-
ลองทำเรื่องความน่าจะเป็นเกี่ยวกับไพ่สักหน่อย
-
สำหรับวิดีโอนี้ เราจะถือว่า
-
สำรับของเราไม่มีไพ่โจ๊กเกอร์
-
คุณทำโจทย์แบบเดียวกันแบบมีโจ๊กเกอร์ก็ได้,
-
คุณจะได้คำตอบที่แตกต่างไปหน่อย
-
พักเรื่องนั้นไว้
-
อย่างแรกลองคิดดูว่า
-
เรามีไพ่กี่ใบในสำรับไพ่ปกติ?
-
เรามีไพ่อยู่ 4 ดอก
-
และดอกได้แก่. โพธิ์ดำ ข้าวหลามตัด ดอกจิก
-
และโพธิ์แดง
-
คุณมีอยู่สี่ดอก
-
แล้วในแต่ละดอกก คุณมีไพ่ 13 ใบ
-
แตกต่างกัน บางครั้งมันเรียกว่า อันดับ
-
ดังนั้นในแต่ละดอก มีไพ่แตกต่างกัน 13 ใบ
-
คุณมีเอซ, แล้วก็มีสอง, สาม
-
สี่, ห้า, หก, เจ็ด, แปด, เก้า, สิบ
-
แล้วก็มีแจ็ค, คิง และควีน
-
นั่นคือไพ่ 13 ใบ
-
คุณก็ได้ว่าแต่ละดอก คุณมีไพ่
-
แบบนี้, แต่ละแบบคุณมีไพ่ดอกต่างๆ
-
คุณก็มีแจ็คข้าวหลามตัด, แจ็คดอกจิก
-
แจ็คโพธิ์ดำ หรือแจ็คโพธิ์แดง
-
แล้วถ้าคุณคูณเลขสองตัวนี้
-
คุณจะได้จำนวนไพ่ทั้งกอง แล้ว
-
ถ้าคุณนับมัน, เอาโจ๊กเกอร์ออกแล้วนับทั้งหมด
-
แต่ถ้าคุณคูณออกมา, คุณจะได้ 4 ดอก
-
แต่ละดอกมี 13 แบบ
-
คุณจึงได้ไพ่ 4 คูณ 13 ใบ
-
หรือคุณมีไพ่ 52 ใบในสำรับไพ่มาตรฐานนั่นเอ ง
-
วิธีที่คุณบอกได้อีกอย่างคือว่า: ดูสิ, มีไพ่ทั้งหมด
-
13 อันดับหรือแบบ
-
แต่ละแบบมีดอก 4 ดอก,
-
13 คูณ 4 เหมือนเดิม คุณจะได้ไพ่ 52 ใบ
-
ทีนี้พักเรื่องนั้นไว้, ลองคิดความน่าจะเป็น
-
ของเหตุการณ์ต่างๆ กัน
-
สมมุติว่าผมสับไพ่ในกอง,
-
ผมสับไพ่ดีมากๆ, มากๆ
-
แล้วผมก็หยิบไพ่จากกองอย่างสุ่มมาหนึ่งใบ
-
และผมอยากคิดว่าความน่าจะเป็นที่ผมหยิบ
-
ความน่าจะเป็นที่ผมหยิบได้แจ็คเป็นเท่าไหร่?
-
ทีนี้, มันมีเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดเท่ากันอยู่กี่เหตุการณ์?
-
ตรงนี้, ผมสามารถหยิบไพ่ใดใน 52 ใบขึ้นมาก็ได้, นั่นคือ
-
มีความเป็นไปได้ 52 อย่างตอนผมหยิบไพ่ขึ้นมา
-
แล้วในความเป็นไปได้ 52 อย่างนั้น มันเป็นแจ็คอยู่กี่อัน?
