-
Not Synced
ดูพวกเราที่ตั้งใจภาวนา
ดูเข้มแข็งขึ้น ค่อยยังชั่ว
-
Not Synced
ภาวนาแล้วป้อแป้ๆ ไม่ได้เรื่อง
-
Not Synced
อันนั้นภาวนาเอาแค่สบายใจว่าได้ภาวนา
-
Not Synced
มันสู้กิเลสไม่ไหว
-
Not Synced
สำนวนครูบาอาจารย์บอก
-
Not Synced
ภาวนาแบบกิเลสหนังไม่ถลอกเลย
-
Not Synced
อย่าว่าแต่จะไปถลกหนังมัน
-
Not Synced
ท่านบอกว่าการปฏิบัติ
ไม่ให้หย่อนไป ไม่ให้ตึงไป
-
Not Synced
แค่ไหนพอดี ท่านบอกให้ลำบากนิดๆ
-
Not Synced
ไม่ถึงขนาดว่าทุกข์ทรมาน จะเป็นจะตาย
-
Not Synced
เครียดเกินไป
-
Not Synced
แต่ว่าให้ลำบากนิดหน่อย
-
Not Synced
อย่างเราเคยเดินจงกรมได้
วันละชั่วโมงอะไรอย่างนี้
-
Not Synced
เราเขยิบไปเป็น 2 ชั่วโมง
-
Not Synced
พอทำไปช่วงหนึ่งจิตมันมีกำลัง
-
Not Synced
มันทำแล้วมีความสุข
ก็เพิ่มเป็น 3 ชั่วโมง 4 ชั่วโมงได้
-
Not Synced
อายุเยอะเดินไม่ไหวก็เดินสลับกับนั่ง สู้เอา
-
Not Synced
คนที่เขาได้ดี
-
Not Synced
ไม่เคยนั่งๆ นอนๆ แล้วก็ได้ดี
-
Not Synced
ได้ดีขึ้นมาก็เพราะต่อสู้ทั้งนั้น
-
Not Synced
ต้องใจแข็ง อย่ายอมแพ้
-
Not Synced
หลวงพ่อภาวนา ไม่ยอม
-
Not Synced
ไม่เคยยอมเลยเพราะว่า
-
Not Synced
เราภาวนาแล้วเราเห็นจิตเรา
-
Not Synced
มันติดข้องมันถูกขังอยู่
-
Not Synced
คล้ายๆ มันมีเปลือกหุ้มอยู่
-
Not Synced
ดูแล้ว เอ๊ะ นี่มันสภาพเดียวกับคนติดคุก
-
Not Synced
เราเกิดมาในคุก คุกอันนี้คือวัฏฏะ
-
Not Synced
อาสวกิเลสทั้งหลายห่อหุ้มเราอยู่
-
Not Synced
เราเกิดมาในคุก
-
Not Synced
ดำรงชีวิตอยู่ในคุกแล้วเรา
จะยอมตายไปในคุกอันนี้หรือ
-
Not Synced
พอเห็นจิตมันไม่มีอิสระ มันทนไม่ได้
-
Not Synced
เป็นอย่างไรก็จะทนไม่ได้
-
Not Synced
ตั้งเป้าหมายไว้ว่า
อย่างไรชาตินี้ต้องสู้เต็มที่
-
Not Synced
ถ้าแหกคุกนี้ได้ก็ดี ได้เลยก็ดี
-
Not Synced
ทำไม่ได้ก็ต้องสะสมกำลัง
ไปแหกคุกในชาติต่อไปอีก
-
Not Synced
ไม่ใช่ยอมแพ้ไปตลอด
-
Not Synced
ถ้าเรายอมแพ้
มันไม่มีวันที่จะเอาตัวรอดได้เลย
-
Not Synced
ต้องเข้มแข็ง อดทน อย่ากลัวลำบาก
-
Not Synced
ลำบากตอนนี้ดีกว่าลำบากไม่รู้จักจบ
-
Not Synced
หลวงพ่อถึงบอกพวกเรามาแต่ไหนแต่ไรว่า
-
Not Synced
เรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อ อย่าขี้อ้อน
-
Not Synced
ไม่ต้องมาอ้อน ไม่ชอบ ไม่นิยม
-
Not Synced
เพราะหลวงพ่อไม่เคยอ้อนครูบาอาจารย์
-
Not Synced
เราต้องสู้เอา
-
Not Synced
บางครั้งก็แพ้ ล้มลุกคลุกคลาน
-
Not Synced
แต่ล้มแล้วต้องลุก
-
Not Synced
ลงไปคลุกฝุ่น ลุกไม่ขึ้นก็คลานไป
-
Not Synced
ต้องแบบนั้น
-
Not Synced
สู้กิเลสไม่ใช่ของง่าย
-
Not Synced
ถ้าสู้ง่ายมันไม่ครองโลก
-
Not Synced
เห็นไหมคนในโลกมันมีความทุกข์มากมาย
-
Not Synced
มันไม่รู้จักอิ่ม มันไม่รู้จักเต็ม
มันถูกกิเลสลากไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
มีเงินแค่นี้ก็อยากมีให้เยอะๆ
-
Not Synced
พอมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ
-
Not Synced
จะได้รักษาผลประโยชน์เอาไว้
ก็ต้องเล่นการเมืองต้องอะไร
-
Not Synced
ทำทุกอย่างทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
-
Not Synced
ลืมไปอย่างหนึ่งว่าชีวิตคนไม่ยืนยาว
-
Not Synced
สะสมอะไรต่ออะไรไว้เยอะแยะ
-
Not Synced
หรือมีอำนาจมีอะไรต่ออะไรมากมาย
-
Not Synced
สุดท้ายมันก็ไปเป็นของคนอื่น
-
Not Synced
มันก็ไม่อยู่กับเราตลอด
-
Not Synced
สิ่งที่จะอยู่กับเราติดเนื้อติดตัว
เราข้ามภพข้ามชาติไป
-
Not Synced
คือบุญกับบาปของเรา
-
Not Synced
โดยเฉพาะทรัพย์สมบัติทางโลก
มันอยู่ไม่ได้จริง อยู่กับเราชั่วคราว
-
Not Synced
สะสมอริยทรัพย์ไว้
-
Not Synced
ลองไปดู Google อริยทรัพย์มีอยู่หลายอย่าง
-
Not Synced
เรื่องสติเรื่องสะสมอะไรพวกนี้
-
Not Synced
สิ่งเหล่านี้มันจะสร้างความคุ้ยเคยให้แก่จิต
-
Not Synced
มันมีกฎอยู่ข้อหนึ่งก็คือจิตเป็นอนัตตา
-
Not Synced
สั่งไม่ได้บังคับไม่ได้
-
Not Synced
แต่จิตเป็นธรรมชาติที่ฝึกได้
-
Not Synced
แล้วจิตมีธรรมชาติที่จะ
ไหลไปตามความเคยชิน
-
Not Synced
เราเคยชินที่จะตามใจกิเลส
-
Not Synced
จิตเราก็พร้อมจะตามใจกิเลส
-
Not Synced
แต่ถ้าเราสะสมสติสะสมปัญญาของเราไปเรื่อย
-
Not Synced
ยากลำบากแค่ไหนก็พยายามทำไปเรื่อย
-
Not Synced
จิตมันก็จะค่อยเข้มแข็งขึ้น
-
Not Synced
จากเดิมรักษาศีลยากก็จะรักษาง่าย
-
Not Synced
แต่เดิมเคยคิดแต่จะเอาอย่างเดียว
ตอนนี้รู้จักให้
-
Not Synced
รักษาศีลไม่เป็น ฝึกไป
มันก็รักษาศีลได้ง่ายขึ้น
-
Not Synced
ทำสมาธิไม่เป็น ฝึกไปเรื่อย
-
Not Synced
วันหนึ่งมันก็ทำสมาธิง่ายขึ้น
-
Not Synced
เจริญปัญญาเรียนรู้ความจริง
ของรูป นาม กาย ใจไม่เป็น
-
Not Synced
ฝึกไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
ต่อไปปัญญามันก็แก่กล้าขึ้น มันก็ทำง่าย
-
Not Synced
กว่าคนๆ หนึ่งจะถึงพระนิพพานใช้เวลาสะสม
-
Not Synced
แล้วแต่ละคนสะสมมากน้อยไม่เท่ากัน
-
Not Synced
อย่างถ้าเราเป็นระดับสาวกธรรมดา
เราสะสมไม่มาก
-
Not Synced
สะสมไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
แต่ถ้าจะเป็นระดับเอตทัคคะ
อันนี้ต้องทำเยอะแล้ว
-
Not Synced
เป็นท่านผู้เลิศด้านใดด้านหนึ่ง
-
Not Synced
ในศาสนาหนึ่งจะมี
ท่านผู้เลิศด้านนี้องค์เดียวเท่านั้น
-
Not Synced
ต้องสะสมบารมีแสนมหากัป
ระดับนั้น ของเราไม่ถึงหรอก
-
Not Synced
ของเราครูบาอาจารย์เคยบอกหลวงพ่อ
-
Not Synced
ว่าคนเริ่มต้นภาวนา
ถ้ารักดีจริงๆ ตั้งอกตั้งใจภาวนาจริงๆ
-
Not Synced
ทำไม่เลิก สู้ตาย
-
Not Synced
ไม่เกิน 7 ชาติ ท่านว่าอย่างนี้
-
Not Synced
อันนี้ไม่มีในตำรา
-
Not Synced
แต่เป็นญาณทัสสนะของ
ครูบาอาจารย์ที่ท่านสังเกตเอา
-
Not Synced
คนที่ภาวนาท่านดูไป
-
Not Synced
ท่านบอกจริงๆ ไม่มาก ไม่เกิน 7 ชาติ
-
Not Synced
สำหรับคนที่หวังความพ้นทุกข์ธรรมดาๆ
-
Not Synced
ถ้าหวังคุณสมบัติพิเศษต้องเยอะ
-
Not Synced
ระดับเอตทัคคะต้องทำแสนมหากัป
-
Not Synced
เอ๊ะ ใช่หรือเปล่า ใช่
-
Not Synced
ถ้าระดับอัครสาวก 1 อสงไขยแสนมหากัป
-
Not Synced
นานมาก
-
Not Synced
อสงไขยก็คือ 148
-
Not Synced
โอ๊ย คิดเลขยากๆ
-
Not Synced
10 ยกกำลัง 148 เท่าไร คูณเอา
-
Not Synced
อันนี้หลวงพ่อไม่ได้คิดเอง จำเขามาอีกที
-
Not Synced
คนเขาคำนวณไว้
-
Not Synced
ถ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าสูงกว่านั้นอีก
สูงกว่าอัครสาวก
-
Not Synced
บำเพ็ญบารมี 2 อสงไขยแสนมหากัป
-
Not Synced
แล้วถ้าเป็นพระพุทธเจ้า
-
Not Synced
มีตั้งแต่ 16 อสงไขยแสนมหากัป
อย่างพระเมตไตรย
-
Not Synced
สะสมบารมีนานมากเลย ประเภทท็อปเลย
-
Not Synced
ส่วนพระพุทธเจ้าของเราองค์นี้
-
Not Synced
ทำบารมี 4 อสงไขยแสนมหากัป
บารมีท่านก็เต็มแล้ว
-
Not Synced
เพราะท่านเดินด้วยปัญญา
-
Not Synced
พระเมตไตรยท่านวิริยะเอา พากเพียรทนๆ เอา
-
Not Synced
ก็ใช้เวลาเยอะ
-
Not Synced
พระโคดมของเราปัญญามาก
เดินด้วยปัญญาเป็นหลัก
-
Not Synced
ใช้เวลาน้อย 4 อสงไขยแสนมหากัป
-
Not Synced
อันนี้หมายถึงที่ได้รับพยากรณ์แล้ว
