-
-
สิ่งที่เราจะพยายามทำ
-
คือหาค่าผลบวกนี่ตรงนี้
-
หาค่าอนุกรมนี้ คือลบ 2
-
ส่วน n บวก 1 คูณ n บวก 2 เริ่มที่ n เท่ากับ 2
-
ไปจนถึงอนันต์
-
และถ้าเราอยากหาว่ามันเป็นอย่างไร มันเริ่มที่ n
-
เท่ากับ 2
-
เมื่อ n เท่ากับ 2 นี่คือลบ 2 ส่วน 2
-
บวก 1 ซึ่งก็คือ 3 คูณ 2 บวก 2 ซึ่งก็คือ 4
-
แล้วเมื่อ n เท่ากับ 3 นี่คือลบ 2 ส่วน 3
-
บวก 1 ซึ่งก็คือ 4, คูณ 3 บวก 2 ซึ่งก็คือ 5
-
และมันยาวต่อไปแบบนั้น ลบ 2
-
ส่วน 5 คูณ 6
-
และมันยาวต่อไปเรื่อยๆ
-
ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเทอมถัดไปแต่ละเทอม
-
จะเล็กลงเรื่อยๆ
-
และมันจะเล็กลงเร็วทีเดียว
-
มันพอจะสมมุติได้ว่า ถึงแม้คุณจะ
-
มีจำนวนเทอมเป็นอนันต์
-
มันอาจให้ค่าจำกัดได้
-
แต่ผมไม่เห็นได้ในทันที อย่างน้อยตาม
-
ที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้
-
ว่าผลบวกนี้จะเป็นเท่าใด หรือเรา
-
จะหาผลบวกนั้นอย่างไร
-
สิ่งที่ผมอยากให้คุณทำตอนนี้ คือหยุดวิดีโอนี้
-
และผมจะให้คำใบ้ว่าเราคิดปัญหานี้อย่างไร
-
พยายามนึกเรื่องการกระจายเศษส่วนย่อย
-
หรือการกระจายเศษส่วนย่อย
-
เพื่อเปลี่ยนพจน์นี้เป็น
ผลบวกของเศษส่วนสองตัว
-
และมันอาจช่วยเราคิดว่าผลบวกเป็นเท่าใด
-
ผมถือว่าคุณได้ลองแล้วนะ
-
ลองพยายามจัดการเทอมนี้
-
ลองดูว่าเราเขียนอันนี้ใหม่
เป็นผลบวกของเศษส่วนสองตัวได้ไหม
-
นี่คือลบ 2 ส่วน -- ผมจะ
-
ใช้สองสีต่างกันนะ -- n บวก 1
-
คูณ n บวก 2
-
-
และเราจำได้จากการกระจายเศษส่วนย่อย
-
ว่าเราเขียนอันนี้ได้เป็น
ผลบวกของเศษส่วนสองตัว
-
เป็น A ส่วน n บวก 1 บวก B ส่วน n บวก 2
-
และทำไมมันถึงสมเหตุสมผล?
