0:00:00.000,0:00:00.520 0:00:00.520,0:00:04.050 สิ่งที่ผมอยากทำในวิดีโอนี้[br]คือหาพื้นที่ของเขตนี้ 0:00:04.050,0:00:07.200 ที่ผมแรเงาด้วยสีเหลือง 0:00:07.200,0:00:11.140 และสิ่งที่ดูท้าทายคือว่าในเขตนี้ 0:00:11.140,0:00:12.810 ผมมีฟังก์ชันตัวล่างเดียวกัน 0:00:12.810,0:00:14.540 หรือจะเรียกว่าขอบล่างก็ได้ คือ y 0:00:14.540,0:00:16.870 เท่ากับ x กำลังสองส่วน 4 ลบ 1 0:00:16.870,0:00:19.242 แต่ผมมีขอบบนต่างกัน 0:00:19.242,0:00:20.700 วิธีที่เราแก้ปัญหานี้ 0:00:20.700,0:00:23.290 คือการแบ่งพื้นที่นี้เป็นสองส่วน 0:00:23.290,0:00:26.640 หรือแบ่งเขตนี้เป็นสองเขต เขตทางซ้าย 0:00:26.640,0:00:28.250 กับเขตทางขวา โดย 0:00:28.250,0:00:30.730 สำหรับเขตแรกนี้ ผมจะ -- 0:00:30.730,0:00:34.310 ผมจะระบายสีด้วยสีเหลืองอีก [br]-- สำหรับเขตแรกนี้ 0:00:34.310,0:00:35.950 ตลอดช่วงทั้งหมดของ x นั้น 0:00:35.950,0:00:40.360 มันดูเหมือนว่า x จะไปจาก 0 ถึง 1 0:00:40.360,0:00:44.280 y เท่ากับ -- เมื่อ x เท่ากับ 1, ฟังก์ชันนี้เท่ากับ 1 0:00:44.280,0:00:47.220 เมื่อ x เท่ากับ 1, ฟังก์ชันนี้ก็เท่ากับ 1 ด้วย 0:00:47.220,0:00:48.810 นี่คือจุด (1, 1) 0:00:48.810,0:00:50.320 นี่คือจุดที่พวกมันตัดกัน 0:00:50.320,0:00:53.250 สำหรับส่วนนี้ เขตย่อยนี่ตรงนี้ 0:00:53.250,0:00:57.420 y เท่ากับรากที่สองของของ x [br]เป็นฟังก์ชันบนตลอดเวลา 0:00:57.420,0:00:59.230 แล้วเรามี -- เราตั้ง 0:00:59.230,0:01:02.860 อีกตัว -- เราแยกหา 0:01:02.860,0:01:04.920 พื้นที่ของเขตนี้ได้ 0:01:04.920,0:01:07.960 จาก x เท่ากับ 1 ถึง x เท่ากับ 2 0:01:07.960,0:01:10.890 เมื่อ y เท่ากับ 2 ลบ x เป็นฟังก์ชันบน 0:01:10.890,0:01:12.450 ลองทำดู 0:01:12.450,0:01:14.710 ลองคิดถึงเขตแรกก่อน 0:01:14.710,0:01:17.050 มันจะเท่ากับอินทิกรัลจำกัดเขตจาก x 0:01:17.050,0:01:19.640 เท่ากับ 0 ถึง x เท่ากับ 1 0:01:19.640,0:01:25.120 และฟังก์ชันบนของเราคือรากที่สองของ x[br]รากที่สองของ x 0:01:25.120,0:01:28.390 แล้วจากนั้น เราอยากลบฟังก์ชันล่าง -- 0:01:28.390,0:01:32.320 รากที่สองของ x ลบ x กำลังสองส่วน 4 ลบ 1 0:01:32.320,0:01:39.200 0:01:39.200,0:01:42.400 แล้วแน่นอน เรามี dx 0:01:42.400,0:01:46.350 อันนี้ตรงนี้ อันนี้บรรยายพื้นที่สีเหลือง 0:01:46.350,0:01:49.730 และคุณคงนึกออก ส่วนนี่ตรงนี้ 0:01:49.730,0:01:51.660 ผลต่างระหว่างฟังก์ชันสองตัวนี้ 0:01:51.660,0:01:53.164 ก็คือความสูง 0:01:53.164,0:01:54.580 ขอผมใช้อีกสีนะ 0:01:54.580,0:01:57.820 0:01:57.820,0:01:59.680 แล้วคุณคูณมันด้วย dx 0:01:59.680,0:02:03.390 คุณจะได้สี่เหลี่ยมเล็กๆ กว้าง dx 0:02:03.390,0:02:06.600 แล้วคุณทำไปสำหรับแต่ละ x 0:02:06.600,0:02:08.860 แต่ละ x