-
ในวิดีโอที่แล้ว
-
เราแก้โจทย์นี้ด้วยวิธีแบบยาก
-
คุณอาจจะดูแล้ว บางทีคุณอาจจะไม่ได้ดู
-
บางทีคุณอาจข้ามมาตรงนี้ แล้วบอกว่า
-
ฉันไม่อยากรู้วิธียาก
-
บอกวิธีง่ายมาเลยเถอะ
-
นั่นคือสิ่งที่เราจะพูดถึงตอนนี้
-
ปรากฏว่ามันมีวิธีลัด
-
และวิธีลัดคือว่า หลังจากที่
คุณแก้ปัญหานี้แบบยาก
-
กับมวล 5 กิโลกรัมและมวล 3 กิโลกรัม
-
เมื่อคุณหาความเร่ง
-
สิ่งที่คุณได้คือค่านี้
-
ความเร่งของมวล 5 กิโลกรัม
-
ก็แค่ 29.4 หารด้วย 8 กิโลกรัม
-
แต่เมื่อคุณทำมามากพอ
คุณอาจเริ่มสังเกตได้ว่า
-
เดี๋ยวก่อน 29.4 นิวตัน
-
มันก็แค่แรงโน้มถ่วง
-
ที่ดึงมวล 3 กิโลกรัมนี้
-
กล่าวอีกอย่างก็คือ
-
แรงเดียวที่ขับเคลื่อน
-
ระบบทั้งหมดนี้ไปข้างหน้า
-
หรืออย่างน้อยก็คือแรงภายนอก
อย่างเดียวที่ขับระบบไปข้างหน้า
-
แล้วก็ 8 กิโลกรัมข้างล่างตรงนี้
-
คุณก็บอกว่า เดี๋ยว 8 กิโลกรัมเหรอ?
-
มันคือ 5 กิโลกรัมบวก 3 กิโลกรัมนี่
-
มันเป็นแค่เหตุบังเอิญ
-
หรือมันบอกสิ่งที่ลึกซึ้งและเป็นพื้นฐานกว่านั้น?
-
และมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
-
ปรากฏว่าคุณจะได้อย่างนี้เสมอ
-
นั่นคือสิ่งที่คุณจะได้หลังจากแก้แบบยาก
-
คุณจะได้ค่านี้ในตอนท้าย
-
คุณจะได้แรงภายนอกทั้งหมดรวมกันตรงนี้
-
โดยแรงที่ทำให้เคลื่อนที่
-
เหมือนแรงโน้มถ่วงนี้กลายเป็นบวก
-
และแรงที่พยายามต้านการเคลื่อนที่
-
ถ้ามีแรงเสียดทาน มันจะเป็นแรงภายอนก
-
ที่พยายามต้านการเคลื่อนที่ จะอยู่ข้างบน
-
แล้วคุณมีมวลรวมอยู่ข้างล่าง
-
และมันสมเหตุสมผล
-
ความเร่งของทั้งระบบนี้
-
ถ้าเราคิดเป็นวัตถุเดียว --
-
ถ้าคุณนึกภาพว่ามันเป็นแค่วัตถุเดียว
-
และคุณถามตัวเองว่า
-
ความเร่งลัพธ์ของระบบทั้งหมดเป็นเท่าใด?
-
มันจะขึ้นอยู่กับแรงภายนอก
-
และในกรณีนี้ แรงภายนอกตัวเดียว
ที่ทำให้มันเคลื่อนที่
-
คือแรงโน้มถ่วงตรงนี้
-
คุณอาจปฏิเสธ
-
คุณอาจบอกว่า เดี๋ยวก่อน
-
แล้วแรงตึงเชือกนี่ตรงนี้ล่ะ?
-
แรงตึงเชือกไม่ได้ดึงมวล 5 กิโลกรัมนี้
-
ทำให้ระบบเคลื่อนที่เหรอ?
