WEBVTT

00:00:01.973 --> 00:00:06.535
ออทิสติกเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนรู้จักดี

00:00:07.570 --> 00:00:09.890
ตัวอย่างเช่น บางคนคิดว่า

00:00:09.914 --> 00:00:14.440
ผู้ที่เป็นออทิสติกคือชายผิวขาว

00:00:14.464 --> 00:00:16.519
ที่พูดเสียงโทนเดียว

00:00:16.543 --> 00:00:20.130
และทำเรื่องเดิมซ้ำ ๆ อยู่เสมอ

00:00:21.258 --> 00:00:26.252
บางคนคิดว่า
ผู้ที่เป็นออทิสติกไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก

00:00:26.276 --> 00:00:27.808
หลีกเลี่ยงความสนใจ

00:00:27.832 --> 00:00:31.832
และมักจะชอบพูดสิ่งที่ผิดในเวลาที่ผิด

00:00:31.856 --> 00:00:36.354
บางคนคิดว่า
ผู้ที่เป็นออทิสติกจะงุ่มงามเมื่อเข้าสังคม

00:00:36.378 --> 00:00:38.417
ไม่มีอารมณ์ขันหรือความเห็นอกเห็นใจ

NOTE Paragraph

00:00:39.679 --> 00:00:43.060
ถ้าคุณเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมพูดไป

00:00:43.084 --> 00:00:44.498
ผมขอโทษที่ต้องบอกคุณว่า

00:00:44.522 --> 00:00:48.307
คุณกำลังมองการเป็นออทิสติกไม่ถูกต้อง

00:00:48.934 --> 00:00:50.084
ผมรู้ได้ยังไงน่ะหรือ

00:00:50.744 --> 00:00:53.593
เพราะผมเป็นออทิสติก

00:00:54.323 --> 00:00:59.437
ผมหมกหมุุ่นในสิ่งต่างๆ 
ที่เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

00:00:59.461 --> 00:01:01.736
และระบบขนส่งสาธารณะ

00:01:01.760 --> 00:01:04.188
แต่นั่นไม่ได้นิยามตัวผม

00:01:04.553 --> 00:01:08.378
พวกเราแต่ละคนแตกต่างและมีเอกลักษณ์
ในแบบของพวกเราเอง

NOTE Paragraph

00:01:09.252 --> 00:01:12.839
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลแพร่หลายมากนัก

00:01:12.863 --> 00:01:16.069
เกี่ยวกับชีวิตการเป็นออทิสติก
ว่าจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร

00:01:16.093 --> 00:01:19.458
ดังนั้นผู้คนจึงใช้การเหมารวมอยู่บ่อย ๆ

00:01:19.831 --> 00:01:22.231
และเราได้เห็นบ่อยครั้งในสื่อทั่วไป

00:01:22.712 --> 00:01:26.744
การเหมารวมบางเรื่องมักพบได้บ่อยในสื่อ

00:01:26.768 --> 00:01:28.910
รวมทั้งการเป็นคนงุ่มง่ามในสังคม

00:01:28.934 --> 00:01:30.633
ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ

00:01:30.657 --> 00:01:33.164
และแม้แต่การฉลาดเกินคนปกติ

NOTE Paragraph

00:01:35.687 --> 00:01:40.503
และการขาดความเข้าใจในเรื่องออทิสติก
ยังมีต่อไปเรื่อย ๆ

00:01:40.527 --> 00:01:44.125
คุณรู้ไหมว่าบางคนพยายามหาทางรักษา
การเป็นออทิสติก

00:01:44.149 --> 00:01:46.752
เพราะพวกเขามองว่ามันเป็นเรื่องแง่ลบ

00:01:46.776 --> 00:01:48.291
เหมือนคนเป็นโรค

00:01:48.950 --> 00:01:51.410
มีหลายคนพยายามทำให้ความคิดนั้นสำเร็จ

00:01:51.434 --> 00:01:55.990
และสำหรับเรา เราคิดว่าออทิสติกไม่ใช่โรค

00:01:56.014 --> 00:02:00.188
มันเป็นเพียงวิธีการคิดและมองโลก
อีกวิธีหนึ่งเท่านั้นเอง

