[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:06.96,0:00:08.41,Default,,0000,0000,0000,,ในศตวรรษที่ 18 Dialogue: 0,0:00:08.41,0:00:13.21,Default,,0000,0000,0000,,นักพฤษศาสตร์ชาวสวีเดน คาโลลาส ลินเนียส\Nได้ออกแบบนาฬิกาดอกไม้ Dialogue: 0,0:00:13.21,0:00:16.47,Default,,0000,0000,0000,,ชิ้นงานเกี่ยวกับเวลาที่ทำจากไม้ดอก Dialogue: 0,0:00:16.47,0:00:20.66,Default,,0000,0000,0000,,ที่บานและหุบตามเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน Dialogue: 0,0:00:20.66,0:00:25.03,Default,,0000,0000,0000,,แผนของลินเนียสไม่ได้สมบูรณ์นัก\Nแต่ความคิดพื้นฐานนั้นถูกต้อง Dialogue: 0,0:00:25.03,0:00:29.36,Default,,0000,0000,0000,,ดอกไม้สามารถสัมผัสได้ถึงเวลา\Nตามการออกแบบ Dialogue: 0,0:00:29.36,0:00:33.76,Default,,0000,0000,0000,,ดอกผักบุ้งคลี่กลีบของพวกมัน\Nเหมือนกับลานนาฬิกาในตอนเช้าตรู่ Dialogue: 0,0:00:33.76,0:00:38.03,Default,,0000,0000,0000,,ดอกบัวสีขาวหุบดอก\Nเป็นสัญญาณว่า นี่มันบ่ายแก่ๆ แล้ว Dialogue: 0,0:00:38.03,0:00:43.34,Default,,0000,0000,0000,,และดอกชมจันทร์ก็เป็นอย่างที่ชื่อมันบอก \Nคือบานเฉพาะใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน Dialogue: 0,0:00:43.34,0:00:46.78,Default,,0000,0000,0000,,อะไรที่ทำให้ต้นไม้\Nมีสัมผัสเรื่องเวลามาตั้งแต่แรก Dialogue: 0,0:00:46.78,0:00:48.67,Default,,0000,0000,0000,,ความจริงแล้ว ไม่ใช่เฉพาะต้นไม้หรอก Dialogue: 0,0:00:48.67,0:00:51.89,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลก\Nเหมือนจะได้รับการถ่ายทอด Dialogue: 0,0:00:51.89,0:00:54.99,Default,,0000,0000,0000,,ในการรับรู้ว่าพวกมัน\Nอยู่ ณ เวลาไหนของวันแล้ว Dialogue: 0,0:00:54.99,0:00:57.22,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นเพราะว่า เซอร์คาเดียน ริทึม \N(circadian rhythms) Dialogue: 0,0:00:57.22,0:01:02.29,Default,,0000,0000,0000,,ตัวรักษาเวลาภายใน\Nที่เคาะเวลาในสิ่งมีชีวิตต่างๆ Dialogue: 0,0:01:02.29,0:01:06.75,Default,,0000,0000,0000,,นาฬิกาธรรมชาติเหล่านี้ \Nอนุญาตให้สิ่งมีชีวิตรับรู้เวลาได้ Dialogue: 0,0:01:06.75,0:01:11.02,Default,,0000,0000,0000,,และรับรู้สัญญาณจากธรรมชาติ\Nที่ช่วยให้พวกมันปรับตัวได้ Dialogue: 0,0:01:11.02,0:01:14.23,Default,,0000,0000,0000,,นั่นมันสำคัญ เพราะว่า \Nการหมุนและการเปลี่ยนแปลงของโลก Dialogue: 0,0:01:14.23,0:01:17.26,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้เราอยู่ในสถานะ\Nที่เคลื่อนที่อย่างคงที่ Dialogue: 0,0:01:17.26,0:01:21.01,Default,,0000,0000,0000,,แม้ว่าจะเกิดขึ้นซ้ำๆ และคาดเดาได้ Dialogue: 0,0:01:21.01,0:01:23.71,Default,,0000,0000,0000,,เซอร์คาร์เดียน ริทึม \Nทำงานร่วมกับสัญญาณต่างๆ Dialogue: 0,0:01:23.71,0:01:27.50,Default,,0000,0000,0000,,ในการควบคุมว่าเมื่อไร \Nสิ่งมีชีวิตควรที่จะหลับหรือตื่น Dialogue: 