คุณจะได้สี่เหลี่ยมมุมฉากต่างๆ กัน 0:02:08.860,0:02:10.650 แล้วคุณบวกพวกมันเข้า 0:02:10.650,0:02:14.570 คุณหาลิมิตเมื่อ[br]การเปลี่ยนแปลงของ x เข้าใกล้ 0 0:02:14.570,0:02:16.664 แล้วคุณจะได้สี่เหลี่ยมมุมฉากบางเฉียบสุดๆ 0:02:16.664,0:02:18.330 และคุณมีจำนวนสี่เหลี่ยมนับไม่ถ้วน 0:02:18.330,0:02:21.060 นั่นคือนิยามของเรา หรือนิยามรีมานน์ 0:02:21.060,0:02:22.820 ว่าอินทิกรัลจำกัดเขตคืออะไร 0:02:22.820,0:02:25.370 และนี่คือพื้นที่ของเขตซ้าย 0:02:25.370,0:02:27.370 ด้วยเหตุผลเดียวกัน เราก็หา 0:02:27.370,0:02:28.972 พื้นที่ของเขตขวาได้ 0:02:28.972,0:02:30.680 เขตขวา -- เราแค่ 0:02:30.680,0:02:32.127 บวกสองตัวนี้เข้าด้วยกัน 0:02:32.127,0:02:34.210 เขตขวา เราจะไปจาก x เท่ากับ 0 0:02:34.210,0:02:38.530 ถึง x -- โทษที x เท่ากับ 1 [br]ถึง x เท่ากับ 2, 1 ถึง 2 0:02:38.530,0:02:42.130 ฟังก์ชันบนคือ 2 ลบ x 0:02:42.130,0:02:47.220 แล้วจากนั้น เราจะลบฟังก์ชันล่าง 0:02:47.220,0:02:49.660 ซึ่งก็คือ x กำลังสองส่วน 4 ลบ 1 0:02:49.660,0:02:53.780 0:02:53.780,0:02:56.060 และตอนนี้เราต้องหาค่า 0:02:56.060,0:02:58.800 ลองจัดรูปอันนี้ตรงนี้ให้ง่ายลง 0:02:58.800,0:03:02.100 อันนี้เท่ากับอินทิกรัลจำกัดเขต 0:03:02.100,0:03:09.220 จาก 0 ถึง 1 ของรากที่สองของ x ลบ [br]x กำลังสองส่วน 4 บวก 1 0:03:09.220,0:03:12.020 dx -- ผมเขียนทั้งหมดด้วยสีเดียวแล้ว -- 0:03:12.020,0:03:18.710 บวกอินทิกรัลจำกัดเขต[br]จาก 1 ถึง 2 ของ 2 ลบ x 0:03:18.710,0:03:21.330 ลบ x กำลังสองส่วน 4 0:03:21.330,0:03:25.330 แล้วลบลบเป็นบวก 3 -- หรือบวก 1 0:03:25.330,0:03:26.650 เราบวกมันกับ 2 นี้ได้ 0:03:26.650,0:03:29.330 แล้ว 2 นี้กลายเป็น 3 0:03:29.330,0:03:34.747 ผมบอกว่า 2 ลบลบ 1 เป็น 3 dx 0:03:34.747,0:03:36.705 และตอนนี้เราต้องหาปฏิยานุพันธ์ 0:03:36.705,0:03:39.310 และหาค่าที่ 1 กับ 0 0:03:39.310,0:03:42.130 ปฏิยานุพันธ์ขอองตัวนี้คือ -- 0:03:42.130,0:03:43.480 นี่คือ x กำลัง 1/2 0:03:43.480,0:03:44.730 เพิ่มขึ้น 1 0:03:44.730,0:03:47.500 เพิ่มเลขชี้กำลังขึ้น 1 คุณจะได้ x กำลัง 3/2 0:03:47.500,0:03:49.200 แล้วคูณมันด้วยส่วนกลับ 0:03:49.200,0:03:53.650 ของเลขชี้กำลังใหม่ -- มันก็คือ 2/3 x กำลัง 3/2 0:03:53.650,0:03:56.410 ลบ -- ปฏิยานุพันธ์ของ x กำลังสองส่วน 4 0:03:56.410,0:04:02.160 ได้ x กำลัง 3, หารด้วย 3, หารด้วย 4, [br]ได้หารด้วย 12 0:04:02.160,0:04:03.660 บวก x 0:04:03.660,0:04:05.510 นั่นคือปฏิยานุพันธ์ของ 1 0:04:05.510,0:04:09.590 เราจะหาค่ามันที่ 1 กับ 0 0:04:09.590,0:04:11.640 แล้วตรงนี้ ปฏิยานุพันธ์คือ 0:04:11.640,0:04:19.670 3x ลบ x กำลังสองส่วน 2 ลบ x 0:04:19.670,0:04:22.029 กำลัง 3 ส่วน 