00:02:00.679 --> 00:02:04.188
สมองของพวกเราทำงานต่าง
จากสมองของคนส่วนใหญ่

00:02:04.577 --> 00:02:07.926
ลองคิดถึงการเปรียบเทียบเครื่องเกม
Xbox กับ PlayStation ดูสิครับ

00:02:07.950 --> 00:02:11.490
ทั้งคู่เป็นเครื่องเกมที่มีความสามารถ
ด้วยโปรแกรมที่แตกต่างกัน

00:02:12.292 --> 00:02:16.188
แต่ถ้าคุณเอาเกม Xbox ของคุณ
มาไว้ใน PlayStation

00:02:16.212 --> 00:02:20.521
มันจะเล่นไม่ได้ เพราะการทำงานของ
PlayStation มันไม่เหมือนกัน

NOTE Paragraph

00:02:25.199 --> 00:02:26.588
เมื่อผมมองไปในกระจก

00:02:26.612 --> 00:02:28.706
ผมเห็นใครคนหนึ่งที่คิดต่าง

00:02:28.730 --> 00:02:30.603
อ้อ ผมเห็นทรงผมเท่ ๆ ด้วย

NOTE Paragraph

00:02:30.627 --> 00:02:32.665
(เสียงหัวเราะ)

NOTE Paragraph

00:02:32.689 --> 00:02:39.313
(เสียงปรบมือ)

NOTE Paragraph

00:02:39.337 --> 00:02:41.448
แต่คำถามก็คือ

00:02:41.472 --> 00:02:44.805
ผมเป็นโรคจริง ๆ เหรอ
ถ้าผมแค่คิดต่าง

00:02:48.387 --> 00:02:53.061
ปัญหาหลักของการเป็นออทิสติก
ในสังคมทุกวันนี้

00:02:53.085 --> 00:02:56.077
คือเพียงแค่โลกไม่ได้สร้างมาเพื่อเรา

00:02:56.101 --> 00:02:59.652
มีหลายอย่างมาก ๆ
ที่ทำให้เรารู้สึกรับมือไม่ได้

00:03:00.478 --> 00:03:02.057
ตัวอย่างเช่น

00:03:02.081 --> 00:03:07.355
สิ่งที่ทำให้ผมรับมือไม่ได้ตลอดเวลา
ก็คือเสียงดัง

00:03:07.379 --> 00:03:10.478
นั่นหมายความว่า
ผมไม่เคยเปิดเพลงเสียงดังมาก ๆ เลย

00:03:10.502 --> 00:03:14.601
และก็ไม่ใช่คนชอบงานสังสรรค์คนเยอะ ๆ

00:03:15.323 --> 00:03:18.762
แต่คนอื่น ๆ ที่เป็นออทิสติก
อาจจะรู้สึกทนไม่ได้

00:03:18.786 --> 00:03:22.260
กับสิ่งที่มีแสงไฟสว่าง ๆ หรือกลิ่นแรง

00:03:22.284 --> 00:03:24.307
หรือสัมผัสเหนียว ๆ

00:03:24.950 --> 00:03:28.217
สิ่งทั้งหมดเหล่านั้น
มีโอกาสสร้างความเครียดได้

00:03:28.847 --> 00:03:34.299
คิดถึงการรวมตัวทางสังคม
ที่คุณได้เจอมาในอดีตสิครับ

00:03:34.323 --> 00:03:36.257
มีเสียงดนตรีดัง ๆ กำลังเล่นอยู่ไหม

00:03:36.807 --> 00:03:39.394
มีแสงสว่างจ้ามาก ๆ ไหม

00:03:39.800 --> 00:03:44.236
มีกลิ่นอาหารต่าง ๆ มากมาย
ในเวลาเดียวกันไหม

00:03:44.260 --> 00:03:48.243
มีการคุยเกิดขึ้นพร้อมกันเยอะแยะไปหมดไหม

00:03:49.491 --> 00:03:51.959
สิ่งเหล่านี้อาจไม่รบกวนพวกคุณหรอกครับ

00:03:51.983 --> 00:03:54.855
แต่สำหรับบางคนที่เป็นออทิสติก

00:03:54.879 --> 00:03:56.946
พวกเขาแทบจะทนไม่ได้

NOTE Paragraph

00:03:57.522 --> 00:04:03.156
ในสถานการณ์แบบนั้น
เราเลยทำบางอย่างที่เรียกว่าพฤติกรรมซ้ำ ๆ

