hide💡Localization is the process of tailoring your content to local audiences.
Click to learn more about Localization with Amara.org.

< Return to Video

จริง ๆ แล้วศาสนาของฉันพูดถึงผู้หญิงอย่างไร

  • 0:01 - 0:04
    ระหว่างที่ฉันเดินทางมาที่นี่
  • 0:04 - 0:08
    ฉันกับผู้โดยสารที่นั่งข้าง ๆ
    คุยกันเรื่องที่น่าสนใจมาก
  • 0:08 - 0:10
    ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน
  • 0:10 - 0:14
    เขาว่า "ดูเหมือนว่าเดี๋ยวนี้อเมริกา
    จะไม่มีงานให้คนทำแล้วนะ
  • 0:14 - 0:16
    เพราะว่าเริ่มสร้างงานขึ้นมาเพิ่ม
  • 0:16 - 0:23
    นักจิตวิทยาสำหรับแมว นักกระซิบกับสุนัข
    นักไล่ตามทอร์นาโด"
  • 0:23 - 0:26
    ครู่เดียวหลังจากนั้น เขาก็ถามฉันว่า
  • 0:26 - 0:28
    "แล้วคุณล่ะทำงานอะไร"
  • 0:28 - 0:31
    ฉันก็คิด "นักสร้างสันติภาพ" มั้ย
  • 0:31 - 0:33
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:35 - 0:39
    ทุก ๆ วัน ฉันทำงาน
    เป็นกระบอกเสียงให้ผู้หญิง
  • 0:39 - 0:42
    และเน้นประสบการณ์
  • 0:42 - 0:48
    กับบทบาทในกระบวนการสร้างสันติภาพ
    และคลี่คลายความขัดแย้งของพวกเธอ
  • 0:48 - 0:50
    และเพราะงานของฉันนี่เอง
  • 0:50 - 0:56
    ที่ทำให้ฉันทราบว่า หนทางเดียวที่จะยืนยัน
    การมีส่วนร่วมของผู้หญิงทั่วโลกได้
  • 0:56 - 0:59
    คือการทวงคืนศาสนากลับมา
  • 0:59 - 1:03
    เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับฉัน
  • 1:03 - 1:08
    ในฐานะหญิงสาวชาวอิสลาม
    ฉันภูมิใจกับศรัทธาของตัวเองมาก
  • 1:08 - 1:13
    มันให้กำลังใจ และความเชื่อมั่น
    ในการทำงานของฉันทุก ๆ วัน
  • 1:13 - 1:15
    มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉัน
    ยืนอยู่หน้าพวกคุณในวันนี้
  • 1:16 - 1:21
    แต่ฉันไม่สามารถมองข้ามความเสียหาย
    ที่ถูกสร้างขึ้นในนามของศาสนา
  • 1:21 - 1:26
    ไม่เพียงแต่ศาสนาของฉันเท่านั้น
    ศาสนาอื่น ๆ ทั่วโลกด้วย
  • 1:26 - 1:30
    การตีความ การใช้ และการชักนำด้วย
    คัมภีร์ศาสนาแบบผิด ๆ
  • 1:30 - 1:34
    ได้ส่งอิทธิพลต่อมาตรฐาน
    ของสังคมและวัฒนธรรม
  • 1:34 - 1:37
    กฎหมายของเรา ชีวิตประจำวันของเรา
  • 1:37 - 1:40
    จนถึงจุดที่บางทีเราก็มองไม่เห็นมัน
  • 1:41 - 1:45
    พ่อแม่ของฉันย้ายจากลิเบีย
    แอฟริกาเหนือ ไปแคนาดา
  • 1:45 - 1:47
    ในช่วงต้น ๆ ยุค 80
  • 1:47 - 1:51