-
ทีนี้, คุณมีแจ็คโพธิ์ดำ, แจ็คข้าวหลามตัด
-
แจ็คดอกจิก และแจ็คโพธิ์แดง
-
มีแจ็คอยู่ 4 ตัว
-
มันมีแจ็ค 4 ใบในกอง
-
มันจึงเป็น 4 ส่วน 52, ทั้งคู่หารด้วย 4 ลงตัว
-
4 หาร 4 ได้ 1
-
52 หารด้วย 4 ได้ 13
-
ทีนี้ลองคิด
-
ความน่าจะเป็น, ผมจะ, คุณก็รู้, เราจะเริ่มต้นใหม่
-
ผมจะใส่แจ็คกลับเข้าไป, ผมจะสับไพ่ในกองใหม่
-
เหมือนเดิม ผมมีไพ่ 52 ใบ
-
แล้วความน่าจะเป็นที่ผมได้ โพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่?
-
ความน่าจะเป็นที่ผมเลือกไพ่อย่างสุ่ม
-
จากสำรับที่สับแล้ว ออกมาเป็นโพธิ์แดง มีโอกาสเท่าไหร่? ดอกเป็นโพธิ์แดง
-
เหมือนเดิม, มันมีไพ่อยู่ 52 ใบที่ผมหยิบขึ้นมาได้
-
มีเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ และโอกาสเกิดขึ้นเท่าๆ กันอยู่ 52 เหตุการณ์ที่เราเกี่ยวข้อง
-
แล้วเหตุการณ์นี้เป็นโพธิ์แดงบ้าง?
-
ทีนี้, มีอยู่ 13 ใบเป็นโพธิ์แดง แล้วแต่
-
ละดอกคุณมีไพ่ 13 ใบ ดังนั้นมีโพธิ์แดงอยู่
-
13 ใบในกองเช่นกัน, มีข้าวหลามตัด 13 ใบในกอง
-
มีโพธิ์ดำ 13 ใบในกอง, แล้วก็ดอกจิก 13 ใบในกองด้วย
-
ดังนั้นมีโพธิ์แดง 13 จาก 52 ใบ
-
และทั้งสองตัวหารด้วย 13 ลงตัว, นี่ก็
-
เหมือนกับ 1 ส่วน 4 ผมจะหยิบได้ 1 ใน 4 ครั้ง
-
หรือผมมีความน่าจะเป็น 1 ใน 4 ที่จะได้ไพ่โพธิ์แดง
-
เมื่อผมลงมือ,เมื่อผมหยิบไพ่อย่างสุ่ม
-
จากกองที่สับแล้ว
-
ทีนี้ลองทำสิ่งที่น่าสนใจขึ้น
-
หรือบางทีเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นหน่อย: ความน่าจะเป็น
-
ที่ผมจะหยิบไพ่เป็นแจ็ค และเป็นโพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่?
-
ทีนี้, ถ้าคุณคุ้นเคยกับไพ่พอสมควร, คุณจะรู้
-
ได้ว่ามันมีไพ่ใบเดียวที่เป็นทั้งแจ็คและโพธิ์แดง
-
มันก็คือแจ็คโพธิ์แดงนั่นเอง
-
เราจึงบอกว่าความน่าจะเป็นที่เราหยิบได้ไพ่
-
แจ็คโพธิ์แดงพอดีเป็นเท่าไหร่?
-
ทีนี้, มันมีเหตุการณ์อยู่อย่างเดียว, ใบเดียวที่เป็นไปตามเงื่อนไขพวกนี้
-
ตรงนี้ และมันมีไพ่อยู่ 52 ใบ
-
มันจึงมีโอกาส 1 ใน 52 ที่ผมจะได้แจ็คโพธิ์แดง
-
คือสิ่งที่เป็นทั้งแจ็ค และทั้งโพธิ์แดง
-
ลองทำอะไรที่น่าสนใจกว่าอีกหน่อย
-
ความน่าจะเป็น, คุณอาจลองหยุดแล้ว
-
คิดสักหน่อยก่อนที่ผมจะบอกคำตอบนะ, ความน่าจะเป็น
-
ที่, เหมือนเดิมผมมีสำหรับไพ่ 52 ใบ, ผมสับมัน
-
แล้วหยิบไพ่ใบหนึ่งอย่างสุ่มจากกอง, ความน่าจะเป็นที่
-
ไพ่ที่ผมหยิบจะเป็นแจ็ค หรือโพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่?
-
มันอาจเป็นแจ็คโพธิ์แดง หรือแจ็คข้าวหลามตัด
-
หรือจะเป็นแจ็คโพธิ์ดำ หรือจะเป็นควีนโพธิ์แดง
-
หรือจะเป็น สอง โพธิ์แดงก็ได้ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์นี้เป็นเท่าไหร่?