-
Not Synced
ก่อนได้รับพยากรณ์อีกเยอะแยะเลย
-
Not Synced
สะสมบารมีมานานมากเลย
-
Not Synced
จนพร้อมที่จะบรรลุพระอรหันต์แล้ว
-
Not Synced
แล้วได้เจอพระพุทธเจ้า
แล้วเกิดตั้งความปรารถนา
-
Not Synced
ขอเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต
-
Not Synced
พระพุทธเจ้าท่านพิจารณาแล้ว
เห็นว่าคนนี้ทำได้ ท่านจะพยากรณ์ให้
-
Not Synced
อย่างพระโคดมของเราก็ได้รับพยากรณ์
เมื่อ 4 อสงไขยแสนมหากัปก่อน
-
Not Synced
สร้างบารมีทั้งหมด 20 อสงไขย นาน
-
Not Synced
เราฟังตรงนี้เราอย่าใจฝ่อ
เพราะเราไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า
-
Not Synced
มีอีกประเด็นหนึ่ง คนชอบคิดว่า
-
Not Synced
พระเมตไตรยสร้างบารมีนาน
จะต้องเลิศกว่าพระโคดม
-
Not Synced
พระโคดมท่านเป็นพระพุทธเจ้า
ชนิดที่เลิศที่สุดอยู่แล้วล่ะ
-
Not Synced
อย่างมากที่สุด
-
Not Synced
พระพุทธเจ้าองค์อื่นอย่างมาก
ที่สุดก็เสมอกับพระโคดม
-
Not Synced
ท่านสูงสุดอยู่แล้ว
-
Not Synced
ทีนี้พวกเรา โอ้ พระเมตไตรยสร้างบารมีนาน
-
Not Synced
เราขอไปเกิดในยุคพระเมตไตรย
จะเจออะไรเด็ดๆ บ้าง
-
Not Synced
คิดแต่จะเอา
-
Not Synced
คิดว่าพระเมตไตรยจะอุ้มเราไปนิพพานหรือ
-
Not Synced
ถ้ายุคนี้ธรรมะยังดำรงอยู่
หลวงปู่ดูลย์ท่านบอก
-
Not Synced
ยุคนี้ธรรมะยังดำรงอยู่
-
Not Synced
แล้วไม่เอา จะรอพระเมตไตรย
ก็ธรรมะอันเดียวกัน
-
Not Synced
เหลวไหลตั้งแต่ชาตินี้
-
Not Synced
กว่าจะถึงยุคพระเมตไตรย
ยิ่งเหลวไหลหนักกว่านี้อีก
-
Not Synced
ก็ไม่ได้เรื่องอะไร
-
Not Synced
เคยไม่ได้เรื่องอย่างไร มันก็จะไม่ได้เรื่อง
-
Not Synced
เพราะมันเคยชินจะไม่ได้เรื่อง
-
Not Synced
ฉะนั้นรีบฝึกตัวเองเสียตั้งแต่วันนี้
-
Not Synced
พวกเราสนใจการปฏิบัติอย่างนี้
-
Not Synced
อาจจะไม่ใช่ชาติที่หนึ่งด้วยซ้ำไป
-
Not Synced
อาจจะเป็นชาติที่สาม ที่สี่
-
Not Synced
บางคนบารมีก็จะเต็มก็จะได้ธรรมะในชีวิตนี้
-
Not Synced
มรรคผลนิพพานไม่ใช่ของล้าสมัย
-
Not Synced
ไม่เคยหายไปไหนหรอก
-
Not Synced
ถ้าหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ายังดำรงอยู่
-
Not Synced
ถ้าเราลงมือปฏิบัติจริงจัง
-
Not Synced
โอกาสจะบรรลุมรรคผลนิพพานก็ยังมีอยู่เสมอ
-
Not Synced
แต่ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้า
เราพยายามหามรรคผลนิพพาน
-
Not Synced
ก็จะลำบากหน่อย
-
Not Synced
อย่างเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
ท่านไปได้ด้วยตัวเอง
-
Not Synced
แต่ต้องสร้างบารมีมากกว่า
พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรเสียอีก
-
Not Synced
ถ้า 7 ชาติยังไม่กล้าสร้าง
-
Not Synced
อย่ามาคุยเรื่องจะสร้างบารมี
เท่าพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย
-
Not Synced
สู้ สังสารวัฏเป็นภัย น่ากลัว
-
Not Synced
พวกเราผ่านความทุกข์มามากมาย แต่ละคน
-
Not Synced
ทุกข์แล้วทุกข์อีก แก่แล้วแก่อีก
-
Not Synced
เจ็บแล้วเจ็บอีก ตายแล้วตายอีก
-
Not Synced
ไม่เข็ด เพราะมันจำไม่ได้
-
Not Synced
อย่างบางท่านท่านสอน
-
Not Synced
ครูบาอาจารย์บางองค์
ท่านสอนให้ระลึกชาติก็มีข้อดี
-
Not Synced
ระลึกไปแล้วเห็นเกิดทีไรก็มีแต่ทุกข์ทุกที
-
Not Synced
จิตใจท่านก็จะมุ่งมั่นต้องพ้นทุกข์ให้ได้
-
Not Synced
แต่ถ้าระลึกชาติตามแบบกิเลส
-
Not Synced
ก็จะระลึกแล้วกูเคยใหญ่เคยโต
เคยมีโน่นเคยมีนี่
-
Not Synced
หิวอดีตไป
-
Not Synced
อันนี้ไม่ได้ประโยชน์ เป็นโทษ
-
Not Synced
หลงสังสารวัฏ
-
Not Synced
มีครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อองค์หนึ่ง
ชื่อหลวงพ่อกิม
-
Not Synced
คำว่ากิมนี้ไม่ใช่ภาษาจีน
-
Not Synced
ท่านเป็นคนสุรินทร์
-
Not Synced
หลวงพ่อกิม หลวงพ่อเคยถามท่าน
-
Not Synced
ทำไมท่านภาวนาเด็ดเดี่ยวห้าวหาญอย่างนี้
-
Not Synced
ท่านบอกท่านระลึกได้
-
Not Synced
ว่าท่านเคยเกิดเป็นวัวๆ แล้วก็
-
Not Synced
วันหนึ่งเจ้าของเอาท่านไปผูกไว้
-
Not Synced
เอาไม้หลักไปปักไว้ในท้องนา
-
Not Synced
เอาเชือกผูกคอท่าน
ให้ท่านเดินกินหญ้าอยู่ในท้องนา
-
Not Synced
เจ้าของกะว่า
-
Not Synced
ไปธุระประเดี๋ยวเดียวจะกลับมา
พาวัวไปกินน้ำ พาวัวเข้าร่ม
-
Not Synced
ปรากฏเจ้าของมีธุระอื่นติดพัน
-
Not Synced
ไม่กลับมาเลยจนเย็นจนค่ำ
-
Not Synced
ท่านบอกว่าท่านกระหายน้ำอย่างรุนแรง
-
Not Synced
ตากแดดอยู่ทั้งวันแล้วกระหายน้ำ
-
Not Synced
น้ำลายเป็นฟองแห้ง
-
Not Synced
ท่านบอกลำบากมากเลย
-
Not Synced
เห็นคนแปลกหน้าเดินมา
-
Not Synced
ก็นึกว่าเขาจะพาไปกินน้ำ ดีใจ
-
Not Synced
กระโดดโลดเต้นขึ้นมา
-
Not Synced
คนก็บอกวัวตัวนี้เป็นบ้าแล้ว กระโดดใหญ่
-
Not Synced
เขาก็หนีไป ไม่มีใครกล้ามาช่วย
-
Not Synced
จนเย็น เจ้าของถึงพาไปกินน้ำ
-
Not Synced
ท่านบอกว่าท่านเข็ดเลย
-
Not Synced
ท่านภาวนาแล้วท่านระลึกตรงนี้ได้ ท่านเข็ด
-
Not Synced
สังสารวัฏนี่น่ากลัวเหลือเกิน
-
Not Synced
บางองค์ท่านระลึกได้เยอะ
-
Not Synced
ท่านเคยตกนรกอะไรอย่างนี้ ท่านกลัว
-
Not Synced
รู้สึกสังสารวัฏน่ากลัว
-
Not Synced
มีบางองค์ อันนี้ท่านไม่ได้ระลึก
-
Not Synced
แต่ท่านเห็นว่าโลกนี้ไม่มั่นคง
-
Not Synced
ท่านมองทะลุลงไปที่พื้นดิน
-
Not Synced
ตอนที่เห็นเขายังเป็นโยมอยู่ ยังไม่ได้บวช
-
Not Synced
ไม่ใช่หลวงพ่อ คนทางสุรินทร์
-
Not Synced
เขาเดินจะเข้าวัดแล้วเขามองลงไปที่แผ่นดิน
-
Not Synced
เขาเห็นเปลือกโลกมันบางนิดเดียวเอง
-
Not Synced
ข้างล่างมันก็เป็นไฟ ข้างล่างมันร้อน
-
Not Synced
แล้วเปลือกโลกมันบางเหมือนไข่ไก่
เหมือนเปลือกไข่
-
Not Synced
โลกข้างในเหมือนเนื้อไข่ข้างใน
-
Not Synced
เปลือกโลกที่เราอาศัยอยู่ได้
บางเหมือนเปลือกไข่
-
Not Synced
มันจะแตกเมื่อไรไม่รู้
-
Not Synced
พอเขาเห็นอย่างนี้ สติปัญญาก็เกิด
-
Not Synced
ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน ไม่ยั่งยืน
-
Not Synced
ชีวิตนี้ความตายจะมาถึงเมื่อไรก็ได้
-
Not Synced
โลกนี้ที่ว่าแข็งแรง
-
Not Synced
ที่จริงเป็นแค่เปลือกบางๆ
ที่เราเกาะอยู่ตามผิวโลกเท่านั้นเอง
-
Not Synced
คนมีสติมีปัญญา เขาเคยสะสมบารมีของเขามา
-
Not Synced
เขาเห็นอะไรก็เข้าใจเป็นธรรมะไปหมดเลย
-
Not Synced
แต่ถ้าคนไม่เคยสะสมมา
เห็นอะไรมันก็โลภไปหมด
-
Not Synced
มองแผ่นดินแล้ว โอ้ ตรงนี้มีขุมทอง จะขุดทอง
-
Not Synced
ตรงนี้มีสมบัติ ปู่โสมเฝ้าอยู่
-
Not Synced
จะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อไล่ปู่โสม
แล้วไปเอาสมบัติอะไรอย่างนี้
-
Not Synced
ไร้สาระๆ จริงๆ
-
Not Synced
ฉะนั้นถ้าเราตั้งอกตั้งใจ เราจะรู้เลย
-
Not Synced
โลกนี้ไม่มั่นคง โลกนี้ไม่ปลอดภัย
-
Not Synced
สังสารวัฏไว้วางใจไม่ได้
-
Not Synced
ชาตินี้เป็นคน ชาติหน้าอาจจะไม่ได้เป็นคน
-
Not Synced
หรือชาติหน้าเป็นคน
แต่ชาตินั้นชาติหน้าของเรา
-
Not Synced
ไม่มีศาสนาพุทธแล้ว
-
Not Synced
เราจะเดินต่อไปจะเดินอย่างไร
-
Not Synced
ยกเว้นแต่เราสะสมอริยทรัพย์ของเราไว้มาก
-
Not Synced
