1 00:00:00,083 --> 00:00:03,044 ลองทำเรื่องความน่าจะเป็นเกี่ยวกับไพ่สักหน่อย 2 00:00:03,044 --> 00:00:05,055 สำหรับวิดีโอนี้ เราจะถือว่า 3 00:00:05,055 --> 00:00:07,057 สำรับของเราไม่มีไพ่โจ๊กเกอร์ 4 00:00:07,059 --> 00:00:09,027 คุณทำโจทย์แบบเดียวกันแบบมีโจ๊กเกอร์ก็ได้, 5 00:00:09,030 --> 00:00:11,034 คุณจะได้คำตอบที่แตกต่างไปหน่อย 6 00:00:11,034 --> 00:00:13,027 พักเรื่องนั้นไว้ 7 00:00:13,027 --> 00:00:15,007 อย่างแรกลองคิดดูว่า 8 00:00:15,007 --> 00:00:17,862 เรามีไพ่กี่ใบในสำรับไพ่ปกติ? 9 00:00:17,862 --> 00:00:21,086 เรามีไพ่อยู่ 4 ดอก 10 00:00:21,086 --> 00:00:25,518 และดอกได้แก่. โพธิ์ดำ ข้าวหลามตัด ดอกจิก 11 00:00:25,518 --> 00:00:27,023 และโพธิ์แดง 12 00:00:27,023 --> 00:00:28,024 คุณมีอยู่สี่ดอก 13 00:00:28,024 --> 00:00:31,059 แล้วในแต่ละดอกก คุณมีไพ่ 13 ใบ 14 00:00:31,059 --> 00:00:34,010 แตกต่างกัน บางครั้งมันเรียกว่า อันดับ 15 00:00:34,010 --> 00:00:44,057 ดังนั้นในแต่ละดอก มีไพ่แตกต่างกัน 13 ใบ 16 00:00:44,057 --> 00:00:47,041 คุณมีเอซ, แล้วก็มีสอง, สาม 17 00:00:47,041 --> 00:00:52,073 สี่, ห้า, หก, เจ็ด, แปด, เก้า, สิบ 18 00:00:52,073 --> 00:00:55,588 แล้วก็มีแจ็ค, คิง และควีน 19 00:00:55,588 --> 00:00:57,518 นั่นคือไพ่ 13 ใบ 20 00:00:57,518 --> 00:01:01,013 คุณก็ได้ว่าแต่ละดอก คุณมีไพ่ 21 00:01:01,013 --> 00:01:03,096 แบบนี้, แต่ละแบบคุณมีไพ่ดอกต่างๆ 22 00:01:03,096 --> 00:01:05,082 คุณก็มีแจ็คข้าวหลามตัด, แจ็คดอกจิก 23 00:01:05,082 --> 00:01:08,660 แจ็คโพธิ์ดำ หรือแจ็คโพธิ์แดง 24 00:01:08,660 --> 00:01:10,475 แล้วถ้าคุณคูณเลขสองตัวนี้ 25 00:01:10,475 --> 00:01:12,762 คุณจะได้จำนวนไพ่ทั้งกอง แล้ว 26 00:01:12,762 --> 00:01:14,062 ถ้าคุณนับมัน, เอาโจ๊กเกอร์ออกแล้วนับทั้งหมด 27 00:01:14,062 --> 00:01:16,061 แต่ถ้าคุณคูณออกมา, คุณจะได้ 4 ดอก 28 00:01:16,061 --> 00:01:18,096 แต่ละดอกมี 13 แบบ 29 00:01:18,096 --> 00:01:21,073 คุณจึงได้ไพ่ 4 คูณ 13 ใบ 30 00:01:21,073 --> 00:01:24,084 หรือคุณมีไพ่ 52 ใบในสำรับไพ่มาตรฐานนั่นเอ ง 31 00:01:24,084 --> 00:01:26,088 วิธีที่คุณบอกได้อีกอย่างคือว่า: ดูสิ, มีไพ่ทั้งหมด 32 00:01:26,088 --> 00:01:28,044 13 อันดับหรือแบบ 33 00:01:28,044 --> 00:01:30,001 แต่ละแบบมีดอก 4 ดอก, 34 00:01:30,001 --> 00:01:33,065 13 คูณ 4 เหมือนเดิม คุณจะได้ไพ่ 52 ใบ 35 00:01:33,065 --> 00:01:36,013 ทีนี้พักเรื่องนั้นไว้, ลองคิดความน่าจะเป็น 