ต้นไม้บอกเวลาได้อย่างไร - ดาชา ซาเวจ (Dasha Savage)
-
0:07 - 0:08ในศตวรรษที่ 18
-
0:08 - 0:13นักพฤษศาสตร์ชาวสวีเดน คาโลลาส ลินเนียส
ได้ออกแบบนาฬิกาดอกไม้ -
0:13 - 0:16ชิ้นงานเกี่ยวกับเวลาที่ทำจากไม้ดอก
-
0:16 - 0:21ที่บานและหุบตามเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน
-
0:21 - 0:25แผนของลินเนียสไม่ได้สมบูรณ์นัก
แต่ความคิดพื้นฐานนั้นถูกต้อง -
0:25 - 0:29ดอกไม้สามารถสัมผัสได้ถึงเวลา
ตามการออกแบบ -
0:29 - 0:34ดอกผักบุ้งคลี่กลีบของพวกมัน
เหมือนกับลานนาฬิกาในตอนเช้าตรู่ -
0:34 - 0:38ดอกบัวสีขาวหุบดอก
เป็นสัญญาณว่า นี่มันบ่ายแก่ๆ แล้ว -
0:38 - 0:43และดอกชมจันทร์ก็เป็นอย่างที่ชื่อมันบอก
คือบานเฉพาะใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน -
0:43 - 0:47อะไรที่ทำให้ต้นไม้
มีสัมผัสเรื่องเวลามาตั้งแต่แรก -
0:47 - 0:49ความจริงแล้ว ไม่ใช่เฉพาะต้นไม้หรอก
-
0:49 - 0:52สิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลก
เหมือนจะได้รับการถ่ายทอด -
0:52 - 0:55ในการรับรู้ว่าพวกมัน
อยู่ ณ เวลาไหนของวันแล้ว -
0:55 - 0:57นั่นเป็นเพราะว่า เซอร์คาเดียน ริทึม
(circadian rhythms) -
0:57 - 1:02ตัวรักษาเวลาภายใน
ที่เคาะเวลาในสิ่งมีชีวิตต่างๆ -
1:02 - 1:07นาฬิกาธรรมชาติเหล่านี้
อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตรับรู้เวลาได้ -
1:07 - 1:11และรับรู้สัญญาณจากธรรมชาติ
ที่ช่วยให้พวกมันปรับตัวได้ -
1:11 - 1:14นั่นมันสำคัญ เพราะว่า
การหมุนและการเปลี่ยนแปลงของโลก -
1:14 - 1:17ทำให้เราอยู่ในสถานะ
ที่เคลื่อนที่อย่างคงที่ -
1:17 - 1:21แม้ว่าจะเกิดขึ้นซ้ำๆ และคาดเดาได้
-
1:21 - 1:24เซอร์คาร์เดียน ริทึม
ทำงานร่วมกับสัญญาณต่างๆ -
1:24 - 1:28ในการควบคุมว่าเมื่อไร
สิ่งมีชีวิตควรที่จะหลับหรือตื่น -
1:28 - 1:30และทำกิจกรรมต่างๆ
-
1:30 - 1:35สำหรับพืช แสงและอุณหภูมิ
เป็นสัญญาณที่กระตุ้นปฏิกิริยา -
1:35 - 1:37ที่มีบทบาทในระดับโมเลกุล
-
1:37 - 1:42เซลล์ในก้าน ใบ และดอก
มีไฟโตโครม -
1:42 - 1:45ซึ่งคือโมเลกุลเล็กๆ ที่ตรวจจับแสง
-
1:45 - 1:50เมื่อมีแสงเกิดขึ้น
ไฟโตโครมจะกระตุ้นสายปฏิกิริยาเคมี -
1:50 - 1:53ส่งสัญญาณลงไปยังนิวเคลียสของเซลล์
-
1:53 - 1:57ทรานซ์คริปชัน เฟกเตอร์
จะกระตุ้นการสร้างโปรตีนที่ต้องการ -
1:57 - 2:01ในกระบวนการที่จำเป็นต้องใช้แสง
-
2:01 - 2:03เช่น การสังเคราะห์ด้วยแสง
(photosynthesis) -
2:03 - 2:07ไฟโตโครมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สัมผัส
ปริมาณแสงที่พืชได้รับ -
2:07 - 2:09แต่มันยังตรวจจับได้ถึงความแตกต่างเพียงเล็กน้อย
-
2:09 - 2:14ในการกระจายของความยาวคลื่น
ที่พืชรับเข้ามา -
2:14 - 2:16การรับสัญญาณที่ค่อนข้างละเอียดนี้
-
2:16 - 2:19ไฟโตโครมจึงทำให้ให้พืชเข้าใจทั้งเวลา
-
2:19 - 2:22และความแตกต่างของช่วงกลางวันและช่วงเย็น
-
2:22 - 2:26และสถานที่ที่ไม่ว่า
จะอยู่ในบริเวณที่มีแสงส่องถึงหรืออยู่ในร่ม -
2:26 - 2:31พืชก็สามารถที่จะจับคู่ปฏิกิริยาเคมี
ที่เข้ากับสิ่งแวดล้อมของมันได้ -
2:31 - 2:33สิ่งนี้สร้างขึ้นเพื่อสิ่งที่ตื่นเช้า
-
2:33 - 2:37ก่อนดวงอาทิตย์จะขึ้นสักสองสามชั่วโมง
พืชบางชนิดก็เริ่มตื่นตัว -
2:37 - 2:42สร้างรูปแบบ MRNA ให้แก่กลไก
การสังเคราะห์ด้วยแสงของมัน -
2:42 - 2:45เมื่อไฟโตโครมตรวจจับแสงแดดที่เพิ่มขึ้นได้แล้ว
-