-
ก็ใช่ แต่มันเป็นแรงภายในแล้วตอนนี้
-
ถ้าเรามองทั้งระบบนี้ เป็นวัตถุชิ้นเดียว
-
เนื่องจากแรงตึงเชือกนี้
พยายามทำให้มันเคลื่อนที่
-
คุณจะได้แรงตึงเชือกอีกตัวตรงนี้
-
ต้านการเคลื่อนที่ของมวลนี้
-
พยายามทำให้มันหยุด
-
นั่นคือสิ่งที่แรงภายในทำ
-
มันจะมีแรงขนาดเท่ากันและทิศตรงข้าม
-
ในแต่ละส่วนของวัตถุ แทนที่จะมาจากอย่างอื่น
-
คุณจึงไม่ได้ขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้า
-
ด้วยแรงภายใน
-
แรงเหล่านี้หักล้างกันหมดในที่สุด
-
แรงเดียวที่คุณมีในกรณีนี้
-
คือแรงโน้มถ่วงข้างบน
-
แรงภายนอกเดียว
-
และมวลลัพธ์อยู่ข้างล่าง
-
และนั่นคือเคล็ดลับ
-
นั่นคือเคล็ดลับเพื่อหา
-
ความเร่งของระบบ
-
ที่อาจซับซ้อน
-
ถ้าคุณต้องทำหลายสมการ
-
และหลายตัวแปร
-
แต่ง่ายกว่ามากๆ เมื่อคุณสังเกตอันนี้
-
กลเม็ด บางครั้งเรียกว่า
-
การมองระบบเป็นวัตถุชิ้นเดียว
-
ขอผมแสดงให้ดูเร็วๆ นะ
-
ถ้ามันไม่สมเหตุสมผล ขอผมแสดงให้ดู
ว่าอันนี้หมายความว่าอะไร
-
ถ้าเรากำจัดอันนี้
-
สิ่งที่ผมจะบอกคืออย่างนี้
-
ถ้าคุณมีนะบบ
-
โดยระบบหลายวัตถุต้องเคลื่อนที่
-
ด้วยความเร่งขนาดเท่ากัน ใช่ไหม?
-
เพราะพวกมันผูกไปด้วยกันกับเชือก
-
หรือบางที พวกมันอาจผลักต่อกันไป
-
บางทีอาจมีกล่องหลายกล่องต่อกัน
-
และกล่องเหล่านี้ถูกผลัก
-
มีความเร่งเท่ากัน
-
เพราะพวกมันไม่สามารถทะลุกันได้
-
ถ้ามีเงื่อนไขว่าวัตถุหลายอัน
-
ต้องมีขนาดความเร่งเท่ากัน
-
คุณก็แค่หาความเร่งของระบบนั้น
-
ราวกับว่ามันเป็นวัตถุเดียว
-
ผมจะเขียนว่า SYS แทนระบบ
-
แค่ใช้กฎข้อสองของนิวตัน
-
แต่แทนที่จะดูวัตถุเดี่ยวๆ
-
ในทิศที่กำหนด
-
เราก็แค่คิดแรงภายนอกทั้งหมด
-
แรงภายนอกทั้งหมดที่ทำต่อระบบของเรา
-
ทำราวกับว่ามันเป็นวัตถุชิ้นเดียว
-
หารด้วยมวลลัพธ์ของระบบ
-
แล้วเมื่อคูณแทนค่าแรงภายนอกเหล่านี้ --
-
พวกมันคือแรงที่อยู่ภายนอก
-
ภายนอกหมายความว่า ไม่ได้อยู่ภายในระบบ
-
ถ้าผมคิดถึงกล่อง 5 กิโลกรัมนี้
-
และกล่อง 3 กิโลกรัมนี้เป็นมวลเดียวกัน
-
แรงตึงเชือกจะเป็นแรงภายใน
-
เพราะมันกระทำภายในระหว่างวัตถุสองอันนี้
-
ระหว่างวัตถุในระบบของเรา
-
แต่แรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อมวล 3 กิโลกรัม
-
มันคือแรงภายนอก เพราะมันคือโลก
-
ดึงมวล 3 กิโลกรัมลง
-
และโลกไม่ใช่ส่วนหนึ่งของระบบ
-
เช่นเดียวกัน แรงตั้งฉากเป็นแรงภายนอก
-
แต่มันหักล้างกับแรงโน้มถ่วงพอดี
-
ดังนั้น ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นแรงภายนอก
-
แต่พวกมันไม่ได้มาปรากฏในนี้
-
ผมหมายความว่า คุณใส่พวกมันลงไปในนี้ได้
-
แต่พวกมันจะหักล้างกันอยู่ดี
-
เราแค่ดูแรงในทิศของการเคลื่อนที่
-
และถ้ามันคือแรงที่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่
-
เราจะให้มันเป็นแรงที่เป็นบวก
-
ถ้ามันคือแรงในทิศของการเคลื่อนที่
-
อย่างเช่นแรงโน้มถ่วงนี้
-
เราจะให้มันเป็นแรงที่มีค่าบวก
-
เราจะแทนแรงเป็นบวกตรงนี้
-
ถ้ามันทำให้ระบบเคลื่อนไป
-
และมันอาจดูแปลก
-
คุณอาจบอกว่า เดี๋ยวก่อน
-
ฉันรู้ได้อย่างไรว่า มันทำให้ระบบเคลื่อนที่?