จิตใจถึงไม่พบพระพุทธเจ้า ไม่พบพระศาสนาอะไร
-
Not Synced
มันจะกระตุ้นเตือนให้เราภาวนา
-
Not Synced
แต่ใจมันจะรู้สึกว้าเหว่
-
Not Synced
จะรู้สึกวังเวง ว้าเหว่
-
Not Synced
ถ้าระลึกไปแล้วเกิดในชาติที่ไม่มีศาสนาพุทธ
-
Not Synced
ใจมันว้าเหว่ ไม่รู้ทิศทาง
ไม่มีที่พึ่งที่อาศัย
-
Not Synced
เหมือนคนหลงในทะเล
-
Not Synced
ไม่รู้ทิศเหนือทิศใต้ ไม่รู้จะไปทางไหน
-
Not Synced
ไม่รู้ว่าฝั่งอยู่ทางไหน ร่อนเร่ไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
น่าสงสาร
-
Not Synced
มีโอกาสแล้วอย่าขี้เกียจ
-
Not Synced
เข้มแข็งไว้ ต้องสู้ ต้องเอาตัวรอดให้ได้
-
Not Synced
อย่างน้อยที่สุดต้องได้โสดาบัน
-
Not Synced
พระโสดาบันไม่เหลือวิสัยที่คนรุ่นเราจะทำได้
-
Not Synced
พระสกิทาคามีก็ยังไม่เหลือวิสัย
พระอนาคามีก็ยังไม่เหลือวิสัย
-
Not Synced
พระอรหันต์ยากมากแล้วยุคนี้
-
Not Synced
ในตำราบอกยุคนี้ไม่มีพระอรหันต์
-
Not Synced
ตำราๆ มันเขียนขึ้นหลังพุทธกาลแล้ว
-
Not Synced
แต่ตำรารับรองไว้แค่ว่า
ยุคนี้ยังมีพระอนาคามีได้
-
Not Synced
ทีนี้เราไม่ต้องตั้งเป้าสูงขนาดนั้น
-
Not Synced
เอาโสดาบันให้ได้
-
Not Synced
ทำอย่างไรจะได้โสดาบัน
-
Not Synced
ดูคุณสมบัติของพระโสดาบัน
-
Not Synced
แล้วปฏิบัติตามคุณสมบัติของท่านให้ได้
-
Not Synced
พระโสดาบันมีศีล ศีล 5 ข้อ
-
Not Synced
ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ดี
-
Not Synced
นี่เป็นสมบัติสำคัญชิ้นหนึ่งของเราเลย
-
Not Synced
มีเงินแสนล้านก็ยังสู้มีศีลไม่ได้
-
Not Synced
เขามีเงินมากๆ มันก็
ไม่ได้กินได้ใช้ทั้งหมดหรอก
-
Not Synced
สุดท้ายมันก็เป็นของคนอื่น
-
Not Synced
จิตเคยถือศีลติดเนื้อ
ติดตัวเราข้ามภพข้ามชาติได้
-
Not Synced
มันเคยชินที่จะถือศีล
-
Not Synced
อย่างบางคนตั้งแต่เด็ก
เกิดมาไม่อยากทำร้ายสัตว์
-
Not Synced
ไม่ทำร้ายใคร ไม่ทำร้ายสัตว์
-
Not Synced
เป็นมาแต่เด็กเลย ตั้งแต่เล็กๆ
-
Not Synced
เขาเคยชินในการถือศีลข้ามภพข้ามชาติมา
-
Not Synced
บางคนใจบุญ
-
Not Synced
เห็นใครลำบาก ช่วยเหลือได้ก็ช่วย
-
Not Synced
เขาเคยทำทานจนเคยชินที่จะทำ
-
Not Synced
สงเคราะห์ผู้อื่นเท่าที่จะทำได้
-
Not Synced
บางคนตั้งแต่เด็กๆ ชอบภาวนา
-
Not Synced
แต่ละคนไม่เหมือนกัน
-
Not Synced
อย่างหลวงพ่อแต่เด็กหลวงพ่อชอบนั่งสมาธิ
-
Not Synced
ตอนเด็กๆ ก็ไม่รู้เรื่องอะไร
-
Not Synced
พอ 7 ขวบเจอท่านพ่อลี
-
Not Synced
ท่านให้นั่งทำอานาปานสติ ทำทุกวัน
-
Not Synced
ทำแล้วมันชอบ ทำแล้วมีความสุข
-
Not Synced
เวลาว่างๆ ไม่มีอะไรทำ
-
Not Synced
ก็จะนั่งสมาธิทันทีเลย เป็นนิสัย
-
Not Synced
ตอนเรียนหนังสือ
มีเวลาว่างปุ๊บไปนั่งสมาธิแล้ว
-
Not Synced
ตอนทำงาน ยังทำงานอยู่
ว่างเมื่อไรก็นั่งสมาธิ
-
Not Synced
กลางวันกินข้าวเสร็จแล้วเดินไปวัด
-
Not Synced
เป็นการเดินจงกรม เคยชินที่จะปฏิบัติ
-
Not Synced
ไม่รู้สึกว่าการปฏิบัติเป็นเรื่องยาก
-
Not Synced
แต่รู้สึกว่าเป็นของสมควรทำ
-
Not Synced
ทำแล้วเราได้เรียนรู้
ความชั่วของตัวเองมากขึ้นๆ
-
Not Synced
มันเป็นเรื่องดี
-
Not Synced
เห็นกิเลสตัวเอง เห็นความชั่วของตัวเอง
-
Not Synced
ถ้าภาวนาแล้วเห็นแต่ความดีของตัวเอง
ลำบากแล้ว
-
Not Synced
กิเลสมันหลอก
-
Not Synced
อย่างเราจะนั่งสมาธินานๆ เดินจงกรมนานๆ
-
Not Synced
กิเลสมันคร่ำครวญ
-
Not Synced
นั่งนานไปเดี๋ยวเป็นง่อย เดี๋ยวจะเดินไม่ไหว
-
Not Synced
เดินนานไปปวดเมื่อย
โอ๊ย เป็นอัตตกิลมถานุโยค
-
Not Synced
ไม่ใช่ทางสายกลาง
-
Not Synced
แล้วทางสายกลางอยู่ที่ไหน อยู่บนเตียง
-
Not Synced
นอนกลิ้งไปกลิ้งมานี่ทางสายกลาง
-
Not Synced
ฝึกๆ ปรับตัวเองให้มันเข้มแข็งขึ้นมา
-
Not Synced
เราจะข้ามวัฏฏะได้
-
Not Synced
มิฉะนั้นเราจะทุกข์แล้วทุกข์อีก
ทุกข์น่ากลัว
-
Not Synced
แล้วถ้าไม่เจอศาสนาพุทธ
เราก็ไม่ชั่วเพราะเราเคยชินที่จะดี
-
Not Synced
แต่ใจมันว้าเหว่ มันไม่มีที่พึ่งที่อาศัย
-
Not Synced
เวลาเจอศาสนาพุทธแล้ว ดีใจ
-
Not Synced
สมัยพุทธกาล
-
Not Synced
ก็มีพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่ง
ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว
-
Not Synced
อ่านมา 40 กว่าปีแล้ว
-
Not Synced
พระเจ้าแผ่นดินองค์นี้เขาชอบสืบข่าว
-
Not Synced
สมัยโบราณไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีดาวเทียม
-
Not Synced
ก็สืบข่าวจากพวกพ่อค้า
-
Not Synced
คอยถามพวกพ่อค้าที่เดินทางต่างเมืองมา
-
Not Synced
ว่ามีข่าวสำคัญอะไรบ้าง
-
Not Synced
อย่างข่าวว่าเมืองทางตะวันออกมัน
เตรียมทหาร 12,000 คนประชิดชายแดน
-
Not Synced
ถามพ่อค้าอะไรอย่างนี้
-
Not Synced
วันหนึ่งพ่อค้ามาบอกว่า
-
Not Synced
“พุทโธ โลเก อุปปันโน”
พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นแล้วในโลก
-
Not Synced
“ธัมโม โลเก อุปปันโน”
พระธรรมเกิดขึ้นแล้วในโลก
-
Not Synced
“สังโฆ โลเก อุปปันโน”
พระสงฆ์เกิดขึ้นแล้วในโลก
-
Not Synced
พระเจ้าแผ่นดินฟังแทบช็อกเลย
-
Not Synced
ถามอะไร พูดซ้ำอีกทีสิ
-
Not Synced
พูดซ้ำหลายทีด้วยความปีติ
-
Not Synced
หลวงพ่อได้ยินคำว่า “พุทโธ โลเก อุปปันโน”
-
Not Synced
พูดให้พวกเราฟังนี่ขนลุกเลย
-
Not Synced
พูดถึงวันนี้ผ่านมานานก็ยังขนลุกอยู่
-
Not Synced
นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็ขนลุกเลยด้วยความปีติ
-
Not Synced
พระเจ้าแผ่นดินองค์นั้น
ท่านก็ปีติอย่างรุนแรง
-
Not Synced
ท่านก็ถามว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน
ท่านจะไปหาแล้ว
-
Not Synced
ก็บอกว่าอยู่ที่เมืองอะไรไม่รู้จำไม่ได้
-
Not Synced
ไม่รู้ สาวัตถีล่ะกระมัง หรือราชคฤห์
-
Not Synced
จำไม่ได้ แก่แล้ว อ่านมานานแล้วก็ลืม
-
Not Synced
พระเจ้าแผ่นดินก็เลยบอก
ว่าให้พ่อค้าเข้าไปในวัง
-
Not Synced
ไปบอกพระมเหสีท่าน
-
Not Synced
ว่าพระเจ้าแผ่นดินหนีออกจากเมืองไปแล้ว
-
Not Synced
จะไปเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้ว
-
Not Synced
รีบไป ไม่ประมาท เพราะว่า
-
Not Synced
จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองจะตายเมื่อไร
-
Not Synced
จะรู้ได้อย่างไรพระพุทธเจ้าจะนิพพานเมื่อไร
-
Not Synced
พอได้ข่าวรีบไปทันทีเลย
-
Not Synced
บอกให้พ่อค้าไปเอารางวัลที่พระมเหสี
-
Not Synced
แล้วตัวท่านขึ้นม้ารีบไปหาพระพุทธเจ้าเลย
-
Not Synced
พ่อค้าเข้าไปในวังก็ไปทูลพระมเหสี
-
Not Synced
บอกพระเจ้าแผ่นดินหนีไปแล้ว
-
Not Synced
ให้มารับรางวัล
ถามรางวัลอะไร รางวัลที่ให้ข่าว
-
Not Synced
ข่าวว่าอะไร
-
Not Synced
ข่าวว่า “พุทโธ โลเก อุปปันโน”
พระพุทธเจ้าเกิดแล้วในโลก
-
Not Synced
“ธัมโม โลเก อุปปันโน”
พระธรรมเกิดขึ้นแล้วในโลก
-
Not Synced
“สังโฆ โลเก อุปปันโน”
พระสงฆ์เกิดขึ้นแล้วในโลก
-
Not Synced
แล้วบอกว่าพระเจ้าแผ่นดิน
บอกให้พระมเหสีครองราชย์ต่อไป
-
Not Synced
ตัวท่านไปแล้ว
-
Not Synced
พระมเหสีบอก
เรื่องอะไรเอาของสกปรกมาให้เรา
-
Not Synced
ท่านก็ยกสมบัติให้ใครก็ไม่รู้จำไม่ได้