00:04:03.180 --> 00:04:06.230
เหมือนเป็นการเคลื่อนไหวหรือทำเสียงดังซ้ำ ๆ

00:04:06.254 --> 00:04:11.822
หรืออาการอยู่ไม่สุข
ที่ดูเหมือนคนปกติหรือไม่เหมือนบ้าง

00:04:12.853 --> 00:04:15.242
บางคนก็กระพือแขน

00:04:15.266 --> 00:04:18.860
ทำเสียงดัง ไม่ก็หมุนไปหมุนมา

00:04:20.361 --> 00:04:23.479
ใช่ครับ เราทำแบบนี้เป็นปกติ
เพื่อปลีกตัวออกมา

00:04:24.559 --> 00:04:27.432
มักจะรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องทำซ้ำ ๆ

00:04:27.893 --> 00:04:31.043
อย่างไรก็ตาม หลายครั้งที่มันก็ไม่ใช่เรื่อง
ที่น่ายอมรับสักเท่าไร

00:04:31.067 --> 00:04:32.934
และเราจึงถูกบังคับให้ซ่อนมันไว้

00:04:33.900 --> 00:04:37.881
เมื่อเราถูกบังคับให้เก็บซ่อนไว้

00:04:37.905 --> 00:04:39.239
มันคือพฤติกรรมใส่หน้ากาก

00:04:41.460 --> 00:04:44.491
บางคนใส่หน้ากากได้ดีกว่าคนอื่น ๆ

00:04:44.865 --> 00:04:50.712
บางทีผมก็ใส่หน้ากากเก่งมาก ๆ
จนคนอื่นไม่รู้ว่าผมเป็นออทิสติก

00:04:50.736 --> 00:04:54.546
จนกระทั่งผมแบไต๋ออกมา (หัวเราะ)

NOTE Paragraph

00:04:56.430 --> 00:04:59.620
แต่ท้ายที่สุดแล้ว
มันเป็นเรื่องที่เครียดมาก ๆ

00:04:59.644 --> 00:05:02.882
แม้แต่บางเรื่อง อย่างทำการบ้านตอนกลางคืน

00:05:02.906 --> 00:05:04.771
มันเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจ

00:05:05.839 --> 00:05:07.902
บางคนคิดว่า

00:05:09.347 --> 00:05:11.434
เพราะความสามารถในการใส่หน้ากากของเรา

00:05:11.458 --> 00:05:13.592
เป็นการรักษาออทิสติก

00:05:13.991 --> 00:05:16.721
อย่างไรก็ตามนะครับ
ทั้งหมดนี้มันทำให้เรารู้สึกละอาย

00:05:16.745 --> 00:05:19.038
ในการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

NOTE Paragraph

00:05:23.839 --> 00:05:28.950
การเหมารวมที่เจอบ่อยอีกเรื่อง
เกี่ยวกับการเป็นออทิสติก

00:05:28.974 --> 00:05:31.441
คือผู้ที่เป็นออทิสติกไม่มีความเห็นอกเห็นใจ

00:05:32.458 --> 00:05:34.497
และขอย้ำอีกครั้ง
มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยครับ

00:05:35.124 --> 00:05:37.258
จริง ๆ แล้วผมมีความเห็นอกเห็นใจอย่างมาก

00:05:37.601 --> 00:05:40.201
ผมแค่แสดงออกมาไม่เก่งแค่นั้นเอง

00:05:40.997 --> 00:05:43.152
เมื่อไรก็ตามที่เพื่อนคนหนึ่งพยายามบอกผม

00:05:43.176 --> 00:05:45.843
เกี่ยวกับอุปสรรคบางอย่าง
ที่เขากำลังเผชิญ

00:05:45.867 --> 00:05:48.914
บ่อยครั้งที่ผมไม่รู้
ว่าจะแสดงความรู้สึกตัวเองตอบกลับไปยังไง