    และฉันเป็นลูกคนกลางใน 11 คน
  • 1:51 - 1:52
    ใช่ค่ะ 11 คน
  • 1:53 - 1:56
    แต่ระหว่างที่ฉันโตขึ้น ฉันได้เห็นพ่อแม่
  • 1:56 - 1:59
    ที่ต่างก็มีศรัทธาที่แรงกล้า
    และจิตวิญญาณให้ศาสนา
  • 1:59 - 2:02
    สวดภาวนา และสรรเสริญพระเจ้า
    ที่ให้พรพวกเขามา
  • 2:02 - 2:07
    โดยเฉพาะที่ให้ฉันมา แต่ก็มีอย่างอื่นด้วย
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:07 - 2:10
    พวกเขาใจดี ตลก และอดทน
  • 2:10 - 2:16
    อดทนแบบไร้ขีดจำกัด อดทนแบบที่
    การมีลูก 11 คนบังคับให้คุณต้องมี
  • 2:16 - 2:18
    และพวกเขายุติธรรม
  • 2:18 - 2:23
    ฉันไม่เคยถูกผูกอยู่กับศาสนา
    ผ่านการมองของวัฒนธรรม
  • 2:23 - 2:25
    ฉันได้รับการปฏิบัติเหมือน ๆ กัน
  • 2:25 - 2:27
    และฉันก็ถูกคาดหวังให้ทำแบบเดียวกัน
  • 2:28 - 2:32
    ฉันไม่เคยถูกสอนว่า พระเจ้าตัดสิน
    คนต่างกันโดยใช้เพศเป็นที่ตั้ง
  • 2:33 - 2:38
    และการที่พ่อแม่ฉันมองพระองค์ว่า
    เป็นเพื่อนและผู้เกื้อหนุน
  • 2:38 - 2:42
    ที่เมตตาและช่วยเหลือเรา
    ได้กำหนดวิธีที่ฉันมองโลก
  • 2:42 - 2:47
    แน่นอนว่า ฉันได้ประโยชน์เพิ่มเติมอีก
    ในช่วงที่ฉันถูกเลี้ยง
  • 2:47 - 2:52
    การเป็นหนึ่งในลูก 11 คน
    เป็นวิชาการทูตเบื้องต้น
  • 2:53 - 2:55
    จนถึงวันนี้ ฉันถูกถามว่า
    ฉันเรียนที่ไหน
  • 2:55 - 2:58
    อย่าง "ที่ Kennedy School of
    Government หรือเปล่า"
  • 2:58 - 3:00
    ฉันมองหน้าพวกเขาแล้วตอบว่า "เปล่า"
  • 3:00 - 3:02
    ฉันเรียนที่ "วิทยาลัยการต่างประเทศมุราบิต"
  • 3:02 - 3:08
    มันพิเศษมาก ต้องคุยกับแม่ฉันถึงจะได้เข้า
  • 3:08 - 3:10
    โชคดีสำหรับคุณที่เธออยู่ที่นี่
  • 3:12 - 3:16
    แต่การเป็นหนึ่งในลูก 11 คน
    และมีพี่น้อง 10 คน
  • 3:16 - 3:21
    สอนคุณเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจ
    และพันธมิตร
  • 3:21 - 3:23
    มันสอนคุณให้รวมสมาธิเป็น
    คุณต้องพูดเร็วขึ้น หรือไม่ก็น้อยลง
  • 3:23 - 3:26
    เพราะคุณจะถูกจำกัดเวลาพูดเสมอ
  • 3:26 - 3:29
    มันสอนให้คุณรู้ถึงความสำคัญ
    ของการสื่อสาร
  • 3:29 - 3:33
    คุณต้องถามคำถามอย่างถูกต้อง
    เพื่อให้ได้คำตอบอย่างที่ต้องการ
  • 3:33 - 3:37
    และคุณต้องปฏิเสธอย่างถูกวิธี
    เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
  • 3:37 - 3:41
    แต่บทเรียนที่สำคัญที่สุด
    ที่ฉันได้รับระหว่างโตขึ้น