-
Not Synced
แล้วท่านก็รีบไปหาพระพุทธเจ้าเหมือนกัน
-
Not Synced
ทั้ง 2 องค์เลย
-
Not Synced
ทั้งพระเจ้าแผ่นดิน
ทั้งมเหสีออกไปเฝ้าพระพุทธเจ้า
-
Not Synced
ฟังธรรมแล้วก็เป็นพระอรหันต์ทั้งคู่เลย
-
Not Synced
เขาได้ยินประโยคนี้ว่าพระพุทธเจ้าอุบัติแล้ว
-
Not Synced
พระธรรมอุบัติแล้ว พระสงฆ์อุบัติแล้ว
-
Not Synced
เขาเห็นคุณค่า
เขาทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างกระทั่งราชสมบัติ
-
Not Synced
เพื่อจะไปเอาธรรมะ
-
Not Synced
ของเราทิ้งความสุข ความสบายเล็กน้อย
-
Not Synced
เรายังจะไม่กล้าทิ้ง
-
Not Synced
ใจเรายังไม่คู่ควรกับธรรมะ
-
Not Synced
คนที่เขาผ่านมาใจเขาเข้มแข็งจริง
-
Not Synced
กล้า กล้ามากๆ
-
Not Synced
อย่างพระเวสสันดร อันนั้นระดับพระพุทธเจ้า
-
Not Synced
ท่านกล้า กล้าทิ้งหมดเลย
-
Not Synced
อะไรที่เป็นที่รักที่ผูกพัน
-
Not Synced
ถ้าใครขอยกให้หมด
-
Not Synced
กล้าหาญ ของเราไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก
-
Not Synced
เพราะเราไม่ได้สร้างบารมีไปเป็นพระพุทธเจ้า
-
Not Synced
อดทน
-
Not Synced
เราไม่รู้ว่าพระพุทธศาสนาจะอยู่นานแค่ไหน
-
Not Synced
ศาสนาพุทธอยู่ไม่นานหรอก
-
Not Synced
เป็นธรรมชาติอย่างนั้น
เพราะมันเป็นศาสนาที่ทวนกิเลส
-
Not Synced
ศาสนาที่ทวนกระแส
-
Not Synced
ไม่ใช่ศาสนาที่ตามกระแสโลก
-
Not Synced
เอาความสุขเอาความสบายมาหลอกมาล่อ
-
Not Synced
อย่างคิดว่าถ้าเราสรรเสริญพระเจ้าไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
เดี๋ยวตายแล้วพระเจ้ารับไปอยู่ด้วย
เราก็มีความสุขนิรันดร
-
Not Synced
อย่างเขาเอาความสุขมาหลอกล่อเรา
-
Not Synced
มันก็ดีอย่างของเขา
-
Not Synced
อย่างน้อยคนของเขาก็ไม่เกะกะเกเร
-
Not Synced
ทำความดีตามมาตรฐานของเขา
-
Not Synced
แต่ชาวพุทธเราไม่ได้เอาแค่ความสุข
-
Not Synced
เพราะความสุขไม่ใช่ของที่ยั่งยืน
-
Not Synced
ชีวิตเราผ่านความสุขมาตั้งเท่าไรแล้ว
-
Not Synced
สุดท้ายความสุขทุกอย่างในชีวิตเราก็ผ่านไป
-
Not Synced
อย่างตอนเด็กๆ
เรามีพ่อแม่พี่น้องอะไรเยอะแยะ
-
Not Synced
มีเพื่อนฝูงเยอะแยะ
-
Not Synced
พอโตขึ้นพ่อแม่พี่น้องเราก็ล้มหายตายจากไป
-
Not Synced
เพื่อนก็เหลืออยู่ไม่กี่คน
-
Not Synced
ตอนเด็กๆ มีเพื่อนเป็นร้อยเป็นพัน
-
Not Synced
โตขึ้นแล้วเพื่อนน้อยลงๆๆ
-
Not Synced
บางคนตอนนี้เหลือตัวคนเดียว
เพื่อนฝูงตายหมดแล้ว
-
Not Synced
ในโลกมันไม่มีอะไรยั่งยืนเลย
มันได้แค่นั้น
-
Not Synced
จะหลงอะไรกันนักหนา
-
Not Synced
ศาสนาพุทธอยู่ไม่นานหรอก
-
Not Synced
พวกเราก็เห็นอยู่แล้วทุกวันนี้เป็นอย่างไร
-
Not Synced
พุทธบริษัทเป็นอย่างไร
-
Not Synced
ภิกษุบริษัทเป็นอย่างไรก็เห็นอยู่
-
Not Synced
ภิกษุณีบริษัทไม่มีแล้ว
-
Not Synced
อุบาสกอุบาสิกาเป็นอย่างไร
-
Not Synced
ลองดูรอบตัวเราสิ
-
Not Synced
ศาสนาพุทธไม่ได้ดำรงอยู่ที่วัด
-
Not Synced
ไม่ได้ดำรงอยู่ที่ไหนเลย
-
Not Synced
แล้วถ้าจิตใจของเราปิดกั้น
-
Not Synced
รองรับธรรมะไม่ได้ ศาสนาก็สูญไป
-
Not Synced
ตอนนี้มีโอกาส ถือว่าในสังสารวัฏที่ยาวไกล
-
Not Synced
ชาตินี้ของเราเป็นนาทีทองในสังสารวัฏ
-
Not Synced
เพราะพระศาสนายังดำรงอยู่
-
Not Synced
หลักสติปัฏฐานยังดำรงอยู่
-
Not Synced
ตราบใดที่ยังมีสติปัฏฐาน
มีผู้เดินตามสติปัฏฐาน
-
Not Synced
มีสติรู้กายในกาย มีสติรู้เวทนาในเวทนา
-
Not Synced
มีสติรู้จิตในจิต รู้ธรรมในธรรมอยู่
-
Not Synced
ตราบใดที่ยังมีผู้ปฏิบัติอยู่
-
Not Synced
มรรคผลนิพพานยังไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัย
-
Not Synced
น่าสงสารตรงที่ว่าชาวพุทธเรา
-
Not Synced
แทบไม่เคยได้ยินคำว่าสติปัฏฐานเลย
-
Not Synced
สติอาจจะได้ยินบ้าง
-
Not Synced
ติดอยู่ข้างขวดเหล้า
กินเหล้าแล้วขาดสติอะไรอย่างนี้
-
Not Synced
แล้วมึงทำเหล้ามาขายทำไม
-
Not Synced
รู้อยู่แล้วว่าเขากินเหล้าแล้วขาดสติ
จะเอาเงิน
-
Not Synced
สติปัฏฐานเป็นทางสายเอกเป็นทางสายเดียว
-
Not Synced
เพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น
-
Not Synced
ทางสายเอกมีหลายความหมาย
-
Not Synced
อันหนึ่งเป็นทางของท่านผู้เป็นเอก
-
Not Synced
คือเป็นเส้นทางที่พระพุทธเจ้าค้นพบ
-
Not Synced
อีกอันหนึ่งเป็นทางที่เดินคนเดียว
ไปตามลำพัง
-
Not Synced
เอาตัวรอดตามลำพัง
-
Not Synced
ใครทำคนนั้นได้ ยุติธรรมที่สุดแล้ว
-
Not Synced
ไม่มีขบวนพ่วงไปแบบรถไฟ
พ่วงกันยาวๆ ไม่ต้องทำ
-
Not Synced
แต่เกาะคนที่เขาทำไปเรื่อยๆ บรรลุ
ไม่บรรลุหรอก
-
Not Synced
เป็นทางสายเอก เป็นทางสายเดียว
-
Not Synced
คือเป็นวิธีปฏิบัติอย่างเดียว
-
Not Synced
ที่จะพาเราไปพ้นทุกข์
-
Not Synced
เป็นทางสายเดียวหมายถึงว่า
-
Not Synced
เป็นทางที่ไปครั้งเดียว
แล้วไม่ต้องเดินทางอีก
-
Not Synced
พอเราทำสติปัฏฐานเต็มภูมิแล้ว
-
Not Synced
เราถึงฝั่งแห่งพระนิพพานแล้ว
-
Not Synced
เราก็ไม่ต้องมาฝึกทำสติปัฏฐานใหม่ ไม่ต้อง
-
Not Synced
ไม่เหมือนเรียนวิชาทางโลก
-
Not Synced
เรียนแล้วเดี๋ยวลืม ต้องไปเรียนใหม่
-
Not Synced
หรือความรู้สะสม ชาตินี้เป็นดอกเตอร์
-
Not Synced
ตายไปไปเกิดใหม่ ก็เป็นเด็ก ป.1 ใหม่
-
Not Synced
แต่สติปัฏฐาน ถ้าเราเดินไปแล้ว
-
Not Synced
เป็นทางที่เดินครั้งเดียว
ไม่ต้องเดินซ้ำทางนี้อีกแล้ว
-
Not Synced
ถ้าผ่านไปได้
-
Not Synced
ฉะนั้นสติปัฏฐานเป็นของวิเศษ
-
Not Synced
เป็นของดีของวิเศษอย่างยิ่งเลย
-
Not Synced
ฉะนั้นพวกเราต้องพยายามศึกษาไว้
-
Not Synced
หลักของสติปัฏฐานอันแรกเลยก็คือมีวิหารธรรม
-
Not Synced
ต้องมีวิหารธรรม
-
Not Synced
บางคนบอกเจริญสติ
ในชีวิตประจำวันไม่มีวิหารธรรม
-
Not Synced
เก่งเกินไปแล้ว
-
Not Synced
วิหารธรรมแปลว่าเครื่องอยู่ของจิต
-
Not Synced
ให้จิตมันมีเครื่องอยู่
-
Not Synced
ถ้าจิตไม่มีเครื่องอยู่ จิตก็ร่อนเร่
-
Not Synced
เป็นหมาจรจัดวิ่งไป
-
Not Synced
หิวที่โน้นก็วิ่งไป หิวอย่างนี้ก็วิ่งไป
-
Not Synced
คุ้ยถังขยะโน้นคุ้ยถังขยะนี้เรื่อยๆ
-
Not Synced
อย่างพวกเราหิวในกามแล้วก็วิ่งไปคุ้ยหากาม
-
Not Synced
ภาวนาแล้วรู้สึกไม่ได้ต่างกับหมาคุ้ยขยะเลย
-
Not Synced
คุ้ยกองนี้แล้วก็วิ่งไปคุ้ยกองโน้น
-
Not Synced
ถ้าไม่มีวิหารธรรมจิตเราจะร่อนเร่
-
Not Synced
แล้วดูยากเข้าใจยาก
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นต้องมีเครื่องรู้ของจิต
เครื่องระลึกของสติ
-
Not Synced
วิหารธรรม ที่พระพุทธเจ้าทำไว้ให้
-
Not Synced
สอนไว้ให้
-
Not Synced
มีกายในกาย เวทนาในเวทนา
จิตในจิต ธรรมในธรรม
-
Not Synced
ฟังแล้วงง
-
Not Synced
กายในกายเป็นอย่างไร
-
Not Synced
กายในกายหมายถึงว่าเราเรียนกายบางอย่าง
-
Not Synced
ถ้าเราเข้าใจกายอันนั้นแล้วที่เราเรียน
-
Not Synced
เราจะเข้าใจกายทั้งหมด
-
Not Synced
มันคือการเรียนแบบการทำงานวิจัย
-
Not Synced
เหมือนเราจะวิจัยทัศนคติ
ของคนไทยต่ออะไรสักอย่างหนึ่ง
-
Not Synced
เราไม่ต้องถามคนทุกคน
-
Not Synced
เราสุ่มตัวอย่างมา
ถ้าตัวอย่างของเรากำหนดไว้ได้ดี
