาจล และคืนตำแหน่งหัวหน้านักบวชให้กับป้าของเขา NOTE Paragraph 00:04:07.148 --> 00:04:11.753 โดยรวมแล้ว เอ็นเฮ็ดดูอันนา ทำหน้าที่หัวหน้านักบวชกว่า 40 ปี 00:04:11.753 --> 00:04:14.463 หลังจากที่เธอเสียชีวิต เธอกลายเป็นเทพยดา 00:04:14.463 --> 00:04:18.996 และบทกวีของเธอถูกคัดลอก ศึกษา และแสดง ทั่วจักรวรรดิ 00:04:18.996 --> 00:04:21.181 เป็นเวลากว่า 500 ปี 00:04:21.181 --> 00:04:24.186 ที่บทกวีของเธอส่งผลต่อ พระคัมภีร์เก่าของชาวฮิบรู 00:04:24.186 --> 00:04:27.336 มหากาพย์ของโฮเมอร์ และเพลงสวดในศาสนาคริสต์ 00:04:27.336 --> 00:04:30.556 ปัจจุบัน มรดกจากผลงาน ของเอ็นเฮ็ดดูอันนายังคงอยู่ 00:04:30.556 --> 00:04:33.296 บนแผ่นดินเหนียว ที่ผ่านการทดสอบแห่งกาลเวลา