ความงดงามในความแปลกแยก
-
0:01 - 0:05ฉันรู้ดีว่า TED นั้น มักจะเกี่ยวข้องกับ
เรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประเด็นใหญ่ ๆ -
0:05 - 0:08แต่สิ่งที่ฉันจะพูดกับพวกคุณในวันนี้นั้น
เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เล็กมาก ๆ -
0:08 - 0:10เล็กมาก จนกระทั่งสามารถอธิบาย
ได้ด้วยคำคำเดียว -
0:11 - 0:13นั่นก็คือ "คนแปลกแยก"
-
0:13 - 0:17มันเป็นหนึ่งในคำที่ฉันชอบ
เพราะว่ามันสื่อได้ตรงมาก -
0:17 - 0:21ฉันหมายถึง มันสื่อถึงคนที่
ล้มเหลวในการเข้ากับคนอื่น -
0:22 - 0:24หรือคนที่เข้ากับคนอื่นได้ไม่ดี
-
0:25 - 0:28หรืออีกความหมายก็คือ
"คนที่ปรับตัวได้ไม่ดี -
0:28 - 0:30ในการเข้ากับสถานการณ์
และสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ" -
0:31 - 0:34ตัวฉันเองก็จัดเป็น
คนแปลกแยกคนหนึ่ง -
0:34 - 0:37และฉันก็มาที่นี่เพื่อคนที่แปลกแยก
คนอื่น ๆ ในห้องนี้ -
0:37 - 0:39เพราะว่าฉันไม่ได้เป็นเพียงคนเดียว
-
0:40 - 0:42ฉันจะเล่าเรื่องคนแปลกแยก
เรื่องหนึ่งให้ฟังค่ะ -
0:43 - 0:46ณ ช่วงหนึ่ง
ในวัย 30 ต้น ๆ ของฉัน -
0:46 - 0:49ความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักเขียน
ก็ลอยมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านของฉัน -
0:50 - 0:52จริง ๆ แล้ว มันเข้ามาในกล่องจดหมาย
-
0:52 - 0:55ในรูปแบบของจดหมายที่บ่งบอกว่า
ฉันชนะรางวัลใหญ่ด้านวรรณกรรม -
0:56 - 0:57สำหรับเรื่องสั้นที่ฉันเขียนไป
-
0:58 - 1:02เรื่องสั้นเรื่องนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
ชีวิตของฉันในฐานะนักว่ายน้ำ -
1:03 - 1:05และชีวิตอันเส็งเคร็งที่บ้านของฉัน
-
1:05 - 1:10รวมถึงเรื่องที่ว่าความเศร้าและความสูญเสีย
ทำให้คุณเสียสติได้อย่างไร อีกนิดหน่อย -
1:12 - 1:17รางวัลก็คือทริปไปนิวยอร์กเพื่อไปพบปะเหล่า
บรรณาธิการที่ประสบความสำเร็จและตัวแทน -
1:17 - 1:18รวมถึงนักเขียนคนอื่น ๆ
-
1:18 - 1:21จริง ๆ มันดูเหมือนเป็นความฝันของ
นักเขียนที่อยากโด่งดังใช่ไหมล่ะคะ -
1:23 - 1:25แต่คุณรู้ไหมว่าฉันทำอย่างไร
ในวันที่จดหมายนั้นมาถึงบ้าน -
1:26 - 1:28เพราะว่าฉันเป็นฉันคนนี้
-
1:28 - 1:30ฉันเลยวางจดหมายไว้บนโต๊ะในครัว
-
1:30 - 1:34ฉันเทวอดก้าใส่แก้วใบมหึมาให้ตัวเอง
-
1:34 - 1:36พร้อมกับน้ำแข็งและมะนาว
-
1:37 - 1:41แล้วฉันก็นั่งอยู่ตรงนั้นทั้งวัน
ในชุดชั้นในของฉัน -
1:41 - 1:43เพียงแค่จ้องมองไปที่จดหมาย
-
1:45 - 1:48ฉันนั่งคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา
ที่ฉันทำให้ชีวิตตัวเองต้องพังลง -
1:48 - 1:51ฉันเป็นใครกันล่ะ
ถึงจะมีหน้าไปนิวยอร์ก -
1:51 - 1:53แล้วเสแสร้ง
ว่าตัวเองเป็นนักเขียน -
1:54 - 1:55ฉันเป็นใครกัน