  • 3:41 - 3:45
    คือความสำคัญของการอยู่ที่โต๊ะ
  • 3:45 - 3:49
    ตอนที่โคมไฟโปรดของแม่พัง
    ฉันต้องอยู่ที่นั่นเมื่อเธอพยายาม
  • 3:49 - 3:53
    สอบสวนว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และโดยใคร
    เพราะฉันต้องปกป้องตัวเอง
  • 3:53 - 3:57
    เพราะถ้าฉันไม่ ก็จะมีคนชี้นิ้วมาโทษฉัน
  • 3:57 - 4:00
    และก่อนที่จะรู้ตัว ฉันก็จะถูกกักบริเวณ
  • 4:00 - 4:03
    แน่นอนว่า ฉันไม่ได้พูดจาก
    ประสบการณ์หรอกนะ
  • 4:04 - 4:10
    ตอนที่ฉันอายุ 15 ในปี 2005
    ฉันจบ ม. ปลาย และย้าย
  • 4:10 - 4:12
    จากซาสคาทูน แคนาดา
  • 4:12 - 4:16
    ไปซาวิยา บ้านเกิดของพ่อแม่ฉันที่ลิเบีย
  • 4:16 - 4:19
    เป็นเมืองที่เคร่งประเพณีมาก
  • 4:19 - 4:24
    ลืมบอกไป ฉันเคยไปที่ลิเบีย
    มาก่อน แต่เป็นแค่การเที่ยว
  • 4:24 - 4:28
    ตอนที่อายุแค่เจ็บขวบ
    ตอนนั้นสุดยอดมาก
  • 4:28 - 4:33
    มันคือไอศกรีม ชายหาด
    และก็ญาติ ๆ ที่ตื่นเต้นกับฉัน
  • 4:33 - 4:38
    แต่กลายเป็นว่ามันไม่เหมือนกัน
    ตอนที่ฉันอายุ 15
  • 4:38 - 4:44
    ฉันได้รับรู้ด้านวัฒนธรรม
    ของศาสนาอย่างรวดเร็ว
  • 4:44 - 4:49
    คำว่า "ฮะราม" ที่แปลว่า
    การห้ามในเชิงศาสนา
  • 4:49 - 4:52
    กับ "อะอิบ" ที่แปลว่า
    ไม่เหมาะสมในวัฒนธรรม
  • 4:52 - 4:55
    ถูกใช้สลับไปมาอย่างไม่ระวัง
  • 4:55 - 4:59
    ราวกับว่ามีความหมายเดียวกัน
    และทำให้เกิดผลแบบเดียวกัน
  • 4:59 - 5:04
    ฉันพบตัวเองอยู่ท่ามกลางบทสนทนา
    มากมายของตัวเองกับเพื่อนร่วมชั้น
  • 5:04 - 5:08
    และเพื่อนร่วมงาน อาจารย์
    เพื่อน หรือกระทั่งญาติ
  • 5:08 - 5:12
    เริ่มที่จะตั้งคำถามกับกฎ
    และความทะเยอทะยานของฉัน
  • 5:12 - 5:16
    และแม้ฉันจะมีพื้นฐานที่
    พ่อแม่ได้ให้ฉันไว้
  • 5:16 - 5:20
    ฉันเริ่มที่จะตั้งคำถามกับ
    บทบาทของผู้หญิงในศาสนาของฉัน
  • 5:20 - 5:24
    ที่วิทยาลัยการต่างประเทศมุราบิต
  • 5:24 - 5:27
    เราจริงจังกับการโต้วาทีเรื่องนี้มาก
  • 5:27 - 5:33
    และกฎข้อแรกก็คือ ต้องหาข้อมูล
    และนั่นคือสิ่งที่ฉันทำ
  • 5:33 - 5:36
    และฉันก็ประหลาดใจ เมื่อพบว่ามันง่ายมาก
  • 5:36 - 5:40
    ที่จะหาผู้หญิงในศาสนาของฉัน
    ที่เป็นผู้นำ
  • 5:40 - 5:44
    ที่มีความคิดริเริ่ม ที่แข็งแกร่ง
  • 5:44 - 5:47
    ด้านการเมือง เศรษฐกิจ
    หรือกระทั่งการทหาร
  • 5:47 - 5:51
    คะดีจะฮ์ช่วยเหลือด้านการเงิน
