คุณเห็นสีอะไร
บนด้านซ้ายของกระดาน
(ผู้ชม) สีน้ำเงิน
ใช่แล้ว และคุณเห็นสีอะไร
บนด้านขวาของกระดาน
(ผู้ชม) สีน้ำเงิน... สีฟ้า
(เสียงหัวเราะ)
โอเค เอาเป็นว่า
อันนึงเป็นสีน้ำเงิน อีกอันเป็นสีฟ้า
ทุกคนเห็นตรงกันนะ
(ผู้ชม) เห็นด้วย
โอเค เอาเป็นว่าโดยทั่วไปแล้ว
คุณจะเรียกทั้งคู่นี้ว่าสีอะไร
(ผู้ชม) สีน้ำเงิน
โอเค มีใครในที่นี้บ้างที่พูดภาษารัสเซีย
มีมั้ยคะ
เยี่ยม เห็น 2-3 มือ ที่ยกขึ้น
เอาล่ะ คุณจะเรียกสีทางด้านซ้ายมือ
เป็นภาษารัสเซียว่าอะไร
"Cиний"
แล้วถ้าเป็นสีทางด้านขวาล่ะ
โอเค
ทีนี้ คุณจะเรียกรวม ๆ ว่าสีอะไร
(เสียงหัวเราะ)
ติดกับดักซะแล้ว
เพราะในภาษารัสเซีย
คุณไม่สามารถเรียกสีนี้แบบรวม ๆ ได้
ในภาษารัสเซีย
คุณไม่สามารถเหมารวมว่า "สีน้ำเงิน"
ถ้าคุณไม่เรียก "синий" แปลว่าสีน้ำเงิน
ก็ต้องเรียกว่า "голубой" แปลว่าสีฟ้า
ทีนี้ ฉันรู้มาว่า
มีคนพูดภาษาอาร์เมเนียได้อยู่ 2-3 คน ใช่ไหม
ฉันจะพูดประโยคนึง
แล้วจะให้พวกเธอแปลเป็นภาษาอาร์เมเนีย
"ฉันมีลุง"
(เสียงกระซิบ)
เห็นมั้ย นานาพูดว่า "Ես քեռի ունեմ"
แต่เธอพูดไม่ถูก
(เสียงหัวเราะ)
เพราะ "ฉันมีลุง" อาจจะหมายถึง
"ฉันมีลุงที่เป็นพี่ชายของแม่"
หรือ "ฉันมีลุงที่เป็นพี่ชายของพ่อ"
สิ่งที่นานาพูด คือ
"ฉันมีลุงที่เป็นพี่ชายของแม่"
แต่ฉันสามารถพูดได้ว่า "Ես հորեղբայր ունեմ"
ซึ่งหมายถึง "ฉันมีลุงที่เป็นพี่ชายของพ่อ"
และนั่นก็จะเป็นการแปลภาษาที่ถูกต้องเช่นกัน
ดังนั้น ภาษาอาร์เมเนียก็เหมือนภาษารัสเซีย
ที่ไม่สามารถพูดแค่คำว่า "สีน้ำเงิน" ได้
ในภาษาอาร์เมเนีย
ไม่สามารถพูดแค่คำว่า "ลุง" ได้
คุณจะต้องเฉพาะเจาะจงลงไปเลย
ว่ากำลังพูดถึงลุงจากฝั่งไหน
มันมีความแตกต่างอยู่ในภาษาเหล่านี้
ตอนที่ฉันอ่าน "แฮร์รี่ พอตเตอร์"
โดย เจ. เค. โรว์ลิง
ฉันเข้าใจภาพรวม
ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในหนังสือ
ถึงแม้ว่ามันจะผ่านการแปลมาแล้ว
ถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างอยู่ในภาษาเหล่านี้
ฉันอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน
เกือบจะเป็นเล่มเดียวกัน
กับที่คนอังกฤษอ่าน
และคุณก็คงสงสัยว่า
ทำไมฉันถึงถือไม้บรรทัดนี้อยู่ ใช่มั้ย
เหตุผลก็คือ การแปลภาษา
ก็เหมือนกับการวัด
เวลาคุณวัดอะไรสักอย่าง
แล้วสมมุติว่ามันยาว 20 เซนติเมตร
แต่เราส่วนใหญ่รู้ว่ามันไม่ใช่ 20 เซนติเมตร
มันคือ 20 เซนติเมตร บวก/ลบ 0.005
ใช่แล้ว
วิชาเคมี ฟิสิกส์ ม.4