-
1:55 - 1:56ฉันจะบอกคุณให้ค่ะ
-
1:57 - 1:58ฉันเป็นคนแปลกแยก
-
1:59 - 2:01เหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ มากมาย
-
2:02 - 2:04ฉันมาจากครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง
-
2:04 - 2:07ที่ฉันอยากจะหนีออกไปให้พ้น ๆ
-
2:08 - 2:12ฉันล้มเหลวอย่างใหญ่หลวง
ในชีวิตแต่งงานถึงสองครั้ง -
2:12 - 2:15ฉันโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
แต่ถึงสองครั้ง -
2:15 - 2:18หรืออาจจะมีแม้กระทั่งครั้งที่สาม
ที่ฉันจะไม่บอกพวกคุณแน่นอน -
2:18 - 2:20(เสียงหัวเราะ)
-
2:21 - 2:24และฉันก็เคยบำบัดการติดยาอยู่ช่วงหนึ่ง
-
2:25 - 2:29รวมถึงเคยแวะไปนอนพักผ่อนในคุกถึงสองครั้ง
-
2:30 - 2:32เพราะฉะนั้น ฉันมาถูกเวทีแล้ว
-
2:34 - 2:36(เสียงหัวเราะ)
-
2:37 - 2:40แต่เหตุผลจริง ๆ ที่ฉันคิดว่า
ตัวเองเป็นคนแปลกแยกนั้น -
2:40 - 2:44ก็คือการที่ลูกสาวของฉัน
ตายในวันที่เธอเกิด -
2:44 - 2:47และฉันเองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้ชีวิต
อยู่กับเรื่องนั้นต่อไปได้อย่างไร -
2:48 - 2:53หลังจากที่ลูกสาวของฉันเสียชีวิตลง
ฉันใช้ชีวิตเร่ร่อนไร้บ้านอยู่เป็นเวลานาน -
2:53 - 2:55อาศัยอยู่ใต้สะพาน
-
2:55 - 3:00เหมือนกับซากศพที่โศกเศร้าและสูญเสีย
-
3:00 - 3:02ที่เราบางคนอาจได้พบเจอระหว่างทาง
-
3:02 - 3:05หรือบางทีอาจจะเป็นเราทุกคนก็ได้
หากคุณมีชีวิตยืนยาวพอ -
3:06 - 3:10รู้ไหมคะว่า คนไร้บ้านนั้นต่างเป็น
วีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดท่ามกลางคนแปลกแยก -
3:10 - 3:13เพราะพวกเขาเป็นแบบเรา ตั้งแต่แรกแล้ว
-
3:15 - 3:20เห็นแล้วใช่ไหมคะว่า ฉันล้มเหลว
ในการเข้าไปเป็นสมาชิกของทุกกลุ่มที่มี -
3:20 - 3:25ทั้งการเป็นลูกสาว ภรรยา แม่ นักวิชาการ
-
3:25 - 3:28และความฝันที่อยากจะเป็นนักเขียนนั้น
-
3:28 - 3:33จริง ๆ แล้วเป็นเหมือนกับหินเล็ก ๆ
แห่งความเศร้าที่ติดอยู่ในลำคอของฉัน -
3:35 - 3:38แม้ว่าฉันจะไม่อยากไปก็ตามที
แต่ฉันก็ขึ้นเครื่องบินลำนั้น -
3:38 - 3:41แล้วบินไปยังมหานครนิวยอร์ก
-
3:41 - 3:42ที่ที่เหล่านักเขียนรวมตัวกันอยู่
-
3:43 - 3:47มิตรสหายผู้แปลกแยกทั้งหลาย
ฉันแอบเห็นนะว่าหัวของคุณส่องสว่างอยู่ -
3:47 - 3:49จนฉันชี้ให้คุณออกไปจากห้องได้เลยล่ะ
-
3:49 - 3:51ในตอนแรก คุณจะหลงรักมัน
-
3:51 - 3:54คุณจะได้เลือกนักเขียนสามคนที่คุณอยากเจอ
-
3:54 - 3:57และคนเหล่านี้ก็จะออกไปพาพวกเขามาหาคุณ
-
3:57 - 3:59คุณมีนัดที่โรงแรมแกรมเมอร์ซีพาร์ค
-
3:59 - 4:02ที่ที่คุณจะได้ดื่มเหล้าสก๊อตในยามดึก
-
4:02 - 4:05กับคนที่ทั้งเจ๋ง ฉลาด และมั่นใจเกินร้อย
-
4:05 - 4:09โดยที่คุณก็ต้องเสแสร้งว่าคุณเจ๋ง
ฉลาด และมั่นใจเกินร้อยเช่นเดียวกัน -
