< Return to Video

เซลล์อมตะของเฮนเรียตตา แล็กส์ - โรบิน บูเลอริ (Robin Bulleri)

  • 0:07 - 0:10
    ลองจินตนาการถึงอะไรบางอย่าง
    ที่เล็กพอที่จะลอยอยู่บนผงฝุ่น
  • 0:10 - 0:16
    ที่เป็นกุญแจสำคัญต่อการทำความเข้าใจ
    เรื่องมะเร็ง ไวรัส และพันธุกรรม
  • 0:16 - 0:17
    โชคดีสำหรับพวกเรา
  • 0:17 - 0:20
    ที่เรามีสิ่งนั้นอยู่ในรูปแบบของ
    เซลล์มนุษย์เป็นแสนล้าน
  • 0:20 - 0:25
    ที่ถูกเพาะเลี้ยงในห้องทดลอง
    ที่มีชื่อว่า ฮีลา (HeLa)
  • 0:25 - 0:27
    ย้อนกลับไปสักนิด
  • 0:27 - 0:31
    นักวิทยาศาสตร์เลี้ยงเซลล์มนุษย์ในห้องทดลอง
    เพื่อศึกษาการทำงานของมัน
  • 0:31 - 0:33
    ทำความเข้าใจว่าโรคเกิดขึ้นได้อย่างไร
  • 0:33 - 0:36
    และทดสอบการรักษา
    โดยไม่ทำอันตรายให้กับผู้ป่วย
  • 0:36 - 0:39
    เพื่อให้มั่นใจว่า พวกมันจะถูกนำไป
    ใช้ทำทดลองซ้ำได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
  • 0:39 - 0:42
    และนำผลการทดลองที่ได้
    มาเทียบกับของนักวิทยาศาสตร์คนอื่น
  • 0:42 - 0:44
    พวกเขาต้องการกลุ่มเซลล์ที่เหมือนกัน
    เป็นจำนวนมาก
  • 0:44 - 0:47
    ที่สามารถเพิ่มจำนวนเองได้ตลอดเวลาหลายปี
  • 0:47 - 0:52
    แต่จนกระทั่งปี ค.ศ. 1951 เซลล์มนุษย์ทุกกลุ่ม
    ที่นักวิจัยพยายามเพาะเลี้ยง
  • 0:52 - 0:54
    ตายภายในไม่กี่วัน
  • 0:54 - 0:57
    ต่อมา นักวิทยาศาสตร์ของจอห์น ฮอพกินส์
    ชื่อว่า จอร์จ เจย์
  • 0:57 - 1:00
    ได้รับตัวอย่างเนื้องอกที่ดูประหลาด
  • 1:00 - 1:04
    มันเป็นสีม่วงเข้ม เป็นเงา คล้ายเจลลี่
  • 1:04 - 1:06
    ตัวอย่างนั้นมีความพิเศษ
  • 1:06 - 1:08
    เซลล์บางส่วนของมันแบ่งตัวไปเรื่อย ๆ
  • 1:08 - 1:09
    และเรื่อย ๆ
  • 1:09 - 1:11
    และเรื่อย ๆ
  • 1:11 - 1:12
    เมื่อแต่ละเซลล์ตาย
  • 1:12 - 1:16
    เซลล์ชุดใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก็เข้ามาแทนที่
    และเจริญเติบโต
  • 1:16 - 1:21
    ผลลัพท์ก็คือ แหล่งของเซลล์ที่เหมือนกัน
    ที่ไม่มีวันหมด และมีจนถึงทุกวันนี้
  • 1:21 - 1:25
    เป็นกลุ่มเซลล์มนุษย์แรกที่เป็นอมตะ
  • 1:25 - 1:31
    เจย์เรียกมันว่า "ฮีลา" ตามผู้ป่วยที่ชื่อว่า
    เฮนเรียตตา แล็กส์ ที่มีเนื้องอกประหลาดนี้
  • 1:31 - 1:33
    เธอเกิดในไร่ยาสูบในเวอร์จิเนีย
  • 1:33 - 1:36