-
ถ้าคุณบวกเศษส่วนสองตัว
-
คุณอยากหาตัวส่วนร่วม ซึ่ง
-
ก็คือพหุคูณของตัวส่วนสองตัว
-
อันนี้เป็นพหุคูณของตัวส่วนทั้งคู่แน่นอน
-
และเราเรียนในเรื่องการกระจายเศษส่วนย่อย
-
ว่า อะไรก็ตามที่เรามีบนนี้ ยิ่งดีกรี
-
ตรงนี้น้อยกว่าดีกรีข้างล่างนี้ ตัวข้างบน
-
จะมีดีกรีน้อยกว่าที่เรามีตรงนี้
-
นี่ก็คือเทอมดีกรีหนึ่งในรูปของ n
-
พวกนี้จึงเป็นค่าคงที่บนนี้
-
ลองหากันว่า A กับ B คืออะไร
-
ถ้าเราทำการบวก --
-
ลองเขียนทั้งคู่ใหม่
-
ด้วยตัวส่วนร่วมเดียวกัน
-
ลองเขียน A ส่วน n บวก 1 ใหม่
-
ลองคูณตัวเศษและตัวส่วนด้วย n บวก 2
-
เราคูณตัวเศษด้วย n บวก 2 และตัวส่วน
-
ด้วย n บวก 2
-
ผมไม่ได้เปลี่ยนค่าเศษส่วนแรกนี้
-
เช่นเดียวกัน ลองทำแบบเดียวกัน
กับ B ส่วน n บวก 2
-
คูณตัวเศษและตัวส่วนด้วย n บวก 1
-
n บวก 1 ส่วน n บวก 1
-
เหมือนเดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนค่าเศษส่วนนี้
-
แต่เมื่อทำอย่างนี้ ผมจะได้ตัวส่วนร่วม
-
และผมบวกได้
-
นี่จึงเท่ากับ n บวก 1 คูณ n บวก 2
-
เป็นตัวส่วนของเรา
-
-
แล้วตัวเศษ -- ขอผมแจกแจงมันออกมา
-
อันนี้จะเท่ากับ ถ้าผมแจกแจง A
-
มันคือ An บวก 2A
-
ขอผมเขียนนะ An บวก 2A
-
แล้วกระจาย B นี้ บวก Bn บวก B
-
ทีนี้ สิ่งที่ผมอยากทำ คือผมอยากเขียนตัวนี้ใหม่
-
เราจะได้มีเทอม n ทั้งหมด
-
ตัวอย่างเช่น An บวก Bn --
ผมแยก n ออกมาได้
-
และผมเขียนมันใหม่ได้เป็น A บวก B คูณ n
-
สองเทอมนั่นตรงนั้น
-
แล้วสองเทอมนี้ 2A บวก B
-
ผมเขียนมันได้แบบนี้ บวก 2A บวก B
-
แน่นอน ทั้งหมดนี้คือส่วน
n บวก 1 คูณ n บวก 2
-
-
เราจะแก้หา A กับ B ได้อย่างไร?
-
ข้อสังเกตคือว่า ตัวนี้
-
ต้องเท่ากับลบ 2
-
สองตัวนี้ต้องเท่ากัน
-
นึกดู เรากำลังอ้างว่าตัวนี้
-
ซึ่งเท่ากับตัวนี้ เท่ากับค่านี้
-
นั่นคือสาเหตุที่เราเริ่มทำอย่างนี้
-
เรากำลังอ้างว่า สองตัวนี้
-
เทียบเท่ากัน
-
เรากำลังอ้างอยู่
-
ทุกอย่างในตัวเศษต้องเท่ากับลบ 2
-
แล้วเราทำอะไรได้?
-
ดูเหมือนว่าเรามีตัวแปรไม่ทราบค่าสองตัวตรงนี้
-
เวลาหาตัวไม่ทราบค่าสองตัว
เราต้องการสองสมการ
-
ข้อสังเกตตรงนี้คือว่า ดูสิ
-
เรามีเทอม n ทางซ้ายมือตรงนี้
-
เราไม่มีเทอม n ตรงนี้
-
คุณก็มองอันนี้ แทนที่จะมอง