00:05:49.271 --> 00:05:51.597
จึงเป็นเหตุผลว่า
ทำไมผมไม่ได้แสดงความเห็นใจมากนัก

00:05:51.621 --> 00:05:54.080
มากเท่ากับเพื่อนที่ไม่ได้เป็นออทิสติก

NOTE Paragraph

00:05:57.250 --> 00:06:01.324
การแสดงออกทางอารมณ์ไม่ว่าจะมากหรือน้อย

00:06:01.348 --> 00:06:02.710
มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับผม

00:06:03.671 --> 00:06:06.403
มันเป็นเพราะผมกำลังพลุ่งพล่านอยู่ข้างใน

00:06:06.427 --> 00:06:10.442
กับทุก ๆ อารมณ์ที่ผมรู้สึกอยู่ตลอดเวลา

00:06:11.188 --> 00:06:14.498
แต่แน่นอน ผมแสดงออกมาแบบนั้นไม่ได้

00:06:14.522 --> 00:06:19.052
ถ้าไม่อย่างนั้น ผมขอยกตัวอย่างเช่น
ความสุข

00:06:19.076 --> 00:06:22.354
อาจระเบิดออกมาใหญ่โต
ด้วยการหัวเราะจนหอบด้วยความดีใจ

00:06:22.378 --> 00:06:25.814
กระพือแขนแล้วพูดเสียงดังว่า "วู้ฮู"

NOTE Paragraph

00:06:25.838 --> 00:06:27.377
(เสียงหัวเราะ)

NOTE Paragraph

00:06:28.125 --> 00:06:29.776
ในทางตรงกันข้าม คุณอาจจะแค่ยิ้ม

NOTE Paragraph

00:06:29.800 --> 00:06:32.126
(เสียงหัวเราะ)

NOTE Paragraph

00:06:33.569 --> 00:06:37.761
อาจเป็นการได้ของขวัญวันเกิดเจ๋ง ๆ

00:06:37.785 --> 00:06:43.111
หรือการฟังเรื่องน่าเศร้าในรายการข่าว

00:06:43.135 --> 00:06:47.895
ผมแสดงความรู้สึกโดยไม่ระเบิดออกมา
ไม่ได้จริง ๆ

00:06:47.919 --> 00:06:52.906
และก็เป็นอีกครั้ง ที่ผมต้องใส่หน้ากาก
เพื่อทำให้ดูเป็นคนปกติ

00:06:53.990 --> 00:06:56.855
ความรู้สึกข้างในผมไม่มีขีดจำกัด

00:06:56.879 --> 00:07:01.136
แต่จิตใจของผมให้แสดงความรู้สึก
แค่สุดขีดหรือไม่ก็ไม่แสดงอะไรเลย

NOTE Paragraph

00:07:03.804 --> 00:07:05.836
ดังนั้น

00:07:05.860 --> 00:07:09.517
ผมไม่เก่งในเรื่องอารมณ์ของตัวเอง

00:07:09.541 --> 00:07:12.569
และผมมีวิธีสื่อสารที่ต่างออกไป

00:07:12.593 --> 00:07:17.815
และเพราะสิ่งนั้น ผมได้รับการวินิจฉัย
ว่าเป็นออทิสติก

00:07:18.514 --> 00:07:22.915
การวินิจฉัยช่วยให้ผม เพื่อน ๆ และครอบครัว

00:07:22.939 --> 00:07:26.447
ได้รู้ว่าจิตใจผมทำงานยังไง

00:07:27.511 --> 00:07:28.925
และในโลกใบนี้

00:07:28.949 --> 00:07:31.564
ประมาณหนึ่งในร้อยของประชากร

00:07:31.588 --> 00:07:35.164
ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก

00:07:35.188 --> 00:07:36.988
และตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