    ให้การเคลื่อนไหวของอิสลาม
  • 5:51 - 5:52
    ในช่วงแรกสุด
  • 5:53 - 5:55
    เราคงมาไม่ถึงตรงนี้ถ้าไม่มีเธอ
  • 5:56 - 5:58
    แล้วทำไมเราถึงไม่เรียนรู้เรื่องเธอล่ะ
  • 5:58 - 6:01
    ทำไมเราถึงไม่เรียนรู้เรื่องผู้หญิงเหล่านี้
  • 6:01 - 6:04
    ทำไมผู้หญิงถึงถูกกำหนดให้
    อยู่ในตำแหน่งที่มีมาตั้งแต่ก่อน
  • 6:04 - 6:07
    การเผยแพร่ความเชื่อของเรา
  • 6:07 - 6:09
    และถ้าเราเท่าเทียมกัน
    ในสายตาของพระเจ้า
  • 6:09 - 6:12
    ทำไมเราถึงไม่เท่าเทียมกัน
    ในสายตาของมนุษย์
  • 6:13 - 6:18
    สำหรับฉัน มันกลับไปสู่
    บทเรียนที่ฉันเรียนตอนเด็ก ๆ
  • 6:18 - 6:22
    คนที่เป็นผู้ตัดสิน ที่ควบคุม
    เนื้อความที่ออกมา
  • 6:22 - 6:25
    คือคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
  • 6:25 - 6:30
    และน่าเศร้า ที่ในทุก ๆ ศาสนา
  • 6:30 - 6:32
    คนเหล่านั้นไม่ใช่ผู้หญิง
  • 6:32 - 6:35
    สถาบันศาสนาถูกครอบงำโดยผู้ชาย
  • 6:35 - 6:37
    และถูกขับเคลื่อนด้วย
    ความเป็นผู้นำแบบผู้ชาย
  • 6:37 - 6:41
    พวกเขากำหนดนโยบาย
    ให้สอดคล้องกับตัวเขาเอง
  • 6:41 - 6:45
    และจนกว่าที่เราจะสามารถ
    เปลี่ยนแปลงระบบได้โดยสิ้นเชิง
  • 6:45 - 6:48
    เราไม่สามารถคาดหวัง
    การมีส่วนร่วมด้านเศรษฐกิจ
  • 6:48 - 6:52
    และการเมืองของผู้หญิง
    ได้อย่างจริงจัง
  • 6:52 - 6:55
    ฐานของเรานั้นชำรุดเสียหาย
  • 6:56 - 7:01
    แม่ของฉันเคยบอกว่า คุณไม่สามารถ
    สร้างบ้านที่ตั้งตรงได้ บนฐานที่บิดเบี้ยว
  • 7:03 - 7:09
    ในปี 2011 เกิดการปฏิวัติที่ลิเบีย
    และครอบครัวของฉันอยู่ที่แนวหน้า
  • 7:10 - 7:13
    และมันก็เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้น
    ในสงครามนั้น
  • 7:13 - 7:16
    มันเกือบจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงวัฒนธรรม
    และอยู่ชั่วคราวมาก ๆ
  • 7:16 - 7:19
    เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่า
    การมีส่วนร่วมของฉัน
  • 7:19 - 7:22
    ไม่เพียงถูกยอมรับ แต่มันถูกส่งเสริม
  • 7:22 - 7:24
    ถูกเรียกร้องเลยล่ะ
  • 7:24 - 7:27
    ฉันและผู้หญิงคนอื่น ๆ
    มีเก้าอี้นั่งที่โต๊ะ
  • 7:27 - 7:31
    เราไม่ได้แค่จับมือกัน หรือเป็นตัวกลาง
  • 7:31 - 7:32
    เราเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ
  • 7:32 - 7:36
    เราเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูล
    เรามีความสำคัญมาก
  • 7:36 - 7:41
    และฉันต้องการอย่างมาก
    ที่จะให้ความเปลี่ยนแปลงนั้นถาวร
  • 7:42 - 7:45
    ปรากฏว่ามันไม่ง่ายเลย
  • 7:45 - 7:50
    ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ผู้หญิงที่ฉัน
    เพิ่งจะทำงานด้วย
  • 7:50 - 7:52
    ก็เริ่มกลับไปมีบทบาทแบบที่เคยมี
  • 7:52 - 7:55
    และพวกเธอส่วนใหญ่
    ถูกขับเคลื่อนด้วยคำพูดสนับสนุน
  • 7:55 - 7:58
    จากผู้นำทางศาสนาและการเมือง
  • 7:58 - 8:02
    ที่ส่วนใหญ่ก็อ้างคัมภีร์สนับสนุน
  • 8:02 - 8:06
    เป็นวิธีหาผู้สนับสนุนความเห็น
    ของพวกเขาให้เป็นที่นิยม
  • 8:07 - 8:12
    เมื่อแรกเริ่ม ฉันมุ่งเน้นการเสริมอำนาจ
    ทางเศรษฐกิจและการเมืองให้ผู้หญิง
  • 8:12 - 8:16
    ฉันคิดว่านั่นจะเปลี่ยนแปลง
    วัฒนธรรมและสังคม
  • 8:16 - 8:20
    แต่กลายเป็นว่า มันเปลี่ยนได้แค่นิดเดียว
    ไม่มากเท่าไร
  • 8:20 - 8:25
    ฉันจึงตัดสินใจใช้สิ่งที่พวกเขาใช้ปกป้อง
    ตัวเอง มาเป็นเครื่องมือจู่โจมของฉัน
  • 8:25 - 8:29
    ฉันเริ่มที่จะอ้าง และเน้นข้อความ
    จากคัมภีร์อิสลามเช่นเดียวกัน
  • 8:29 - 8:34
    ในปี 2012 และ 2013 องค์กรของฉัน
    มีการรณรงค์ที่ใหญ่ที่สุด
  • 8:34 - 8:36
    และแพร่กระจายมากที่สุดในลิเบีย
  • 8:36 - 8:41
    พวกเราไปตามบ้าน โรงเรียน และมหาวิทยาลัย
    หรือแม้กระทั่งมัสยิด
  • 8:41 - 8:43
    เราพูดกับคน 50,000 คนโดยตรง
  • 8:43 - 8:47
    และคนอีกนับแสนผ่านป้ายโฆษณา
    และโฆษณาโทรทัศน์
  • 8:47 - 8:50
    โฆษณาบนวิทยุ และโปสเตอร์
  • 8:50 - 8:53
    คุณอาจจะสงสัยว่า องค์กรส่งเสริมสิทธิสตรี
  • 8:53 - 8:56
    ทำอย่างนี้ในชุมชนที่ก่อนหน้านี้ต่อต้าน
  • 8:56 - 8:59
    แม้แต่ตัวตนของผู้หญิงได้อย่างไร
  • 9:00 - 9:02
    ฉันใช้คัมภีร์
  • 9:02 - 9:08
    ฉันใช้ข้อความจากคัมภีร์อัลกุรอาน
    และคำพูดของพระศาสดา
  • 9:08 - 9:12
    ฮะดีษ คำพูดของท่าน เช่น
  • 9:12 - 9:15
    "ตัวเจ้าที่ดีที่สุด คือผู้ที่ทำดีที่สุด
    ต่อครอบครัว"
  • 9:15 - 9:19
    "อย่าให้พี่น้องของเจ้ากดขี่ผู้อื่น"
  • 9:19 - 9:24
    เป็นครั้งแรก ที่ธรรมกถาวันศุกร์
    ที่นำโดยอิหม่ามประจำชุมชน
  • 9:24 - 9:26
    สนับสนุนสิทธิสตรี
  • 9:26 - 9:30
    มีการพูดถึงหัวข้อต้องห้าม
    อย่างการใช้ความรุนแรงในครอบครัว
  • 9:31 - 9:34
    นโยบายถูกเปลี่ยน
  • 9:34 - 9:37