-
เป็นลบ 2 คุณก็มอง
-
ตัวนี้เป็นลบ 2 บวก 0n, บวก 0 คูณ n
-
มันไม่ใช่คำว่า on นะ
-
นั่นคือ 0 -- ขอผมเขียนแบบนี้ -- 0 คูณ n
-
เมื่อคุณมองแบบนี้ มัน
-
เห็นได้ชัดว่า A บวก B เป็นสัมประสิทธิ์ของ n
-
มันต้องเท่ากับ 0
-
A บวก B ต้องเท่ากับ 0
-
และนี่คือเป็นการกระจายเศษส่วนย่อย
-
ที่จำเป็น
-
เรามีวิดีโออีกถ้าคุณอยากทบทวนเรื่องนั้น
-
และส่วนค่าคงที่ 2A บวก B เท่ากับลบ 2
-
-
แล้วตอนนี้เรามีสองสมการ สองตัวแปร
-
และเราแก้มันได้หลายวิธี
-
แต่วิธีที่น่าสนใจอันหนึ่งคือว่า
ลองคูณสมการบน
-
ด้วยลบ 1 กัน
-
แล้วอันนี้กลายเป็นลบ A ลบ B เท่ากับ --
-
ลบ 1 คูณ 0 จะยังเป็น 0
-
ตอนนี้เราบวกสองตัวนี้เข้าด้วยกันได้
-
แล้วเราเหลือ 2A ลบ A ได้ A, บวก B ลบ B --
-
พวกมันตัดกัน
-
A เท่ากับลบ 2
-
และถ้า A เท่ากับลบ 2, A บวก B เท่ากับ 0
-
B ต้องเท่ากับ 2
-
-
ลบ 2 บวก 2 เท่ากับ 0
-
เราแก้หา A ได้ แล้วผมแทนมันกลับไปตรงนี้
-
ตอนนี้เราเขียนทั้งหมดนี้ใหม่ตรงนี้ได้
-
เราเขียนมันใหม่ได้เป็นผลบวก -- ที่จริง
-
ขอผมแก้สักหน่อย
-
ขอผมเขียนมันเป็นผลบวกจำกัด แทนที่จะเป็น
-
ผลบวกอนันต์
-
แล้วเราค่อยหาลิมิตเมื่อเราไปหาอนันต์
-
ขอผมเขียนมันใหม่แบบนี้
-
นี่คือผลบวกจาก n เท่ากับ 2 --
แทนที่จะเป็นอนันต์
-
ผมจะบอกว่า N ใหญ่ แล้วต่อไป เรา
-
จะหาลิมิตเมื่อค่านี้ไปหาอนันต์ --
-
แทนที่จะเขียนอย่างนี้ ผมก็เขียนตัวนี้ได้
-
A คือลบ 2
-
มันคือลบ 2 ส่วน n บวก 1
-
แล้ว B คือ 2, บวก B ส่วน n บวก 2
-
ย้ำอีกครั้ง ผมเขียนพจน์นี้เป็นผลบวกจำกัด
-
ต่อไป เราจะหาลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าหา
-
อนันต์ เพื่อหาว่าตัวนี้เป็นเท่าใด
-
โทษที และ B -- ผมไม่เขียน B แล้ว
-
เรารู้ว่า B คือ 2 ส่วน n บวก 2
-
ทีนี้ มันช่วยเราได้อย่างไร?
-
ลองทำสิ่งที่เราทำบนนี้
-
ลองเขียนออกมาว่าตัวนี้เท่ากับอะไร
-
อันนี้จะเท่ากับ -- เมื่อ n เป็น 2
-
นี่คือลบ 2/3 มันก็คือลบ 2/3, บวก 2/4
-
-
นั่นคือ n เท่ากับ -- ขอผมทำข้างล่างนี้ เพราะผม
-
ไม่มีที่แล้ว
-
นั่นคือเมื่อ n เท่ากับ 2
-
ทีนี้ เมื่อ n เท่ากับ 3 ล่ะ?
-
เมื่อ n เท่ากับ 3 อันนี้จะเท่ากับลบ 2/4
-
บวก 2/5
-
-
แล้วเมื่อ n เท่ากับ 4 ล่ะ?