4:09 - 4:12จากนั้นคุณก็จะได้พบกับเหล่าบรรณาธิการ
นักเขียน และตัวแทนมากมาย -
4:12 - 4:16ณ มื้ออาหารกลางวันและ
มื้ออาหารเย็นสุดหรูหรา -
4:17 - 4:19ถามฉันสิว่าหรูหราแค่ไหน
-
4:20 - 4:22ผู้ชม : หรูหราแค่ไหน
-
4:22 - 4:26ลิเดีย : ฉันขอสารภาพตรงนี้เลยว่า
ฉันขโมยผ้ากันเปื้อนลินินมาสามผืน -
4:26 - 4:28(เสียงหัวเราะ)
-
4:28 - 4:30จากภัตตาคารสามแห่ง
-
4:30 - 4:33แล้วฉันก็ยัดเมนูใส่กางเกงของฉัน
-
4:33 - 4:35(เสียงหัวเราะ)
-
4:35 - 4:39ฉันแค่อยากเก็บของที่ระลึกบางอย่างไว้
เพื่อที่ว่าเมื่อฉันกลับไปถึงบ้านแล้ว -
4:39 - 4:41ฉันจะได้มั่นใจว่าเรื่องพวกนั้น
เกิดขึ้นกับฉันแล้วจริง ๆ -
4:41 - 4:42รู้ไหมคะว่า
-
4:43 - 4:45นักเขียนสามคนที่ฉันอยากเจอนั้น
-
4:45 - 4:48คือ แคโรล แมโซ, ลินน์ ทิลล์แมน
และเพ็กกี้ เฟแลน -
4:48 - 4:52พวกเธอไม่ใช่นักเขียนชื่อดังที่
เขียนหนังสือขายดีถล่มทลาย -
4:52 - 4:55แต่สำหรับฉันแล้วนั้น พวกเธอเปรียบ
เหมือนดั่งเทพไททันนักเขียนหญิงสามองค์ -
4:56 - 4:59แคโรล แมโซ เขียนหนังสือเล่มหนึ่งที่
ภายหลังกลายมาเป็นไบเบิ้ลศิลปะของฉัน -
5:00 - 5:03ลินน์ ทิลล์แมน ทำให้ฉันเชื่อ
-
5:03 - 5:06ว่าเรื่องราวของฉันนั้นมีโอกาสที่จะ
ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ -
5:07 - 5:09และเพ็กกี้ เฟแลน ทำให้ฉันฉุกคิด
-
5:09 - 5:14ว่าบางทีสมองของฉัน
อาจจะสำคัญกว่าหน้าอก -
5:16 - 5:18พวกเธอไม่ใช่นักเขียนกระแสหลัก
-
5:18 - 5:22แต่พวกเธอ
กำลังเดินตัดผ่านกระแสนั้น -
5:22 - 5:23ด้วยเรื่องราวที่พวกเธอเล่า
-
5:24 - 5:28ฉันมักคิดว่า มันก็คงคล้าย ๆ กับสายน้ำ
ที่ไหลตัดผ่านแกรนด์แคนยอนนั่นแหละ -
5:29 - 5:31ฉันมีความสุขจนแทบจะเป็นบ้า
-
5:31 - 5:35ที่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับนักเขียนทั้งสามคน
ที่วัยล่วงเลยไปกว่า 50 แล้ว -
5:35 - 5:38และเหตุผลที่ฉันมีความสุขจนแทบบ้าแบบนั้น
-
5:38 - 5:40ก็เพราะฉันไม่เคยได้สัมผัสความสุขเช่นนั้นเลย
-
5:40 - 5:42ฉันไม่เคยได้อยู่ในห้องแบบนั้น
-
5:42 - 5:44แม่ของฉันไม่เคยได้เรียนมหาวิทยาลัย
-
5:45 - 5:47และงานสร้างสรรค์ของฉันในตอนนั้น
-
5:47 - 5:52ก็เปรียบเหมือนทารกตัวน้อย ๆ ที่
เสียชีวิตตั้งแต่เกิดอย่างเศร้าสลด -
5:53 - 5:57เพราะฉะนั้น ในค่ำคืนแรก ๆ ที่นิวยอร์ก
ฉันถึงอยากจะตายเสียตรงนั้นเลย -
5:57 - 6:00ประมาณว่า "ฆ่าฉันทิ้งตอนนี้เลย
ฉันพอใจแล้ว มันช่างงดงามเหลือเกิน" -
6:01 - 6:04พวกคุณบางคนในห้องนี้อาจรู้ว่า
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากนั้น -
6:05 - 6:09ในตอนแรก พวกเขาพาฉันไปที่สำนักงานของ
"สำนักพิมพ์ฟาร์ราร์, สเตราส์ และจีรูว์" -
6:10 - 6:13ฟาร์ราร์, สเตราส์ และจีรูว์ นั้น