    ในบางชุมชน เราจำเป็นต้องพูดถึงขนาดว่า
  • 9:37 - 9:41
    คำประกาศสิทธิมนุษยชนสากล
  • 9:41 - 9:45
    ที่พวกเขาต่อต้าน เพราะว่าไม่ได้ถูกเขียน
    โดยนักวิชาการที่เคร่งศาสนา
  • 9:45 - 9:50
    จริง ๆ แล้วหลักการเดียวกันก็อยู่ใน
    คัมภีร์ของเรา
  • 9:50 - 9:54
    ดังนั้น จริง ๆ แล้วก็คือสหประชาชาติ
    แค่ลอกของเราไป
  • 9:56 - 9:59
    การเปลี่ยนข้อความที่สื่อสาร
    ทำให้เราสามารถสื่อ
  • 9:59 - 10:03
    เรื่องราวแนวใหม่
    ที่สนับสนุนสิทธิสตรีในลิเบีย
  • 10:03 - 10:08
    ตอนนี้นานาชาติก็ได้ทำตามเรา
  • 10:08 - 10:13
    และแม้ฉันจะบอกว่ามันไม่ง่าย
    เชื่อฉันเถอะ มันไม่ง่ายเลย
  • 10:13 - 10:16
    เสรีนิยมจะว่าคุณใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือ
    และเป็นอนุรักษ์นิยมที่แย่
  • 10:16 - 10:20
    อนุรักษ์นิยมจะว่าคุณไปต่าง ๆ นานา
  • 10:20 - 10:24
    ฉันเคยได้ยินตั้งแต่ "พ่อแม่เธอ
    จะต้องอับอายกับเธอที่สุดแน่ ๆ"
  • 10:24 - 10:26
    ไม่จริง พวกท่านเป็นแฟนตัวยงของฉัน
  • 10:26 - 10:29
    ไปจนถึง "เธออยู่ไม่รอดจนวันเกิดปีหน้าหรอก"
  • 10:29 - 10:32
    ก็ไม่จริงอีก เพราะฉันก็รอดมาได้
  • 10:33 - 10:35
    และฉันก็ยังเป็น
  • 10:35 - 10:41
    ผู้ที่เชื่ออย่างมากว่า สิทธิสตรี
    และศาสนาอยู่ด้วยกันได้
  • 10:42 - 10:45
    แต่เราจำเป็นต้องอยู่ที่โต๊ะ
  • 10:46 - 10:50
    เราต้องหยุดละทิ้งตำแหน่งของพวกเรา
    เพราะหากเราเงียบ
  • 10:50 - 10:55
    เราได้อนุญาตให้มีการข่มเหง
    และทารุณผู้หญิงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก
  • 10:56 - 10:59
    การพูดว่าเราจะต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี
  • 10:59 - 11:03
    และต่อสู้กับลัทธิสุดโต่ง
    ด้วยระเบิดและสงคราม
  • 11:03 - 11:07
    เป็นการทำให้สังคมท้องถิ่นพิการ
    สังคมที่เราต้องจัดการปัญหาเหล่านี้
  • 11:07 - 11:09
    เพื่อให้พวกเขาดำรงอยู่ได้
  • 11:11 - 11:17
    มันไม่ง่ายเลย ที่เราจะท้าทาย
    ข้อความทางศาสนาที่บิดเบือน
  • 11:17 - 11:22
    คุณจะถูกต่อว่า ล้อเลียน และข่มขู่
  • 11:22 - 11:24
    แต่เราจำเป็นต้องทำ
  • 11:24 - 11:29
    เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกเสียจาก
    นำประเด็นสิทธิมนุษยชน
  • 11:29 - 11:32
    และหลักการความเชื่อของเรากลับมา
  • 11:32 - 11:34
    ไม่ใช่เพื่อพวกเราเอง
    ไม่ใช่เพื่อผู้หญิงในครอบครัวของพวกคุณ