-
แค่ถามตัวเองว่า แรงนั้น
-
มีทิศเดียวกับการเคลื่อนที่ของระบบไหม?
-
เราแค่บอกว่า ระบบจะเร่ง
-
ถ้ามีแรงที่ทำให้มันเคลื่อนที่
-
และเราจะแทนแรงเป็นลบ
-
แรงที่ทำให้ระบบหยุด
-
หรือต้านการเคลื่อนที่ของระบบ
-
บางที ผมควรพูดว่า ต้านการเคลื่อนที่ของระบบ
-
ในกรณีนี้ สำหรับอันนี้ข้างล่าง
-
ผมไม่มีแรงแบบนั้นเลย
-
ที่ต้านการเคลื่อนที่ของระบบ
-
ผมไม่มีแรงพวกนั้น
-
ผมมี ถ้าผมมีแรงเสียดทาน
-
แล้วมันจะมีแรงภายนอกที่ต้านการเคลื่อนที่
-
ผมจะแทนแรงภายนอกเป็นลบ
-
เพราะมันต้านการเคลื่อนที่
-
ถึงแม้ว่ามันอาจฟังดูแปลก
-
แต่มันก็สมเหตุสมผลถ้าคุณคิดดู
-
ความเร่งของระบบเราที่ทำเหมือนเป็นวัตถุเดียว
-
มันจะขึ้นอยู่กับแรง
-
ที่พยายามทำให้ระบบเคลื่อนที่
-
และแรงที่พยายามทำให้ระบบหยุด
-
หรือต้านการเคลื่อนที่
-
ถ้าเราบวกพวกมันตามนั้น ทั้งบวกและลบ
-
เราหารมันด้วยมวลทั้งหมด
-
ซึ่งให้ค่าความเฉื่อยทั้งหมดของระบบ
-
เราจะได้ความเร่งของระบบ
-
มันสมเหตุสมผล และมันใช้ได้
-
ปรากฏว่ามันใช้ได้เสมอ
-
และมันประหยัดเวลามหาศาล
-
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากแก้ปัญหานี้
-
ถ้าคูณให้ปัญหานี้ผมมาตรงๆ
-
คุณบอกว่า ทำยังไงก้ได้
-
ผมก็จะใช้กลวิธีนี้
-
ผมก็บอกว่า ความเร่งของระบบนี้
-
ซึ่งประกอบด้วยมวล 5 กิโลกรัมนี้
-
กับมวล 3 กิโลกรัม
-
จะเท่ากับ --
-
ผมถามตัวเองว่า แรงใดทำให้ระบบนี้เคลื่อนที่?
-
แรงใดขับเคลื่อนระบบนี้?
-
มันคือแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อมวล 3 กิโลกรัม
-
ที่ขับเคลื่อนระบบนี้ จริงไหม?
-
ถ้าคุณเอาแรงนี้ออกไป
-
ถ้าคุณลบแรงนี้ออก
-
จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตรงนี้
-
นี่คือแรงที่ทำให้ระบบเคลื่อนที่
-
ผมจะใส่ 3 กิโลกรัม คูณ 9.8
-
และที่จุดนี้
-
คุณอาจบอกว่า อืม โอเค
ความโน้มถ่วงทำให้มันเคลื่อนที่
-
ฉันรวมแรงโน้มถ่วงนี้ด้วยไหม?