0,0:01:27.50,0:01:30.03,Default,,0000,0000,0000,,และทำกิจกรรมต่างๆ Dialogue: 0,0:01:30.03,0:01:34.56,Default,,0000,0000,0000,,สำหรับพืช แสงและอุณหภูมิ\Nเป็นสัญญาณที่กระตุ้นปฏิกิริยา Dialogue: 0,0:01:34.56,0:01:37.26,Default,,0000,0000,0000,,ที่มีบทบาทในระดับโมเลกุล Dialogue: 0,0:01:37.26,0:01:42.05,Default,,0000,0000,0000,,เซลล์ในก้าน ใบ และดอก\Nมีไฟโตโครม Dialogue: 0,0:01:42.05,0:01:45.04,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งคือโมเลกุลเล็กๆ ที่ตรวจจับแสง Dialogue: 0,0:01:45.04,0:01:49.85,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อมีแสงเกิดขึ้น \Nไฟโตโครมจะกระตุ้นสายปฏิกิริยาเคมี Dialogue: 0,0:01:49.85,0:01:53.49,Default,,0000,0000,0000,,ส่งสัญญาณลงไปยังนิวเคลียสของเซลล์ Dialogue: 0,0:01:53.49,0:01:57.50,Default,,0000,0000,0000,,ทรานซ์คริปชัน เฟกเตอร์ \Nจะกระตุ้นการสร้างโปรตีนที่ต้องการ Dialogue: 0,0:01:57.50,0:02:01.26,Default,,0000,0000,0000,,ในกระบวนการที่จำเป็นต้องใช้แสง Dialogue: 0,0:02:01.26,0:02:03.25,Default,,0000,0000,0000,,เช่น การสังเคราะห์ด้วยแสง\N(photosynthesis) Dialogue: 0,0:02:03.25,0:02:07.01,Default,,0000,0000,0000,,ไฟโตโครมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สัมผัส\Nปริมาณแสงที่พืชได้รับ Dialogue: 0,0:02:07.01,0:02:09.38,Default,,0000,0000,0000,,แต่มันยังตรวจจับได้ถึงความแตกต่างเพียงเล็กน้อย Dialogue: 0,0:02:09.38,0:02:13.78,Default,,0000,0000,0000,,ในการกระจายของความยาวคลื่น\Nที่พืชรับเข้ามา Dialogue: 0,0:02:13.78,0:02:15.64,Default,,0000,0000,0000,,การรับสัญญาณที่ค่อนข้างละเอียดนี้ Dialogue: 0,0:02:15.64,0:02:18.57,Default,,0000,0000,0000,,ไฟโตโครมจึงทำให้ให้พืชเข้าใจทั้งเวลา Dialogue: 0,0:02:18.57,0:02:21.81,Default,,0000,0000,0000,,และความแตกต่างของช่วงกลางวันและช่วงเย็น Dialogue: 0,0:02:21.81,0:02:26.05,Default,,0000,0000,0000,,และสถานที่ที่ไม่ว่า\Nจะอยู่ในบริเวณที่มีแสงส่องถึงหรืออยู่ในร่ม Dialogue: 0,0:02:26.05,0:02:30.93,Default,,0000,0000,0000,,พืชก็สามารถที่จะจับคู่ปฏิกิริยาเคมี\Nที่เข้ากับสิ่งแวดล้อมของมันได้ Dialogue: 0,0:02:30.93,0:02:33.09,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งนี้สร้างขึ้นเพื่อสิ่งที่ตื่นเช้า Dialogue: 0,0:02:33.09,0:02:37.20,Default,,0000,0000,0000,,ก่อนดวงอาทิตย์จะขึ้นสักสองสามชั่วโมง\Nพืชบางชนิดก็เริ่มตื่นตัว Dialogue: 0,0:02:37.20,0:02:42.14,Default,,0000,0000,0000,,สร้างรูปแบบ MRNA ให้แก่กลไก\Nการสังเคราะห์ด้วยแสงของมัน Dialogue: 0,0:02:42.14,0:02:44.68,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อไฟโตโครมตรวจจับแสงแดดที่เพิ่มขึ้นได้แล้ว Dialogue: 0,0:02:44.68,0:02:47.25,Default,,0000,0000,0000,,พืชก็เตรียมความพร้อมของโมเลกุลจับแสง Dialogue: 