-
Not Synced
มันจะเป็นภาพสะท้อนที่ใกล้เคียงความจริง
-
Not Synced
ว่าคนทั้งหมดรู้สึกอย่างไร
-
Not Synced
คิดอย่างไร ต้องการอะไร
-
Not Synced
จะเป็นภาพอย่างนี้
-
Not Synced
ถ้าเราอยากรู้กายทั้งหมดของเรา
-
Not Synced
เราไม่ได้เรียนแพทย์ ไม่ต้องเรียนกายวิภาค
-
Not Synced
มีกระดูกเท่านั้น มีกล้ามเนื้อเท่านี้
-
Not Synced
มีเส้นประสาทอย่างนั้นอย่างนี้
-
Not Synced
เราไม่ได้เรียนอย่างนั้น
-
Not Synced
แต่เราจะเรียนเพื่อความพ้นทุกข์
เรียนเพื่อปล่อยวาง
-
Not Synced
เราเรียนกายในกายบางอย่าง เช่น
-
Not Synced
เราเห็นว่าร่างกายหายใจออก ร่างกายหายใจเข้า
-
Not Synced
ถ้าเราเห็นร่างกายที่หายใจออกไม่ใช่เรา
-
Not Synced
ร่างกายหายใจเข้าไม่ใช่เรา
-
Not Synced
ร่างกายทั้งหมดจะไม่ใช่เราแล้วล่ะ
-
Not Synced
เพราะทั้งวันมันก็มีแต่ร่างกาย
ที่หายใจออกกับหายใจเข้า
-
Not Synced
หรือจะเรียนอีกมุมหนึ่ง
-
Not Synced
ร่างกายที่ยืน ที่เดิน ที่นั่ง ที่นอน
แต่ละอย่างไม่ใช่ตัวเราของเรา
-
Not Synced
ถ้าเรียนอย่างนี้เราก็จะเห็น
ร่างกายทั้งหมดไม่ใช่ตัวเรา
-
Not Synced
เรียนบางแง่บางมุมแล้วจะเข้าใจทั้งหมด
-
Not Synced
เรียกว่ากายในกาย สุ่มตัวอย่างมาเรียน
-
Not Synced
หรือเรียนร่างกายที่เคลื่อนไหว
ร่างกายที่หยุดนิ่ง
-
Not Synced
ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก
ร่างกายหยุดนิ่ง รู้สึก
-
Not Synced
ถ้าเห็นว่าร่างกายที่เคลื่อนไหวไม่ใช่เรา
ร่างกายหยุดนิ่งไม่ใช่เรา
-
Not Synced
สุดท้ายจิตมันจะปิ๊งขึ้นมา
มันจะรู้เลยร่างกายทั้งหมดไม่ใช่เรา
-
Not Synced
เรียนเวทนา เวทนาก็เหมือนกัน
หรือเรียนจิตในจิตก็เหมือนกัน
-
Not Synced
เรียนจิตในจิต เช่น เราเป็นคนขี้โมโห
-
Not Synced
อย่างหลวงพ่อเป็นคนใจร้อน
-
Not Synced
พวกใจร้อนรวดเร็ว
-
Not Synced
ทำอะไรอืดๆ อาดๆ ไม่ชอบ
-
Not Synced
ใครจะมาคุยกับหลวงพ่อแล้วคุยยาว
-
Not Synced
ไม่ชอบฟัง เสียเวลา
-
Not Synced
เป็นคนใจร้อน
-
Not Synced
พวกใจร้อน พวกโทสะ ใจร้อน
-
Not Synced
เวลาหลวงพ่อภาวนาแล้วหัดดูจิตดูใจ
-
Not Synced
ตัวที่เด่นที่สุดก็คือจิตโกรธ จิตมีโทสะ
-
Not Synced
เราภาวนาแล้วเห็น
เดี๋ยวก็ขัดใจ เดี๋ยวก็รำคาญ
-
Not Synced
เดี๋ยวก็หงุดหงิด
-
Not Synced
เห็นมันผุดๆๆ อย่างนี้เรื่อยๆ
-
Not Synced
พอเรารู้มันก็ดับ
-
Not Synced
จิตโกรธ รู้แล้วมันก็ดับ
-
Not Synced
จิตรำคาญ รู้แล้วมันก็ดับ
-
Not Synced
จิตหงุดหงิด รู้แล้วมันก็ดับ
-
Not Synced
จิตเบื่อ รู้แล้วมันก็ดับ
-
Not Synced
เห็นมันเกิดดับๆ เกิดดับๆ ไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
ในที่สุดมันก็รู้
จิตทั้งวันของเรามีอยู่ 2 อย่าง
-
Not Synced
จิตมีโทสะกับจิตไม่มีโทสะ
-
Not Synced
จิตมีโทสะผุดขึ้นมา เราก็เห็น
-
Not Synced
จิตไม่มีโทสะเป็นอย่างไร
-
Not Synced
มีหลายแบบ เป็นกุศลก็มี เป็นอกุศลก็มี
-
Not Synced
จิตที่มีเมตตาอย่างนี้เป็นจิตที่ไม่มีโทสะ
-
Not Synced
เป็นจิตที่เป็นกุศล
-
Not Synced
จิตที่มีราคะๆ ขณะที่มีราคะจะไม่มีโทสะ
-
Not Synced
อันนี้จิตราคะเป็นอกุศล
-
Not Synced
มันจะเริ่มเห็นละเอียดๆ ขึ้น
-
Not Synced
จิตมีโทสะตัวหนึ่ง
-
Not Synced
ส่วนจิตไม่มีโทสะ
แตกออกไปได้อีกเยอะแยะเลย
-
Not Synced
เป็นจิตมีโมหะก็ได้ เป็นจิตมีราคะก็ได้
เป็นจิตที่เป็นกุศลก็ได้
-
Not Synced
สารพัดจะเป็น
-
Not Synced
แต่พอเรารู้ว่าจิตมีโทสะไม่ใช่เรา
-
Not Synced
จิตไม่มีโทสะไม่ใช่เรา
จิตทั้งหมดเลยไม่ใช่เรา
-
Not Synced
จะเห็นอย่างนี้
-
Not Synced
นี่เรียกว่าการเรียนแบบสุ่มตัวอย่าง
-
Not Synced
หลวงพ่อยกกายกับจิต
กายานุปัสสนากับจิตตานุปัสสนา
-
Not Synced
เพราะ 2 อันนี้เป็นกรรมฐานง่าย
-
Not Synced
เวทนานุปัสสนากับธัมมานุปัสสนา
เป็นกรรมฐานที่ยากขึ้น
-
Not Synced
ต้องมีสติมีปัญญาเข้มแข็งมากขึ้น
-
Not Synced
อย่างถ้าสติ สมาธิ ปัญญาเราไม่เข้มแข็ง
เราไปดูเวทนา
-
Not Synced
เจอความเจ็บความปวดประเดี๋ยวเดียว
สติแตกแล้ว สู้ไม่ไหว
-
Not Synced
ดูธัมมานุปัสสนา เดี๋ยวก็ฟุ้งซ่าน
-
Not Synced
กำลังไม่พอมันจะฟุ้งซ่าน
-
Not Synced
ดูของง่าย ดูกายกับจิต
-
Not Synced
กายานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา
-
Not Synced
หลวงพ่อใช้จิตเป็นวิหารธรรม
-
Not Synced
วิหารธรรมคือรู้อยู่ประจำ รู้อยู่เนืองๆ
-
Not Synced
ท่านใช้คำว่ารู้เนืองๆ รู้บ่อยๆ
-
Not Synced
รู้มากที่สุดเท่าที่รู้ได้
ไม่ใช่รู้ตลอดเวลา
-
Not Synced
ถ้ารู้ตลอดเวลาแปลว่าเพ่งเอา ใช้ไม่ได้
-
Not Synced
จิตจะทื่อๆ รู้เนืองๆ
-
Not Synced
ท่านบอก “กาเย กายานุปัสสี วิหรติ”
-
Not Synced
มีกายในกายเป็นวิหารธรรม
-
Not Synced
อาตาปี มีความเพียรแผดเผากิเลสให้เร่าร้อน
-
Not Synced
เราปฏิบัติเพื่อสู้กับกิเลส
-
Not Synced
ไม่ได้ปฏิบัติเอาดี เอาสุข
เอาสงบอะไรทั้งสิ้น
-
Not Synced
อย่าไปคิดกระทั่งว่าจะเอามรรคผลนิพพาน
-
Not Synced
อย่าโลภ
-
Not Synced
ปฏิบัติเพื่อจะเรียนรู้จิตใจตัวเอง
-
Not Synced
เห็นกิเลสตัวเองไป
-
Not Synced
ปฏิบัติแล้วถ้าเริ่มต้นด้วยความอยาก
-
Not Synced
กิเลสไม่เร่าร้อนแต่ใจเราจะเร่าร้อน
-
Not Synced
อย่างอยากสงบเร็วๆ อย่างนี้ ใจเราเร่าร้อน
-
Not Synced
อยากได้มรรคผลนิพพาน ใจเราเร่าร้อน
-
Not Synced
ฉะนั้นเราภาวนาต้องแผดเผากิเลสให้เร่าร้อน
-
Not Synced
ให้กิเลสมันร้อน ไม่ใช่ให้เราร้อน
-
Not Synced
มีสัมปชัญญะรู้ว่า
-
Not Synced
อย่างตอนนี้เราควรทำสมถะ
ตอนนี้เราควรทำวิปัสสนา
-
Not Synced
รู้ว่าถ้าจะทำสมถะ เราควรทำสมถะแบบไหน
-
Not Synced
รู้ว่าจะทำวิปัสสนา
เราจะใช้วิปัสสนาอย่างไหน
-
Not Synced
เรียกว่ามีสัมปชัญญะ
-
Not Synced
แล้วตอนรู้ว่าควรจะทำกรรมฐานอย่างนี้
-
Not Synced
ทําสมถะอย่างนี้ วิปัสสนาอย่างนี้
-
Not Synced
ไม่หลง ไม่ลืม ไม่ละเลย
-
Not Synced
อันนี้เรียกอสัมโมหสัมปชัญญะ
-
Not Synced
สัมปชัญญะ มี 4 ตัว
-
Not Synced
มีสัมปชัญญะ สัมปชัญญะเป็นปัญญา
-
Not Synced
เป็นปัญญาเบื้องต้น
ที่จะสอนเราว่าเราควรทำอะไร
-
Not Synced
จะทำเมื่อไร ทำอย่างไร
-
Not Synced
ทำแล้วจะได้ผลอย่างไร จะรู้พวกนี้
-
Not Synced
แล้วก็มีสติ
-
Not Synced
มีวิหารธรรม อาตาปี มีความเพียรแผดเผากิเลส
-
Not Synced
สัมปชาโน มีสัมปชัญญะ
-
Not Synced
มีสติ สติเป็นตัวระลึกได้
-
Not Synced
ระลึกได้ถึงรูปธรรมนามธรรมที่มีอยู่
-
Not Synced
ระลึกได้ถึงความเคลื่อนไหว
เปลี่ยนแปลงของรูปธรรมนามธรรม
-
Not Synced
อย่างระลึกได้ว่าร่างกายมีอยู่
-
Not Synced
ระลึกได้ว่าร่างกายกำลังเคลื่อนไหว
-
Not Synced
กำลังหยุดนิ่งอยู่
-
Not Synced
กำลังหายใจออกหายใจเข้าอยู่
-
Not Synced
พอระลึกตรงนี้จิตก็ไม่หนีไปที่อื่น
-
Not Synced
จิตก็อยู่ เห็นร่างกายหายใจอยู่
-
Not Synced
เห็นร่างกายยืน เดิน
นั่ง นอน เคลื่อนไหว หยุดนิ่ง
-
Not Synced
แล้วแต่เราจะทำ
-
Not Synced
พอจิตไม่หนีไปที่อื่น
-
Not Synced
ในขณะเดียวกันจิตไม่ถลำลงไปเพ่งไปจ้อง
-
Not Synced
จิตถลำลงไปเพ่งลมก็ใช้ไม่ได้แล้ว
มันกลายเป็นกสิณไป
-
Not Synced
ไม่ได้เดินปัญญาต่อ