(เสียงหัวเราะ)
มันก็คล้าย ๆ กับการแปลภาษา
ตอนที่ฉันอ่าน "แฮร์รี่ พอตเตอร์"
ฉันเห็น 20 เซนติเมตร เหมือนกัน
แต่มันมีความคลุมเครือเล็ก ๆ อยู่
เพราะว่าภาษา
แตกต่างกันด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง
คุณไม่สามารถส่งต่อไอเดียต่าง ๆ
โดยไม่สูญเสียอะไรบางอย่างไป
ฉันเสียไป 0.005 แต่มันน้อยมาก ๆ
จนแทบไม่มีความสำคัญอะไรเลย
แต่มันมีกรณีที่ไม่ใช่แค่ 0.005 ไหม
มันมีกรณี 1 เซนติเมตร
หรือแม้กระทั่ง 10 เซนติเมตร ไหม
เอาล่ะ คุณคิดว่าคนคนนี้
เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง
(เสียงผู้ชม) ผู้หญิง
ใช่แล้ว พวกคุณส่วนใหญ่พูดว่า "เด็กผู้หญิง"
และคุณพูดถูก
แต่
เธอคือตัวละครหลักจากหนังสือ
"ผู้บริสุทธิ์" โดย ฮาร์เปอร์ ลี
และตอนที่ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้
มันมีบางอย่างที่ผิดปกติ
ฉันไม่สามารถรู้ได้ว่า
ตัวละครหลักเป็นเพศอะไร จนกระทั่งถึงหน้า 60
เพราะนักเขียนให้แค่คำใบ้ต่าง ๆ
และนักเขียนทำให้ฉันสับสน
กับประโยคบางประโยค เช่น
"ฉันสาบานเลย เจ้าลูกเสือ บางครั้งแกก็ทำตัว
อย่างกับเด็กผู้หญิง มันน่าขายหน้าจริง ๆ"
เมื่อคุณพูดว่า "แกก็ทำตัว
อย่างกับเด็กผู้หญิง มันน่าขายหน้าจริง ๆ"
เราจะเข้าใจว่าคนคนนี้
ไม่ควรจะทำตัวแบบเด็กผู้หญิง ใช่มั้ย
หรือเจ้าลูกเสือพูดว่า "ครั้งหนึ่ง
ฉันอัดมันซะเละ แต่มันก็ไม่ได้ถือสาอะไร"
อัดซะเละ กับการเป็นเด็กผู้หญิงอะนะ
ในปี 1960 มันช่างไม่เข้ากันเลย
(เสียงหัวเราะ)
เพราะอย่างนี้ นักเขียนเลยทำให้ฉันสับสน
และฉันก็แอบคิดว่า
"ภาษาอังกฤษของฉันน่าจะแย่เกิน"
ฉันอาจจะไม่เข้าใจหนังสือเล่มนี้
อย่างถูกต้อง
แต่ฉันก็มาเข้าใจทีหลังว่า
มันคือส่วนสำคัญของแก่นเรื่อง
เพราะว่าตอนครึ่งเรื่องของหนังสือ
ตัวละครที่ชื่อว่าป้าอเล็กซานดร้า
ก็โผล่เข้ามา
เธอเป็นป้าของเจ้าลูกเสือ
และเธอก็พยายามทำให้ลูกเสือเป็นเด็กผู้หญิง
ดังนั้น ตอนต้นเรื่อง
เจ้าลูกเสือระบุตัวเองว่าเป็นแค่เด็ก
ไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิง หรือเด็กผู้ชาย
เป็นแค่เด็ก
แต่แล้วป้าอเล็กซานดร้า
ก็เริ่มฝึกให้เธอเป็นเด็กผู้หญิง
และในตอนจบของหนังสือ
คุณก็จะเห็นลูกเสือใส่ชุดเดรส
และกินกาแฟอยู่กับคุณป้าและเพื่อน ๆ ของเธอ
ดังนั้น มันก็เหมือนการที่เจ้าลูกเสือ
เปิดเผยเพศของตัวเอง
ค้นพบเพศของตัวเอง
ผู้อ่านก็ค้นพบไปพร้อม ๆ กัน
เราต่างก็เดินทางไปบนเส้นทางเดียวกัน