12 0:04:22.029,0:04:24.450 เหมือนเดิม หาค่ามันที่ -- ไม่ใช่เหมือนเดิมสิ 0:04:24.450,0:04:28.460 ตอนนี้เราจะหาค่ามันที่ 2 กับ 1 แทน 0:04:28.460,0:04:30.610 ตรงนี้ คุณหาค่าทั้งหมดนี้ที่ 1 0:04:30.610,0:04:35.690 คุณจะได้ 2/3 ลบ 1/12 บวก 1 0:04:35.690,0:04:38.410 แล้วจากนั้น คุณลบค่านี้ที่ 0 0:04:38.410,0:04:41.010 แต่นี่ก็แค่ 0 คุณจึงไม่ได้อะไร 0:04:41.010,0:04:44.260 นี่คือสิ่งที่ลดรูปจากตัวสีเหลือง 0:04:44.260,0:04:46.740 แล้วตัวสีม่วงนี้ สีบานเย็นนี้ 0:04:46.740,0:04:51.070 หรือสีชมพู สีอะไรก็ช่าง ก่อนอื่นคุณหาค่าที่ 2 0:04:51.070,0:04:58.330 คุณได้ 6 ลบ -- ลองดู [br]2 กำลังสองส่วน 2 ได้ 2, ลบ 8 0:04:58.330,0:04:58.920 ส่วน 12 0:04:58.920,0:05:01.520 0:05:01.520,0:05:03.650 แล้วจากนั้น คุณจะลบ 0:05:03.650,0:05:05.460 ตัวนี้หาค่าที่ 1 0:05:05.460,0:05:13.270 มันจึงเท่ากับ 3 คูณ 1 -- [br]นั่นคือ 3 -- ลบ 1/2 ลบ 1 0:05:13.270,0:05:14.604 ส่วน 12 0:05:14.604,0:05:16.270 และตอนนี้ เราจะเหลือ 0:05:16.270,0:05:17.889 แค่บวกเศษส่วนต่างๆ 0:05:17.889,0:05:19.180 ลองดูว่าเราทำได้ไหม 0:05:19.180,0:05:20.930 มันดูเหมือนว่า 12 จะเป็น 0:05:20.930,0:05:22.300 ตัวส่วนร่วมที่ชัดที่สุด 0:05:22.300,0:05:29.430 ตรงนี้ คุณมี 8/12 ลบ 1/ 12 บวก 12/12 0:05:29.430,0:05:31.310 อันนี้ลดรูปเหลือ -- นี่คืออะไร? 0:05:31.310,0:05:36.440 นี่คือ 19/12 ส่วนที่เราเขียนด้วยสีเหลือง 0:05:36.440,0:05:40.190 แล้วตัวนี้ ขอผมใช้สีนี้นะ 0:05:40.190,0:05:43.280 6 ลบ 2 นี่ก็แค่ 4 0:05:43.280,0:05:51.100 เราเขียนได้เป็น 48/12 -- นั่นคือ 4 -- ลบ 8/12 0:05:51.100,0:05:54.460 แล้วเราจะต้องลบ 3 ซึ่งก็คือ 36/12 0:05:54.460,0:05:57.170 0:05:57.170,0:06:02.410 แล้วเราจะบวก 1/2 ซึ่งก็คือบวก 6/12 0:06:02.410,0:06:06.030 แล้วเราจะบวก 1/12 0:06:06.030,0:06:10.730 อันนี้จึงลดรูปหมดเเหลือ -- ลองดู 48 ลบ 8 0:06:10.730,0:06:18.410 ได้ 40, ลบ 36 ได้ 4, บวก 6 ได้ 10,[br]บวก 1 ได้ 11 0:06:18.410,0:06:21.614 อันนี้จึงกลายเป็นบวก 11/12 0:06:21.614,0:06:23.030 ขอผมดูหน่อยว่าผมทำถูกจริง 0:06:23.030,0:06:28.830 48 ลบ 8 ได้ 40, ลบ 36 ได้ 4, 10, 11 0:06:28.830,0:06:30.040 มันดูใช้ได้แล้ว 0:06:30.040,0:06:31.955 แล้วเราก็พร้อมบวกสองตัวนี้ 0:06:31.955,0:06:36.010 19 บวก 11 เท่ากับ 30/12 0:06:36.010,0:06:38.290 หรือถ้าเราอยากจัดรูปอันนี้หน่อย 0:06:38.290,0:06:40.990 เราก็หารตัวเศษกับตัวส่วนด้วย 6 ได้ 0:06:40.990,0:06:44.960 อันนี้เท่ากับ 5/2 หรือ 2 1/2 0:06:44.960,0:06:45.630 เราก็เสร็จแล้ว 0:06:45.630,0:06:50.560 เราหาพื้นที่ของเขตทั้งหมดนี้ได้แล้ว 0:06:50.560,0:06:53.255 มันคือ 2 1/2 0:06:53.255,0:06:53.755