-
Not Synced
เห็นร่างกายที่หายใจออก ร่างกายที่หายใจเข้า
-
Not Synced
ไม่ใช่เห็นลมหายใจ
-
Not Synced
คนละอันกัน คนละแบบ
แล้วจิตจะเดินไม่เหมือนกัน
-
Not Synced
ถ้าเห็นลม จิตมันจะเดินไปทางกสิณ
-
Not Synced
แค่เราเห็นลมผ่านจมูกอย่างนี้
-
Not Synced
พอเห็นลมมันเคลื่อน เห็นความเคลื่อนคือตัวลม
-
Not Synced
เห็นช่องจมูกนี่คือกสิณช่องว่าง
-
Not Synced
เห็นลมที่เข้ามันเย็น ลมที่ออกมันร้อน
-
Not Synced
นี่กสิณไฟ
-
Not Synced
เห็นมันกระทบแถวนี้ ตัวนี้กสิณดิน
-
Not Synced
แค่หายใจถ้าไปจดจ่ออยู่ มันกลายเป็นกสิณ
-
Not Synced
ทำไปๆ มันกลายเป็นแสง
-
Not Synced
จะไปเพ่งเทียนหรือทำกสิณ 10 ข้อ
-
Not Synced
สุดท้ายมันก็มาเป็นแสงเหมือนกัน
-
Not Synced
ทำอานาปานสติ ทำไปมันก็เป็นแสงเหมือนกัน
-
Not Synced
แล้วก็ออกไปทางฌาน
ทางอภิญญา ทางอะไรได้
-
Not Synced
แต่เราไม่ต้องเล่นอย่างนั้น มันอ้อม
-
Not Synced
เวลาเรามีน้อย
-
Not Synced
ไม่ต้องไปเล่นของอ้อม
เอาของพ้นกิเลสเป็นหลัก
-
Not Synced
เราภาวนาเพื่ออาตาปี เพื่อแผดเผากิเลส
-
Not Synced
ไม่ใช่เพื่อภาวนาเอาฤทธิ์เอาเดชอะไร
-
Not Synced
ฉะนั้นมีสติรู้กายอย่างที่กายเป็น
-
Not Synced
มีสติรู้จิตอย่างจิตที่เป็น
-
Not Synced
พอเรามีสติรู้ทัน
-
Not Synced
จิตเราหลงไปจากกรรมฐาน รู้ทัน
-
Not Synced
จิตเราถลำจมลงไปเพ่งอารมณ์กรรมฐาน รู้ทัน
-
Not Synced
จิตจะดีดตัวขึ้นมา
-
Not Synced
พอสติรู้ทันสภาวะที่กำลังมีกำลังเป็น
-
Not Synced
สัมมาสมาธิจะเกิดร่วมด้วยเสมอ
-
Not Synced
จิตมันจะตั้งมั่นขึ้นมา
-
Not Synced
เมื่อมีจิตที่ตั้งมั่นมากขึ้นๆๆ
เราจะเดินปัญญาได้
-
Not Synced
สติเมื่อทำให้มาก สัมมาสติเมื่อทำให้มาก
-
Not Synced
จะทำให้สัมมาสมาธิบริบูรณ์
-
Not Synced
สัมมาสมาธิบริบูรณ์
-
Not Synced
จะทำให้สัมมาญาณะ
การเจริญปัญญามันจะสมบูรณ์ขึ้นมา
-
Not Synced
การทำวิปัสสนาจะทำได้ง่าย
-
Not Synced
ถ้าเราไม่มีสัมมาสติ ไม่มีสัมมาสมาธิ
ไม่ต้องพูดเรื่องวิปัสสนา แค่คิดเอา
-
Not Synced
อย่างถ้ายกเท้าย่างเท้า กำหนดไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
ไม่ใช่วิปัสสนาหรอก
-
Not Synced
ยังไม่มีสติ ยังไม่ได้มีสัมมาสมาธิตัวจริง
-
Not Synced
ที่หลวงพ่อให้พวกเราไปทำในรูปแบบ
-
Not Synced
ไปปฏิบัติในรูปแบบวันละ 3 ชั่วโมง
-
Not Synced
ถ้าเดินไหวเดิน
-
Not Synced
ถ้าเดินไม่ไหว อายุเยอะหรือไม่สบาย
-
Not Synced
เดินบ้างนั่งบ้าง
-
Not Synced
ไม่ไหวจริงๆ จะนั่งหรืออะไรก็เอา
-
Not Synced
แต่อย่าให้ขาดสติก็แล้วกัน
-
Not Synced
นั่งก็เคลื่อนไหว
รู้สึกร่างกายที่เคลื่อนไหวไป
-
Not Synced
พูดอย่างนี้ เดี๋ยวเหมือนชี้โพรงให้กระรอก
-
Not Synced
เดี๋ยวจะนั่งรู้แล้วเคลื่อนไหว
-
Not Synced
หัวเราตกลงไปแล้ว รู้สึก
-
Not Synced
ห่วยแตก
-
Not Synced
เข้มแข็งหน่อย ยังเดินได้ก็เดินไป
-
Not Synced
อ่อนแอไม่ได้กินหรอก
-
Not Synced
เดินก็เดินอยู่ในหลักของสติปัฏฐาน
-
Not Synced
เห็นกายมันเดิน รูปมันเดิน
-
Not Synced
อันนี้เป็นวิหารธรรม
เห็นร่างกายที่เดินเป็นวิหารธรรม
-
Not Synced
ไม่ใช่ไปดูยกเท้าย่างเท้า อันนั้นจะไปเพ่ง
-
Not Synced
เห็นร่างกายมันเดิน เห็นร่างกายมันนั่ง
-
Not Synced
มีวิหารธรรม เดินจงกรม
-
Not Synced
เดินเพื่ออะไร เพื่อสู้กับกิเลส
-
Not Synced
เพื่อแผดเผากิเลส ไม่ใช่เดินตามใจกิเลส
-
Not Synced
ไม่ได้เดินเพราะอยากอย่างโน้นอยากอย่างนี้
-
Not Synced
เดินด้วยความรู้เนื้อรู้ตัว
-
Not Synced
รู้เนื้อรู้ตัวตอนนี้เราจะเดิน
เราจะสนใจเรื่องอื่น
-
Not Synced
เรื่องอื่นวาง นี่สัมปชัญญะ
-
Not Synced
แล้วก็เดินไปด้วยความมีสติ
-
Not Synced
ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก
ร่างกายหยุดนิ่ง รู้สึก ทำไป
-
Not Synced
พอเรามีสติชำนิชำนาญ
-
Not Synced
สมาธิเราจะค่อยตั้งมั่นเด่นดวงขึ้นมา
-
Not Synced
ถัดจากนั้นการเดินปัญญา
จะเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
-
Not Synced
ขันธ์มันจะแตกตัวออก
-
Not Synced
แยกขันธ์ได้อย่างง่ายดายเลย
-
Not Synced
แล้วขันธ์แต่ละขันธ์จะแสดงไตรลักษณ์ให้เราดู
-
Not Synced
มันจะเห็นร่างกายไม่ใช่ตัวเรา
-
Not Synced
เห็นลึกเข้ามา
เวทนาที่เกิดในกายไม่ใช่ตัวเรา
-
Not Synced
มันของอยู่กับกาย
-
Not Synced
เวทนาที่เกิดอยู่ในใจกับสังขาร
-
Not Synced
ความปรุงดีปรุงชั่วที่เกิดอยู่ในใจ
-
Not Synced
ก็ไม่ใช่จิต
-
Not Synced
เป็นของที่ผ่านมาให้จิตรู้เท่านั้นเอง
-
Not Synced
สุดท้ายมันเข้ามาที่จิต
-
Not Synced
การปฏิบัติสุดท้ายมันจะลงมาที่จิต
-
Not Synced
แล้วมันก็จะเห็นว่า
จิตที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนี่เอง
-
Not Synced
ก็ยังตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์
-
Not Synced
เดี๋ยวก็เป็นผู้รู้ เดี๋ยวก็เป็นผู้คิด
-
Not Synced
เดี๋ยวก็เป็นผู้รู้ เดี๋ยวเป็นผู้ไปดูรูป
-
Not Synced
เดี๋ยว เป็นผู้รู้ เดี๋ยวเป็นผู้ไปฟังเสียง
ไปดมกลิ่น ไปลิ้มรส ไปรู้สัมผัสทางกาย
-
Not Synced
ไปคิดนึกทางใจ ไปเพ่งอารมณ์ทางใจ
-
Not Synced
หรือไปเพ่งรูปภายนอก
-
Not Synced
เห็นการทำงานของจิต
-
Not Synced
เห็นพฤติกรรมของจิตที่มันวิ่งพล่านๆ
ทางอายตนะทั้ง 6
-
Not Synced
สุดท้ายมันก็ปิ๊งขึ้นมา กระทั่งจิตเอง
-
Not Synced
ก็ไม่ใช่ตัวเราของเรา
-
Not Synced
ถ้าถึงตรงนี้ได้ เราก็ได้โสดาบันแล้ว
-
Not Synced
ฉะนั้นถือศีล 5 ไว้แล้วลงมือปฏิบัติไป
-
Not Synced
เรียนรู้ไปจนเห็นตัวเราไม่มีหรอก
-
Not Synced
มีแต่ความคิดว่ามีตัวเรา
-
Not Synced
มีแต่ความสำคัญมั่นหมายว่ามีตัวเรา
-
Not Synced
คือมีความหมายรู้ผิดว่าเป็นตัวเรา
-
Not Synced
มีความคิดที่ผิดๆ ว่าเป็นตัวเรา
-
Not Synced
แล้วสุดท้ายก็มีความหลงผิด
ความเชื่อผิดว่ามีตัวเรา
-
Not Synced
ฉะนั้นตัวเราจริงๆ
ก็แค่ความเข้าใจผิดเท่านั้นเอง
-
Not Synced
ฝึกแยกธาตุแยกขันธ์
-
Not Synced
ทำสติปัฏฐานไปจนกระทั่งขันธ์มันแตกตัว
-
Not Synced
สติระลึกรู้อะไรด้วยจิตที่ตั้งมั่น เป็นกลาง
-
Not Synced
จะเห็นสิ่งนั้นไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
-
Not Synced
จากของหยาบวางเป็นลำดับๆ
เข้ามาจนถึงจิตถึงใจตัวเอง
-
Not Synced
วางรูป เวทนา สัญญา สังขารไป
-
Not Synced
เข้ามาที่จิตแล้วเห็น
-
Not Synced
จิตเองก็ตกใต้ไตรลักษณ์
เท่าๆ กับตัวอื่นนั่นล่ะ
-
Not Synced
จิตก็รู้ทันๆ จิตไม่ใช่ตัวเรา
ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา
-
Not Synced
ไม่มีเราในขันธ์ 5
ไม่มีเรานอกเหนือจากขันธ์ 5
-
Not Synced
ไปทำ ไม่มีใครช่วยได้แล้ว
-
Not Synced
หลวงพ่อช่วยเราได้แค่นี้ ได้แค่บอกให้ทำ
-
Not Synced
บอกทางให้เดิน กระตุ้นให้เดิน
-
Not Synced
ถ้ามีปัญหาติดขัดมาถาม
-
Not Synced
ถามหลวงพ่อไม่ได้ ถามผู้ช่วยสอนก็ได้
-
Not Synced
มีไว้ให้สำรองไว้ให้หลายคน
-
Not Synced
การแสดงธรรมบอกเรื่องที่ยังไม่รู้ให้รู้
-
Not Synced
บอกวิธีปฏิบัติให้ ชักชวนให้ปฏิบัติ
-
Not Synced
เร่งเร้า กระตุ้น ให้กำลังใจ
-
Not Synced
มีปัญหาช่วยแก้ไข