36 00:01:36,013 --> 00:01:37,266 ของเหตุการณ์ต่างๆ กัน 37 00:01:37,266 --> 00:01:38,751 สมมุติว่าผมสับไพ่ในกอง, 38 00:01:38,751 --> 00:01:40,369 ผมสับไพ่ดีมากๆ, มากๆ 39 00:01:40,369 --> 00:01:43,033 แล้วผมก็หยิบไพ่จากกองอย่างสุ่มมาหนึ่งใบ 40 00:01:43,033 --> 00:01:47,043 และผมอยากคิดว่าความน่าจะเป็นที่ผมหยิบ 41 00:01:47,043 --> 00:01:50,049 ความน่าจะเป็นที่ผมหยิบได้แจ็คเป็นเท่าไหร่? 42 00:01:50,049 --> 00:01:53,072 ทีนี้, มันมีเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดเท่ากันอยู่กี่เหตุการณ์? 43 00:01:53,072 --> 00:01:57,036 ตรงนี้, ผมสามารถหยิบไพ่ใดใน 52 ใบขึ้นมาก็ได้, นั่นคือ 44 00:01:57,036 --> 00:02:00,059 มีความเป็นไปได้ 52 อย่างตอนผมหยิบไพ่ขึ้นมา 45 00:02:00,059 --> 00:02:04,050 แล้วในความเป็นไปได้ 52 อย่างนั้น มันเป็นแจ็คอยู่กี่อัน? 46 00:02:04,050 --> 00:02:07,070 ทีนี้, คุณมีแจ็คโพธิ์ดำ, แจ็คข้าวหลามตัด 47 00:02:07,070 --> 00:02:10,033 แจ็คดอกจิก และแจ็คโพธิ์แดง 48 00:02:10,033 --> 00:02:12,026 มีแจ็คอยู่ 4 ตัว 49 00:02:12,026 --> 00:02:14,013 มันมีแจ็ค 4 ใบในกอง 50 00:02:14,013 --> 00:02:17,094 มันจึงเป็น 4 ส่วน 52, ทั้งคู่หารด้วย 4 ลงตัว 51 00:02:17,094 --> 00:02:19,072 4 หาร 4 ได้ 1 52 00:02:19,072 --> 00:02:22,095 52 หารด้วย 4 ได้ 13 53 00:02:22,727 --> 00:02:26,018 ทีนี้ลองคิด 54 00:02:26,018 --> 00:02:29,041 ความน่าจะเป็น, ผมจะ, คุณก็รู้, เราจะเริ่มต้นใหม่ 55 00:02:29,041 --> 00:02:31,079 ผมจะใส่แจ็คกลับเข้าไป, ผมจะสับไพ่ในกองใหม่ 56 00:02:31,079 --> 00:02:34,006 เหมือนเดิม ผมมีไพ่ 52 ใบ 57 00:02:34,006 --> 00:02:37,055 แล้วความน่าจะเป็นที่ผมได้ โพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่? 58 00:02:37,055 --> 00:02:40,013 ความน่าจะเป็นที่ผมเลือกไพ่อย่างสุ่ม 59 00:02:40,013 --> 00:02:43,465 จากสำรับที่สับแล้ว ออกมาเป็นโพธิ์แดง มีโอกาสเท่าไหร่? ดอกเป็นโพธิ์แดง 60 00:02:43,465 --> 00:02:47,076 เหมือนเดิม, มันมีไพ่อยู่ 52 ใบที่ผมหยิบขึ้นมาได้ 61 00:02:47,076 --> 00:02:51,063 มีเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ และโอกาสเกิดขึ้นเท่าๆ กันอยู่ 52 เหตุการณ์ที่เราเกี่ยวข้อง 62 00:02:51,063 --> 00:02:55,041 แล้วเหตุการณ์นี้เป็นโพธิ์แดงบ้าง? 63 00:02:55,041 --> 00:02:58,027 ทีนี้, มีอยู่ 13 ใบเป็นโพธิ์แดง แล้วแต่ 64 00:02:58,027 --> 00:03:00,823 ละดอกคุณมีไพ่ 13 ใบ ดังนั้นมีโพธิ์แดงอยู่ 65 00:03:00,823 --> 00:03:03,480 13 ใบในกองเช่นกัน, มีข้าวหลามตัด 13 ใบในกอง 66 00:03:03,480 --> 00:03:06,874 มีโพธิ์ดำ 13 ใบในกอง, แล้วก็ดอกจิก 13 ใบในกองด้วย 67 00:03:06,874 --> 00:03:10,992 ดังนั้นมีโพธิ์แดง 13 จาก 52 ใบ 68 00:03:10,992 --> 00:03:14,868 และทั้งสองตัวหารด้วย 13 ลงตัว, นี่ก็ 69 00:03:14,868 --> 00:03:19,010 เหมือนกับ 1 ส่วน 4 ผมจะหยิบได้ 1 ใน 4 ครั้ง 70 00:03:19,010 --> 00:03:21,684 หรือผมมีความน่าจะเป็น 1 ใน 4 ที่จะได้ไพ่โพธิ์แดง 71 00:03:21,684 --> 00:03:24,014 เมื่อผมลงมือ,เมื่อผมหยิบไพ่อย่างสุ่ม 72 00:03:24,014 --> 00:03:24,971 จากกองที่สับแล้ว 73 00:03:25,111 --> 00:03:27,069 ทีนี้ลองทำสิ่งที่น่าสนใจขึ้น 74 00:03:27,069 --> 00:03:31,006 หรือบางทีเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นหน่อย: ความน่าจะเป็น 75 00:03:31,006 --> 00:03:41,644 ที่ผมจะหยิบไพ่เป็นแจ็ค และเป็นโพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่? 76 00:03:41,644 --> 00:03:44,092 ทีนี้, ถ้าคุณคุ้นเคยกับไพ่พอสมควร, คุณจะรู้ 77 00:03:44,092 --> 00:03:47,083 ได้ว่ามันมีไพ่ใบเดียวที่เป็นทั้งแจ็คและโพธิ์แดง 78 00:03:47,083 --> 00:03:49,071 มันก็คือแจ็คโพธิ์แดงนั่นเอง 79 00:03:49,071 --> 00:03:51,066 เราจึงบอกว่าความน่าจะเป็นที่เราหยิบได้ไพ่ 80 00:03:51,066 --> 00:03:53,042 แจ็คโพธิ์แดงพอดีเป็นเท่าไหร่? 81 00:03:53,042 --> 00:03:59,058 ทีนี้, มันมีเหตุการณ์อยู่อย่างเดียว, ใบเดียวที่เป็นไปตามเงื่อนไขพวกนี้ 82 00:03:59,058 --> 00:04:02,052 ตรงนี้ และมันมีไพ่อยู่ 52 ใบ 83 00:04:02,052 --> 00:04:05,559 มันจึงมีโอกาส 1 ใน 52 ที่ผมจะได้แจ็คโพธิ์แดง 84 00:04:05,575 --> 00:04:08,736 คือสิ่งที่เป็นทั้งแจ็ค และทั้งโพธิ์แดง 85 00:04:08,903 --> 00:04:11,953 ลองทำอะไรที่น่าสนใจกว่าอีกหน่อย 86 00:04:11,953 --> 00:04:15,077 ความน่าจะเป็น, คุณอาจลองหยุดแล้ว 87 00:04:15,077 --> 00:04:18,010 คิดสักหน่อยก่อนที่ผมจะบอกคำตอบนะ, ความน่าจะเป็น 88 00:04:18,010 --> 00:04:22,044 ที่, เหมือนเดิมผมมีสำหรับไพ่ 52 ใบ, ผมสับมัน 89 00:04:22,044 --> 00:04:25,052 แล้วหยิบไพ่ใบหนึ่งอย่างสุ่มจากกอง, ความน่าจะเป็นที่ 90 00:04:25,052 --> 00:04:31,023 ไพ่ที่ผมหยิบจะเป็นแจ็ค หรือโพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่? 91 00:04:31,023 --> 00:04:35,061 มันอาจเป็นแจ็คโพธิ์แดง หรือแจ็คข้าวหลามตัด 92 00:04:35,061 --> 00:04:38,081 หรือจะเป็นแจ็คโพธิ์ดำ หรือจะเป็นควีนโพธิ์แดง 93 00:04:38,081 --> 00:04:41,036 หรือจะเป็น สอง โพธิ์แดงก็ได้ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์นี้เป็นเท่าไหร่? 