เส้นทางเดียวกันกับตัวละครหลัก
เราใช้ชีวิตไปกับเธอจริง ๆ
ทีนี้ ลองมาดูอีกตัวอย่างหนึ่ง
เมื่อฉันพูดว่า "มาเรียมกลับบ้านแล้ว"
เป็นภาษาอังกฤษ รัสเซีย และอาร์เมเนีย
ฉันรู้ว่าฉันกำลังพูดถึงเด็กผู้หญิง
เพราะมาเรียม เป็นชื่อเด็กผู้หญิง
เอาล่ะ ทีนี้ลองเปลี่ยนจากมาเรียม
มาเป็นคำสรรพนาม เป็นคำว่า "เธอ"
"เธอกลับบ้าน" ฉันยังรู้ว่าเป็นเด็กผู้หญิง
"Она пошла домой,"
ฉันยังรู้ว่าเป็นเด็กผู้หญิง
แต่เมื่อฉันพูดว่า "Նա գնաց տուն,"
มันก็เกิดคำถามขึ้น
เพราะในภาษาอาร์เมเนีย
เหมือนอย่างที่นานาน่าจะรู้อยู่แล้ว
คำสรรพนาม "նա"
เป็นตัวแทนของทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง
แต่ถึงแม้ว่าฉัน
อยากจะปกปิดเพศของคน ๆ หนึ่งจริง ๆ
และฉันตั้งชื่อเล่นให้มาเรียม
สมมติว่าชื่อ "ลูกเสือ"
"ลูกเสือกลับบ้านไปแล้ว"
ฉันไม่รู้ว่าลูกเสือเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
"Մեձաչքանին գնաց տուն"
ฉันก็ยังไม่รู้
แต่พอฉันพูดว่า
"Глазастик пошла домой"
"Глазастик пошла домой, пошла домой"
ฉันรู้ว่าหมายถึงเด็กผู้หญิง
เพราะก็เหมือนกับการที่คุณไม่สามารถพูดแค่คำว่า
"ไป" เป็นภาษารัสเซีย
คุณไม่สามารถพูดแค่คำว่า
"ไปแล้ว" ในภาษารัสเซีย
หรือคุณไม่สามารถพูดแค่คำกริยาในภาษารัสเซีย
เพราะคุณต้องพูดว่า "пошёл" หรือ "пошла"
"пошёл" จะหมายถึงเด็กผู้ชาย
และ "пошла" จะหมายถึงเด็กผู้หญิง
พอฉันจะแปลประโยคนี้เป็นภาษารัสเซีย
ฉันต้องพูดว่า "Я избил его"
หรือ "Я избилa его"
เดี๋ยวก่อนนะ...
หมายความว่าในภาษารัสเซีย
คุณไม่สามารถปกปิดเพศได้เลยรึ
ถูกต้อง
และตอนที่ฉันอ่านหนังสือเป็นภาษารัสเซีย
รู้อะไรมั้ย
เพศของลูกเสือถูกเฉลย
ตั้งแต่หน้าแรก
ดังนั้น ถ้าฉันจะคุยเรื่องหนังสือนี้
กับเพื่อนชาวรัสเซีย
ผู้ซึ่งไม่รู้เลยว่า
มีการปกปิดเพศของลูกเสือ
เราก็จะมีความเข้าใจในเนื้อเรื่อง
ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น มันไม่ใช่แค่ 0.005 แล้ว
มันแตกต่างกันมาก ๆ
เพราะเพื่อนของฉันไม่ได้เข้าใจ
ในส่วนสำคัญนี้ เหมือนที่ฉันเข้าใจ
นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมการอ่าน
"แฮร์รี่ พอตเตอร์" ในภาษาอาร์เมเนีย
และการอ่าน "ผู้บริสุทธิ์"
"Убить пересмешника" ในภาษารัสเซีย
ถึงแตกต่างกัน
เพราะแม้ว่าจะมีความแตกต่าง
ในเรื่อง "แฮร์รี่ พอตเตอร์"
มันก็ไม่สำคัญมากนัก
แต่ฮาร์เปอร์ ลี ตัดสินใจ
ที่จะใช้ลักษณะเฉพาะ