0,0:02:47.25,0:02:51.71,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อที่มันจะสามารถสังเคราะห์ด้วยแสง\Nและเติบโตไปตลอดช่วงเช้า Dialogue: 0,0:02:51.71,0:02:53.58,Default,,0000,0000,0000,,หลังจากเก็บเกี่ยวแสงในช่วงเช้าแล้ว Dialogue: 0,0:02:53.58,0:02:57.37,Default,,0000,0000,0000,,พืชจะใช้เวลาที่เหลือสร้างห่วงโซ่พลังงาน Dialogue: 0,0:02:57.37,0:03:01.15,Default,,0000,0000,0000,,ในรูปของกลูโคสโพลิเมอร์ เช่น แป้ง Dialogue: 0,0:03:01.15,0:03:04.04,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อดวงอาทิตย์ตก งานในช่วงวันก็จบลง Dialogue: 0,0:03:04.04,0:03:07.58,Default,,0000,0000,0000,,แม้ว่าพืชจะไม่ตื่นตัวในตอนกลางคืน Dialogue: 0,0:03:07.58,0:03:09.12,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อไม่มีแสงแดด Dialogue: 0,0:03:09.12,0:03:11.18,Default,,0000,0000,0000,,พืชจะเผาผลาญอาหารและเติบโต Dialogue: 0,0:03:11.18,0:03:15.41,Default,,0000,0000,0000,,ย่อยแป้งจากพลังงาน\Nที่เก็บเกี่ยวได้จากวันก่อนหน้านี้ Dialogue: 0,0:03:15.41,0:03:18.24,Default,,0000,0000,0000,,พืชต่างๆ มีจังหวะฤดูกาลเช่นกัน Dialogue: 0,0:03:18.24,0:03:20.34,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อฤดูใบไม้ผลิละลายหิมะฤดูหนาว Dialogue: 0,0:03:20.34,0:03:24.41,Default,,0000,0000,0000,,ไฟโตโครมก็รับรู้ได้ถึงช่วงวันที่ยาวขึ้น\Nและการเพิ่มขึ้นของแสง Dialogue: 0,0:03:24.41,0:03:28.68,Default,,0000,0000,0000,,และกลไกที่ตอนนี้ยังไม่รู้จักนั้น ได้\Nตรวจจับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ Dialogue: 0,0:03:28.68,0:03:31.32,Default,,0000,0000,0000,,ระบบเหล่านี้ส่งสัญญาณไปทุกระบบของพืช Dialogue: 0,0:03:31.32,0:03:33.67,Default,,0000,0000,0000,,และทำให้ดอกไม้บาน Dialogue: 0,0:03:33.67,0:03:37.58,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อเป็นการเตรียมสำหรับการถ่ายละอองเกสร\Nที่เกิดขึ้นก่อนที่อากาศจะอบอุ่นมากขึ้น Dialogue: 0,0:03:37.58,0:03:41.98,Default,,0000,0000,0000,,เซอร์คาเดียน ริทึม ทำหน้าที่เป็นเหมือน\Nตัวเชื่อมระหว่างพืชและสภาพแวดล้อม Dialogue: 0,0:03:41.98,0:03:45.09,Default,,0000,0000,0000,,จังหวะเหล่านี้เกิดจากการทำงานของพืชเอง Dialogue: 0,0:03:45.09,0:03:47.56,Default,,0000,0000,0000,,ที่แต่ละอันจะมีจังหวะแตกต่างกันไป Dialogue: 0,0:03:47.56,0:03:50.81,Default,,0000,0000,0000,,ถึงกระนั้น นาฬิกาเหล่านี้\Nสามารถปรับการจังหวะของมัน Dialogue: 0,0:03:50.81,0:03:53.92,Default,,0000,0000,0000,,ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม\Nและสัญญาณต่างๆ ได้ Dialogue: 0,0:03:53.92,0:03:55.85,Default,,0000,0000,0000,,ในดาวเคราะห์ที่มีการเคลื่อนไหวอย่างคงที่ Dialogue: 0,0:03:55.85,0:04:00.76,Default,,0000,0000,0000,,เซอร์คาเดียน ริทึม จะทำให้พืช\Nทำงานตามตารางเวลาของมัน Dialogue: 0,0:04:00.76,0:04:03.14,Default,,0000,0000,0000,,และรักษาเวลาของตัวเองได้