-
ไม่ เพราะ หนึ่ง แรงโน้มถ่วงนี้
ตั้งฉากกับการเคลื่อนที่
-
และแรงโน้มถ่วงนี้ไม่ได้ทำให้ระบบ
-
มันแค่ทำให้มวลนี้อยู่บนโต๊ะ
-
และสอง มันหักล้างกับแรงตั้งฉาก
-
แรงพวกนั้นหักล้างกันอยู่แล้ว
-
ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นแรงภายนอก
-
แค่นั้นแหละ นี่คือสิ่งเดียวที่ขับเคลื่อนระบบ
-
ผมจึงใส่มันลงในนี้ และผมหารด้วยมวลลัพธ์
-
เพราะมันบอกเราว่า ระบบต้านการเคลื่อนที่
-
ผ่านความเฉื่อยเท่าใด
-
การเปลี่ยนแปลงของความเร็ว
และนี่คือสิ่งที่เราได้
-
ผมได้ค่าเดียวกับก่อนหน้านี้
-
ผมได้ 3.68
-
เมตรต่อวินาทีกำลังสองเหมือนเดิม
และผมทำในบรรทัดเดียว
-
ผมหมายความว่า
กลเม็ดนี้น่าอัศจรรย์และใช้ได้จริง
-
และมันใช้ได้ในตัวอย่างทุกอัน
-
โดยมวลสองก้อนหรือมากกว่า
-
ถูกบังคับให้เคลื่อนที่ไปด้วยความเร่งเท่ากัน
-
อันนี้ดีมาก มันช่วยคุณประหยัดเวลามากมาย
-
มันควรเป็น 3 ตรงนี้
-
และเพื่อแสดงว่ามันมีประโยชน์แค่ไหน
-
ลองสมมุติว่ามีแรงเสียดทาน
-
สมมุติว่ามีสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน
-
เป็น 0.3
-
ตอนนี้ ผมมีแรงเสียดทาน
-
มันจะมีแรงเสียดทานภายนอกตรงนี้
-
มันเกิดกับมวล 5 กิโลกรัมนี้
-
ผมต้องลบมันบนนี้
-
ถ้าผมหักตัวนี้ --
-
มันจะไม่ใช่ 3.68 อีกต่อไป
-
ผมจะมีแรงเสียดทานที่ผมต้องลบ
-
ลบ มิว เค แรงเสียดทาน --
-
ผมจะใส่แรงเสียดทาน
-
เวลาแก้หาแรงเสียดทาน
-
แรงเสียดทานจะเท่ากับ --
-
เรารู้ว่า 3 คูณ 9.8 เท่ากับ --
-
ขอผมเขียนค่านี้ในนี้นะ
-
29.4 นิวตันลบแรงเสียทานที่กำหนดมา
-
มันมีสูตรแรงเสียดทานอยู่
-
แรงเสียดทานเท่ากับ มิวเค FN
-
แรงเสียดทานที่มีต่อมวล 5 กิโลกรัมนี้
-
จะเท่ากับมิวเค ซึ่งเท่ากับ 0.3
-
มันจะเท่ากับ 0.3 คูณแรงตั้งฉาก
-
ไม่ใช่แรงตั้งฉากของทั้งระบบ
-
ผมไม่รวมมวล 3 กิโลกรัมนี้
-
มันก็แค่แรงตั้งฉากบนมวล 5 กิโลกรัมนี้
-
ที่สร้างแรงเสียดทานนี่ตรงนี้ขึ้นมา
-
ถึงแม้ว่าเราจะมองระบบรวมกัน
-
แต่เรายังต้องหาแรงแต่ละตัว
-
ที่กระทำต่อกล่องเดี่ยวๆ ให้ถูก
-
มันจะไม่ใช่มวลทั้งหมดตรงนี้
-
แรงตั้งฉากที่มีมวล 5 กิโลกรัม
-
จะเท่ากับ 5 กิโลกรัมคูณ 9.8
-
เมตรต่อวินาทีกำลังสอง
-
ผมหารมวลทั้งหมดข้างล่างนี้
-
เพราะมวลทั้งหมด
ต้านการเคลื่อนที่ผ่านความเฉื่อย
-
และถ้าผมแก้สมการนี้หาความเร่งของระบบ
-
ผมจะได้ 1.84 เมตรต่อวินาทีกำลังสอง
-
ค่านี้น้อย น้อยกว่า 3.68
-
และมันสมเหตุสมผล
-
ตอนนี้ มันมีแรงต้าน
-
แรงภายนอกต้านทาน
-
พยายามต้านระบบไม่ให้เคลื่อนที่
-
แต่คุณต้องระวัง
-
สิ่งที่ผมหาจริงๆ ตรงนี้
-
ผมกำลังหาขนาดของความเร่ง
-
นี่ก็คือขนาด
-
ถ้าผมเล่นเกมนี้
-
โดยแรงที่เป็นบวก คือแรงที่ทำให้มันเคลื่อนที่
-
และแรงที่เป็นลบ คือแรงที่ต้านการเคลื่อนที่
-
แรงภายนอก
-
ผมจะได้แค่ขนาดของความเร่ง
-
กล่องแต่ละอันจะมีขนาด
-
ความเร่งเท่านั้น
-
แต่พวกมันอาจมีความเร่งเป็นบวกหรือลบก็ได้
-
กล่าวอีกอย่างคือว่า
-
มวล 5 กิโลกรัมนี้จะเร่งไปทางขวา
-
จะมีความเร่งเป็นบวก
-
นั่นคือ ความเร่งของมวล 5 กิโลกรัม
-
จะเป็นบวก 1.84
-
และความเร่งของมวล 3 กิโลกรัม
-
เนื่องจากมันกำลังเร่งลง
-
จะเท่ากับลบ 1.84
-
เมตรต่อวินาทีกำลังสอง