ของภาษาอังกฤษ
ในการถ่ายทอดเนื้อหาสำคัญ
ดังนั้น เมื่อคุณอ่านมันในภาษารัสเซีย
คุณก็จะไม่เข้าใจเนื้อหาสำคัญ
ที่นักเขียนต้องการจะถ่ายทอด
อีกหนึ่งตัวอย่าง
ก็คือหนังสือ "รูม" โดย เอ็มมา ดอนนาฮิว
แต่ก่อนที่จะเข้าเรื่องหนังสือเล่มนี้
ฉันอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับคุณ
ยกตัวอย่างเช่น ไม้บรรทัดนี้
เป็นเพศหญิงในภาษารัสเซีย
เพราะว่า "линейка"
ถ้ามันจบประโยคด้วย "a" หรือ "я"
มันก็จะเป็นเพศหญิง
ภาษารัสเซียเป็นแบบนี้
ภาษาสเปนก็เป็นเหมือนกัน
ภาษาเยอรมันก็เป็นเหมือนกัน
ภาษาเหล่านี้มีสิ่งที่เรียกว่า
"เพศทางไวยากรณ์"
ในหนังสือเรื่อง "รูม" โดย เอ็มมา ดอนนาฮิว
แม่และลูกชายติดอยู่ในห้องถึง 5 ปี
และลูกชายไม่เคยได้เห็นโลกภายนอกเลย
เพราะฉะนั้นมันก็สมเหตุสผลที่จะคิดว่า
ลูกชายก็จะแปลก ๆ นิดหน่อย
ความแปลกนี้ถูกถ่ายทอดออกมายังไงน่ะหรือ
คือว่า
เขาคิดว่าสิ่งของทุกอย่างรอบ ๆ ตัวมีเพศ
ยกตัวอย่างเช่น พรม ก็จะไม่ถูกเรียกว่า "มัน"
แต่จะถูกเรียกว่า "เธอ"
เขามีความคิดคล้าย ๆ คนรัสเซีย
แต่มันแปลก ๆ สำหรับคนอังกฤษ
เพราะเวลาที่คุณเรียก "พรม" ว่า
"เธอ" ในภาษาอังกฤษ
"พรม" ก็จะมีตัวตน
เมื่อเขาพูดว่า
"เราสร้างเขาวงกตมาตั้งแต่ฉันอายุ 2 ขวบ"
"เธอเป็นข้างในของกระดาษชำระ
ที่ถูกติดเทปเข้าด้วยกันเป็นอุโมงค์"
"ที่ถูกบิดไปหลายรูปแบบ"
เขาวงกต เป็น "เธอ"
โอเค งั้นลองแปลมันเป็นภาษารัสเซีย
อย่างแรกเลย "лабиринт" จะเป็น "เขา"
เพราะมันเป็นคำที่ลงท้ายด้วย "т"
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่สาระสำคัญ
คุณอาจจะพูดได้ว่ามันไม่สำคัญ
ถ้าคุณจะคิดว่าเขาวงกตเป็น "เธอ" หรือ "เขา"
สิ่งนั้นคือในภาษารัสเซีย
มันปกติมาก ๆ
ที่จะพูดว่า "лабиринт" เป็น "เขา"
เพราะนั่นคือสิ่งที่ทุกคนพูด
ดังนั้น สิ่งที่ดูแปลก ๆ
ในหนังสือของ เอ็มมา ดอนนาฮู ภาคภาษาอังกฤษ
จะถูกมองเป็นสิ่งปกติมาก ๆ ในภาษารัสเซีย
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม
ฉันถึงอยากจะเชื่อมโยงมัน
เขากับสิ่งที่ โรมัน ยาค็อบสัน เคยกล่าวไว้
"โดยพื้นฐานแล้ว ภาษาทั้งหลาย
ล้วนแตกต่างกันในสิ่งที่ต้องถ่ายทอด"
"ไม่ใช่ในสิ่งที่น่าจะถ่ายทอด"
ดังนั้น ในภาษารัสเซีย
ฉันต้องถ่ายทอดเพศของบุคคล
ในภาษาอาร์เมเนีย
ฉันต้องถ่ายทอดว่าลุงมาจากฝั่งไหน
ฉันไม่สามารถปกปิดมันได้
ตอนนี้ฉันมีคำถามสำหรับคุณ
มันคือหนังสือเล่มเดียวกันจริง ๆ หรือ
ขอบคุณค่ะ
(เสียงปรบมือ)