เป็นเสมือนสำนักพิมพ์ในฝันของฉัน -
6:13 - 6:17ที่ฉันจะพูดก็คือ หนังสือของที เอส เอเลียต
และแฟลนเนอรี โอ คอนเนอร์ ได้รับการตีพิมพ์ที่นั่น -
6:17 - 6:22บรรณาธิการใหญ่ให้ฉันนั่งลง
และคุยกับฉันอยู่เป็นเวลานาน -
6:22 - 6:24พยายามบอกว่าฉัน
มีหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ในใจ -
6:24 - 6:26เรื่องชีวิตของการเป็นนักว่ายน้ำ
-
6:26 - 6:28คล้าย ๆ บันทึกความทรงจำน่ะค่ะ
-
6:29 - 6:31ตลอดระยะเวลาที่เขาพูดกับฉัน
-
6:31 - 6:35ฉันได้แต่นั่งยิ้มและพยักหน้าเหมือน
ยัยโง่ที่เป็นใบ้คนหนึ่ง -
6:36 - 6:37ที่กอดอกอยู่ตลอดเวลา
-
6:37 - 6:42โดยที่ไม่มีคำพูดใด ๆ เลยแม้แต่คำเดียว
เปล่งออกมาจากลำคอของฉัน -
6:44 - 6:47ดังนั้น ในท้ายที่สุด เขาก็แตะไหล่ฉันเบา ๆ
-
6:47 - 6:49เหมือนกับที่โค้ชว่ายน้ำทำกัน
-
6:50 - 6:51แล้วอวยพรให้ฉันโชคดี
-
6:51 - 6:54พร้อมกับให้หนังสือบางเล่มแก่ฉันมาฟรี ๆ
-
6:54 - 6:56แล้วเขาก็ผายมือไปที่ประตู
-
6:58 - 7:01จากนั้นพวกเขาก็พาฉันไปที่สำนักงานของ
ดับเบิลยู ดับเบิลยู นอร์ตัน (W.W. Norton) -
7:01 - 7:04ที่ที่ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเมื่อไปถึง
ฉันจะถูกพาออกจากตึก -
7:04 - 7:05เพียงเพราะฉันใส่รองเท้าด็อก มาร์ตินส์
(Doc Martens) -
7:06 - 7:08แต่ทว่ามันกลับไม่เกิดขึ้น
-
7:09 - 7:11การที่ได้อยู่ในสำนักงานของนอร์ตันนั้น
-
7:11 - 7:15ให้ความรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังเอื้อมมือ
ไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนเพื่อไปแตะดวงจันทร์ -
7:15 - 7:19ในขณะที่ดวงดาวบนท้องฟ้านั้นต่างเรียงร้อย
กันเป็นชื่อคุณไปทั่วทั้งจักรวาล -
7:20 - 7:22นั่นแหละ คือความยิ่งใหญ่ที่ฉันสัมผัสได้
-
7:22 - 7:23พอจะเห็นภาพใช่ไหมคะ
-
7:24 - 7:26หัวหน้าบรรณาธิการของเขา
"แคโรล ฮุคค์ สมิธ" -
7:26 - 7:30โน้มลงมาจ้องหน้าฉัน พร้อมกับ
นัยน์ตาดวงเล็ก ๆ ที่สดใสเป็นประกาย -
7:30 - 7:34และพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ส่งอะไรสักอย่าง
มาให้ฉันตอนนี้เลยนะคะ!" -
7:34 - 7:37เห็นไหมคะว่า ถ้าเป็นคนทั่วไป
โดยเฉพาะชาว TED -
7:37 - 7:39จะต้องวิ่งไปยังตู้จดหมายแล้วใช่ไหมล่ะ
-
7:40 - 7:43แต่ฉันกลับใช้เวลายาวนาน
ราวกับเป็นทศวรรษเพียงเพื่อนึกภาพ -
7:43 - 7:47ของการใส่ของอะไรสักอย่างลงไป
ในซองจดหมายแล้วเลียปิดผนึกแสตมป์ -
7:49 - 7:50ในคืนสุดท้าย
-
7:50 - 7:54ฉันมีโอกาสได้ไปอ่านหนังสือครั้งใหญ่
ให้คนอื่นฟังที่สมาคมกวีนิพนธ์แห่งชาติ -
7:54 - 7:56และเมื่อการอ่านนั้นจบลง
-
7:56 - 8:01แคทเธอรีน คิดดี้ จากบริษัทตัวแทน
วรรณกรรม "คิดดี้, ฮอยท์ แอนด์ พิคาร์ด" -
8:01 - 8:03ก็เดินตรงดิ่งมาหาแล้วจับมือทักทายฉัน
-