-
Not Synced
สอนให้ก้าวไปข้างหน้า ไม่หยุดอยู่กับที่
-
Not Synced
ฟังธรรมะมันต้องให้ได้สิ่งเหล่านี้
-
Not Synced
เราถึงจะได้ประโยชน์จริง
-
Not Synced
ถ้าฟังเพลินๆ พระเทศน์จบก็สาธุได้บุญแล้ว
-
Not Synced
โอ๊ย ตาย ห่างไกลกับศาสนาพุทธเหลือเกิน
-
Not Synced
วันนี้เทศน์ให้ฟังเท่านี้ ดุเดือดหน่อย
-
Not Synced
เพราะหมู่นี้คึกคัก กำลังคึกคัก
-
Not Synced
เห็นพวกเราภาวนาดีขึ้น
-
Not Synced
เมื่อก่อนเห็นแล้วจะเทศน์ให้ฟังดีหรือเปล่า
-
Not Synced
เทศน์ไปเหมือนตักน้ำใส่หลังหมา
-
Not Synced
สำนวนหลวงปู่แหวนอันนี้ ไม่ใช่ของหลวงพ่อ
-
Not Synced
เอาน้ำไปราดลงหนังหมาๆ
-
Not Synced
หมาก็สะบัดปุ๊บๆๆๆ น้ำแห้งแล้
-
Not Synced
ว เอาธรรมะไปให้ หมาก็สะบัดปุ๊บๆๆ
-
Not Synced
ใจก็เหมือนเดิม
-
Not Synced
ฉะนั้นพวกเราไม่ใช่หมา อย่าสวมหัวใจหมา
-
Not Synced
เป็นมนุษย์ มนุษย์ผู้มีใจสูง
-
Not Synced
มนุษย์ผู้สามารถพัฒนาจิตใจตัวเองได้
-
Not Synced
เทศน์ให้ฟังเท่านี้
-
Not Synced
เบอร์ 1: ในรูปแบบ สวดมนต์พร้อมรู้กาย
-
Not Synced
ทำสมาธิ รู้กายทั้งตัวก่อน
-
Not Synced
แล้วรู้ลมกระทบเบาๆ
-
Not Synced
บริกรรมบ้าง ไม่บริกรรมบ้าง
-
Not Synced
เดินจงกรมแบบรู้ทั้งกาย ไม่บริกรรม
-
Not Synced
ในชีวิตประจำวัน
-
Not Synced
ทำความรู้สึกที่กายทั้งตัวสลับกับรู้ลมบ้าง
-
Not Synced
จะตั้งต้นจากการรู้กายทั้งตัวเบาๆ ก่อน
-
Not Synced
ทำถูกต้องไหมครับ
-
Not Synced
ทำถูกแล้ว ไปทำอีก
-
Not Synced
ขยันทำ ไม่ทำบ้างเลิก ทำแล้วหยุดๆ ไม่ดี
-
Not Synced
เบอร์ 1 เห็นตัวเองไหม จิตมันเปลี่ยนแปลงไป
-
Not Synced
จิตมันพัฒนา
-
Not Synced
ขันธ์มันแยกได้ด้วย ดี ไปทำอีก
-
Not Synced
เบอร์ 2 อาวุโสมากแล้ว
-
Not Synced
เบอร์ 2: เดินจงกรมเป็นกรรมฐานหลัก
-
Not Synced
เฉลี่ยวันละ 3 - 5 ชั่วโมงหรือมากกว่า
-
Not Synced
เห็นร่างกายสะเทือน
สลับกับเห็นจิตกระเพื่อมไหว
-
Not Synced
การเห็นกายกับการเห็นจิต
จะสลับเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
-
Not Synced
การดูจิตในอิริยาบถนั่ง
มักจะเคลิ้ม ซึม ง่วง ร่วมด้วย
-
Not Synced
ปฏิบัติถูกทางไหมคะ
-
Not Synced
ถูก ดีมากๆ เลย เข้มแข็ง
-
Not Synced
สมเป็นครูบาอาจารย์ ดี
-
Not Synced
ภาวนาใช้ได้ ภาวนาดี
-
Not Synced
ทำดีแล้วล่ะ ทำถูกแล้ว
-
Not Synced
ตอนนี้จิตออกนอกนิดหนึ่งเห็นไหม
-
Not Synced
เก่งจริง
-
Not Synced
จิตไหลออกไปก็รู้ รู้สึกเรื่อยๆ
-
Not Synced
พอเราอายุเยอะขึ้น
ไปนั่งสมาธิมันจะเคลิ้มง่าย
-
Not Synced
ฉะนั้นต้องเคลื่อนไหว พยายามกระดุกกระดิกไว้
-
Not Synced
ถ้าเดินไม่ไหว เคลื่อนไหว
-
Not Synced
บางคนก็นั่งถักไหมพรม ถัก
-
Not Synced
เห็นร่างกายมันถักไหมพรม
ใจเป็นคนรู้อะไรอย่างนี้
-
Not Synced
ถักผิดแล้วโมโห
-
Not Synced
ถักไปเรื่อยๆ พอขาดสติ อ้าว ถักผิดแล้ว
-
Not Synced
มันจะค่อยรู้สึกๆ
-
Not Synced
แต่ถ้าถักแล้วใจไปอยู่ที่ไหมพรม
ไม่ดี อันนั้นหลง
-
Not Synced
ถักแล้วก็รู้ทันใจตัวเอง
-
Not Synced
ไม่นั่งเฉยๆ นั่งเฉยๆ เดี๋ยวหลับ
-
Not Synced
หรือนั่งแล้วขยับ
-
Not Synced
เมื่อก่อนหลวงพ่อมี
-
Not Synced
เดี๋ยวนี้เขาก็ยังตั้งไว้ให้ มี
-
Not Synced
เราไปเดินเมื่อยแล้ว เหนื่อยเต็มที
-
Not Synced
นั่ง ไม่นั่งเฉยๆ นั่งเฉยๆ
เดี๋ยวหลับเพราะอายุเยอะแล้ว
-
Not Synced
ก็นั่งพัด เห็นร่างกายเคลื่อนไหว
ใจเป็นคนรู้สึก
-
Not Synced
เห็นลมมากระทบร่างกาย ใจเป็นคนรู้สึก
-
Not Synced
อากาศร้อน พอลมมากระทบ
-
Not Synced
จิตจะเกิดความยินดี
-
Not Synced
จิตใจเราเป็นคนรู้สึก มันรู้ลงไปได้
-
Not Synced
รู้ได้ตั้งแต่ร่างกายเคลื่อนไหว
-
Not Synced
รู้ถึงร่างกายที่มีลมมากระทบ
-
Not Synced
รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่จิตใจ เห็นไหม
-
Not Synced
แค่โบกพัดทีเดียวทำกรรมฐาน
ได้ตั้งเยอะตั้งเยอะแล้ว
-
Not Synced
โบกแล้วไม่อยากเลิกเลย สบาย
-
Not Synced
ไปทำ เบอร์ 2 ใช้ได้
-
Not Synced
ไม่เสีย ไม่เสียชาติเกิด ดี ชีวิตมีประโยชน์
-
Not Synced
เบอร์ 3
-
Not Synced
ทำรูปแบบโดยดูเวทนา
เกิดดับของกายเป็นสัมปชัญญะ
-
Not Synced
เห็นจิตวิ่งไปตามจุดต่างๆ ของกาย
-
Not Synced
ไหลตามกระแสความคิด
สลับกับนิ่งว่างอยู่ภายใน
-
Not Synced
ระหว่างวันรู้สึกตัวเบาๆ สลับกับหลง
-
Not Synced
เคยติดเพ่งในกายและไปสว่างว่างอยู่ข้างนอก
-
Not Synced
จิตเข้าฐาน ตั้งมั่น
มีกำลังพอที่จะเห็นไตรลักษณ์เองไหมคะ
-
Not Synced
มี แต่ตอนนี้น้อมจิตให้ซึม ไม่ดี
-
Not Synced
ตรงนี้ยังเคยชินอยู่ น้อมไปให้มันนิ่งๆ
-
Not Synced
จิตเป็นอย่างไร รู้ว่าเป็นอย่างนั้น
-
Not Synced
เว้นแต่ต้องการทำสมถะ
-
Not Synced
ต้องการสมถะเราก็น้อมจิตไปอยู่
ในอารมณ์อันเดียวที่มีความสุข
-
Not Synced
แต่ไม่ได้น้อมให้เคลิ้มๆ มีสติ
-
Not Synced
แต่อยู่ในอารมณ์อันเดียวแล้วจิตมันรวมเอง
-
Not Synced
มันจะรวมแบบมีสติ ไม่ใช่รวมขาดสติ
-
Not Synced
ของเบอร์ 3 มันยังมี
-
Not Synced
ความชินที่จะน้อมจิตให้เคลิ้มอยู่นิดหนึ่ง
-
Not Synced
ยังเหลืออยู่หน่อยหนึ่ง อย่าทำจิตให้เคลิ้ม
-
Not Synced
มันเคลิ้มเองยังพอไหว
-
Not Synced
แต่ถ้าไปน้อมให้มันเคลิ้มไม่ดีเลย เคยตัว
-
Not Synced
ที่ทำอยู่ดี
-
Not Synced
แต่ตอนนี้จิตไม่เข้าฐานเห็นไหม
-
Not Synced
จิตยังอยู่ข้างนอก
-
Not Synced
ไม่ต้องดึง รู้สึกเข้ามาที่กายก่อน
-
Not Synced
รู้สึกในร่างกาย
-
Not Synced
เห็นไหมจิตมันเริ่มเข้ามาแล้ว
-
Not Synced
มันจะไม่เหมือนอย่างเมื่อกี้นี้
มันอยู่ข้างนอก
-
Not Synced
ฉะนั้นรู้สึกกายไปเรื่อยๆ ดีแล้วล่ะ
-
Not Synced
มีกายเป็นวิหารธรรมแล้วจิตก็ไม่ออกนอก
-
Not Synced
แต่อย่าไปเพ่งร่างกาย
ถ้าเพ่งร่างกายแล้วจิตออกนอก
-
Not Synced
เบอร์ 4
-
Not Synced
รูปแบบเดินจงกรม
-
Not Synced
ร่างกายเคลื่อนไหว ใจเป็นคนดู
-
Not Synced
เพิ่มเวลาเป็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
แต่แบ่งเป็นช่วงๆ
-
Not Synced
และนั่งดูร่างกายเคลื่อนไหว 30 – 40 นาที
-
Not Synced
รู้สึกว่าจิตมีกำลังขึ้น
-
Not Synced
ถูก
-
Not Synced
และอุดรอยตุ่มรั่วได้หลายส่วน
-
Not Synced
แต่จิตยังมีความยินดียินร้ายต่อสภาวะ
-
Not Synced
ระหว่างวันเห็นจิตไหลไปคิดได้บ่อยขึ้น
-
Not Synced
ขอคำแนะนำไปปฏิบัติต่อครับ
-
Not Synced
ทำถูกแล้ว
-
Not Synced
ส่วนจิตยินดียินร้ายเราไม่ห้าม
-
Not Synced
แค่ยินดีก็รู้ทัน ยินร้ายก็รู้ทันไป
-
Not Synced
ถ้าไปห้ามยินดียินร้ายจะเพ่ง ผิดแล้ว
-
Not Synced
ที่ทำอยู่ดี ทำไป
-
Not Synced
ตอนนี้จิตออกนอกนิดหนึ่งเห็นไหม
-
Not Synced
เออ ต้องอย่างนี้ สิ
-
Not Synced
เบอร์ 3 ยังชินจะไปข้างนอก
-
Not Synced
เคลิ้มๆ เผลอๆ ไป
-
Not Synced
รู้สึกร่างกายให้เยอะๆ เบอร์ 3
-
Not Synced
ร่างกายขยับ รู้สึกไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
มันเคลื่อนไหวอยู่แล้วล่ะ
-
Not Synced
ตื่นเต้นไหม เบอร์ 5
-
Not Synced
ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก ภาวนาดี
-
Not Synced
เบอร์ 5: ในรูปแบบ นั่งหลับตา