  • 11:34 - 11:36
    ไม่ใช่เพื่อผู้หญิงในห้องนี้
  • 11:36 - 11:39
    ไม่ใช่เพื่อผู้หญิงข้างนอก
  • 11:39 - 11:43
    แต่เพื่อสังคม ที่จะถูกเปลี่ยนแปลง
  • 11:43 - 11:45
    ด้วยการมีส่วนร่วมของผู้หญิง
  • 11:46 - 11:48
    และทางเดียวที่เราจะทำอย่างนั้นได้
  • 11:48 - 11:50
    ตัวเลือกเดียวของเรา
  • 11:50 - 11:54
    คืออยู่ที่โต๊ะ และไม่ไปไหน
  • 11:54 - 11:56
    ขอบคุณค่ะ
  • 11:56 - 12:00
    (เสียงปรบมือ)
Title:
จริง ๆ แล้วศาสนาของฉันพูดถึงผู้หญิงอย่างไร
Speaker:
อะลา มุราบิต
Description:

ครอบครัวของอะลา มุราบิตย้ายจากแคนาดามาลิเบียเมื่อเธออายุ 15 ก่อนหน้านั้นเธอรู้สึกเท่าเทียมกับพี่ชายน้องชายของเธอ แต่ในสภาพแวดล้อมใหม่เธอรู้สึกได้ถึงการริดรอนอย่างเลวร้ายในสิ่งที่เธอสามารถทำได้ ในฐานะหญิงสาวมุสลิมที่ภาคภูมิใจ เธอตั้งคำถามที่ว่านี่เป็นหลักของศาสนาเธอจริง ๆ หรือ ? ด้วยอารมณ์ขัน ความมุ่งมั่น และจิตวิญญาณที่ต่อต้านอย่างสร้างสรรค์ เธอบอกเล่าเรื่องราวการค้นพบตัวอย่างผู้นำสตรีในประวัติศาสตร์ความเชื่อของศาสนาเธอ และการเริ่มรณรงค์ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีโดยใช้ข้อความจากคัมภีร์อัลกุรอานโดยตรง

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
12:13
Thipnapa Huansuriya approved Thai subtitles for What my religion really says about women Sep 15, 2015, 11:01 PM
Thipnapa Huansuriya edited Thai subtitles for What my religion really says about women Sep 15, 2015, 11:01 PM
Thipnapa Huansuriya edited Thai subtitles for What my religion really says about women Sep 15, 2015, 11:01 PM
Thipnapa Huansuriya edited Thai subtitles for What my religion really says about women Sep 15, 2015, 11:01 PM
Thipnapa Huansuriya edited Thai subtitles for What my religion really says about women Sep 15, 2015, 10:33 PM
Thipnapa Huansuriya edited Thai subtitles for What my religion really says about women Sep 15, 2015, 10:33 PM
Patarapen Manorompatrasal accepted Thai subtitles for What my religion really says about women Aug 22, 2015, 5:21 AM
Patarapen Manorompatrasal edited Thai subtitles for What my religion really says about women Aug 22, 2015, 5:21 AM
Show all

Thai subtitles

Revisions

  • Revision 5 Edited
    Thipnapa Huansuriya Sep 15, 2015, 11:01 PM