8:03 - 8:06จากนั้น ก็ยื่นข้อเสนอให้ฉันเป็นตัวแทน
แบบว่า ณ ตรงนั้นเลย -
8:09 - 8:12ฉันยืนอยู่ตรงนั้น และรู้สึกเหมือนกับว่า
หูหนวกไปชั่วขณะ -
8:12 - 8:13เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้น
กับพวกคุณบ้างไหมคะ -
8:14 - 8:16แล้วฉันก็เริ่มน้ำตาคลอ
-
8:16 - 8:20เพราะว่าคนทุกคนในห้องนั้นต่าง
แต่งตัวกันอย่างสวยงาม -
8:20 - 8:23แต่สิ่งที่ฉันพูดออกไปนั้นมีเพียงแค่
-
8:23 - 8:26"ไม่รู้สิคะ ฉันต้องขอคิดดูก่อนนะคะ"
-
8:27 - 8:31แล้วเธอก็พูดว่า "ถ้าอย่างนั้น
ก็ไม่มีปัญหาค่ะ" และเดินจากไป -
8:33 - 8:39มือเหล่านั้นหยิบยื่นก้อนหินแห่งความเศร้า
ที่ติดอยู่ในลำคอออกมาให้ฉัน -
8:39 - 8:43เห็นไหมคะว่า ฉันกำลังพยายามบอกอะไร
พวกคุณเกี่ยวกับผู้คนที่เป็นแบบฉัน -
8:43 - 8:47เวลาที่เป็นคนแปลกแยกนั้น เรามักไม่รู้ว่า
เราจะมีความหวัง หรือตอบตกลง -
8:47 - 8:49หรือเลือกสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างไร
-
8:49 - 8:51ถึงแม้ว่ามันจะวางอยู่ตรงหน้าเรานี้เอง
-
8:51 - 8:53แต่ความละอายใจ
คือสิ่งที่เราแบกรับไว้ -
8:53 - 8:55ละอายใจที่ต้องการสิ่งที่ดี ๆ
-
8:55 - 8:57ละอายใจที่จะมีความรู้สึกที่ดี
-
8:57 - 9:01ละอายใจที่จะไม่เชื่อว่าเราสมควร
ที่จะอยู่ในห้องห้องนั้นจริง ๆ -
9:01 - 9:03ร่วมกับผู้คนที่เรายกย่อง
-
9:04 - 9:07หากฉันทำได้ ฉันจะย้อนเวลากลับไป
และสอนตัวเอง -
9:07 - 9:12แล้วฉันก็จะกลายเป็นเหมือนกับผู้หญิง
วัยเกิน 50 เหล่านั้นที่ช่วยฉันแบบเป๊ะ ๆ -
9:12 - 9:14ฉันจะสอนตัวเองว่า
จะแสดงความต้องการอย่างไร -
9:14 - 9:16จะยืนหยัดขึ้นอย่างไร
จะขอสิ่งเหล่านั้นอย่างไร -
9:16 - 9:20ฉันจะพูดว่า "เธอ! ใช่ เธอนั่นแหละ! เธอเอง
ก็สมควรที่จะได้อยู่ในห้องนี้เหมือนกันนะ" -
9:20 - 9:23แสงสว่างนั้นส่องลงมาที่เราทุกคน
-
9:23 - 9:26และเราจะไม่มีค่าอะไรหาก
ปราศจากเราซึ่งกันและกัน -
9:27 - 9:30แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ฉันบินกลับไปรัฐออริกอน -
9:30 - 9:36และขณะที่ฉันนั่งมองต้นไม้ใบหญ้าอยู่นั้น
สายฝนโปรยปรายก็เริ่มปรากฏแก่สายตา -
9:36 - 9:40ฉันนั่งดื่มเครื่องดื่มขวดเล็ก ๆ บนเครื่อง
เพื่อ "รู้สึกสงสารตัวเอง" -
9:41 - 9:46ฉันนั่งคิดว่า ต่อให้ฉันได้เป็นนักเขียนจริง ๆ
ฉันก็คงเป็นนักเขียนที่แปลกแยกอีกนั่นแหละ -
9:47 - 9:48สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ
-
9:48 - 9:50ฉันบินกลับไปที่ออริกอน
โดยไม่มีสัญญาเขียนหนังสือ -
9:50 - 9:52ไม่มีตัวแทน
-
9:52 - 9:54แต่มีเพียงความทรงจำอันปริ่มล้น
อยู่ในหัวใจและความคิด -
9:54 - 9:57ของการได้นั่งอย่างใกล้ชิด
-
9:57 - 10:00กับเหล่านักเขียนที่งดงาม
-
10:00 - 10:04ความทรงจำนั้นเป็นเพียงรางวัลชิ้นเดียว