ดูร่างกายหายใจ
-
Not Synced
เป็นโทสจริต มีความคิดเยอะ ชอบคิดวางแผน
-
Not Synced
บางครั้งคิดวน กังวลมากเป็นนิสัย
-
Not Synced
เวลาภาวนาจิตไม่ค่อยเข้าฐาน ฟุ้งง่ายมาก
-
Not Synced
บางครั้งเกิดปัญญาแต่ไม่แน่ใจว่า
-
Not Synced
เกิดด้วยการเห็นหรือการคิดเอา
-
Not Synced
ในชีวิตประจำวัน ดูอารมณ์บ่อยๆ
-
Not Synced
เห็นได้เร็วขึ้น เวลาที่ใจสั่น
กังวล หรือรำคาญใจ
-
Not Synced
ขอหลวงพ่อชี้แนะครับ
-
Not Synced
มันห้ามไม่ได้หรอก
-
Not Synced
อย่างเรามีงานต้องคิดต้องทำอะไรนี่
-
Not Synced
อย่างไรใจมันก็จะคอยวกไปเรื่อยๆ
ไปคิดเรื่อยๆ
-
Not Synced
ก็ภาวนา
-
Not Synced
ห้ามมันไม่ได้หรอก จิตมันเป็นอนัตตา
-
Not Synced
มีงานก็ทำๆ ไป
-
Not Synced
หมดเวลาทำงานก็ฝึกตัวเอง
-
Not Synced
หมดเวลาแล้วตอนนี้ คิดไปก็ไร้ประโยชน์
-
Not Synced
แต่แนะนำอย่างหนึ่ง
-
Not Synced
ต้องมีสมุดโน้ตไว้ข้างๆ ตัว
-
Not Synced
อะไรที่คิดได้แล้วจดไว้
-
Not Synced
ถ้าไม่จดไว้ มันจะคิดวนไม่เลิกหรอก
มันกลัวลืม
-
Not Synced
แล้วมันจะได้ไม่ต้องคิดซ้ำไปซ้ำมา เสียเวลา
-
Not Synced
เอามาภาวนา เอาเวลาไปภาวนา
-
Not Synced
ฉะนั้นตอนไหนที่คิดวนๆ จดเอาไว้เลย
-
Not Synced
เมื่อก่อนหลวงพ่อก็ทำ
-
Not Synced
เพราะหลวงพ่อก็เป็นอะไร เขาเรียกอะไร
-
Not Synced
จริตเดียวกับเบอร์ 5 นั่นล่ะ
-
Not Synced
ใจร้อน
-
Not Synced
มีงานยังไม่เสร็จเราก็ลุยอะไรอย่างนี้
-
Not Synced
แต่หลวงพ่อแบ่งเวลาเลย
-
Not Synced
หมดเวลางานแล้ว ไม่ใช่เวลางานแล้ว
-
Not Synced
เวลางานคือเวลาชาวโลก
-
Not Synced
ต่อไปนี้เป็นเวลาเพื่อตัวเราเองแล้ว
-
Not Synced
ถ้าระหว่างภาวนาแล้วมันนึกถึงงานได้
จดเอาไว้
-
Not Synced
มิฉะนั้นจะคิดอีก เดี๋ยวจะกลัวลืม คิดซ้ำ
-
Not Synced
ไปทำ ทำไปเบอร์ 5 ภาวนาได้ดีขึ้นเยอะแล้ว
-
Not Synced
เบอร์ 6 ก็ภาวนาดี ไม่ต้องกังวล
-
Not Synced
เบอร์ 6: เดือนที่แล้ว
-
Not Synced
เปลี่ยนกรรมฐานมาท่อง
“พุทโธใจรู้ พุทโธรู้ใจ”
-
Not Synced
ในอกเกิดสั่นไหว
-
Not Synced
คิดเอาเองว่าเป็นความอยาก
-
Not Synced
คิดว่าความอยากก็ไม่เที่ยง
แล้วใช้กรรมฐานเดิมต่อ
-
Not Synced
ใจรู้สึกสั่นก็ทน
-
Not Synced
ภาวนาจนวันหนึ่งรู้สึกว่าใจสั่น
-
Not Synced
ผุดขึ้นแรงเหมือนน้ำเดือด เกิดกลัว
-
Not Synced
ยังไม่เห็นกายแยกธาตุแยกขันธ์
-
Not Synced
ที่ปฏิบัติอยู่ถูกต้องไหมคะ
-
Not Synced
ถูก แล้วมันก็แยกธาตุแยกขันธ์แล้วด้วย
-
Not Synced
แยกธาตุแยกขันธ์ไม่ใช่
-
Not Synced
ถอดจิตออกจากร่างไปไว้ที่หนึ่ง
-
Not Synced
อยู่กับตัวนี่ล่ะ
-
Not Synced
แต่มันรู้ว่าขันธ์ 5 เป็นคนละส่วนกัน
-
Not Synced
ร่างกายกับจิตมันคนละอัน
-
Not Synced
เวทนากับร่างกาย เวทนากับจิตคนละอัน
-
Not Synced
สังขารกับร่างกาย กับเวทนา
กับจิตก็เป็นคนละอันกัน
-
Not Synced
มันแยกอย่างนี้
-
Not Synced
รู้สึกว่ามันเป็นส่วนๆ
-
Not Synced
คำว่าขันธ์ก็คือคำว่าส่วนนั่นล่ะ
-
Not Synced
ขันธ์ 5 ก็คือ 5 ส่วน
-
Not Synced
แยกสิ่งที่เรียกว่าเราเป็นส่วนๆ
-
Not Synced
แล้วจะพบว่าแต่ละส่วนไม่มีเรา
-
Not Synced
อันนี้เรียกว่าวิภัชวิธี
-
Not Synced
เป็นวิธีการของพระพุทธเจ้า วิภัชวิธี
-
Not Synced
เรียนรู้ความจริงด้วยการแยกส่วน
อย่างเราคิดว่านี่คือตัวเรา
-
Not Synced
แต่พอเราสามารถแยกได้ว่า
-
Not Synced
สิ่งที่เรียกว่าเรามีตั้ง 5 ส่วน
-
Not Synced
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
-
Not Synced
แล้วเห็นแต่ละส่วนไม่ใช่เรา
-
Not Synced
ของไม่ใช่เรา 5 อันมารวมกัน
-
Not Synced
แล้วมันจะมาเป็นเรา มันเป็นไปไม่ได้แล้ว
-
Not Synced
ฉะนั้นที่ทำอยู่ขันธ์มันแยกแล้ว
แล้วภาวนาได้ดีด้วย
-
Not Synced
จิตก็มีกำลังมากพอสมควรแล้วล่ะ
-
Not Synced
รู้สึกไป
-
Not Synced
สติระลึกรู้กาย ก็รู้กาย
สติระลึกรู้จิตก็รู้จิตไป
-
Not Synced
สติระลึกรู้กายหรือรู้จิต
-
Not Synced
ก็เห็นมีแต่ไตรลักษณ์ ไม่มีเรา
-
Not Synced
ทำเรื่อยๆ อย่าคิดเยอะ
-
Not Synced
ไม่ต้องคิดเยอะ รู้ๆ ไป
-
Not Synced
เบอร์ 7
-
Not Synced
เบอร์ 6 ภาวนาดี ภาวนาได้ดี เบอร์ 6
-
Not Synced
เบอร์ 7: ภาวนาโดยดูจิตเป็นหลัก
-
Not Synced
ดูกระบวนการทำงานของขันธ์ 5
-
Not Synced
เห็นจิตโดนบีบคั้นแสวงหาอารมณ์ตลอดเวลา
-
Not Synced
แต่ไม่แน่ใจว่าฟุ้งซ่าน
หรือหลงไปหรือเปล่าครับ
-
Not Synced
เห็นจริงๆ มันเห็นได้แล้วล่ะ
-
Not Synced
ไม่ต้องไปคิดนำ
-
Not Synced
เห็นอย่างที่มันเป็นๆ นี่ล่ะ
-
Not Synced
เห็นถูกแล้ว ดูบ่อยๆ
-
Not Synced
ตอนนี้จิตออกนอกเห็นไหม
-
Not Synced
ตอนนี้เพ่งเข้าข้างในเห็นไหม
-
Not Synced
เออ ต้องอย่างนี้ รู้อย่างที่มันเป็น
-
Not Synced
จิตไหลไปข้างนอกก็รู้ จิตวกเข้ามาเพ่งก็รู้
-
Not Synced
รู้เรื่อยๆ
-
Not Synced
สติระลึกอะไรก็เห็นแต่ไตรลักษณ์นั่นล่ะ
-
Not Synced
ระลึกไป
-
Not Synced
เห็นไหม จิตมันเข้ามา
-
Not Synced
เดี๋ยวมันก็ออกไป เดี๋ยวมันก็เข้ามา
มันไม่เที่ยง
-
Not Synced
เบอร์ 8
-
Not Synced
เป็นคนโทสจริต ทิฏฐิมานะสูง
-
Not Synced
ถูกปฏิบัติในรูปแบบด้วยการสวดมนต์
แล้วนั่งเจริญเมตตา
-
Not Synced
ชีวิตประจำวันดูกาย เวทนา จิต ธรรม
-
Not Synced
แล้วแต่ว่าเห็นอะไร
-
Not Synced
แต่พอเห็นว่าหลงฟุ้งซ่าน
-
Not Synced
จะวนกลับมาที่กายเป็นประจำ
-
Not Synced
จิตฟุ้งซ่านเก่งมาก
-
Not Synced
เลยลงเรียนอภิธรรม
ให้จิตมีทิศทางในความฟุ้งซ่าน
-
Not Synced
ซึ่งเป็นที่พอใจของจิตเป็นอย่างมาก
-
Not Synced
ปฏิบัติได้ถูกทิศทางหรือไม่คะ
-
Not Synced
เวลาปฏิบัติจริง ลืมตำราเสีย
-
Not Synced
เวลาปฏิบัติจริง ต้องเห็นเอา เห็นสภาวะเอา
-
Not Synced
กางตำราอยู่มันจะไม่เห็นสภาวะหรอก
-
Not Synced
มันจะคิดนำ ตัวนี้มาอย่างนี้
-
Not Synced
ตัวนี้มีอันนี้เป็นเหตุใกล้
-
Not Synced
เมื่อเกิดแล้วมันมีกิจอย่างนี้
มันมีรสอย่างนี้
-
Not Synced
ไม่ได้กินหรอก มันฟุ้งซ่าน
-
Not Synced
ฉะนั้นเรียนก็เรียนไปเถอะ ทรงจำหลักวิชาไว้
-
Not Synced
เป็นประโยชน์กับโลกกับคนอื่นต่อไปภายหน้า
-
Not Synced
แต่เวลาที่เราลงมือปฏิบัติจริง
ลืมมันให้หมดเลย
-
Not Synced
ดูของจริงที่กำลังมีกำลังเป็น
ดูสภาวะที่กำลังมีกำลังเป็น
-
Not Synced
มิฉะนั้นฟุ้ง
-
Not Synced
เก่งอยู่อันหนึ่งที่หลวงพ่อ
ฟังส่งการบ้านแล้วชอบ
-
Not Synced
นั่นคือเห็นมานะอัตตา ของเราเยอะ แรง
-
Not Synced
เราสังเกตอย่าง
อันนี้ไม่ได้ปรามาสล่วงเกิน ขออภัยเลย
-
Not Synced
พวกที่เรียนอภิธรรม มานะอัตตาแรง
-
Not Synced
นี่กูก็รู้ๆ นี่ไม่ถูก พูดไม่ถูก
-
Not Synced
เห็นคนโน้นไม่ถูก คนนี้ไม่ถูก เก่งเหลือเกิน
-
Not Synced
ไม่เห็นว่ากูกำลังเก่งอยู่
-
Not Synced
กำลังพอง รู้จักปลาปักเป้าไหม
-
Not Synced
ปลาปักเป้าพอง
-
Not Synced
มีหนามแหลมคม ตัวพองๆ
-
Not Synced
ไปดู กำราบหนามของเรา
-
Not Synced
เบอร์ 5 จิตยังฟุ้งเยอะ ต้องทำในรูปแบบด้วย
-
Not Synced
ทำเยอะๆ ในรูปแบบ
-
Not Synced
อย่างเดินจงกรม เห็นร่างกายมันทำงาน
ใจเป็นคนรู้สึกไป
-
Not Synced
วันนี้เทศน์ให้ฟังเท่านี้
-
Not Synced
ลงท้ายที่ปลาปักเป้านี่เอง