-
นี่อาจดูน่าสนใจกว่าหน่อย เพราะ
-
อย่างแรกเรารู้ว่ามันมีความเป็นไปได้ 52 อย่าง
-
แต่ความเป็นไปได้เหล่านี้ มีกี่อันที่ตรงตาม
-
เงื่อนไขนี้, ว่ามันเป็นแจ็คหรือเป็นโพธิ์แดง
-
เพื่อหาคำตอบ ผมจะวาดแผนภาพเวนน์
-
ฟังดูสวยหรู, แต่ไม่มีอะไรหรูหราอะไรเลย
-
จินตนาการว่าสี่เหลี่ยมที่ผมวาดนี้ แทน
-
ผลลัพธ์ทั้งหมด แล้วถ้าคุณต้องการ คุณอาจนึกภาพว่ามัน
-
มีพื้นที่เท่ากับ 52 นี่ก็คือผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ 52 อย่าง, แล้วมี
-
กี่อันที่ออกมาเป็นแจ็ค?
-
เรารู้คำตอบนี่อยู่แล้ว, 1 ใน 13 ของผลลัพธ์พวกนี้
-
จะออกมาเป็นแจ็ค ผมจึงสามารถวาดวงกลมตรงนี้แทนพื้นที่
-
และผมประมาณว่า
-
มันแทนความน่าจะเป็นของแจ็ค
-
นั่นก็ควรมีค่าประมาณ 1/13 หรือ 4/52 ของพื้นที่
-
ตรงนี้ ดังนั้นผมจะเขียนมันแบบนี้ เจ้านี่ตรงนี้ก็คือ
-
ความน่าจะเป็นที่เป็นแจ็ค มันคือ 4, มันมีไพ่เป็นไปได้อยู่
-
4 ใบจากทั้งหมด 52 ใบ นั่นก็คือ 4/52 หรือ 1/13
-
แล้วความน่าจะเป็นที่จะได้โพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่?
-
ทีนี้, ผมจะวาดวงกลมอีกวงตรงนี้, มันแทนอันนั้น
-
13 จาก 52, 13 จาก 52 นี่แทนโพธิ์แดง
-
และที่จริง หนึ่งในนั้นแทนทั้งโพธิ์แดงและแจ็ค
-
ผมจึงจะวาดมันทับกัน และหวังว่าคุณคงเข้าใจ
-
ในไม่ช้า
-
มันมีไพ่ 13 ใบเป็นโพธิ์แดง
-
นี่คือจำนวนโพธิ์แดง
-
และที่จริง ขอผมเขียนอย่างบนตรงนี้เดียว
-
มันจะได้ชัดเจนหน่อย, เรากำลังดูที่ -- ดูชัดๆ
-
-- อยู่ที่จำนวนของแจ็ค และแน่นอนส่วนที่ทับกัน
-
ตรงนี้เป็นจำนวนของแจ็คกับโพธิ์แดง จำนวน
-
จากทั้งหมด 52 นี่ เป็นทั้งแจ็คและโพธิ์แดง
-
มันอยู่ในเซตทั้งสอง มันอยู่ในวงกลมสีเขียว และมันอยู่
-
ในวงกลมสีส้มด้วย แล้วเจ้านี่ตรงนี้ ผมจะใช้สีเหลือง
-
เนื่องจากผมเขียนโจทย์ด้วยสีเหลือง
-
เจ้านี่ตรงนี้คือจำนวนแจ็คและโพธิ์แดง
-
ขอผมเขียนลูกศรเล็กๆ ตรงนี้ มันเริ่มแน่นแล้ว
-
ผมควรวาดให้มันใหญ่หน่อย
-
จำนวนของแจ็คกับโพธิ์แดง
-
และมันทับกันอยู่ตรงนี้, ความน่าจะเป็น
-
ที่จะได้แจ็คหรือโพธิ์แดงเป็นเท่าไหร่?