94 00:04:41,036 --> 00:04:44,041 นี่อาจดูน่าสนใจกว่าหน่อย เพราะ 95 00:04:44,041 --> 00:04:50,022 อย่างแรกเรารู้ว่ามันมีความเป็นไปได้ 52 อย่าง 96 00:04:50,022 --> 00:04:53,043 แต่ความเป็นไปได้เหล่านี้ มีกี่อันที่ตรงตาม 97 00:04:53,043 --> 00:04:56,072 เงื่อนไขนี้, ว่ามันเป็นแจ็คหรือเป็นโพธิ์แดง 98 00:04:56,072 --> 00:05:00,000 เพื่อหาคำตอบ ผมจะวาดแผนภาพเวนน์ 99 00:05:00,000 --> 00:05:02,066 ฟังดูสวยหรู, แต่ไม่มีอะไรหรูหราอะไรเลย 100 00:05:02,066 --> 00:05:05,045 จินตนาการว่าสี่เหลี่ยมที่ผมวาดนี้ แทน 101 00:05:05,045 --> 00:05:08,072 ผลลัพธ์ทั้งหมด แล้วถ้าคุณต้องการ คุณอาจนึกภาพว่ามัน 102 00:05:08,072 --> 00:05:14,011 มีพื้นที่เท่ากับ 52 นี่ก็คือผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ 52 อย่าง, แล้วมี 103 00:05:14,011 --> 00:05:16,556 กี่อันที่ออกมาเป็นแจ็ค? 104 00:05:16,556 --> 00:05:19,311 เรารู้คำตอบนี่อยู่แล้ว, 1 ใน 13 ของผลลัพธ์พวกนี้ 105 00:05:19,311 --> 00:05:24,893 จะออกมาเป็นแจ็ค ผมจึงสามารถวาดวงกลมตรงนี้แทนพื้นที่ 106 00:05:24,893 --> 00:05:26,541 และผมประมาณว่า 107 00:05:26,541 --> 00:05:28,091 มันแทนความน่าจะเป็นของแจ็ค 108 00:05:28,091 --> 00:05:32,061 นั่นก็ควรมีค่าประมาณ 1/13 หรือ 4/52 ของพื้นที่ 109 00:05:32,061 --> 00:05:37,030 ตรงนี้ ดังนั้นผมจะเขียนมันแบบนี้ เจ้านี่ตรงนี้ก็คือ 110 00:05:37,030 --> 00:05:45,025 ความน่าจะเป็นที่เป็นแจ็ค มันคือ 4, มันมีไพ่เป็นไปได้อยู่ 111 00:05:45,025 --> 00:05:53,090 4 ใบจากทั้งหมด 52 ใบ นั่นก็คือ 4/52 หรือ 1/13 112 00:05:53,090 --> 00:05:56,047 แล้วความน่าจะเป็นที่จะได้โพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่? 113 00:05:56,047 --> 00:05:59,056 ทีนี้, ผมจะวาดวงกลมอีกวงตรงนี้, มันแทนอันนั้น 114 00:05:59,056 --> 00:06:03,054 13 จาก 52, 13 จาก 52 นี่แทนโพธิ์แดง 115 00:06:03,054 --> 00:06:07,011 และที่จริง หนึ่งในนั้นแทนทั้งโพธิ์แดงและแจ็ค 116 00:06:07,011 --> 00:06:10,728 ผมจึงจะวาดมันทับกัน และหวังว่าคุณคงเข้าใจ 117 00:06:10,728 --> 00:06:12,808 ในไม่ช้า 118 00:06:12,808 --> 00:06:17,093 มันมีไพ่ 13 ใบเป็นโพธิ์แดง 119 00:06:17,093 --> 00:06:21,087 นี่คือจำนวนโพธิ์แดง 120 00:06:21,087 --> 00:06:24,094 และที่จริง ขอผมเขียนอย่างบนตรงนี้เดียว 121 00:06:24,094 --> 