ที่ฉันยอมมอบให้ตัวเอง -
10:05 - 10:08แต่เมื่อฉันนั่งอยู่ในความมืดภายในบ้าน
-
10:09 - 10:11ในชุดชั้นในของฉัน
-
10:12 - 10:14ฉันยังคงได้ยินเสียงของพวกเธออยู่
-
10:14 - 10:18พวกเธอพูดกับฉันว่า "อย่าไปฟังใครก็ตาม
ที่พยายามทำให้คุณหุบปาก -
10:18 - 10:20หรือเปลี่ยนเรื่องราวของคุณ"
-
10:21 - 10:25พวกเธอบอกว่า "เล่าเรื่องราวของคุณออกมา
มีแต่คุณเท่านั้นที่รู้ว่าจะเล่าอย่างไร" -
10:25 - 10:27พวกเธอพูดว่า "บางครั้งการเล่าเรื่อง
-
10:27 - 10:30ก็เป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตคุณเอาไว้"
-
10:32 - 10:35และในตอนนี้ คุณก็คงเห็นแล้วว่า
ฉันเป็นผู้หญิงวัย 50 กว่า ๆ -
10:36 - 10:37และฉันก็เป็นนักเขียน
-
10:39 - 10:40เป็นแม่คน
-
10:40 - 10:42และฉันก็ได้เป็นคุณครู
-
10:43 - 10:45ลองเดาดูสิคะว่า
นักเรียนที่ฉันชื่นชอบคือใคร -
10:47 - 10:48ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดในวัน
-
10:48 - 10:51ที่จดหมายแห่งความฝันนั้น
ลอยมายังตู้จดหมายของฉัน -
10:51 - 10:52แต่ฉันได้เขียนบันทึกความทรงจำไว้เล่มหนึ่ง
-
10:52 - 10:54ชื่อว่า "The Chronology of Water"
-
10:55 - 11:00ในนั้นประกอบไปด้วยเรื่องราวของการสร้าง
ตัวตนของฉันขึ้นใหม่หลายต่อหลายครั้ง -
11:00 - 11:02จากเศษซากของการตัดสินใจของฉัน
-
11:03 - 11:08เรื่องราวของสิ่งที่ดูเหมือนความล้มเหลว
ของฉันที่แท้จริงแล้วกลับเป็นประตูอันน่าฉงน -
11:08 - 11:10ไปสู่บางสิ่งที่สวยงาม
-
11:10 - 11:14ทั้งหมดที่ฉันต้องทำก็คือ
การเล่าเรื่องราวนั้นออกมา -
11:16 - 11:20ในวัฒนธรรมเกือบทั้งหมดนั้นมักมีตำนาน
เกี่ยวกับการเดินตามความฝันของตัวเอง -
11:21 - 11:22ตำนานนั้นเรียกว่า
"การเดินทางของวีรบุรุษ" -
11:24 - 11:26แต่ฉันชอบตำนานอีกเรื่องมากกว่า
-
11:26 - 11:27ที่อยู่ถัดไปจากเรื่องนั้นนิดหน่อย
-
11:27 - 11:28หรือไม่ก็อยู่ข้างใต้มัน
-
11:29 - 11:31นั่นก็คือ ตำนานของคนแปลกแยก
-
11:32 - 11:33และมันก็มีเรื่องราวดังนี้
-
11:34 - 11:36ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในช่วงเวลา
แห่งความล้มเหลว -
11:36 - 11:38แต่ ณ เวลานั้นเอง ที่คุณจะงดงาม
-
11:40 - 11:41คุณอาจจะยังไม่รู้
-
11:41 - 11:44แต่จริง ๆ แล้วคุณมีความสามารถในการ
สร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ -
11:44 - 11:45อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
-
11:45 - 11:47นั่นแหละคือความงดงามของคุณ
-
11:48 - 11:49คุณเป็นได้ทั้งคนขี้เมา
-
11:49 - 11:52คุณเป็นได้ทั้งผู้ที่รอดมาจาก
ความโหดร้ายทารุณ -
11:52 - 11:53คุณเป็นได้ทั้งอดีตคนขี้คุก
-
11:53 - 11:55คุณเป็นได้ทั้งคนไร้บ้าน
-
11:55 - 11:58คุณสามารถสูญเสียเงินทั้งหมด