-
แล้วถ้าคุณคิดถึงความน่าจะเป็น มันจะเท่ากับ
-
จำนวนเหตุการณ์ที่ตรงตามเงื่อนไข ส่วนจำนวนเหตุการณ์ทั้งหมด
-
ใช่แล้ว, เรารู้ว่าจำนวนเหตุการณ์ทั้งหมดเป็น 52
-
แต่มีกี่อันที่ตรงตามเงื่อนไขนี้?
-
มันจะเป็นจำนวน, มันจะเท่ากับ
-
คุณก็บอกว่า: ลองดูสิ, วงกลมสีเขียวตรงนี้บอกจำนวน
-
ของแจ็ค วงกลมสีส้มบอกจำนวน
-
ของโพธิ์แดง แล้วคุณอาจบอกว่า
-
อ้าว, ทำไมเราไม่รวมวงกลมสีเขียวกับสีส้มเลย
-
ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณจะนับซ้ำ
-
เพราะถ้าคุณบวกมันเข้าด้วยกัน, ถ้าคิด 4 บวก 13
-
เรากำลังบอกว่าอะไร?
-
เรากำลังบอกว่า มันมีแจ็ค 4 ใบ และเราบอกว่า
-
เรามีโพธิ์แดง 13 ใบ
-
แต่ทั้งสองกรณี, เวลาเราทำแบบนี้
-
เรากำลังนับแจ็คโพธิ์แดงพร้อมกันทั้งสองกรณี
-
เราใส่แจ็คโพธิ์แดงตรงนี้ แล้วเราก็ใส่แจ็คโพธิ์แดงตรงนี้
-
เราจึงนับแจ็คโพธิ์แดงสองครั้ง, แม้ว่าเราจะ
-
มีไพ่นั้นแค่ใบเดียว ดังนั้นคุณต้องลบค่าร่วมกันออกไป
-
คุณต้องลบตัวที่อยู่ทั้งแจ็คและ
-
โพธิ์แดงออกไป
-
คุณก็ลบ 1 ออก
-
วิธีคิดอีกอย่างคือว่า
-
คุณหาพื้นที่ทั้งหมดตรงนี้ได้
-
ขอผมขยายเข้าไปหน่อย ผมจะพูดโดยทั่วไปหน่อย
-
ถ้าคุณมีวงกลมวงหนึ่งแบบนี้ แล้วคุณมีวงกลม
-
ทีทับกันแบบนี้ แล้วคุณอยากหาพื้นที่ทั้งหมด
-
ของวงกลมสองวงรวมกัน คุณก็ดูพื้นที่
-
ของวงกลมนี้ แล้วคุณก็บวกมันเข้ากับพื้นที่ของวงกลมนี้
-
แต่เมื่อคุณทำอย่างนั้น, คุณจะเห็นว่าเวลาคุณบวกพื้นที่สองว่าง
-
คุณจะนับพื้นที่นี้สองครั้ง
-
ดังนั้นเพื่อให้นับพื้นที่ตรงนั้นครั้งเดียว, คุณต้องลบ
-
พื้นที่นั่นจากผลรวม
-
ดังนั้นถ้าพื้นที่นี้, ถ้านี่คือ, ถ้าพื้นที่นี้คือ A, พื้นที่นี้คือ B
-
และอินเตอร์เซกชัน, โดยส่วนทับกันคือ C
-
พื้นที่รวมจะเท่ากับ A บวก B ลบพื้นที่ซ้อนทับ
-
คือลบ C
-
มันก็เหมือนกับตรงนี้
-
เรากำลังนับแจ็คทั้งหมด รวมทั้งแจ็คโพธิ์แดง
-
เรานับโพธิ์แดงทั้งหมด รวมทั้งแจ็คโพธิ์แดง
-
เราได้นับแจ็คโพธิ์แดงไปสองครั้งล เราจึงต้องลบออกอันหนึ่ง
-
มันจึงเท่ากับ 4 บวก 13 ลบ 1
-
หรือนี่จะเท่ากับ 16/52 แล้วทั้งคู่ก็หารด้วย
-
4 ลงตัว
-
นี่จึงเท่ากับ
-
ถ้าผมหาร 16 ด้วย 4 คุณจะได้ 4, 52 หารด้วย 4
-
ได้ 13
-
ดังนั้นนี่คือ, โอกาส 4/13 ที่คุณจะได้แจ็คหรือโพธิ์แดง