-
ผมว่าคุณคงเห็นรูปแบบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
-
ลองทำอีกตัวกัน
-
เมื่อ n เท่ากับ 4 ตัวนี้
-
จะเท่ากับลบ 2/5 -- ขอ
-
ผมใช้สีฟ้าเดิมนะ -- ลบ 2/5 บวก 2/6
-
-
และเราจะทำต่อไป
-
ขอผมเลื่อนลงหาที่เพิ่ม -- เรา
-
จะทำต่อไปจนถึงเทอมที่ N
-
-
บวก จุดจุดจุดเทอม N ใหญ่
-
ซึ่งจะเป็นลบ 2 ส่วน N ใหญ่บวก 1, บวก 2
-
ส่วน N ใหญ่บวก 2
-
ผมว่าคุณคิดเห็นรูปแบบตรงนี้แล้ว
-
สังเกตว่า จากตอนแรกเมื่อ n เท่ากับ 2
เราได้ 2/4
-
แต่แล้วเมื่อ n เท่ากับ 3 คุณจะได้ลบ 2/4
-
อันนั้นตัดกับอันนั้น
-
เมื่อ n เท่ากับ 3 คุณจะได้ 2/5
-
แล้วพวกมันหักล้างกันเมื่อ n เท่ากับ 4 กับลบ 2/5
-
เทอมที่สองหักล้าง -- ส่วนที่สอง
-
สำหรับ n แต่ละตัว สำหรับแต่ละเทอม
-
จะตัดกับส่วนแรกของเลขเทอมต่อไป
-
และมันจะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง
-
n เท่ากับ N ใหญ่
-
แล้วอันนี้จะตัดกับตัวก่อน
-
หน้ามัน
-
แล้วเราจะเหลือ
-
แค่เทอมนี้กับเทอมนี่ตรงนี้
-
ลองเขียนมันใหม่นะ
-
เราได้ -- ลองหาที่เพิ่มตรงนี้
-
สิ่งนี้เขียนใหม่ได้เป็นผลบวกจาก n เล็ก
-
เท่ากับ 2 ถึง N ใหญ่ของลบ 2
-
ส่วน n บวก 1 บวก 2 ส่วน n บวก 2
-
เท่ากับ -- อย่างอื่นตรงกลางหักล้างหมด
-
-
เราเหลือแค่ลบ 2/3
-
บวก 2 ส่วน N ใหญ่บวก 2
-
นี่คือการลดรูปอย่างใหญ่หลวง
-
นึกดู ผลบวกเดิมที่เราอยากคำนวณ
-
ก็แค่ลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าหาอนันต์
-
ลองหาลิมิตเมื่อ N ใหญ่ไปหาอนันต์
-
ขอผมเขียนมันแบบนี้นะ
-
ที่จริง ขอผมเขียนมันแบบนี้นะ
-
ลิมิต -- เราเขียนมันแบบนี้ได้
-
ลิมิตเมื่อ N ใหญ่เข้าใกล้
-
อนันต์จะเท่ากับลิมิตเมื่อ N ใหญ่
-
เข้าหาอนันต์ของ -- เราแค่
-
หาว่าตัวนี้คืออะไร
-
นี่คือลบ 2/3 บวก 2 ส่วน N ใหญ่บวก 2
-
เมื่อ n เข้าหาอนันต์ ลบ 2/3 นี้
-
มันไม่มีผลเลย
-
เทอมนี่ตรงนี้ 2 ส่วนเทอมที่ใหญ่ขึ้น
-
ส่วนจำนวนที่โตมาก --
-
มันจะเข้าหา 0
-
และเราจะเหลือลบ 2/3
-
เราก็เสร็จแล้ว
-
เราหาผลบวกของอนุกรมอนันต์นี้ได้แล้ว
-
ตัวนี้ตรงนี้จะเท่ากับลบ 2/3
-
และอนุกรมแบบนี้เรียกว่า telescoping series
-
telescoping
-
นี่คือ telescoping series
-
-
telescoping series เป็นคำทั่วไป
-
ถ้าคุณหาผลบวกย่อย
-
มันจะมีรูปแบบอย่างนี้ โดยแต่ละเทอม
-
คุณหักล้างมันไปได้
-
สิ่งที่คุณเหลือตอนจบมีแค่เทอม
-
ไม่กี่เทอม
-
แต่เอาล่ะ อันนี้มัน --
-
มันค่อนข้างยุ่ง แต่เป็นปัญหาที่
ทำแล้วสบายใจดี
-