    อาศัยอยู่ที่บัลติอมร์กับสามี
    และลูก ๆ อีกห้าคน
  • 1:36 - 1:38
    เธอเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย
  • 1:38 - 1:41
    หลายเดือน ก่อนที่เซลล์เนื้องอกของเธอ
    จะถูกเก็บมา
  • 1:41 - 1:43
    และเธอไม่เคยล่วงรู้ถึงเรื่องนี้เลย
  • 1:43 - 1:46
    แล้วทำไมเซลล์ของเฮนเรียตตา แล็กส์
    จึงมีความพิเศษ
  • 1:46 - 1:50
    ที่ทำให้มันมีชีวิตรอด ในขณะที่เซลล์อื่น ๆ ตาย
  • 1:50 - 1:53
    คำตอบสั้น ๆ ก็คือ เรายังไม่รู้แน่ชัด
  • 1:53 - 1:56
    เซลล์มนุษย์ทั่วไป
    มีกระบวนการควบคุมภายใจ
  • 1:56 - 2:00
    พวกมันสามารถแบ่งตัวได้ประมาณ 50 ครั้ง
    ก่อนที่พวกมันจะถูกทำลาย
  • 2:00 - 2:02
    ในกระบวนการที่เรียกว่า อะพอพโทซิส
  • 2:02 - 2:05
    กระบวนการนี้ป้องกันการแพร่กระจาย
    ของความผิดปกติทางพันธุกรรม
  • 2:05 - 2:08
    ที่คืบคลานเข้ามา
    หลังจากรอบการแบ่งหลาย ๆ ครั้ง
  • 2:08 - 2:11
    แต่เซลล์มะเร็งไม่สนใจสัญญาณเหล่านี้
    และแบ่งตัวอย่างไม่สิ้นสุด
  • 2:11 - 2:13
    และปกคลุมเซลล์ปกติ
  • 2:13 - 2:19
    ถึงอย่างนั้น กลุ่มเซลล์ส่วนใหญ่จะตาย
    โดยเฉพาะเซลล์ที่อยู่ส่วนนอกของร่างกาย
  • 2:19 - 2:23
    แต่ไม่ใช่ฮีลาเซลล์
    และเรายังอธิบายไม่ได้ในส่วนนั้น
  • 2:23 - 2:28
    อย่างไรก็ดี เมื่อ ดร. เจย์ พบว่า
    เขาได้กลุ่มเซลล์ของมนุษย์ที่เป็นอมตะกลุ่มแรก
  • 2:28 - 2:31
    เขาส่งตัวอย่างไปยังห้องทดลองทั่วโลก
  • 2:31 - 2:34
    ไม่นานหน่วยผลิตเซลล์แรกของโลก
  • 2:34 - 2:37
    ก็ลำเลียงฮีลาเซลล์ออกมา
    หกพันล้านเซลล์ต่อสัปดาห์
  • 2:37 - 2:41
    และนักวิทยาศาสตร์ก็นำมันไปใช้งาน
    ในวิธีที่เป็นปัญหาทางจริยธรรม
  • 2:41 - 2:44
    ที่สร้างอาชีพและความร่ำรวย
    จากเซลล์ของเฮนเรียตตา
  • 2:44 - 2:50
    โดยไม่ได้รับความยินยอมและเป็นที่ล่วงรู้จาก
    ครอบครัวของเธอ จนในอีกหลายศตวรรษต่อมา
  • 2:50 - 2:54
    การระบาดของโรคโปลิโอ
    ที่ถึงจุดสูงในช่วงแรกของยุค 50
  • 2:54 - 2:57
    ฮีลาเซลล์ ที่รับและสร้างไวรัสได้อย่างรวดเร็ว
  • 2:57 - 3:01
    ทำให้ โจนาส ซอล์ค ทดสอบวัคซีนได้
  • 3:01 - 3:03
    พวกมันถูกใช้ในการศึกษาโรคต่าง ๆ
  • 3:03 - 3:04
    รวมถึงโรคหัด
  • 3:04 - 3:05
    โรคคางทูม
  • 3:05 - 3:06
    เอชไอวี
  • 3:06 - 3:07
    และอีโบลา