00:06:29,017 มันจะได้ชัดเจนหน่อย, เรากำลังดูที่ -- ดูชัดๆ 122 00:06:29,017 --> 00:06:39,002 -- อยู่ที่จำนวนของแจ็ค และแน่นอนส่วนที่ทับกัน 123 00:06:39,002 --> 00:06:42,056 ตรงนี้เป็นจำนวนของแจ็คกับโพธิ์แดง จำนวน 124 00:06:42,063 --> 00:06:45,041 จากทั้งหมด 52 นี่ เป็นทั้งแจ็คและโพธิ์แดง 125 00:06:45,041 --> 00:06:49,013 มันอยู่ในเซตทั้งสอง มันอยู่ในวงกลมสีเขียว และมันอยู่ 126 00:06:49,013 --> 00:06:53,062 ในวงกลมสีส้มด้วย แล้วเจ้านี่ตรงนี้ ผมจะใช้สีเหลือง 127 00:06:53,062 --> 00:06:55,096 เนื่องจากผมเขียนโจทย์ด้วยสีเหลือง 128 00:06:55,096 --> 00:06:58,038 เจ้านี่ตรงนี้คือจำนวนแจ็คและโพธิ์แดง 129 00:06:58,038 --> 00:07:01,065 ขอผมเขียนลูกศรเล็กๆ ตรงนี้ มันเริ่มแน่นแล้ว 130 00:07:01,065 --> 00:07:03,081 ผมควรวาดให้มันใหญ่หน่อย 131 00:07:03,081 --> 00:07:10,060 จำนวนของแจ็คกับโพธิ์แดง 132 00:07:10,060 --> 00:07:13,448 และมันทับกันอยู่ตรงนี้, ความน่าจะเป็น 133 00:07:13,448 --> 00:07:15,074 ที่จะได้แจ็คหรือโพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่? 134 00:07:15,074 --> 00:07:19,071 แล้วถ้าคุณคิดถึงความน่าจะเป็น มันจะเท่ากับ 135 00:07:19,071 --> 00:07:23,043 จำนวนเหตุการณ์ที่ตรงตามเงื่อนไข ส่วนจำนวนเหตุการณ์ทั้งหมด 136 00:07:23,043 --> 00:07:25,004 ใช่แล้ว, เรารู้ว่าจำนวนเหตุการณ์ทั้งหมดเป็น 52 137 00:07:25,004 --> 00:07:26,083 แต่มีกี่อันที่ตรงตามเงื่อนไขนี้? 138 00:07:26,083 --> 00:07:29,044 มันจะเป็นจำนวน, มันจะเท่ากับ 139 00:07:29,044 --> 00:07:32,045 คุณก็บอกว่า: ลองดูสิ, วงกลมสีเขียวตรงนี้บอกจำนวน 140 00:07:32,045 --> 00:07:36,003 ของแจ็ค วงกลมสีส้มบอกจำนวน 141 00:07:36,003 --> 00:07:38,049 ของโพธิ์แดง แล้วคุณอาจบอกว่า 142 00:07:38,049 --> 00:07:43,000 อ้าว, ทำไมเราไม่รวมวงกลมสีเขียวกับสีส้มเลย 143 00:07:43,000 --> 00:07:45,085 ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณจะนับซ้ำ 144 00:07:45,085 --> 00:07:51,000 เพราะถ้าคุณบวกมันเข้าด้วยกัน, ถ้าคิด 4 บวก 13 145 00:07:51,000 --> 00:07:52,070 เรากำลังบอกว่าอะไร? 