2:45 - 2:47พืชก็เตรียมความพร้อมของโมเลกุลจับแสง
-
2:47 - 2:52เพื่อที่มันจะสามารถสังเคราะห์ด้วยแสง
และเติบโตไปตลอดช่วงเช้า -
2:52 - 2:54หลังจากเก็บเกี่ยวแสงในช่วงเช้าแล้ว
-
2:54 - 2:57พืชจะใช้เวลาที่เหลือสร้างห่วงโซ่พลังงาน
-
2:57 - 3:01ในรูปของกลูโคสโพลิเมอร์ เช่น แป้ง
-
3:01 - 3:04เมื่อดวงอาทิตย์ตก งานในช่วงวันก็จบลง
-
3:04 - 3:08แม้ว่าพืชจะไม่ตื่นตัวในตอนกลางคืน
-
3:08 - 3:09เมื่อไม่มีแสงแดด
-
3:09 - 3:11พืชจะเผาผลาญอาหารและเติบโต
-
3:11 - 3:15ย่อยแป้งจากพลังงาน
ที่เก็บเกี่ยวได้จากวันก่อนหน้านี้ -
3:15 - 3:18พืชต่างๆ มีจังหวะฤดูกาลเช่นกัน
-
3:18 - 3:20เมื่อฤดูใบไม้ผลิละลายหิมะฤดูหนาว
-
3:20 - 3:24ไฟโตโครมก็รับรู้ได้ถึงช่วงวันที่ยาวขึ้น
และการเพิ่มขึ้นของแสง -
3:24 - 3:29และกลไกที่ตอนนี้ยังไม่รู้จักนั้น ได้
ตรวจจับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ -
3:29 - 3:31ระบบเหล่านี้ส่งสัญญาณไปทุกระบบของพืช
-
3:31 - 3:34และทำให้ดอกไม้บาน
-
3:34 - 3:38เพื่อเป็นการเตรียมสำหรับการถ่ายละอองเกสร
ที่เกิดขึ้นก่อนที่อากาศจะอบอุ่นมากขึ้น -
3:38 - 3:42เซอร์คาเดียน ริทึม ทำหน้าที่เป็นเหมือน
ตัวเชื่อมระหว่างพืชและสภาพแวดล้อม -
3:42 - 3:45จังหวะเหล่านี้เกิดจากการทำงานของพืชเอง
-
3:45 - 3:48ที่แต่ละอันจะมีจังหวะแตกต่างกันไป
-
3:48 - 3:51ถึงกระนั้น นาฬิกาเหล่านี้
สามารถปรับการจังหวะของมัน -
3:51 - 3:54ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
และสัญญาณต่างๆ ได้ -
3:54 - 3:56ในดาวเคราะห์ที่มีการเคลื่อนไหวอย่างคงที่
-
3:56 - 4:01เซอร์คาเดียน ริทึม จะทำให้พืช
ทำงานตามตารางเวลาของมัน -
4:01 - 4:03และรักษาเวลาของตัวเองได้
- Title:
- ต้นไม้บอกเวลาได้อย่างไร - ดาชา ซาเวจ (Dasha Savage)
- Description:
-
ชมบทเรียนแบบเต็มได้ที่: http://ed.ted.com/lessons/how-plants-tell-time-dasha-savage
ดอกผักบุ้งคลีกลีบของพวกมันเหมือนกับลานนาฬิกาในตอนเช้าตรู่ การหุบของดอกบัวสีขาวเป็นสัญญาณว่า นี่มันบ่ายแก่ๆ แล้ว และดอกชมจันทร์ ก็เป็นอย่างที่ชื่อมันบอก คือบานเฉพาะใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน อะไรที่ทำให้ต้นไม้มีสัมผัสเรื่องเวลามาตั้งแต่แรก ดาชา ซาเวจ สืบเสาะว่า เซอร์เคเดี้ยน ริทึ่ม ทำหน้าที่อย่างไรในฐานะผู้จับเวลาจากภายในสำหรับสัตว์และพืช
บทเรียนโดย Dasha Savage, แอนิเมชั่นโดย Avi Ofer.
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 04:20
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How plants tell time - Dasha Savage | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How plants tell time - Dasha Savage | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How plants tell time - Dasha Savage | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How plants tell time - Dasha Savage | |
![]() |
Tisa Tontiwatkul accepted Thai subtitles for How plants tell time - Dasha Savage | |
![]() |
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for How plants tell time - Dasha Savage | |
![]() |
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for How plants tell time - Dasha Savage | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How plants tell time - Dasha Savage |