  • 3:07 - 3:10
    เรารู้ว่าเซลล์มนุษย์มี 46 โครโมโซม
  • 3:10 - 3:13
    เพราะว่านักวิทยาศาสตร์
    ที่ทำงานวิจัยกับฮีลาเซลล์ พบสารเคมี
  • 3:13 - 3:16
    ที่ทำให้โครโมโซมถูกมองเห็นได้
  • 3:16 - 3:21
    อันที่จริงแล้ว ฮีลาเซลล์มีโครโมโซม
    ที่กลายพันธุ์อย่างมากราว ๆ 80 โครโมโซม
  • 3:21 - 3:25
    ฮีลาเซลล์เป็นเซลล์แรกที่ถูกโคลน
  • 3:25 - 3:27
    พวกมันถูกนำไปยังอวกาศ
  • 3:27 - 3:28
    ทีโลเมอเรส
  • 3:28 - 3:33
    เอนไซม์ที่ช่วยให้เซลล์มะเร็งหนีจากการทำลาย
    โดยการซ่อมดีเอ็นเอของพวกมัน
  • 3:33 - 3:35
    ถูกค้นพบครั้งแรกในฮีลาเซลล์
  • 3:35 - 3:37
    ในมุมกลับที่น่าสนใจ
  • 3:37 - 3:42
    ต้องขอขอบคุณฮีลาเซลล์ เรารู้ว่ามะเร็งปากมดลูก
    เกิดจากไวรัสที่เรียกว่า เอชพีวี
  • 3:42 - 3:45
    และตอนนี้เราก็มีวัคซีน
  • 3:45 - 3:49
    การค้นพบที่ถูกผลักดันโดยฮีลาเซลล์
    ทำให้เกิดงานตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์มากมาย
  • 3:49 - 3:52
    และจำนวนนั้นก็อาจมีมากกว่าที่พวกรู้
  • 3:52 - 3:57
    ฮีลาเซลล์ยังคืนสภาพได้ดี
    ทำให้พวกมันสามารถอยู่บนพื้นผิวอะไรก็ได้
  • 3:57 - 3:59
    มือของผู้ทำงานในห้องทดลอง
  • 3:59 - 4:01
    บนผงฝุ่น
  • 4:01 - 4:05
    เข้าไปบุกรุกเซลล์อื่นที่ถูกเพาะเลี้ยง
    และครอบครองพื้นที่ราวกับวัชพืช
  • 4:05 - 4:11
    สารพัดวิธีการรักษา สิทธิบัตร และการค้นพบ
    ทั้งหมดนี้ต้องขอของคุณเฮนเรียตตา แล็กส์
Title:
เซลล์อมตะของเฮนเรียตตา แล็กส์ - โรบิน บูเลอริ (Robin Bulleri)
Description:

ชมบทเรียนแบบเต็มได้ที่: http://ed.ted.com/lessons/the-immortal-cells-of-henrietta-lacks-robin-bulleri

ลองจินตนาการถึงอะไรบางอย่างที่เล็กพอที่จะลอยอยู่บนผงฝุ่น ที่เป็นกุญแจสำคัญต่อการทำความเข้าใจเรื่องมะเร็ง ไวรัส และพันธุกรรม โชคดีที่เรามีสิ่งนั้นอยู่ในรูปแบบของเซลล์มนุษย์เป็นแสนล้านที่ถูกเพาะเลี้ยงในห้องทดลอง ที่มีชื่อว่า ฮีลา (HeLa) แต่เราได้พวกมันมาจากไหน โรบิน บูเลอริ บอกเล่าเรื่องราวของเฮนเรียตตา แล็กส์ ผู้หญิงผู่ที่มีดีเอ็นเอที่นำไปสู่สารพัดวิธีการรักษา สิทธิบัตร และการค้นพบ

บทเรียนโดย Robin Bulleri, แอนิเมชันโดย Brandon Denmark.

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TED-Ed
Duration:
04:27

Thai subtitles

Revisions