146 00:07:52,070 --> 00:07:57,039 เรากำลังบอกว่า มันมีแจ็ค 4 ใบ และเราบอกว่า 147 00:07:57,039 --> 00:08:00,010 เรามีโพธิ์แดง 13 ใบ 148 00:08:00,010 --> 00:08:03,077 แต่ทั้งสองกรณี, เวลาเราทำแบบนี้ 149 00:08:03,077 --> 00:08:06,042 เรากำลังนับแจ็คโพธิ์แดงพร้อมกันทั้งสองกรณี 150 00:08:06,042 --> 00:08:09,043 เราใส่แจ็คโพธิ์แดงตรงนี้ แล้วเราก็ใส่แจ็คโพธิ์แดงตรงนี้ 151 00:08:09,043 --> 00:08:12,023 เราจึงนับแจ็คโพธิ์แดงสองครั้ง, แม้ว่าเราจะ 152 00:08:12,023 --> 00:08:17,008 มีไพ่นั้นแค่ใบเดียว ดังนั้นคุณต้องลบค่าร่วมกันออกไป 153 00:08:17,008 --> 00:08:22,016 คุณต้องลบตัวที่อยู่ทั้งแจ็คและ 154 00:08:22,016 --> 00:08:23,056 โพธิ์แดงออกไป 155 00:08:23,056 --> 00:08:25,017 คุณก็ลบ 1 ออก 156 00:08:25,017 --> 00:08:26,075 วิธีคิดอีกอย่างคือว่า 157 00:08:26,075 --> 00:08:33,865 คุณหาพื้นที่ทั้งหมดตรงนี้ได้ 158 00:08:33,865 --> 00:08:36,060 ขอผมขยายเข้าไปหน่อย ผมจะพูดโดยทั่วไปหน่อย 159 00:08:36,060 --> 00:08:38,076 ถ้าคุณมีวงกลมวงหนึ่งแบบนี้ แล้วคุณมีวงกลม 160 00:08:38,076 --> 00:08:42,492 ทีทับกันแบบนี้ แล้วคุณอยากหาพื้นที่ทั้งหมด 161 00:08:42,492 --> 00:08:46,069 ของวงกลมสองวงรวมกัน คุณก็ดูพื้นที่ 162 00:08:46,069 --> 00:08:53,011 ของวงกลมนี้ แล้วคุณก็บวกมันเข้ากับพื้นที่ของวงกลมนี้ 163 00:08:53,011 --> 00:08:56,693 แต่เมื่อคุณทำอย่างนั้น, คุณจะเห็นว่าเวลาคุณบวกพื้นที่สองว่าง 164 00:08:56,693 --> 00:08:59,016 คุณจะนับพื้นที่นี้สองครั้ง 165 00:08:59,016 --> 00:09:02,029 ดังนั้นเพื่อให้นับพื้นที่ตรงนั้นครั้งเดียว, คุณต้องลบ 166 00:09:02,029 --> 00:09:04,045 พื้นที่นั่นจากผลรวม 167 00:09:04,045 --> 00:09:09,095 ดังนั้นถ้าพื้นที่นี้, ถ้านี่คือ, ถ้าพื้นที่นี้คือ A, พื้นที่นี้คือ B 168 00:09:09,095 --> 00:09:15,025 และอินเตอร์เซกชัน, โดยส่วนทับกันคือ C 169 00:09:15,025 --> 00:09:22,042 พื้นที่รวมจะเท่ากับ A บวก B ลบพื้นที่ซ้อนทับ 170 00:09:22,042 --> 00:09:24,002 คือลบ C 171 00:09:24,002 --> 00:09:25,073 มันก็เหมือนกับตรงนี้ 172 00:09:25,073 --> 00:09:28,008 เรากำลังนับแจ็คทั้งหมด รวมทั้งแจ็คโพธิ์แดง 173 00:09:28,008 --> 00:09:31,012 เรานับโพธิ์แดงทั้งหมด รวมทั้งแจ็คโพธิ์แดง 174 00:09:31,012 --> 00:09:35,015 เราได้นับแจ็คโพธิ์แดงไปสองครั้งล เราจึงต้องลบออกอันหนึ่ง 175 00:09:35,015 --> 00:09:37,663 มันจึงเท่ากับ 4 บวก 13 ลบ 1 176 00:09:37,663 --> 00:09:46,015 หรือนี่จะเท่ากับ 16/52 แล้วทั้งคู่ก็หารด้วย 177 00:09:46,015 --> 00:09:48,028 4 ลงตัว 178 00:09:48,028 --> 00:09:50,049 นี่จึงเท่ากับ 179 00:09:50,049 --> 00:09:54,028 ถ้าผมหาร 16 ด้วย 4 คุณจะได้ 4, 52 หารด้วย 4 180 00:09:54,028 --> 00:09:55,079 ได้ 13 181 00:09:55,079 --> 00:10:01,477 ดังนั้นนี่คือ, โอกาส 4/13 ที่คุณจะได้แจ็คหรือโพธิ์แดง