หรืออาชีพการงาน หรือสามี -
11:58 - 12:00หรือภรรยาของคุณ หรือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
-
12:00 - 12:01ลูกของคุณ
-
12:02 - 12:04คุณสามารถเสียสติได้
-
12:04 - 12:08คุณสามารถยืนอยู่ ณ ใจกลาง
ของความล้มเหลวของคุณได้ -
12:08 - 12:11และฉันก็จะยังคงยืนอยู่ตรงนี้
เพียงเพื่อจะบอกคุณว่า -
12:11 - 12:13"คุณนั้นงดงามเหลือเกิน"
-
12:13 - 12:15เรื่องราวของพวกคุณนั้น
สมควรที่จะได้รับรู้ -
12:15 - 12:20เพราะว่าคุณ คุณที่เป็นคนแปลกแยก
อันทรงคุณค่าและมหัศจรรย์ -
12:20 - 12:22คุณที่เป็นเหมือนดั่งสปีชีส์ใหม่
-
12:23 - 12:25เป็นเพียงคนคนเดียวในห้องนี้
-
12:25 - 12:26ที่จะสามารถเล่าเรื่อง
-
12:26 - 12:29ในแบบที่คุณเพียงผู้เดียว
เท่านั้นจะเล่าได้ -
12:30 - 12:31แล้วฉันก็จะคอยฟังคุณอยู่
-
12:33 - 12:34ขอบคุณค่ะ
-
12:34 - 12:45(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ความงดงามในความแปลกแยก
- Speaker:
- ลิเดีย ยุคนาวิทช์ (Lidia Yuknavitch)
- Description:
-
สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าตนเองนั้นไม่สามารถเข้ากับคนอื่น ๆ ได้ ขอให้รู้ไว้ว่าในความแปลกแยกนั้นยังมีความงดงามอยู่เสมอ ลิเดีย ยุคนาวิทช์ ผู้เป็นนักเขียน จะมาแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางที่แปลกแยกจากคนอื่น ๆ ผ่านความทรงจำที่ก่อตัวขึ้นจากเศษเสี้ยวของเรื่องราวแห่งความสูญเสีย ความอับอาย และการยอมรับตนเองที่กินเวลายาวนาน เธอกล่าวว่า "ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในช่วงเวลาแห่งความล้มเหลว คุณก็ยังคงงดงาม" "คุณอาจจะยังไม่รู้ แต่จริง ๆ แล้วคุณมีความสามารถในการสร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมาใหม่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และนั่นแหละคือความงดงามของคุณ"
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 12:58
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for The beauty of being a misfit | |
![]() |
Retired user accepted Thai subtitles for The beauty of being a misfit | |
![]() |
Retired user edited Thai subtitles for The beauty of being a misfit | |
![]() |
Purich Worawarachai edited Thai subtitles for The beauty of being a misfit | |
![]() |
Retired user declined Thai subtitles for The beauty of being a misfit | |
![]() |
Retired user edited Thai subtitles for The beauty of being a misfit | |
![]() |
Retired user edited Thai subtitles for The beauty of being a misfit | |
![]() |
Retired user edited Thai subtitles for The beauty of being a misfit |