00:07:37.760 --> 00:07:40.852
อย่างไรก็ตาม เรายังเป็นส่วนน้อย
ที่จำนวนเยอะ

00:07:41.217 --> 00:07:44.876
และมีอีกหลายคนที่ไม่ได้มองเรา
อย่างเท่าเทียม

00:07:44.900 --> 00:07:46.209
หรือเหมือนกับคนอื่น

NOTE Paragraph

00:07:48.368 --> 00:07:50.122
นี่คือครอบครัวของผม

00:07:50.784 --> 00:07:53.580
และในครอบครัวของผม

00:07:53.604 --> 00:07:57.823
ยังมีอีกคนหนึ่งที่เป็นออทิสติกด้วย

00:07:58.411 --> 00:07:59.688
แม่ของผมเอง

00:07:59.712 --> 00:08:03.348
ใช่ครับ ผู้หญิงที่โตแล้วก็เป็นออทิสติกได้

00:08:04.690 --> 00:08:08.261
พ่อกับพี่ชายของผม
ทั้งสองไม่ได้เป็นออทิสติก

00:08:08.912 --> 00:08:13.212
บางครั้งพวกเราก็สื่อสารกันยากนิดหน่อย

00:08:13.236 --> 00:08:14.386
ยังไงก็ตาม

00:08:15.045 --> 00:08:17.831
บางครั้ง ผมจะพูดประมาณว่า

00:08:17.855 --> 00:08:20.826
"โอ้ ยูเนี่ยนสเตชั่น (Union Station) 
ของโตรอนโต (Toronto) ใช่ไหม"

00:08:20.850 --> 00:08:24.572
ผมคิดว่าผมสามารถ

00:08:24.596 --> 00:08:27.683
ช่วยให้พวกเขาจำเรื่องบางเรื่องได้

00:08:27.707 --> 00:08:32.617
เมื่อพวกเขาสับสน
ผมก็ต้องอธิบายเพิ่มเติมอยู่บ่อย ๆ

00:08:34.284 --> 00:08:37.807
และบ่อยครั้งที่เราพูดถึงสิ่งต่าง ๆ

00:08:37.831 --> 00:08:41.413
ในหลาย ๆ แบบที่แตกต่างกันไป
เพื่อให้เข้าใจกันทุกคน

00:08:42.419 --> 00:08:43.862
อย่างไรก็ตาม ด้วยสิ่งเหล่านั้น

00:08:43.886 --> 00:08:47.686
เราทุกคนรักและเคารพกันและกันอย่างเท่าเทียม

NOTE Paragraph

00:08:48.188 --> 00:08:50.545
ในหนังสือ นิวโร ไทรส์ (NeuroTribes)

00:08:50.569 --> 00:08:56.786
สตีฟ ซิลเบอร์แมน (Steve Silberman)
ผู้เขียนกล่าวว่าออทิสติกและสภาพทางจิตอื่น ๆ

00:08:56.810 --> 00:08:59.730
ทุกคนควรเห็นว่าเป็นมนุษย์โดยธรรมชาติ

00:08:59.754 --> 00:09:02.609
เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์โดยธรรมชาติ

00:09:02.633 --> 00:09:04.577
และไม่ใช่ข้อบกพร่อง

00:09:04.601 --> 00:09:07.910
และนี่เป็นสิ่งที่ผมเห็นด้วยอย่างมาก

00:09:08.903 --> 00:09:13.450
ถ้าทุกคนเห็นว่าออทิสติก
เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์โดยธรรมชาติ

00:09:13.474 --> 00:09:20.069
โลกคงถูกออกแบบมา
ให้ผู้ที่เป็นออทิสติกอยู่ง่ายขึ้น

00:09:20.728 --> 00:09:23.450
ผมไม่ละอายในการเป็นออทิสติกของผม

00:09:24.188 --> 00:09:27.188
และผมอาจไม่คิดเหมือนคุณ

00:09:27.212 --> 00:09:28.887
หรือทำเหมือนคุณ

00:09:28.911 --> 00:09:32.124
แต่ผมยังเป็นมนุษย์
และผมไม่ได้เป็นโรค

NOTE Paragraph

00:09:33.730 --> 00:09:34.889
ขอบคุณครับ

NOTE Paragraph

00:09:34.913 --> 00:09:39.008
(เสียงปรบมือ)